ยินดีต้อนรับค่ะ..ไม่ได้เข้ามาอัพบ่อยๆแต่รักบล๊อคนี้ม๊ากๆๆนะ..จุ๊บๆๆ
Group Blog
 
All blogs
 

เคล็ดลับผิวสวยของสุดยอดหมอผิวหนัง




เคล็ดลับผิวสวยของสุดยอดหมอผิวหนัง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2553 12:58 น.




"คุณหมอผิวหนังมักจะผิวสวย?"

ผิวสวยกันมาตั้งแต่เกิดทุกคนรึเปล่า? บอกได้เลยว่าไม่หรอก บางคนอาจจะผิวเกลี้ยงเกลาดูดีโดยไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะเป็นพันธุกรรม แต่คุณหมอผิวหนังอีกหลายๆ ท่าน ทั้งหญิงและชายมีผิวสวยเพราะมีการดูแลที่ดี

ได้ยินเคล็ดลับความงามของดารากันมาบ่อยแล้ว ลองมาฟังเคล็ดลับการดูแลและสร้างผิวสวยของสุดยอดหมอผิวหนังที่ดังๆ ระดับโลกกันดูบ้าง

เติมวิตามินซีให้ผิว มีคุณหมอคนดังถึง 3 ท่าน ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี คุณหมอคูนินแห่งเดอร์มาด็อกเตอร์บอกว่า วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน คุณหมอออซวิทยากรประจำรายการ เดอะ โอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ บอกว่าถ้าใช้วิตามินซีควบคู่ไปกับเรตินอลหรืออนุพันธ์วิตามินเอ จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี ส่วนคุณหมอโรแดน หนึ่งในผู้ก่อตั้งผลิตภัณฑ์โปรแอคทีฟบอกว่า เธอใช้วิตามินซีคู่กับครีมกันแดดทุกวัน เพราะวิตามินซีช่วยต่อกรกับอนุมูลอิสระ ตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพได้ หมอไทยขอเติมให้อีกนิดว่า การใช้วิตามินซีอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นด้วย




กินเพื่อผิวสวย คุณหมอออซและ ดร.เพอร์ริโคน ชอบกินปลาแซลมอน เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า-3 โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10) และ DMAE ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระและกระชับผิว ปัจจุบันปลาแซลมอนหาซื้อง่าย แต่บางชนิดก็เป็นปลาเลี้ยง มีสารเร่งให้เนื้อเป็นสีส้ม การจะเลือกซื้อหรือรับประทานก็ต้องดูให้ดี ถ้าลำบากนักก็หันมากินปลาทูกันดีกว่า เพราะมีสารทั้ง 3 ตัวนี้เหมือนกัน

นอกจากนี้ คุณหมอออซคนดังยังชอบกิน มะเขือเทศ ผลทับทิม และยังชอบดื่มชาเขียวเป็นประจำ ในขณะที่คุณหมอเอมี่ เวคซเลอร์ ผู้แต่งหนังสือ “The Mind - Beauty Connection” ปกป้องผิวสวยด้วยการดื่มชาเขียวกับกินผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และอาไซอีเบอร์รี่ (Acai Berry) ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นผลไม้ที่กำลังดัง เพราะพบว่ามีค่าโอแรค (ORAC) สูง แสดงว่ามีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สำหรับผลไม้ไทยที่มีค่าโอแรคสูงก็คือ ผลทับทิม นั่นเอง

ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปบ้าง คุณหมอเคธี่ โรแดน บอกว่าการผลัดผิวเดือนละครั้ง จะช่วยขจัดริ้วรอยบางๆ และจุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณดูเรียบและสดใสขึ้น และยังช่วยให้ครีมบำรุงซึมซาบลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นด้วย




นอนให้พอ และออกกำลังให้ผิว คุณหมอชื่อดังแห่งเมืองนิวยอร์ก ลิเดีย อีแวนส์ บอกว่า 8 ชั่วโมง คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับให้ผิวสวยได้ซ่อมแซมตัวเองในตอนกลางคืน ส่วนคุณหมอเคธี่ ฟิลด์ ผู้ร่วมก่อตั้งโปรแอคทีฟ บอกว่าเวลาที่ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุดคือ 4 ทุ่ม – ตี 2

ซึ่งคุณหมอกรอสแมน กับคุณหมอออซ เห็นตรงกันว่า การออกกำลังกายก็สำคัญ เพราะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนได้อย่างขยันขันแข็ง การขยันออกกำลังกายจึงช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสได้ และที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทั้งสองคนโปรดปรานการเล่นโยคะมาก

