|
ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ "
ได้รับ FW จากเพื่อนคนนึง อ่านแล้วเรารู้สึกว่าดีมากเลย จากที่เราเคยคิดว่าทำไมๆๆเราต้องเจอกับคนแบบนั้น แบบนี้ ทำไมเราไม่เจอกับคนแบบนั้น แบบนี้บ้าง...พอเราได้อ่าน FW ฉบับนี้แล้ว..รู้สึกดีขึ้นทันทีเลยค่ะ..เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนคนอื่นๆอ่านบ้างค่ะ...
ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ "
....
ความหมายของคำว่า ' เนื้อคู่ ' โดย อ.ประภัตร รหัสดาว
ขออนุญาตให้ความหมายของคำว่า ' เนื้อคู่ ' ในมุมมองของผมสำหรับท่านที่เข้ามาดูดวง คำว่า ' เนื้อคู่ ' หลายคนจะให้ความหมายว่าคือคนที่จะได้แต่งงานออกหน้าออกตาด้วย ( ทั้งจดทะเบียนสมรส หรือ ไม่จดทะเบียนสมรสก็ตาม) หรือได้ใช้ชีวิตร่วมกั น หรือ เป็นคนที่ส่งเสริม อุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน เคยสังเกตไหมว่า ช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรานั้นมีคนเดินเข้ามาในชีวิตมากมายหลายคน บางคนเข้ามา 1 ปีแล้วก็เลิกกัน บางคนคบกัน 6 เดือนแล้วเค้าก็จากเราไป บางคนเจอกันแค่อาทิตย์เดียวแล้วเราก็ทิ้งเค้าไปเอง บางทีคุณก็คบหาคนรู้ใจในเวลาเดียวกันถึง 3 คน บางคนแต่งงานกันมาแล้ว 20 ปีก็เลิกกันไป แต่งงานอีกทีตอนอายุ 70 ปีอยู่กินกันกับคนใหม่ได้แค่ 2 ปีแล้วก็ล้มหายตายจากกันไป
นี่เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ ที่อยากให้ลองคิดตาม
คิดออกกันหรือยังว่าคำว่าเนื้อคู่มันอยู่ตรงไหน *
ในมุมมองของผมแล้วคำว่าเนื้อคู่ ' ไม่มีครับ ' มีแต่คำว่า ' กรรม '
ทั้งกรรมดี และ กรรมไม่ดี
บางคนทำกรรมดีกันมาในอดีต ในภพ ในชาติที่แล้ว ช่วงประจวบเหมาะได้มาเจอกันในภพในชาตินี้ ก็อยู่ด้วยกันอย่าง! มีความสุข ตามกรรมของตัวเองเป็นตัวกำหนดว่าจะได้อยู่กันนานแค่ไหน
บางคนอยู่ด้วยกันก็มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง มีแต่เรื่องเดือดร้อนแต่ทนอยู่กันได้หลายปี
นั่นก็เกิดจากกรรมในอดีตแต่เป็นกรรมไม่ดีต่อกัน ภพนี้ชาตินี้จึงต้องมาชดใช้กรรมซึ่งกันและกัน
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้พอจะสรุปคำว่าเนื้อคู่ ( ของหนุ่มสาวยุคนี้ ) ได้ดังนี้
ความหมายที่ 1 คือ คนที่มีกรรมดีต่อกันในอดีต ภพนี้ชาตินี้กลับมาเพื่อการอิ่มเอิบใจซึ่งกันและกัน ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับ คำว่า เนื้อคู่ที่หลาย ๆ คนถามหามากที่สุด ส่วนจะเจอเมื่อไร ได้อยู่ร่วมกันนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของกรรมในอดีตเป็นตัวกำหนด
ความหมายที่ 2 คือ คนที่มีกรรมไม่ดีต่อกันในอดีต ภพนี้ชาตินี้จึงกลับมาเพื่อทวงคืน เพื่อชำระหนี้ จะสังเกตว่าคู่ประเภทนี้อยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่องเดือดร้อนทำอะไรก็ไม่ขึ้น มีแต่เรื่องเสียเงิน เสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึก แต่คนเรามักจะคิดว่าคนประเภทนี้ไม่ใช่คู่เรา เป็นที่มาของคำถามว่า ' เมื่อไรจะเจอคู่ซะที ' ซึ่งที่จริงแล้วคนที่เผชิญอยู่ในความหมายที่ 2 นี่แหละก็คือคู่เหมือนกัน แต่เป็นคู่เวรคู่กรรม
ดังนั้น บอกได้เลยว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของเราทุกคนเราจะได้พบกับเพศตรงข้าม หรือ แม้แต่เพศเดียวกัน ในลักษณะคู่รัก ไม่น้อยกว่า 1 คน ในช่วงชีวิตนี้ก่อนสิ้นอายุขัยแน่นอน แล้วจะไปแคร์อะ ไร
ถึงเวลาคนดี ๆ ที่เราตามหาเค้าจะมาเอง ในทำนองเดียวกันไอ้ คนที่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดั่งใจแต่ต้องทนคบอยู่ทุกวันนี้สักวันเมื่อชดใช้กันหมดแล้วเค้าก็จะไปเอง
ช่วงสูญญากาศที่ยังไม่มีใครมาเชื่อมต่อละมั้งที่ทำให้หลายคนวิตกกังวล จึง เป็นที่มาของคำถามว่า เมื่อไรจะเจอ คำแนะนำในยามที่คบหาใครอยู่ ไม่ว่าเค้าจะดี หรือไม่ดี
ขอให้ตัวคุณทำดีต่อเค้าให้มากที่สุด เพราะเค้าจะไม่ได้มาวุ่นวายกับเราตลอดไปหรอก อย่างน้อยกรรมดีที่มีต่อกันในวันนี้จะส่งผลให้คุณได้อิ่มเอิบในวันข้างหน้าได้
ในทางกลับกัน !
