Market Wizard
Author Jack D. Schwager หนังสือเล่มนี้ผมขอรีวิวสั้นๆนะครับ "นักลงทุน เทรดเดอร์ และนักเก็งกำไรทุกคนต้องอ่าน " แค่นี้จริงๆครับ
Create Date : 20 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 15:07:39 น.
Counter : 1158 Pageviews.
สู่โสดาบันก่อนตาย
ผู้แต่ง ภิกขุโย ผมซื้อหนังสือเล่มนี้มาเป็นปีแล้ว จำได้ว่าไปเปิดๆอ่านมาหลายรอบ จนในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่อ่านง่าย มีรูปภาพให้ดูสำหรับคนที่เบื่อหนังสือที่มีแต่ตัวอักษร และแล้วหนังสือเล่มนี้ก็ได้มาประดับตู้หนังสือเป็นปี เนื่องจากหลังๆเริ่มขี้เกียจ บวกกับอ่านแต่เรื่องอื่นๆ จนมาไม่นานนี้เอามาวางข้างเตียง นัยว่าเป็นหนังสืออ่านก่อนนอน เพราะอ่านง่าย แต่ละบทไม่ยาวมาก หลังจากวันแรกอ่านไปสองบท ก็ตั้งใว่จะอ่านวันละสองบทไปจนจบ(ตอนนี้เริ่มเล่มสองแล้ว) เพราะความยาวอยู่ในขนาดอ่านก่อนนอนได้ และเนื้อหาก็ไม่ได้หนักมาก กำลังพอเหมาะกับการอ่านก่อนนอนแต่สิ่งที่มากๆก็คือ อรรถประโยชน์และสาระที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ต่างหาก ในหนังสือได้แนะแนวทางในการปฏิบัติอย่างง่ายๆ อธิบายเรื่องที่ลึกซึ้งให้ย่อยได้ไม่ยาก เริ่มจากการรู้ตัวในอิริยาบทต่างๆ การฝึกสมาธิ การลดละกามราคะ เห็นเขียนอย่างนี้อย่าเพิ่งกลัวครับเพราะคำที่ใช้ วิธีในการเขียน ผมว่าวัยรุ่นอ่านก็เข้าใจ พออ่านแล้วจะรู้สึกว่าการปฏิบัติมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ปกติที่เรากลัวคือคำศัพท์หรูๆครับ กรรมฐาน เดินจงกรม(บางคนงง คืออะไรหว่า?) ขณิกสมาธิ นิวรณ์๕ กามพยาบาท เห็นไหมพอเจอแบบนี้มันเลยรู้สึกยาก พอมาเจออะไรที่อธิบายง่ายๆมันก็เลยเป็นของไม่ยากไป เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มปฏิบัติ เรียนรู้ด้วยตนเอง หลายคนที่ชอบอ้างเวลาไม่เหมาะสม สถานที่ไม่เหมาะสม ผมว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ นี่ก็กะว่าจะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ปีนี้แหละ อิอิ (ผมชอบซื้อหนังสือให้ในโอกาสพิเศษ) แนะนำมากๆครับ
Create Date : 21 กรกฎาคม 2552
Last Update : 21 กรกฎาคม 2552 3:57:40 น.
Counter : 1127 Pageviews.
Before You Quit Your Job
ผู้แต่ง Robert T. Kiyosaki, Charon L. Lechter, C.P.A. ผู้แปล อนุพงศ์ ธรณินทร์ บทเรียนทั้งสิบบท ที่จะทำให้คุณคิดและทำอย่างเจ้าของธุรกิจ บทเรียนที่ลูกจ้างควรจะรู้ ก่อนจะออกมาทำธุรกิจ!!! ผมเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ต้องบอกว่าชอบมากครับ พอดีว่าเพิ่งได้เขียนแผนธุรกิจเสร็จไปหยกๆ พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว T-T แผนธุรกิจที่ผมทำนั้น มีข้อผิดพลาดเยอะมาก และที่พลาดนั้นไม่ใช่ว่าไม่เก่งนะครับ ทีมผมนี่คนเก่งเยอะมาก แต่ผมว่าสิ่งที่เราไม่มีก็คือ การมองในมุมของการเป็นเจ้าของกิจการ ในหนังสือเล่มนี้จะเน้นหนักไปที่ทักษะในการคิดและมองอย่างเจ้าของกิจการ ซึ่งจริงๆทุกเล่มในซีรี่ย์นี้ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ แต่ในเล่มนี้ผมว่าเนื้อหาด้านนี้คอนข้างจะหนัก แถมยังมีเนื้อหาบางส่วน ที่เน้นออกไปในแนวปรัชญาหรือในเรื่องของจิตใจซะเยอะ ถ้าคนที่ไม่เคยอ่านมาก่อน หรือเรียนมาตามตำรามาตรฐานในมหาวิทยาลัย มาเจอเล่มนี้เป็นเล่มแรกอาจธาตุไฟแตกซ่านได้ง่ายๆ หรือไม่ก็คงวางเมื่ออ่านไปไม่ถึงครึ่งเล่ม แต่ถ้าอยากทำธุรกิจจริงๆ ผมว่าเล่มนี้เป็นเล่มที่เหมาะกว่าเล่มอื่นใดในซีรี่ย์Richdadเลยครับ สามเหลี่ยมB-Iที่เป็นองค์ประกอบของธุรกิจ เป็นสิ่งที่เราต้องจัดการให้ได้ คิดว่าเหมาะจะเป็นเล่มเปิดสำหรับคนอยากทำธุรกิจ ก่อนไปหาHow-toเล่มอื่นๆอ่านครับ ในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงหนังสือชื่อ Good to Greatมากพอสมควร ซึ่งบังเอิญว่าเป็นคิวที่ผมอ่านก่อนเล่มนี้พอดี ยังไงถ้าอ่านเล่มนี้จบก็แนะนำGood to Greatอีกเล่มนะครับ จะได้มองเห็นภาพว่าการสร้างธุรกิจ ไปสู่การเป็นธุรกิจขนาดใหญ่นั้นอะไรบ้างที่เป็นพื้นฐานและสิ่งสำคัญ
Create Date : 15 มิถุนายน 2552
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 23:05:02 น.