ดูแลผิวส่วนอื่นด้วย อย่าปล่อยให้หน้าตึง แต่คอและมือเหี่ยว ทุกครั้งที่ทาครีมบำรุง อย่าลืมชโลมครีมที่เหลือให้กับผิวมือและผิวคอด้วย คุณหมอกรอสแมนบอกว่า อาชีพหมอต้องล้างมือบ่อย แต่หลังล้างมือทุกครั้ง เธอจะใช้โลชั่นทามือเสมอ คุณหมอลูอิสยังเตือนด้วยว่า อย่าลืมทาครีมกันแดดให้มือและคอทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

เคล็ดลับทั้ง 5 ข้อนี้ เหล่าคุณหมอบอกว่าสำคัญหมดทุกข้อ สาวๆ หนุ่มๆ ควรทำเรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย เหมือนการเล่นจิ๊กซอว์ต่อภาพผิวสวย


โดย : พญ. ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคผิวหนัง รมย์รวินท์คลินิก








 

Create Date : 30 มกราคม 2553    
Last Update : 30 มกราคม 2553 12:53:30 น.
Counter : 1561 Pageviews.  

ไม่ต้องดูดวงก็ต่ออายุได้ด้วย 9 วิธี




ไม่ต้องดูดวงก็ต่ออายุได้ด้วย 9 วิธี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2553 16:46 น.


ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนมักยอมรับว่า แม้ชีวิตจะเป็นอนิจจัง แต่ทว่ายังไม่สามารถปลงได้ เพราะยังมีห่วงทั้งคนรัก ลูกและทุกคนในครอบครัว ซึ่งในความเป็นห่วงก็มักมีความต้องการเพิ่มขึ้นมาอีกประการหนึ่งคือ ความต้องอยู่อย่างแข็งแรง ไม่เป็นภาระของผู้อื่น ซึ่งการจะมีชีวิตที่ยืนยาว แข็งแรงทั้งกายและใจนั้น แต่ละคนมักมีวิธีที่แตกต่างกันไป ในครั้งนี้ทางทีมงานจึงขอเสนอเคล็ดลับง่ายๆแต่ต้องมีวินัยเรื่องเวลาที่แต่ละคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากันแต่กลับใช้ต่างกัน

ทั้งนี้ ฟ็อกนิวส์ แนะว่า การที่จะมีชีวิตยืนยาว หรือเรียกว่า การต่ออายุโดยวธีธรรมชาตินั้น มีอยู่ 9 วิธีที่น่าสนใจดังต่อไปนี้



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@ 1. จัดทริปเที่ยว @@

การเครียดจากการทำงานและสิ่งรายล้อมรอบข้างที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลส่วนหนึ่งนั้นนับเป็นบ่อเกิดแห่งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อ้วน และทุกอย่างที่ทำให้สุขภาพต้องทรุดลงอย่างเป็นได้ชัด ซึ่งการที่ร่างกายคนเราทรุดลงเรื่อยๆนั้น โอกาสที่จะอยู่จนแก่เฒ่าก็น้อยลง อีกทั้งยังเพิ่มภาระให้คนในครอบครัวอีกด้วย

ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงภาวะคงามเครียด แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า มันไม่ใช่การหนีปัญหาแต่อย่างใด สิ่งนั้นก็คือ การลุกจากที่ทำงาน ออกจากบ้าน เปลี่ยนบบรยากาศไปเที่ยวในที่ๆอย่ากไป แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาไม่กี่วัน แต่เชื่อเถอะว่า การท่องเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติ หรือสถานที่ที่เราสามารถปลดปล่อยความเร่งรีบและความตึงเครียดในสมองนั้น จะต่ออายุได้อีกนานเลยทีเดียว



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@2. มีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน @@

บางครั้ง การคบเพื่อนบางคนอาจทำให้คุณเสียทั้งทรัพย์และความรู้สึก ซึ่งต่างกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว ปลา ฯลฯ ที่คุณรู้สึกว่าคุณอยู่กับพวกมันแล้วผ่อนคลาย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณไม่จมปรักกับเรื่องเลวร้าย และไม่จับเจ่าอยู่คนเดียว

ทั้งนี้ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณอาจจะใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยง อาบน้ำให้มัน รวมไปถึงซื้อของที่จำเป็นของมัน ซึ่งเชื่อเถอะว่า เวลาที่หมดไปกับการเดินซื้อของเพื่อน้องหมา น้องแมว ฯลฯ การอาบน้ำให้และเล่นกับมัน เท่ากับว่าเราได้ออกกำลังกายและมีกำลังใจเพิ่มขึ้นไม่รู้ตัวเลยทีเดียว



