In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
ทางลัด

ตอนนี้กระแสอยากรวยเป็นกระแสที่มาแรงมากๆ

จะเห็นได้จากชั้นวางหนังสือหมวดธุรกิจตามร้านหนังสือในเวลานี้จะมีหนังสือที่มีคำว่า "รวย" อยู่ในชื่อเล่มเกินกว่าครึ่งค่อนของทั้งหมดไปแล้ว

วิธีรวยในโลกนี้นั้นมีอยู่มากมายหลายวิธี แต่ไม่รู้ว่าคุณสังเกตเห็นเหมือนผมหรือเปล่าว่า วิธีรวยที่จะได้รับความนิยมในเวลานี้ทุกวิธีจะต้องมีลักษณะร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ต้องเป็นวิธีที่ไม่ต้องออกแรงมาก ต้องไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก และถ้าเป็นวิธีที่รวยเร็วๆ แบบชั่วข้ามคืนได้ด้วยจะยิ่งได้รับการตอบรับดี

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ต้องเป็นวิธี "รวยทางลัด"

เป็นต้นว่า แทนที่จะออกแรงเอง คุณควรหาคนอื่นมาทำงานแทนคุณให้ได้จำนวนมากๆ แล้วรอกินเปอร์เซ็นต์จากคนที่ทำงานแทนคุณดีกว่า งานของคุณคือการใช้วาทศิลป์ในการชักชวนคนอื่นให้มาทำงานให้คุณเท่านั้น เรียกว่าลงทุนแต่น้ำลายอย่างเดียวก็พอ

อีกแนวหนึ่งก็บอกให้คุณลาออกจากงานมานั่งซื้อขายหุ้นทั้งวัน ทำเงินจากการขึ้นของถูกมาขายที่แพงกว่าไปเรื่อยๆ แบบนี้เป็นงานสบายเพราะแค่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์กดปุ่มซื้อและขายอย่างเดียว จะไปนั่งที่ร้านกาแฟชิวๆ ทั้งวันจิบกาแฟไปด้วย เทรดหุ้นไปด้วยก็ยังได้ แม้แต่น้ำลายก็ยังไม่เปลือง

พักหลังๆ เริ่มได้ยินแนวใหม่ที่มาเกทับแนวเก่าที่เริ่มบอกว่า ให้ใช้วิธีสั่งจิตให้รวยเอาดีกว่า อันนี้ทางลัดสุดๆ เพราะแค่นั่งคิดอย่างเดียวก็รวยได้แล้ว ไม่ต้องใช้น้ำลายสักหยด หรือจ่ายเงินค่ากาแฟให้เป็นต้นทุนเลยด้วย

การที่แนวคิดแบบนี้ได้รับการตอบรับดีในปัจจุบันอาจเป็นเพราะพวกตอบโจทย์ Gen Y ซึ่งเป็นคนรุ่นที่มีอุปนิสัยมองโลกในแง่ดี แต่ไม่ชอบการรอคอย และอดทนกับอะไรนานๆ ไม่ค่อยได้

แต่โดยส่วนตัว ผมยอมรับว่าเป็นคนค่อนข้างลังเลสงสัยเวลาได้ยินวิธีการรวยทางลัดเหล่านี้ เพราะถ้ามันทำได้ง่ายเกินไป ย่อมไม่ทำให้เรามีข้อได้เปรียบคนอื่น แล้วทำไมเราต้องประสบความสำเร็จด้วย

บางทีแนวคิดเหล่านี้อาจจะใช้ได้ผลจริงๆ ในช่วงที่คนแรกๆ ที่มีคนคิดวิธีการเหล่านี้ขึ้นมาได้ แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ วิธีการไหนที่มีคนประสบความสำเร็จก็จะเริ่มเป็นที่รับรู้กันในวงกว้าง แต่ถ้าวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายเกินไป ไม่ช้าไม่นาน มันก็จะกลายเป็นความรู้ทั่วไปที่คนทั่วไปคิดทันกันและทำกันได้หมด พอทุกคนคิดจะรวยทางลัดเหมือนกัน การแข่งขันที่รุนแรงจะทำให้โอกาสที่เคยมีอยู่นั้นหายไป