Counter : 713 Pageviews.
เก็ง ให้ได้กำไร
แต่งโดย ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ ช่วงนี้ไปไหนมาไหนมีแต่คนถามเรื่องการศึกษาเรื่องหุ้น ไอ้เราก็เด็กเทคนิคเต็มตัวซะด้วย พอมีคนถามก็บอกหนังสือพื้นฐานตามสมัยนิยม แล้วแย็บตามว่า"ไม่สนเทคนิคบ้างหรอ" ก็มีหลายคนนะที่สนใจการเทรดแบบเทคนิค ก็เลยว่าเล่มต่อไปเป็นหนังสือแนวนี้ดีกว่า ก็คิดอยู่ว่าจะเอาเล่มไหนมาลง มองไปมองมาเอาเล่มนี้ดีละกัน เล่มนี้แต่งโดยคุณณัฐวัฒน์ ซึ่งเป็นmarketing แต่ผมได้อ่านแล้วก็ชอบนะ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานมาแล้วมากกว่า เพราะเน้นไปที่การสังเกตหุ้นที่กำลังฟอร์มตัว ผมเองคิดว่าเป็นเล่มที่เหมาะมากสำหรับคนที่ดูเทคนิคพอได้แล้ว และกำลังมองหาวิธีการหาหุ้นที่กำลังจะขึ้น วิธีการเขียนผมว่า อ่านไม่ยากนะ มีกราฟให้ทำความเข้าใจเต็มพรืดไปหมด (อย่าบอกนะว่ากลัวกราฟ แล้วจะมาเทรดตามเทคนิค) มีสอนการดูแนวโน้มบ้างตามสมควร แต่ที่ผมชอบ คือ ไม่มีสอนการคำนวณindicatorแบบหนังสือภาษาไทยทั่วๆไป เพราะผมว่าเอาเข้าจริงไม่ค่อยมีใครไปนั่งคำนวณหรอก ดูเอาจากที่โปรแกรมคำนวณให้มากกว่า คือรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ไม่ต้องไปจาะลึกขนาดน้าน ผมว่าหลักๆของหนังสือเล่มนี้ที่โดน เพราะสอนการ"เปิดตัว"ของหุ้นที่มีแนวโน้มว่าจะวิ่งแบบกระทิงขวิด ซึ่งถามว่ามีโอกาสพลาดไหม "มี" แต่ผมมองว่าRisk/Rewardมันน่าเสี่ยงดี อีกอย่างที่คนทั่วไปน่าจะชอบ เพราะหนังสือเล่มนี้สอนการเทรดแบบระยะสั้นด้วยนี่สิ เทรดเดอร์เมืองไทยหลายๆคนน่าจะชอบนะ เสียอย่างเดียว หนังสือเล่มนี้หายากมาก รู้สึกผมจะเคยเจอแต่ที่B2Sนะ ร้านอื่นๆไม่ค่อยแน่ใจ แต่ที่แน่ๆห้องสมุดมารวยไม่มีT-Tเศร้าไป ยังไงก้แนะนำครับสำหรับคนที่สนใจด้านเทคนิค ถึงจะไม่ใช่หนังสือที่"ห้ามพลาด" แต่ก็เป็นหนังสือที่เนื้อหาเบาๆสำหรับนักเทคนิคอย่างเราๆครับ สุดท้าย ในหนังสือบอกว่าจะมีอีกสองเล่มตามมา ก็ยังไม่เห็นออกมาสักที ผมรออยู่นะค้าบบบบ สุดท้าย มานั่งอ่านที่เขียนไป ทำไมเราใช้คำว่า"แต่งโดย" ล่ะนี่ โคตรโบราณเลย อิอิ
Create Date : 16 กันยายน 2551
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 23:05:35 น.
Counter : 736 Pageviews.