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@3. เช็ค “เซ็กซ์” @@

ข้อนี้สำหรับชีวิตคู่ที่ไม่อยากให้รักจืดไป เรื่องเพศสัมพันธ์ก็สามารถต่อทั้งอายุรักและอายุของคุณเองได้เช่นกัน เพราะนอกจากความรู้สึกของคนทั้งสองแล้ว เพศสัมพันธ์ยังมีส่วนทำให้ฮอร์โมนและร่างกายห่างจากโรคบางชนิดได้ด้วย



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@4. ชิลกับเพื่อนๆ @@

จากการศึกษาข้อมูลในปี 2005 โดยนักวิจัยชาวออสเตรเลียพบว่า คนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป กว่า 1,500 ราย ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพสักเท่าไหร่

ทว่าหากเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ค่อยไปเที่ยวหรือพูดคุย ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆนั้น มักมีปัญหาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ดังนั้นการใช้เวลาไปกับเพื่อนหรือเด็กๆไม่ว่าจะเป็น ลูก หลาน นั้นเปรียบเสมือนยาชูกำลังที่ดีทีเดียว



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@5. พักผ่อน @@

แน่นอนว่า คนที่นอนหลับไม่เพียงพอ ย่อมเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้นการที่คนเราสามารถนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง จะส่งผลให้ร่างกายไม่ทรุดโทรม ซึ่งในเรื่องนี้นักวิจัยแนะว่า อันที่จริงแล้ว ทุกคนควรใช้เวลาในการนอนหลับพักผ่อนประมาณ 7-8 ชั่วโมงถึงจะดี



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@6. ตรวจสุขภาพประจำปี @@

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และจะวัยรุ่นหรือวัยดึก แต่อาจจะเน้นไปที่วัย 40 ขึ้นไป ก็ควรดูแลเอาใจใส่เรื่องการตรวจสุขภาพอยุ่สม่ำเสมอ หากคุณตรวจแล้วไม่พบสิ่งผิกปกติก็อย่างเพิ่งประมาทกับการใช้ชีวิต ส่วนคนไหนที่ตรวจแล้วพบสิ่งผิดปกติก็ควรทำใจให้สบายและรักษาตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำทันที เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณอาจจะไม่สายเกินแก้



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@ 7. สุขกับชีวิต @@

การที่คนเราบอกว่า ขอให้มีความสุขนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก หากคุณไม่ยอมเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติที่คิดบวก เพราะถ้ามัวเสียเวลาไปกับการจับผิด การวิตกกังวล แน่นอนว่า ไม่ว่าจะซื้อสิ่งของราคาแพงหรือไปสถานที่ที่อยากไปก็ไม่ได้ทำให้คุณสุขมากขึ้น



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@ 8. แต่งงาน @@

นับเป็นอีกข้อทีต้องอธิบายว่า การแต่งงานจะทำให้ชีวิตยืนยาวได้นั้น ต่อเมื่อคุณพบคนที่คุณมั่นใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือไปกับเขา ไม่ใช่แค่เพียงคบกัน รักกันโดยที่ไม่ได้มั่นใจกันและกันและยังมองไม่เห็นอนาคตในการใช้ชีวิตคู่

ทั้งนี้ สำหรับหนุ่มสาวชาวโสดทั้งหลาย ก็ไม่ได้หมายความว่าการแต่งงานจะเป็นตัวบั่นทอนชีวิตแต่ประการใด เพราะหากมองอีกด้านหนึ่งของเหรียญ คุณก็จะเห็นว่า ชีวิตโสดก็สามาต่อทำให้คนอายุยืนได้เช่นกัน ดังนั้น ใครที่รักกันและกำลังจะแต่งงานก็ควรยินดีด้วย แต่ใครที่ยังไม่มีวี่แววก็ขอให้มีความสุขกับชีวิตอีกรสชาติแล้วกัน



ภาพจาก ฟ็อกนิวส์


@@ 9. ดื่ม...เพื่อสุขภาพ @@

การดื่มไวน์แดงบ้าง ขอย้ำว่า บางครั้ง บางเวลา ไม่ใช่เป็นประจำก็สามารถต่ออายุได้เช่นกัน เพราะนักวิจัยเผยว่า ไวน์แดงสามารถป้องกันโรคหัวใจได้ แต่ต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเพียงแก้วเดียวในหนึ่งวันเท่านั้น

เรียบเรียงจาก ฟ็อกนิวส์











 

Create Date : 22 มกราคม 2553    
Last Update : 22 มกราคม 2553 11:16:50 น.
Counter : 412 Pageviews.  

ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ "




ได้รับ FW จากเพื่อนคนนึง อ่านแล้วเรารู้สึกว่าดีมากเลย จากที่เราเคยคิดว่าทำไมๆๆเราต้องเจอกับคนแบบนั้น แบบนี้ ทำไมเราไม่เจอกับคนแบบนั้น แบบนี้บ้าง...พอเราได้อ่าน FW ฉบับนี้แล้ว..รู้สึกดีขึ้นทันทีเลยค่ะ..เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนคนอื่นๆอ่านบ้างค่ะ...

ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ "

....


ความหมายของคำว่า ' เนื้อคู่ '
โดย อ.ประภัตร รหัสดาว


ขออนุญาตให้ความหมายของคำว่า ' เนื้อคู่ ' ในมุมมองของผมสำหรับท่านที่เข้ามาดูดวง
คำว่า ' เนื้อคู่ ' หลายคนจะให้ความหมายว่าคือคนที่จะได้แต่งงานออกหน้าออกตาด้วย
( ทั้งจดทะเบียนสมรส หรือ ไม่จดทะเบียนสมรสก็ตาม)
หรือได้ใช้ชีวิตร่วมกั น หรือ เป็นคนที่ส่งเสริม อุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน
เคยสังเกตไหมว่า ช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรานั้นมีคนเดินเข้ามาในชีวิตมากมายหลายคน
บางคนเข้ามา 1 ปีแล้วก็เลิกกัน บางคนคบกัน 6 เดือนแล้วเค้าก็จากเราไป
บางคนเจอกันแค่อาทิตย์เดียวแล้วเราก็ทิ้งเค้าไปเอง
บางทีคุณก็คบหาคนรู้ใจในเวลาเดียวกันถึง 3 คน
บางคนแต่งงานกันมาแล้ว 20 ปีก็เลิกกันไป
แต่งงานอีกทีตอนอายุ 70 ปีอยู่กินกันกับคนใหม่ได้แค่ 2 ปีแล้วก็ล้มหายตายจากกันไป

นี่เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ ที่อยากให้ลองคิดตาม









คิดออกกันหรือยังว่าคำว่าเนื้อคู่มันอยู่ตรงไหน *


ในมุมมองของผมแล้วคำว่าเนื้อคู่
' ไม่มีครับ ' มีแต่คำว่า ' กรรม '


ทั้งกรรมดี และ กรรมไม่ดี


บางคนทำกรรมดีกันมาในอดีต ในภพ ในชาติที่แล้ว
ช่วงประจวบเหมาะได้มาเจอกันในภพในชาตินี้ ก็อยู่ด้วยกันอย่าง! มีความสุข
ตามกรรมของตัวเองเป็นตัวกำหนดว่าจะได้อยู่กันนานแค่ไหน



บางคนอยู่ด้วยกันก็มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง มีแต่เรื่องเดือดร้อนแต่ทนอยู่กันได้หลายปี


นั่นก็เกิดจากกรรมในอดีตแต่เป็นกรรมไม่ดีต่อกัน
ภพนี้ชาตินี้จึงต้องมาชดใช้กรรมซึ่งกันและกัน


ที่เขียนมาทั้งหมดนี้พอจะสรุปคำว่าเนื้อคู่ ( ของหนุ่มสาวยุคนี้ ) ได้ดังนี้


ความหมายที่ 1 คือ
คนที่มีกรรมดีต่อกันในอดีต ภพนี้ชาตินี้กลับมาเพื่อการอิ่มเอิบใจซึ่งกันและกัน
ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับ คำว่า เนื้อคู่ที่หลาย ๆ คนถามหามากที่สุด ส่วนจะเจอเมื่อไร
ได้อยู่ร่วมกันนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของกรรมในอดีตเป็นตัวกำหนด

ความหมายที่ 2 คือ
คนที่มีกรรมไม่ดีต่อกันในอดีต ภพนี้ชาตินี้จึงกลับมาเพื่อทวงคืน เพื่อชำระหนี้
จะสังเกตว่าคู่ประเภทนี้อยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่องเดือดร้อนทำอะไรก็ไม่ขึ้น
มีแต่เรื่องเสียเงิน เสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึก
แต่คนเรามักจะคิดว่าคนประเภทนี้ไม่ใช่คู่เรา เป็นที่มาของคำถามว่า
' เมื่อไรจะเจอคู่ซะที '
ซึ่งที่จริงแล้วคนที่เผชิญอยู่ในความหมายที่ 2 นี่แหละก็คือคู่เหมือนกัน แต่เป็นคู่เวรคู่กรรม


ดังนั้น
บอกได้เลยว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของเราทุกคนเราจะได้พบกับเพศตรงข้าม หรือ แม้แต่เพศเดียวกัน
ในลักษณะคู่รัก ไม่น้อยกว่า 1 คน
ในช่วงชีวิตนี้ก่อนสิ้นอายุขัยแน่นอน
แล้วจะไปแคร์อะ ไร

