Group Blog
 
All blogs
 

ยาเม็ดผสมแป้ง...

ได้ยินคนถามอยู่เรื่อยว่ายาเม็ดยี่ห้อนั้นดีกว่ายี่ห้อนี้ เพราะไม่ได้ผสมแป้ง
ก็เลยว่าจะเขียนถึงยาเม็ดกับแป้งซะที


ยาเม็ดยี่ห้อหนึ่งไม่ได้ดีกว่ายี่ห้อหนึ่งเพียงเพราะว่าไม่ได้ผสมแป้ง

การผสมแป้งเป็นเรื่องธรรมดาของยาเม็ด
ไม่ใช่ปลอมปน
ไม่ใช่ทำให้มีตัวยาน้อยกว่าปกติ
ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของยาเสื่อมลงแต่อย่างใด


การเติมแป้งลงไปในยาเม็ดมีวัตถุประสงค์ต่างๆกันหลายอย่าง
บางครั้งเติมลงไปเพื่อเพิ่มปริมาณ ให้ขนาดเม็ดพอจะหยิบจับได้
เพราะยาบางชนิดมีปริมาณที่ใช้ในการรักษาน้อย เช่นขนาดแค่ 2 มิลลิกรัม (mg)
สูดจมูกแรงๆก็คงปลิวหายไปหมด
ก็เลยต้องเติมแป้งไปช่วยเพิ่มปริมาณให้เป็นเม็ดโตขึ้น
หยิบจับถนัดถนี่มากขึ้น
ส่วนใหญ่แป้งที่ใช้ก็แป้งข้าวโพด แป้งมันสำปะหลังนี่แหละ
(corn starch, tapioca starch)

บางทีก็เอาแป้งมาเตรียมเป็นแป้งเปียก (starch paste) ให้ผงยาเกาะกันดีขึ้น จะได้อัดออกมาเป็นเม็ดได้

หรือบางทีก็เอาแป้งมาดัดแปลงให้ถูกน้ำแล้วพองตัวง่ายขึ้น
เป็นสารช่วยแตกตัว

ใส่เข้าไปในยาเม็ด จะได้กินแล้ว ยาเม็ดแตกตัวเร็ว ยาละลายเร็ว ดูดซึมเร็ว ออกฤทธิ์เร็วขึ้น

เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าการมีแป้งไม่ได้เป็นการปลอมปนแต่อย่างใด

ยาไม่เหมือนทุเรียนกวนปนแป้ง ที่ทำไปเพื่อลดต้นทุนให้ถูกลง
คราวนี้จะได้กินยาอย่างสบายใจซะที




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2549    
Last Update : 15 ธันวาคม 2549 1:49:54 น.
Counter : 5025 Pageviews.  

ขวดพลาสติกใส่น้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เรื่องอันตรายที่ไม่จริง

เรื่องต่อมา ก็เรื่องขวดพลาสติกใส่น้ำซ้ำๆ
ที่ forwarded mail มั่วๆ อ้างว่า
ขวด PET หรือ polyethylene terephthalate มีสาร DEHA ซึ่งก่อมะเร็ง หลุดออกมาได้
ดังนั้นไม่ควรนำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำ


ฟังดูน่าเชื่อออก เพราะมีการอ้างชื่อตัวย่อสาร ให้ดูจริงจังมากขึ้นไปอีก

ซึ่งไม่จริง
เป็น hoax mail มั่วๆ ที่อยู่ยงคงกระพันมานาน

คือมั่วว่า DEHA คือ diethylhydroxylamine
ซึ่งไม่มีใครใส่สารตัวนี้ลงไปในพลาสติกแต่อย่างใด


จริงๆคือ
สารที่ใส่ลงไป เป็นสารให้ความยืดหยุ่นแก่เนื้อพลาสติก (plasticizer)
ชื่อ di(2-ethylhexyl) adipate
ตัวย่อคือ DEHA เหมือนกัน
และตัวนี้ไม่ได้เป็นสารก่อมะเร็ง


