นวดกดจุด : ยุทธศาสตร์ชีวิตพิชิตโรค
การนวดกดจุด(Acupressure Massage) เป็นการแพทย์ทางเลือกแขนงหนึ่งที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ผลทัดเทียมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
สำหรับในประเทศแถบตะวันออกมีระบบการนวดมานานหลายพันปี และถือเป็นต้นแบบของการนวดกดจุดแทบทุกแขนงในโลกนี้ เอกลักษณ์การนวดของ 3 ชาติต่อไปนี้ อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคของคุณ
ทุยหน่า นวดกดจุดรักษาสมดุลแห่งชีวิต
ทุยหน่า (Tuina) หรือการนวดกดจุดแบบจีน เป็นการรักษาที่ผสมผสานการนวดและการกดจุดไว้ด้วยกัน แพทย์จีนเชื่อว่าเดิมทีร่างกายคนเราอยู่ในสภาพสมดุล แต่เมื่อเกิดความเครียดหรือสภาวะผิดปกติที่ส่วนใด จะส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นเกิดอาการตึง เกร็ง เป็นเหตุให้พลังปราณติดขัด ร่างกายจึงเสียสมดุลและเจ็บป่วย จึงต้องกดจุดเพื่อเปิดช่องพลังปราณ เมื่อพลังปราณไหลเวียนดี ร่างกายก็กลับเข้าสู่ภาวะปรกติ ตรงตามปรัชญาการรักษาของทุยหน่าที่มุ่งเน้นการปรับสมดุลให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปรกติ
จุดกดนี้จะอยู่ตามแนวเส้นพลังปราณ (Meridian) ที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกาย มีทั้งหมด 361 จุด ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับจุดฝังเข็ม แต่ทุยหน่ามีจุดกดพิเศษอีกกว่า 100 จุด ท่านวดเฉพาะอีกมากกว่า 180 ท่า
ก่อนการรักษาทุกครั้ง แพทย์จะซักประวัติคนไข้รวมทั้งตรวจสุขภาพร่างกาย เช่น วัดความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ ชั่งน้ำหนัก ฯลฯ ประกอบด้วย เพื่อวินิจฉัยโรค สาเหตุของการเจ็บป่วย และรักษาได้ถูกจุด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรักษา เช่น หากคนไข้เป็นโรคหัวใจก็ต้องตรวจสภาพหัวใจก่อนว่ารับการนวดไหวหรือไม่ แต่โดยทั่วไปถ้ารักษาอย่างถูกวิธีกับผู้เชี่ยวชาญจะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
ในการรักษา ผู้ป่วยจะอยู่ในท่านั่ง นอนหงาย นอนคว่ำ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งจุดกดและท่านวดแพทย์จะใช้นิ้วหัวแม่มือ ฝ่ามือ หลังมือ ถูนวดผู้ป่วยเร็ว ๆ พร้อมกดจุดบริเวณที่บาดเจ็บและบริเวณใกล้เคียง ระยะเวลาและความแรงในการกดต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกาย (ความแข็งแรง, ความอ่อนแอ) เพศ อายุ และตำแหน่งจุดกดของแต่ละคน ความพอดีของน้ำหนักมือจะช่วยให้การรักษาได้ผล จึงนับเป็นศิลปะในการรักษาที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างจริงจังเป็นเวลานาน
ชิอัตสึ เรียนรู้เพื่อรักษาตัวเอง
ชิอัตสึ(shiatsu) กดจุดแบบญี่ปุ่นได้รับการดัดแปลงจากการนวดของจีน จึงมีความเชื่อเรื่องพลังปราณ รวมทั้งสาเหตุการเกิดโรคเช่นเดียวกับทุยหน่า ชิอัตสึเรียกจุดกดที่อยู่บนเส้นพลังปราณว่า สุโบ(Tsubo) มีทั้งหมด 660 จุดทั่วร่างกาย และเชื่อว่าส่วนท้องหรือฮารา(Hara)เป็นศูนย์กลางของพลังชีวิตทั้งหมด แพทย์จะวินิจฉัยหาความผิดปรกติของไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง โดยการสัมผัสอย่างแผ่วเบาที่บริเวณนี้ ผสมผสานเทคนิคการนวดของอินเดีย ท่านวดและวิธีการนวดกดจุดจึงต่างจากทุยหน่า
การบำบัดด้วยชิอัตสึ นอกเหนือจากเพื่อรักษาโรคแล้ว ยังเน้นการป้องกันโดยปรับการไหลเวียนของเลือดให้เป็นปรกติด้วย
การรักษาเริ่มด้วยการซักประวัติ ตรวจสภาพร่างกาย และวินิจฉัยหาสาเหตุแห่งโรค จากนั้นเป็นขั้นตอนการบริหารร่างกาย ซึ่งมีท่าเฉพาะ เช่น ใช้มือทุบเบาๆ ที่อวัยวะต่างๆ คล้ายเป็นการอุ่นเครื่องก่อนรักษา ช่วยให้พลังงานไหลเวียนดีขึ้นในระดับหนึ่ง จากนั้นแพทย์จึงกดจุดสุโบลึกลงไปช้าๆ บางจุดใช้นิ้วมือนวดพร้อมกับกดจุดด้วย แรงกดและระยะเวลาที่กดแตกต่างกันไปตามจุด การรักษา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นทิ้งช่วง 1 - 2 สัปดาห์ แพทย์จึงนัดมาบำบัดอีกครั้ง เพื่อให้พลังงานฟื้นตัวเสียก่อน
Terry Liew อาจารย์ประจำโรงเรียน THE SHIATSU SCHOOL ประเทศสิงคโปร์ แนะนำการกดจุดแบบญี่ปุ่นที่ทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อเยียวยาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ
ท่าที่ 1 แก้อาการปวดหัว ใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งซ้าย ขวา กดขมับสองข้างน้ำหนักมือพอประมาณ แล้วนวดคลึงเป็นวงกลมช้าๆ 5 - 10 นาที อาการปวดหัวจะทุเลาลง ท่าที่ 2 แก้อาการคลื่นไส้ เมารถเมาเรือ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดหนัก ๆ จุดที่อยู่ตรงกลางข้อมือ ต่ำจากส้นมือประมาณ 2 นิ้วหัวแม่มือ กดประมาณ 10 วินาที ทำซ้ำ 3 - 4 รอบ ท่าที่ 3 แก้อาการปวดท้อง ท้องอืด ใช้ปลายนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางทั้งซ้าย ขวากดลงที่ส่วนท้อง โดยจรดปลายนิ้วทั้ง 6 ติดกัน จากนั้นลงน้ำหนักพอประมาณแล้วนวดคลึงเป็นวงกลม ประมาณ 2 นาที เปลี่ยนที่กดไปเรื่อยๆ จนทั่วบริเวณท้อง อาการปวดท้องจะทุเลาลง |