ถึงเวลาคนดี ๆ ที่เราตามหาเค้าจะมาเอง
ในทำนองเดียวกันไอ้ คนที่ไม่ได้เรื่อง
ไม่ได้ดั่งใจแต่ต้องทนคบอยู่ทุกวันนี้สักวันเมื่อชดใช้กันหมดแล้วเค้าก็จะไปเอง

ช่วงสูญญากาศที่ยังไม่มีใครมาเชื่อมต่อละมั้งที่ทำให้หลายคนวิตกกังวล
จึง เป็นที่มาของคำถามว่า เมื่อไรจะเจอ คำแนะนำในยามที่คบหาใครอยู่ ไม่ว่าเค้าจะดี หรือไม่ดี


ขอให้ตัวคุณทำดีต่อเค้าให้มากที่สุด เพราะเค้าจะไม่ได้มาวุ่นวายกับเราตลอดไปหรอก
อย่างน้อยกรรมดีที่มีต่อกันในวันนี้จะส่งผลให้คุณได้อิ่มเอิบในวันข้างหน้าได้


ในทางกลับกัน !


ถ้าได้เจอใครที่เรารู้สึกดี รู้สึกรัก รู้สึกห่วงใยเค้า รู้สึกคิดถึงเค้าตลอดเวลาแล้วละก็
รักเค้าให้มากๆ
ไม่ต้องกังวลว่าวันหนึ่งอาจจะต้องผิดหวัง
เพราะถึงแม้จะไม่มีอะไรมาพรากคุณ และเค้าก็ตาม

อย่างน้อยความตายก็เต รียมพลัดพรากคุณและเค้าในวันหนึ่งอยู่แล้ว

ขอให้ทุกท่านฉลาดที่จะใช้ชีวิตคู่และรู้เท่าทัน.







 

Create Date : 16 มกราคม 2553    
Last Update : 16 มกราคม 2553 14:51:15 น.
Counter : 409 Pageviews.  

"สวัสดีปีใหม่" ขอให้รวยด้วย 7 วิธี




"สวัสดีปีใหม่" ขอให้รวยด้วย 7 วิธี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2553 10:02 น.

เริ่มต้นปีใหม่ วันใหม่ แน่นอนว่าหลายคนอาจใช้เวลานี้เป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือการตั้งเป้าหมายทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ทั้งนี้ ความต้องการอย่างหนึ่งที่คนส่วนใหญ่แฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ การมีเงินทองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาอาจยังเก็บเงินไม่ได้ตามที่ต้องการ ขณะที่บางคนอาจไม่มีเงินเก็บเลยด้วยซ้ำไป ครั้งนี้ทางทีมงานจึงขอแนะนำเคล็ดลับที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไปมาฝากกัน เพื่อให้วันนี้เป็นวันเริ่ม ต้นที่เดินถูกทาง เพื่ออีกสามร้อยกว่าวันข้างหน้าจะได้มีเงินเก็บเหมือนคนอื่นเขาบ้าง

อย่างไรก็ดี เมื่อการเงินคือความมั่นคงในชีวิต 7 วิธีดังต่อไปนี้ ก็จะเป็นหนทางสู่ความพอเพียงในอนาคต...

1. มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย

วิธีเบสิกที่สุดและได้ผลมากที่สุดเช่นกันเมื่อคุณหาได้เงินได้เท่าไรคุณต้องใช้ให้น้อยกว่าที่หามาได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีอาการตึงเครียดในทุกช่วงปลายเดือน หรือไม่ก็สร้างหนี้ที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่สามารถหามาจ่ายทันได้

2. เก็บเงินให้ได้ 10% ของรายได้

คุณควรเก็บเงิน 10 % นี้ไว้เป็นกองทุนสำหรับบำนาญ โดยให้หักก่อนที่คุณจะจ่ายบิลทุกใบ ถือว่าเป็นเงินออมขั้นที่น้อยที่สุด หากคุณไม่มีเงินเก็บออมเลย ก็ควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดด้วย และเก็บให้มากขึ้นทุกๆ ปี

3. อัพเดตการเงิน
หากคุณซื้อหน่วยลงทุนเล่นหุ้นหรือว่ามีทรัพย์สินอื่นๆเช่นทองคำ ที่ดินคุณจะต้องอัพเดตบัญชีหรือดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่เสมอ เพื่อจะได้ดูดอกเบี้ยหรือความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินนั้นๆ เช่น ที่ดินของเรามีใครเข้ามาบุกรุกบ้างหรือไม่ บัญชีกองทุนสามารถถอนคืนได้เมื่อไร หรือหนี้บ้านที่เรามีอยู่ชำระไปเท่าไรแล้ว