หลังๆนี่ถึงขนาดมีการตัดต่อหัวกระดาษหน่วยงานสิ่งแวดล้อมเอามาปะ ส่งต่อไปทั่ว
แถมนิตยสารผู้หญิงรายปักษ์ฉบับหนึ่งก็ยังบ้าจี้เอามาลงไว้ด้วย เป็นการเตือนให้ระวัง
ไปกันใหญ่แล้ว

พอๆกันกับเมล์เรื่องสารชำระล้าง SLS ในแชมพูเลย
สิบปีก็ยังเวียนส่งไม่เลิก

ถ้าจะระวัง ก็ระวังเรื่องความสะอาดของขวดเถอะ
เวลากรอกน้ำซ้ำๆ ก็ล้างขวดซะบ้าง
กันเชื้อขึ้น




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2549    
Last Update : 16 ธันวาคม 2549 20:08:13 น.
Counter : 1026 Pageviews.  

กินยากับน้ำอุ่น...

ครั้งแรกที่เขียนบล็อกนี้ ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องของสุขภาพ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ลงมือเขียนซะที

เอาเป็นว่า จะรวบรวมคำตอบที่เราเคยตอบไว้ในกระทู้มาเก็บไว้ก่อนแล้วกัน
เพราะที่รู้สึกกังวลใจ คือเรื่องของ hoax mails ที่ส่งมาสร้างความแตกตื่น เวียนวนไม่ขาดระยะ
แถมฟังดูน่าเชื่อถือไม่น้อย
เนื่องจากมีข้อมูลประกอบแบบครึ่งๆกลางๆ ทำให้ดูน่าเชื่อ


เอาเรื่องแรกก่อนเลย

เรื่องกินยากับน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนแล้วยาออกฤทธิ์เร็วเกินไป
ลืมไปได้เลยค่ะ
เป็นความเชื่อที่ผิด จากพวก forwarded mail ทั้งหลาย

เคยตอบไปหลายหนแล้ว
ขอ copy มาแปะไว้อีกที

อันนี้ forwarded mail มั่วเจ้าปัญหา

กินยากับน้ำอุ่นอันตราย.........จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่
หลายๆคนป่วยจากการกินยาเม็ดแคปซูลกับน้ำอุ่นโดยที่ไม่รู้ว่ายาจะถึงกระเพาะก่อนละลายน้ำหรือ ไม่ เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า คุณควรจะกินยา แบบไหนดี คำแนะนำจากแพทย์

- ยาเม็ดสามารถละลายด้วยน้ำเย็นหลังจากกลืนคุณควรดื่มน้ำตามมาก ๆ
- ควรทานยาก่อนนอน 30 นาที ไม่ควรทานยาแล้วนอนเลย

ตัวอย่าง

ผู้ชายคนหนึ่งทานยาแอนตี้ไบโอติคส์และดื่มน้ำน้อยเกินไป ยาจึงลงไปไม่ถึงกระเพาะยาค้างอยู่ที่หลอดอาหารและเป็นเหตุให้หลอดอาหารอักเสบ หกวันผ่านไปเค้ากินได้แค่นมเย็นกับอาหารเหลวและนอนโรงพยายาลอีก 5 วัน

แพทย์เตือนว่าอาการอาจจะแย่ลงและอาจมีผลข้างเคียง เพราะฉะนั้นต้องระวัง เมื่อกินยาเม็ดหรือแคปซูล อย่าดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานทุกชนิดตามยาลงไปทางที่ดีควรดื่มน้ำเย็นเท่านั้น
ถ้าคุณรู้สึกกระหายในลำคอหลังจาก ทานยาให้ดื่มน้ำตามมากๆ หรือนมเย็น
ควรยืนหรือนั่งตัวตรง ๆ เมื่อทานยา อย่านอนทันที


อันนี้คำตอบ
อย่างแรกที่จะบอกก็คือ โอม... จงลืมเมล์ฉบับนี้จากความทรงจำซะ


ที่ว่า "กินยากับน้ำอุ่นอันตราย
หลายๆคนป่วยจากการกินยาเม็ดแคปซูลกับน้ำอุ่นโดยที่ไม่รู้ว่ายาจะถึงกระเพาะ ก่อนละลายน้ำหรือไม่"
ตกลงเอาไงกันแน่ กลัวยาละลายน้ำก่อนถึงกระเพาะ หรือ"ถึงกระเพาะ ก่อนละลายน้ำ"??