ถ้าได้เจอใครที่เรารู้สึกดี รู้สึกรัก รู้สึกห่วงใยเค้า รู้สึกคิดถึงเค้าตลอดเวลาแล้วละก็ รักเค้าให้มากๆ ไม่ต้องกังวลว่าวันหนึ่งอาจจะต้องผิดหวัง เพราะถึงแม้จะไม่มีอะไรมาพรากคุณ และเค้าก็ตาม
อย่างน้อยความตายก็เต รียมพลัดพรากคุณและเค้าในวันหนึ่งอยู่แล้ว
ขอให้ทุกท่านฉลาดที่จะใช้ชีวิตคู่และรู้เท่าทัน.
Create Date : 16 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 16 มกราคม 2553 14:51:15 น. |
Counter : 409 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"สวัสดีปีใหม่" ขอให้รวยด้วย 7 วิธี
"สวัสดีปีใหม่" ขอให้รวยด้วย 7 วิธี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2553 10:02 น.
เริ่มต้นปีใหม่ วันใหม่ แน่นอนว่าหลายคนอาจใช้เวลานี้เป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือการตั้งเป้าหมายทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งนี้ ความต้องการอย่างหนึ่งที่คนส่วนใหญ่แฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ การมีเงินทองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาอาจยังเก็บเงินไม่ได้ตามที่ต้องการ ขณะที่บางคนอาจไม่มีเงินเก็บเลยด้วยซ้ำไป ครั้งนี้ทางทีมงานจึงขอแนะนำเคล็ดลับที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไปมาฝากกัน เพื่อให้วันนี้เป็นวันเริ่ม ต้นที่เดินถูกทาง เพื่ออีกสามร้อยกว่าวันข้างหน้าจะได้มีเงินเก็บเหมือนคนอื่นเขาบ้าง อย่างไรก็ดี เมื่อการเงินคือความมั่นคงในชีวิต 7 วิธีดังต่อไปนี้ ก็จะเป็นหนทางสู่ความพอเพียงในอนาคต... 1. มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย วิธีเบสิกที่สุดและได้ผลมากที่สุดเช่นกันเมื่อคุณหาได้เงินได้เท่าไรคุณต้องใช้ให้น้อยกว่าที่หามาได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีอาการตึงเครียดในทุกช่วงปลายเดือน หรือไม่ก็สร้างหนี้ที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่สามารถหามาจ่ายทันได้ 2. เก็บเงินให้ได้ 10% ของรายได้ คุณควรเก็บเงิน 10 % นี้ไว้เป็นกองทุนสำหรับบำนาญ โดยให้หักก่อนที่คุณจะจ่ายบิลทุกใบ ถือว่าเป็นเงินออมขั้นที่น้อยที่สุด หากคุณไม่มีเงินเก็บออมเลย ก็ควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดด้วย และเก็บให้มากขึ้นทุกๆ ปี 3. อัพเดตการเงิน หากคุณซื้อหน่วยลงทุนเล่นหุ้นหรือว่ามีทรัพย์สินอื่นๆเช่นทองคำ ที่ดินคุณจะต้องอัพเดตบัญชีหรือดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่เสมอ เพื่อจะได้ดูดอกเบี้ยหรือความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินนั้นๆ เช่น ที่ดินของเรามีใครเข้ามาบุกรุกบ้างหรือไม่ บัญชีกองทุนสามารถถอนคืนได้เมื่อไร หรือหนี้บ้านที่เรามีอยู่ชำระไปเท่าไรแล้ว 4. เก็บเงินฉุกเฉิน เชื่อว่าคนยุคใหม่น้อยคนนักจะเก็บเงินสักก้อนหนึ่งเอาไว้ยามฉุกเฉิน ซึ่งจำนวนเงินควรจะมีประมาณ 3 เท่าของเงินเดือน เผื่อว่าคุณโดนเลิกจ้างกะทันหัน ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้านยามฉุกเฉิน เงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยเหลือและทำให้คุณคลายกังวลได้ ดีกว่าจะเบิก เงินเก็บออกมาใช้จ่ายโดยเสียดอกเบี้ยไปเปล่าประโยชน์ 