4. เก็บเงินฉุกเฉิน

เชื่อว่าคนยุคใหม่น้อยคนนักจะเก็บเงินสักก้อนหนึ่งเอาไว้ยามฉุกเฉิน ซึ่งจำนวนเงินควรจะมีประมาณ 3 เท่าของเงินเดือน เผื่อว่าคุณโดนเลิกจ้างกะทันหัน ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้านยามฉุกเฉิน เงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยเหลือและทำให้คุณคลายกังวลได้ ดีกว่าจะเบิก
เงินเก็บออกมาใช้จ่ายโดยเสียดอกเบี้ยไปเปล่าประโยชน์

5. อย่าโดนค่าปรับบัตรเครดิต

บัตรเครดิตนั้นมีประโยชน์มากเมื่อเราต้องการใช้เงินฉุกเฉิน โดยเฉพาะยามเราไม่สามารถหาเงินสดตอนนั้นได้ทัน ก็ควรตระหนักข้อดีของมันมากกว่าจะทำให้มันกลายเป็นข้อเสีย เช่น ลืมจ่ายค่าบัตรตามบิลทำให้เกิดดอกเบี้ยทับถมมากมาย ปีใหม่ควรเริ่มมีวินัยได้แล้ว

6. ทำประกันคุ้มครอง

คิดให้รอบคอบว่ายังมีประกันใดอีกบ้างที่คุณยังไม่ได้ทำ เช่น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันทรัพย์สิน อัคคีภัย ฯลฯ คุณคิดดูให้ดีว่าการทำประกันนั้นเสียเงินไม่มากเท่าที่คิด แต่ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองมากมาย ลองดูความเสี่ยงในชีวิตคุณและเริ่มทำประกันตั้งแต่ต้นปีนี้

7. คิดแผนอนาคต

ถ้าคุณเช่าบ้านอยู่ ตอบคำถามในใจสิว่าคุณอยากมีบ้านเป็นของตัวเองมั้ย อยากมีรถ มีร้าน หรือสิ่งใดก็ตามที่คุณอยากทำ ให้เขียนลงสมุดบันทึกลำดับความสำคัญ และดูรายได้ว่าคุณจะจัดสรรไว้ที่ใดบ้าง เขียนเป็นรูปแบบอนาคตและกำหนดว่าคุณจะทำสำเร็จเมื่อไร เพื่อจะได้เป็นกำลังใจในการเก็บเงิน

เพียงเท่านี้ ความขัดสนก็จะไม่มาเยือน อีกทั้งยังมีความสุขตลอดปีแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lisaguru







 

Create Date : 11 มกราคม 2553    
Last Update : 11 มกราคม 2553 14:07:56 น.
Counter : 217 Pageviews.  

สิ่งนำโชคของ 12 ราศี





แต่ละราศีนั้นมีดวงดาวแต่ละดวงปกป้องคุ้มครองอยู่ และมีสัญลักษณ์นำโชคแตกต่างกันไป ถ้านำมาใช้ให้ถูกชะตากับตัวเองแล้ว ก็จะมีผลดีอย่างมากเชียวล่ะ


• ราศีเมษ (21 มีนาคม - 20 เมษายน)
ราศีเมษ มีดาวอังคารเป็นดาวที่คอยปกปักรักษาอยู่จึงได้รับอิทธิพลจากเทพเจ้าผู้บุกเบิกดาวดวงนี้ซึ่งเต็มไปด้วยพละกำลัง ชาวเมษจึงเป็นผู้มีพลังแกร่งกล้าตั้งใจจริงกล้าหาญ และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างไม่หวาดหวั่น และดูเป็นหนุ่มสาวอย่เสมอ สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีส้ม, แดง และทอง / เลข 9 / อักษร I,R / ดอกเดซี่ / ผ้าพันคอ และกางเกง 3 ส่วน อาหารที่เหมาะกับร่างกายคุณคือ มะเขือเทศ


• ราศีพฤษภ (21 เมษายน - 21 พฤษภาคม)
ดาวที่ปกปักรักษาราศีนี้อยู่คือดาวศุกร์ โดยเทพวีนัสผู้สดสวยอ่อนหวาน และเต็มไปด้วยความรัก ความงามและความรักอันลึกซึ้งเปี่ยมล้นของเทพวีนัสนี้ส่งผลให้คุณมีรอยยิ้มที่น่ารักและจิตใจที่มีเมตตากรุณากับทุกๆคน และมีความรักให้มวลมนุษย์อย่างเหลือเฟือ สิ่งนำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า, ชมพู และครีม / เลข 7 / อักษร G,Y / หอประชุม / สถานที่แสดงคอนเสิร์ต และกระโปรงเอี๊ยม ผักชี จะเป็นอาหารที่ทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงและได้รับสารอาหารอย่างสมดุล