แต่ยังไงก็ช่างเถอะ นั่นเป็นข้อความที่ผิด
ยาจะละลายที่ไหนก็ช่าง ตราบใดที่ยาตัวนั้นเป็นยาที่ต้องการให้ออกฤทธิ์ทันที ยิ่งละลายเร็วยิ่งดี
เพราะยาจะได้พร้อมที่จะดูดซึม และออกฤทธิ์ได้เร็ว
ฉะนั้นไม่ต้องกลัวยาละลายน้ำก่อนถึงกระเพาะหรอก
ทีเวลากินยาน้ำเชื่อม ยาน้ำแขวนตะกอน(ที่ต้องเขย่าขวดก่อน) ก็ไม่เห็นต้องกลัวยาละลายก่อนเลย

ปกติเปลือกแคปซูลมักจะละลายหมดภายใน 5 นาทีอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นจะกินยากับน้ำอุ่นก็กินไปเถอะ ไม่มีผลเสียอะไรหรอก

มียาบางตัวที่ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดหรือแคปซูลก็ไม่ควรกินพร้อมน้ำผลไม้ หรืออาหารบางชนิด หรือนม แต่ถ้ามีข้อห้ามแบบนี้ หมอหรือเภสัชกรจะเตือนคุณเอง ไม่ต้องกังวล

ปกติยาเม็ดหรือแคปซูล เวลากินก็คือกลืนพร้อมน้ำสักแก้ว (ประมาณ 150 - 250 ml) หรือเท่าที่คุณกลืนแล้วไม่รู้สึกติดคอเป็นใช้ได้
แล้วก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตที่จะต้องยืนหรือนั่งตัวตรงเป๊ะหลังจากกลืนยาแบบที่ในเมล์บอกว่า "ควรยืนหรือนั่งตัวตรงๆ เมื่อทานยาอย่านอนทันที"
คือท่ายืนหรือนั่งน่ะมันสะดวกในการเคลื่อนที่ของยามากกว่า แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่าห้ามนอน อยากทำอะไรก็ทำไป

จริงอยู่ว่ายาบางตัวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่ได้ ถ้าหากกลืนน้ำน้อยไปแล้วแคปซูลไปติดที่หลอดอาหารทำให้ตัวยาถูกปลดปล่อยออกมาทำความระคายเคืองแก่ทางเดินอาหารส่วนนั้น
แต่ปกติดื่มน้ำ 1 แก้วก็พอ และไม่ได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนต้องออกมาเตือนกัน

หวังว่าเมล์แบบนี้จะหายไปซะที

ปกติเวลากินยาน้ำแขวนตะกอนก็อยู่ในสภาพเดียวกันกับเวลาที่แคปซูลแตกออกมาอยู่แล้ว
ไม่เป็นปัญหา

เรื่องประสิทธิภาพของการรักษาไม่ได้ลดลงหรอก
ยายิ่งแตกตัวเร็วก็ยิ่งพร้อมที่จะละลาย ดูดซึม และออกฤทธิ์เร็ว
ทำให้ประสิทธิภาพการรักษายิ่งดีขึ้น

ถ้ากลัวว่าน้ำอุ่นจะทำให้ยาที่ไม่ทนความร้อนเกิดการสลายไปละก็ ไม่ต้องกลัวอีกเหมือนกัน
เพราะน้ำอุ่นที่คุณดื่มได้คงไม่ใช่น้ำร้อนลวกปากอยู่แล้ว
และเมื่อน้ำเข้าไปในร่างกาย ก็จะถูกปรับให้มีอุณหภูมิเท่าร่างกายเอง




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2549    
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 13:09:23 น.
Counter : 7862 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

HoneyLemonSoda
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เพราะทุกวันที่ตื่นขึ้นมา
คือของขวัญที่กาลเวลามอบให้
Friends' blogs
[Add HoneyLemonSoda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.