แทนที่เราจะมุ่งหาแต่วิธีการที่ช่วยให้เราไม่ต้องออกแรงอะไรเลยแต่ใครๆ ก็ทำได้ ทำไมเราไม่มุ่งหาวิธีการที่มีความยุ่งยากอะไรบางอย่างอยู่ แต่เป็นความยุ่งยากที่ตัวเราสามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าคนทั่วไปได้ ยิ่งต้องอาศัยความอดทนในการรอคอยด้วยก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะความยุ่งยากเท่านั้นที่จะเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยให้คนคนหนึ่งได้เปรียบคนอื่น และถ้ายิ่งจะต้องใช้เวลานานๆ ก็ยิ่งทำให้มีคนอยากแข่งกับเราน้อยลงไปอีก ตามความเห็นของผมนั้น คนเราไม่ควรมองหาวิธีการที่สบายที่สุด แต่เราควรเลือกวิธีที่ทำให้ตัวเรามีโอกาสสร้างข้อได้เปรียบให้ตัวเราได้มากที่สุดมากกว่า

ในหนังสือชื่อ Outliers ของ Malcolm Gladwell ได้เสนอแนวคิดว่า ถ้าเราศึกษาเส้นทางชีวิตของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับที่โดดเด่นหลายคน (หรือที่เรียกว่าพวก Outliers) เราจะพบว่า เบื้องหลังความสำเร็จคือการที่พวกเขาเหล่านั้นล้วนผ่านช่วงเวลาของการฝึกฝนทำซ้ำๆ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จนั้นอย่างน้อย 10,000 ชั่วโมงมาแล้วทั้งนั้น

ถ้าเรามอง the Beatles แบบผิวเผิน เราจะรู้สึกว่า พวกเขาคงจะเก่งเพราะมีพรสวรรค์ในการแต่งเพลงที่พระเจ้าให้พวกเขามาเลย แต่สิ่งที่พวกเราไม่ค่อยรู้กันก็คือว่า ก่อนที่ the Beatles จะโด่งดังนั้น พวกเขาต้องผ่านช่วงชีวิตของการเป็นนักดนตรีในร้านอาหารที่เมืองฮัมเบิร์กโดยต้องแสดงสดวันละ 4 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่นับเวลาที่ต้องซ้อมด้วย รวมแล้วมากกว่า 10,000 ชั่วโมงมาก่อน หรือ Bill Gates เองก็เคยผ่านช่วงเวลาที่หมกมุ่นอยู่กับการเขียนโปรแกรมตอนอยู่มัธยมและเข้ามหาวิทยาลัยรวมแล้วมากกว่า 10,000 ชั่วโมงด้วย ไม่ได้ประสบความสำเร็จทันทีเพราะว่าโชคดีที่ได้รับการเลือกจากไอบีเอ็มให้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการให้เครื่องพีซี

แทนที่เราจะเน้นเลือกวิธีที่เป็นทางลัด จะเป็นการดีกว่าหรือไม่ที่เราจะมุ่งพัฒนาตนเองให้มีข้อได้เปรียบไม่ว่าด้านไหนก็ตามที่เรารักหรือพบว่าเป็นสิ่งที่เราถนัด และเมื่อวันที่โอกาสนั้นมาถึง โอกาสนั้นก็จะได้เป็นของเรา เพราะว่าเรามีอะไรบางอย่างที่ทำได้ดีกว่าคนอื่น

 

นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์




Create Date : 29 มีนาคม 2556
Last Update : 29 มีนาคม 2556 14:19:09 น. 0 comments
Counter : 689 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.