• ราศีเมถุน (22 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน)
ดาวพุธเป็นดาวที่คอยดูแลปกป้องราศีนี้อยู่ ส่วนเทพผู้พิทักษ์ราศีนี้ ได้แก่เทพเมอร์คิวรี่ ผู้มีพรสวรรค์และความสามารถในการประพันธ์ เป็นนายช่าง และมีวาทศิลป์ที่เลอเลิศ คุณจึงได้รับอิทพลนี้ทำให้คุณเป็นนักพูด นักเขียน และเป็นผู้รอบรู้ชนิดหาตัวจับยาก สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีเหลือง น้ำเงิน และเขียว / เลข 4 / อักษร D,M / รถแข่ง / ดาดฟ้า / อาคาร / นาฬิกาปลุก และเสื้อสูท อย่าลืมรับประทานผักกาดหอมให้มากๆ เพราะคุณควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ


• ราศีกรกฎ (22 มิถุนายน - 23 กรกฎาคม)
ดวงจันทร์เป็นดาวที่คอยปกปักรักษาราศีกรกฎ ส่วนเทพผู้พิทักษ์คือ ไดอาน่า เทพธิดาแห่งการล่าสัตว์และเกษตรกรรม ทั้งยังเป็นแม่ของลูกๆ จำนวนมากด้วย คุณจึงได้รับอิทธิพลนี้ตนเป็นคนที่จิตใจกว้างขวาง สุขุมเยือกเย็น และมีสัญชาตญาณของเพศแม่อยู่ถึงแม้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม
สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีขาว ม่วงอ่อน และสีฟ้าน้ำทะเล / เลข 8 / อักษร H,N / กระจกแบบมีด้ามถือ / บริเวณลานวัด / เข็มขัดหนัง และเสื้อคอโปโล คุณควรรับประทานพวกสาหร่ายทะเลให้มากๆ แล้วร่างกายคุณจะแข็งแรง


• ราศีสิงห์ (24 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม)
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่คอยปกปักรักษาราศีสิงห์อยู่ ส่วนเทพผู้พิทักษ์ก็คือ เทพอะพอลโล ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความเข้มแข็งความหนุ่มความสาว และไฟแห่งชีวิต คุณจึงเป็นผู้หยิ่งทะนง ใจกว้าง และเชื่อมั่นในตนเองอย่างสูง ทั้งยังชอบเป็นจุดเด่น จุดสนใจด้วย สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีส้ม แดง และทอง / เลข 3 / อักษร K,U / สวนสัตว์ / นาฬิกาแบบหน้าปัดตัวเลข / ดอกกุหลาบแห้ง / ถุงเท้าลายขวางและเสื้อแจ็คเก็ต
ลูกพลัม และส้มทุกชนิด จะทำให้คุณสามารถก้าวเดินไปสู่หนทางแห่งความสุขได้


• ราศีกันย์ (24 สิงหาคม - 23 กันยายน)
ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีกันย์อยู่คือ ดาวพุธเช่นเดียวกับราศีเมถุน โดยมีเทพเมอร์คิวรี่เป็นเทพเจ้าประจำราศี รวมทั้งนิสัยพื้นฐานของราศีนี้ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีมารยาทที่งาม สุภาพ เอาจริงเอาจัง พูดเก่ง และเขียนหนังสือได้สวย
สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีครีม สีเนื้อ และสีน้ำเงิน หรือฟ้า / เลข 0 / อักษร A ,S / ชั้นใต้ดิน / สายสร้อยห้อยจี้ไม้กางเขน / เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ และดินสอสีม่วง อาหารที่ดีต่อร่างกายคุณคือพวกมะนาว เลมอน


• ราศีตุลย์ (24 กันยายน - 23 ตุลาคม)
ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีตุลย์นี้เช่นเดียวกับราศีพฤษภ คือ ดาวพุธ เทพวีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาประจำดาวพุธนี้ได้มีอิทธิพลในด้านความงามและความรักต่อชาวตุลย์ ทำให้ชาวตุลย์เกลียดสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม และยังมีจิตใจเที่ยงธรรม รักษาสมดุลของสิ่งของต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า เขียว และเหลือง / เลข 6 / อักษร F , O / ระเบียง / เข็มกลัดรูปดอกไม้ / กลิ่นวานิลลา และมินิสเกิร์ตเข้ารูป สตรอเบอร์รี่จะเป็นผลไม้ที่นำโชคดีมาให้