5. อย่าโดนค่าปรับบัตรเครดิต บัตรเครดิตนั้นมีประโยชน์มากเมื่อเราต้องการใช้เงินฉุกเฉิน โดยเฉพาะยามเราไม่สามารถหาเงินสดตอนนั้นได้ทัน ก็ควรตระหนักข้อดีของมันมากกว่าจะทำให้มันกลายเป็นข้อเสีย เช่น ลืมจ่ายค่าบัตรตามบิลทำให้เกิดดอกเบี้ยทับถมมากมาย ปีใหม่ควรเริ่มมีวินัยได้แล้ว 6. ทำประกันคุ้มครอง คิดให้รอบคอบว่ายังมีประกันใดอีกบ้างที่คุณยังไม่ได้ทำ เช่น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันทรัพย์สิน อัคคีภัย ฯลฯ คุณคิดดูให้ดีว่าการทำประกันนั้นเสียเงินไม่มากเท่าที่คิด แต่ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองมากมาย ลองดูความเสี่ยงในชีวิตคุณและเริ่มทำประกันตั้งแต่ต้นปีนี้ 7. คิดแผนอนาคต ถ้าคุณเช่าบ้านอยู่ ตอบคำถามในใจสิว่าคุณอยากมีบ้านเป็นของตัวเองมั้ย อยากมีรถ มีร้าน หรือสิ่งใดก็ตามที่คุณอยากทำ ให้เขียนลงสมุดบันทึกลำดับความสำคัญ และดูรายได้ว่าคุณจะจัดสรรไว้ที่ใดบ้าง เขียนเป็นรูปแบบอนาคตและกำหนดว่าคุณจะทำสำเร็จเมื่อไร เพื่อจะได้เป็นกำลังใจในการเก็บเงิน เพียงเท่านี้ ความขัดสนก็จะไม่มาเยือน อีกทั้งยังมีความสุขตลอดปีแน่นอนค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก lisaguru
Create Date : 11 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 11 มกราคม 2553 14:07:56 น. |
Counter : 217 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สิ่งนำโชคของ 12 ราศี
แต่ละราศีนั้นมีดวงดาวแต่ละดวงปกป้องคุ้มครองอยู่ และมีสัญลักษณ์นำโชคแตกต่างกันไป ถ้านำมาใช้ให้ถูกชะตากับตัวเองแล้ว ก็จะมีผลดีอย่างมากเชียวล่ะ
ราศีเมษ (21 มีนาคม - 20 เมษายน) ราศีเมษ มีดาวอังคารเป็นดาวที่คอยปกปักรักษาอยู่จึงได้รับอิทธิพลจากเทพเจ้าผู้บุกเบิกดาวดวงนี้ซึ่งเต็มไปด้วยพละกำลัง ชาวเมษจึงเป็นผู้มีพลังแกร่งกล้าตั้งใจจริงกล้าหาญ และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างไม่หวาดหวั่น และดูเป็นหนุ่มสาวอย่เสมอ สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีส้ม, แดง และทอง / เลข 9 / อักษร I,R / ดอกเดซี่ / ผ้าพันคอ และกางเกง 3 ส่วน อาหารที่เหมาะกับร่างกายคุณคือ มะเขือเทศ
ราศีพฤษภ (21 เมษายน - 21 พฤษภาคม) ดาวที่ปกปักรักษาราศีนี้อยู่คือดาวศุกร์ โดยเทพวีนัสผู้สดสวยอ่อนหวาน และเต็มไปด้วยความรัก ความงามและความรักอันลึกซึ้งเปี่ยมล้นของเทพวีนัสนี้ส่งผลให้คุณมีรอยยิ้มที่น่ารักและจิตใจที่มีเมตตากรุณากับทุกๆคน และมีความรักให้มวลมนุษย์อย่างเหลือเฟือ สิ่งนำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า, ชมพู และครีม / เลข 7 / อักษร G,Y / หอประชุม / สถานที่แสดงคอนเสิร์ต และกระโปรงเอี๊ยม ผักชี จะเป็นอาหารที่ทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงและได้รับสารอาหารอย่างสมดุล
ราศีเมถุน (22 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน) ดาวพุธเป็นดาวที่คอยดูแลปกป้องราศีนี้อยู่ ส่วนเทพผู้พิทักษ์ราศีนี้ ได้แก่เทพเมอร์คิวรี่ ผู้มีพรสวรรค์และความสามารถในการประพันธ์ เป็นนายช่าง และมีวาทศิลป์ที่เลอเลิศ คุณจึงได้รับอิทพลนี้ทำให้คุณเป็นนักพูด นักเขียน และเป็นผู้รอบรู้ชนิดหาตัวจับยาก สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีเหลือง น้ำเงิน และเขียว / เลข 4 / อักษร D,M / รถแข่ง / ดาดฟ้า / อาคาร / นาฬิกาปลุก และเสื้อสูท อย่าลืมรับประทานผักกาดหอมให้มากๆ เพราะคุณควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ
ราศีกรกฎ (22 มิถุนายน - 23 กรกฎาคม) ดวงจันทร์เป็นดาวที่คอยปกปักรักษาราศีกรกฎ ส่วนเทพผู้พิทักษ์คือ ไดอาน่า เทพธิดาแห่งการล่าสัตว์และเกษตรกรรม ทั้งยังเป็นแม่ของลูกๆ จำนวนมากด้วย คุณจึงได้รับอิทธิพลนี้ตนเป็นคนที่จิตใจกว้างขวาง สุขุมเยือกเย็น และมีสัญชาตญาณของเพศแม่อยู่ถึงแม้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีขาว ม่วงอ่อน และสีฟ้าน้ำทะเล / เลข 8 / อักษร H,N / กระจกแบบมีด้ามถือ / บริเวณลานวัด / เข็มขัดหนัง และเสื้อคอโปโล คุณควรรับประทานพวกสาหร่ายทะเลให้มากๆ แล้วร่างกายคุณจะแข็งแรง
ราศีสิงห์ (24 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม) ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่คอยปกปักรักษาราศีสิงห์อยู่ ส่วนเทพผู้พิทักษ์ก็คือ เทพอะพอลโล ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความเข้มแข็งความหนุ่มความสาว และไฟแห่งชีวิต คุณจึงเป็นผู้หยิ่งทะนง ใจกว้าง และเชื่อมั่นในตนเองอย่างสูง ทั้งยังชอบเป็นจุดเด่น จุดสนใจด้วย สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีส้ม แดง และทอง / เลข 3 / อักษร K,U / สวนสัตว์ / นาฬิกาแบบหน้าปัดตัวเลข / ดอกกุหลาบแห้ง / ถุงเท้าลายขวางและเสื้อแจ็คเก็ต ลูกพลัม และส้มทุกชนิด จะทำให้คุณสามารถก้าวเดินไปสู่หนทางแห่งความสุขได้
ราศีกันย์ (24 สิงหาคม - 23 กันยายน) ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีกันย์อยู่คือ ดาวพุธเช่นเดียวกับราศีเมถุน โดยมีเทพเมอร์คิวรี่เป็นเทพเจ้าประจำราศี รวมทั้งนิสัยพื้นฐานของราศีนี้ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีมารยาทที่งาม สุภาพ เอาจริงเอาจัง พูดเก่ง และเขียนหนังสือได้สวย สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีครีม สีเนื้อ และสีน้ำเงิน หรือฟ้า / เลข 0 / อักษร A ,S / ชั้นใต้ดิน / สายสร้อยห้อยจี้ไม้กางเขน / เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ และดินสอสีม่วง อาหารที่ดีต่อร่างกายคุณคือพวกมะนาว เลมอน
ราศีตุลย์ (24 กันยายน - 23 ตุลาคม) ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีตุลย์นี้เช่นเดียวกับราศีพฤษภ คือ ดาวพุธ เทพวีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาประจำดาวพุธนี้ได้มีอิทธิพลในด้านความงามและความรักต่อชาวตุลย์ ทำให้ชาวตุลย์เกลียดสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม และยังมีจิตใจเที่ยงธรรม รักษาสมดุลของสิ่งของต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า เขียว และเหลือง / เลข 6 / อักษร F , O / ระเบียง / เข็มกลัดรูปดอกไม้ / กลิ่นวานิลลา และมินิสเกิร์ตเข้ารูป สตรอเบอร์รี่จะเป็นผลไม้ที่นำโชคดีมาให้