Trading For a Living
Author Dr. Alexander Elder ไม่น่าเชื่อว่ามีคนสนใจการเทรดทางเทคนิคด้วยแฮะ ตอนแรกบอกไปว่าจะเอาหนังสือเทคนิคภาษาไทยมาลงให้ แต่คิดไปคิดมา เอาเล่มนี้มาลงเลยดีกว่า เพราะเท่าที่ผ่านมา(น้อยเล่ม) คิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นพื้นฐานที่ควรจะอ่านมากที่สุด หนังสือภาษาไทยส่วนใหญ่เน้นไปที่เทคนิคการเทรด หรือการคำนวณหาค่าอินดิเคเตอร์มากไป แต่เล่มนี้มีบอกตั้งแต่พื้นฐานยันขั้นเทรดเลย เหมาะกับทั้งมือใหม่หัดเทรด และมือเก่าเก๋ากึ้กรื้อความรู้ครับ เล่มนี้เป็นเล่มแรกในหนังสือไตรภาคของDr.Elder (จริงๆมีสี่เล่ม แต่อีกเล่มนึงเกี่ยวกับการท่องป่า) คือ Trading For a Living, Come Into My Trading Room, Entries And Exits ซึ่งในเล่มแรก(คือเล่มนี้แหละ)จะพูดถึง พื้นฐาน ที่มา และแนวคิดในการเทรดของDr.Elder ส่วนในเล่มที่สองจะเป็นการขยายแนวคิดและการนำแนวคิดไปสู่กระบวนการเทรด ในเล่มที่สามนั้นเป็นการสัมภาษณ์นักลงทุนจากที่ต่างๆ16คน ซึ่งถ้าอ่านครบไตรภาคแล้ว(ยังกับเดอะลอร์ดเลย:) ) ก็น่าจะพัฒนาการเทรดไปได้เยอะเลยครับ สำหรับเล่มนี้ก็จะแบ่งออกเป็นสามส่วนที่สำคัญๆในการเทรด(ที่หนังสือไทยยังไม่เคยมีใครพูดถึง) คือ Mind, Method, Money Management ส่วนแรก Mind หรือสภาพจิตใจ แนวคิดของผู้เทรด Elderเน้นว่าการเทรดนั้นสำคัญที่จิตใจ เราต้องไม่หวั่นไหวไปตามราคา แต่ต้องยึดมั่นในแผนที่เราวางเอาไว้ และที่สำคัญที่สุด "ต้องStop"ทันที ที่ราคาหลุดแนวสำคัญที่เราตั้งไว้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่ขาดทุนเพราะไม่ยอมStop Lossนั่นเอง ในหนังสือElderยกตัวอย่างของกลุ่มผู้ติดสุรา ว่ามีความคล้ายคึงกับผู้ที่ขาดทุนจากการเทรด อยากรู้ว่าเหมือนอย่างไร มีวิธีแก้ไหมหาได้ในหนังสือครับ อิอิMethod วิธี หรือแผนในการเทรดซึ่งในหนังสือจะมีบอกรายละเอียดของอินดิเคเตอร์ต่างๆ ว่าคำนวณอย่างไร และจะใช้ได้อย่างไร การวางแผนเทรดกับอินดิเคเตอร์ต่างๆ รวมทั้งมีแผนการเทรดเป็นตัวอย่าง2-3ระบบ Money Management หรือการบริหารเงินในการรับความเสี่ยง การที่เรามีระบบการเทรดที่ดี แต่ถ้าบริหารเงินไม่เป็นเราอาจจะเจ๊งก็ได้ เช่น ลงทุนได้กำไรครั้งละ10-20% แล้วเอากำไรที่ได้มาทบกับทุนเก่าแล้วเทรดไปเื่รื่อยๆ พอขาดทุนครั้งหนึ่ง กำไรที่ได้มาก็หายวับ!!! นั่นคือที่มาของการกำหนดจำนวนเงินที่จะเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน2%ของเงินลงทุน และถ้าขาดทุนเกิน6%ของเงินลงทุนให้หยุดเทรดในเดือนนั้นๆ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบหนังสือของElderมากๆเลยครับ อาจเนื่องมาจากเค้าเป็นหมอชาวรัสเซียที่อพยพ(จริงๆแล้วหนี)ไปอยู่ที่อเมริกา ทำให้การเขียนหนังสือใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย ใช้ศัพท์พื้นๆ และเค้าโครงการเขียนแบบลำดับความที่ไม่ซับซ้อน(สมกับที่ว่า เรื่องเงิน เรื่องง่ายๆจริงๆ) ไม่เหมือนหนังสือที่คนอเมริกาเขียน เค้กะเขียนเอารางวัลด้านภาษาเลยมั้งครับ อ่านแล้วนึกว่าวรรณกรรม:) ยังไงคนที่อยากเทรดทางด้านเทคนิคผมแนะนำเล่มนี้เป็นเล่มพื้นฐานครับ ถ้าภาษาพอไปไหว และถ้าจะให้ดีแนะนำให้อ่านทั้งสามเล่มเลย ส่วนใครที่ภาษาไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวันหลังจะมาแนะนำเล่มภาษาไทยใหครับ โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
Create Date : 15 กันยายน 2551
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 23:06:03 น.
Counter : 1684 Pageviews.
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [? ]
ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