• ราศีพิจิก (24 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน)
ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีนี้อยู่คือ ดาวพลูโต มีเทพพลูโตเทพแห่งความลี้ลับ และซ่อนเร้นคอยพิทักษ์อยู่ คุณจึงได้รับอิทธิพลเหล่านี้ทำให้เป็นคนพูดน้อยไม่แดงตัวมักเก็บความเร่าร้อนไว้ภายใน แต่มีเสน่ห์ดึงดูดอันเร้นลับน่าพิศวง สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีเทา และดำ / เลข 5 / ตัวอักษร E , W / ห้องสมุด / ที่คาดผม / กระโปรงพลีท และตะปูที่เป็นสนิม
อาหารที่เหมาะสำหรับสุขภาพของคุณคือ ไข่เจียว


• ราศีธนู (23 พฤศจิกายน - 22 ธันวาคม)
ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีของคุณอยู่คือ ดาวพฤหัส โดยมีจูปิเตอร์เป็นเทพคอยพิทักษ์อยู่ เทพจูปิเตอร์เป็นเทพแห่งความรอบรู้และพรสวรรค์ทั้งมวล คุณจึงได้รับอิทธิพลให้เป็นคนรักอิสระ ทำอะไรตามใจชอบและมีความสามารถรอบตัวทีเดียว สิ่งนำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีม่วง แดง และส้ม / เลข 1 / อักษร J , S / กุ้งชุบแป้งทอด / สวนสาธารณะขนาดใหญ่ / แว่นกันแดด และเสื้อไหมพรม แตงกวา จะเป็นอาหารที่ช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่


• ราศีมังกร (23 ธันวาคม - 20 มกราคม)
ดาวที่คอยปกปักรักษาราศีมังกรอยู่ก็คือดาวเสาร์ ส่วนเทพผู้คอยพิทักษ์ดูแลคือเทพแห่งกาลเวลา เทพคลอนุส คุณจึงได้รับอิทธิพล ทำให้เป็นคนที่เที่ยงตรงไม่หักโหม มีเหตุมีผล และใช้ชีวิตอย่างถูกต้องคุ้มค่า สิ่งที่นำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีดำ เทา น้ำตาลหม่น / เลข 2 / อักษร K , T / สร้อยคอจี้รูปดาว / ต่างหูมุก / ตุ๊กตาหุ่นยนต์ / ริมทะเล และกางเกงตัวหลวมพอง ถ้าคุณอยากมีความสุข ขอให้รับประทานหัวหอมเป็นประจำ


• ราศีกุมภ์ (21 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์)
คุณมีดาวยูเรนัสเป็นดาวที่คอยปกปักรักษาอยู่ และมีเทพยูเรนัสเทพเจ้าแห่งความรอบรู้เป็นเทพผู้คอยพิทักษ์ คุณจึงได้รับอิทธิพลดังกล่าวนี้ ทำให้เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชนิดที่ไม่มีใครจะคาดคิดได้ถึง และเป็นผู้มีความคิดแปลกๆ ใหม่ๆ ล้ำหน้าอยู่เสมอ สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีฟ้า เขียว และเหลือง / เลข 5 / อักษร E , W / เป้ที่เป็นทรงกระเป๋าเอกสาร / แหวนอัญมณี และกระโปรงยีนส์อาหารนำโชคคือ สลัดผัก


• ราศีมีน (20 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม)
ดาวที่คอยปกป้องดูแลราศีมีนคือ ดาวเนปจูน มีเทพผู้พิทักษ์ซึ่งมีอิทพลทำให้ชาวมีนเป็นผู้ที่เร้นลับ ในขณะเดียวกันก็ทรงพลังอำนาจ ไวต่อความรู้สึกและรับรู้กระแสจิตวิญญาณได้ดี สิ่งที่นำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีน้ำเงิน ขาวและสีอ่อนๆ / เลข 6 / อักษร F , O / น้ำผลไม้สด / สวนดอกไม้ / โบว์ หรือริบบิ้น / ภาพถ่ายของบรรพบุรุษ / หมอนเป็นสีๆ และเสื้อกันหนาวลายดอกไม้ องุ่น จะทำให้สุขภาพของคุณดีอยู่เสมอ








 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 12 มกราคม 2553 14:32:52 น.
Counter : 295 Pageviews.  

1  2  

Look at all
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




@@...เริ่มเขียนบล๊อคเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2551..@@

♥ ขอบคุณโค๊ดและตุ๊กตาน่ารักๆแต่งบล๊อค จากคุณKungGuenter คุณรักษ์บ้านเกิด และคุณHawaii_Havaii ค่ะ♥
Friends' blogs
[Add Look at all's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.