ราศีพิจิก (24 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน) ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีนี้อยู่คือ ดาวพลูโต มีเทพพลูโตเทพแห่งความลี้ลับ และซ่อนเร้นคอยพิทักษ์อยู่ คุณจึงได้รับอิทธิพลเหล่านี้ทำให้เป็นคนพูดน้อยไม่แดงตัวมักเก็บความเร่าร้อนไว้ภายใน แต่มีเสน่ห์ดึงดูดอันเร้นลับน่าพิศวง สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีเทา และดำ / เลข 5 / ตัวอักษร E , W / ห้องสมุด / ที่คาดผม / กระโปรงพลีท และตะปูที่เป็นสนิม อาหารที่เหมาะสำหรับสุขภาพของคุณคือ ไข่เจียว
ราศีธนู (23 พฤศจิกายน - 22 ธันวาคม) ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีของคุณอยู่คือ ดาวพฤหัส โดยมีจูปิเตอร์เป็นเทพคอยพิทักษ์อยู่ เทพจูปิเตอร์เป็นเทพแห่งความรอบรู้และพรสวรรค์ทั้งมวล คุณจึงได้รับอิทธิพลให้เป็นคนรักอิสระ ทำอะไรตามใจชอบและมีความสามารถรอบตัวทีเดียว สิ่งนำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีม่วง แดง และส้ม / เลข 1 / อักษร J , S / กุ้งชุบแป้งทอด / สวนสาธารณะขนาดใหญ่ / แว่นกันแดด และเสื้อไหมพรม แตงกวา จะเป็นอาหารที่ช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
ราศีมังกร (23 ธันวาคม - 20 มกราคม) ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีมังกรอยู่ก็คือดาวเสาร์ ส่วนเทพผู้คอยพิทักษ์ดูแลคือเทพแห่งกาลเวลา เทพคลอนุส คุณจึงได้รับอิทธิพล ทำให้เป็นคนที่เที่ยงตรงไม่หักโหม มีเหตุมีผล และใช้ชีวิตอย่างถูกต้องคุ้มค่า สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีดำ เทา น้ำตาลหม่น / เลข 2 / อักษร K , T / สร้อยคอจี้รูปดาว / ต่างหูมุก / ตุ๊กตาหุ่นยนต์ / ริมทะเล และกางเกงตัวหลวมพอง ถ้าคุณอยากมีความสุข ขอให้รับประทานหัวหอมเป็นประจำ
ราศีกุมภ์ (21 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์) คุณมีดาวยูเรนัสเป็นดาวที่คอยปกปักรักษาอยู่ และมีเทพยูเรนัสเทพเจ้าแห่งความรอบรู้เป็นเทพผู้คอยพิทักษ์ คุณจึงได้รับอิทธิพลดังกล่าวนี้ ทำให้เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชนิดที่ไม่มีใครจะคาดคิดได้ถึง และเป็นผู้มีความคิดแปลกๆ ใหม่ๆ ล้ำหน้าอยู่เสมอ สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า เขียว และเหลือง / เลข 5 / อักษร E , W / เป้ที่เป็นทรงกระเป๋าเอกสาร / แหวนอัญมณี และกระโปรงยีนส์อาหารนำโชคคือ สลัดผัก
ราศีมีน (20 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม) ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีมีนคือ ดาวเนปจูน มีเทพผู้พิทักษ์ซึ่งมีอิทพลทำให้ชาวมีนเป็นผู้ที่เร้นลับ ในขณะเดียวกันก็ทรงพลังอำนาจ ไวต่อความรู้สึกและรับรู้กระแสจิตวิญญาณได้ดี สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีน้ำเงิน ขาวและสีอ่อนๆ / เลข 6 / อักษร F , O / น้ำผลไม้สด / สวนดอกไม้ / โบว์ หรือริบบิ้น / ภาพถ่ายของบรรพบุรุษ / หมอนเป็นสีๆ และเสื้อกันหนาวลายดอกไม้ องุ่น จะทำให้สุขภาพของคุณดีอยู่เสมอ
Create Date : 15 กรกฎาคม 2551 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2553 14:32:52 น. |
Counter : 295 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
♥ ขอบคุณโค๊ดและตุ๊กตาน่ารักๆแต่งบล๊อค
จากคุณKungGuenter คุณรักษ์บ้านเกิด และคุณHawaii_Havaii ค่ะ♥
|
|
|
|
|
|
|
|