In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

ปีนี้เป็นปีที่เศรษฐกิจตกต่ำและผันผวนมาก ทำให้ต้องเขียนแต่เรื่อง "หนักๆ" เกี่ยวกับเศรษฐกิจมาตลอดทั้งปี ผมจึงขอเปลี่ยนแนวมาสรุปบทความจากนิตยสาร Fortune เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจมีชื่อบทความว่า "What it takes to be great"

ทำไม Tiger Woods จึงเป็นนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ของโลก ทำไม Warren Buffet จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นนักลงทุนมือหนึ่ง คำตอบที่ได้ยินบ่อยๆ คือ "พรสวรรค์" Warren Buffet เองก็เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ว่า เขา "เกิดมาเพื่อจัดสรรทุน" ทำให้เชื่อกันว่าคนที่เป็นได้อย่าง Warren Buffet หรือ Tiger Woods นั้น เสมือนกับถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่หนึ่ง คือ มีโอกาสหนึ่งในล้าน หรือเป็นคนมีโชคนั่นเอง

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ความยิ่งใหญ่และผู้ที่มีพรสวรรค์พบว่า ข้อสรุปดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นความจริง มนุษย์เราไม่ได้มี "พรสวรรค์" ในด้านใดด้านหนึ่ง กล่าวคือ มนุษย์มิได้เกิดมาพร้อมกับความสามารถเฉพาะเจาะจงที่จะเป็นนักเล่นกอล์ฟมืออาชีพ นักลงทุน หรือนักเล่นหมากรุกระดับแชมเปียน การจะได้มาซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้น เกิดขึ้นจากการฝึกฝนและทำงานอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายปี "พรสวรรค์" จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผลวิจัยเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญ และความสำเร็จในหลายแขนงให้คำตอบคล้ายคลึงกัน คือ ความ "พิเศษ" หรือ "พรสวรรค์" ของผู้ที่โดดเด่นในสาขาใดสาขาหนึ่งมิได้เป็นผลมาจากความฉลาด ความมุ่งมั่นหรืออุปนิสัยเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด บุคคลที่มีความสามารถเหนือผู้อื่นในการทำกิจกรรมบางอย่างได้ดีเป็นพิเศษ เป็นผลมาจากการฝึกฝนตนเองอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าในทุกแขนงวิชาชีพ คนส่วนใหญ่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในตอนแรก และจะใช้เวลามากขึ้นในการจะเพิ่มพูนความสามารถไปอีกระดับ และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะไม่สามารถพัฒนาความสามารถต่อไปได้ แม้จะยังทำกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องก็ตาม

คำถาม คือ ทำไมคนบางคน (น้อยคน) จึงสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ แต่คนส่วนใหญ่จะหยุดการพัฒนา งานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ปี 1993 ที่วิเคราะห์พัฒนาการของนักกีฬา นักดนตรีและผู้เล่นหมากรุก ตลอดจนนักธุรกิจในแขนงต่างๆ นำมาสู่ข้อสรุปสำคัญๆ คือ ความยิ่งใหญ่จะไม่เกิดขึ้น หากมิได้ทำงานอย่างหนักหน่วง กล่าวคือ ไม่มีใครที่มี "พรสวรรค์" ตั้งแต่วันแรก และได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่อย่างง่ายดายโดยแทบจะไม่ต้องทำอะไร ความสามารถที่โดดเด่นจะต้องเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่ยาวนาน และการฝึกซ้อมอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี โดยเวลา 10 ปีนี้ใช้เป็นมาตรฐานได้กับทุกกิจกรรม หรือเรียกว่า "กฎ 10 ปี" (10 year rule) ของการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่ Bobby Fisher ซึ่งเป็นแชมเปียนหมากรุกตอนอายุ 16 ปี ก็เริ่มฝึกเล่นหมากรุกตั้งแต่อายุ 7 ปี ข้อสรุปของผู้เชี่ยวชาญ คือ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 10 ปี จึงจะโดนเด่นขึ้นมาเหนือผู้อื่น แต่อาจต้องใช้เวลาอีก 10-20 ปี จึงจะพัฒนาความสามารถได้ถึงขีดสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านดนตรีและวรรณกรรม

แต่การฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ กล่าวคือ จะต้องเป็นการฝึกฝนที่เฉพาะเจาะจงด้วย (deliberate practice) เพื่อให้ได้มาซึ่งพัฒนาการของฝีมือและความสามารถไปอีกระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การฝึกตีกอล์ฟด้วยไม้เหล็กเบอร์ 8 เป็นจำนวน 300 ครั้ง โดยมีเป้าหมายว่า 240 ลูก (80%) จะต้องตกลงไม่ไกลจากเป้าหมายเกิน 5 เมตร จึงจะถือว่าเป็นการฝึกฝนที่เฉพาะเจาะจง และเพื่อพัฒนาไปสู่ระดับแชมเปียน จะต้องกำหนดด้วยว่าจะฝึกซ้อมวันละกี่ชั่วโมงและกี่สัปดาห์ จึงจะพัฒนาความสามารถในด้านอื่นต่อไป

ดังนั้น นักวิจัยจึงพบว่าไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นักกีฬาหรือนักดนตรี ก็จะมีตารางการฝึกฝนที่คล้ายกันในการกำหนดชั่วโมง และเวลาในการฝึกฝน โดยผู้ที่ฝึกฝนมากก็จะได้รับความสำเร็จมาก อาทิเช่น ในกรณีของนักเล่นไวโอลินพบว่า กลุ่มที่มีความสามารถสูงสุด จะใช้เวลาฝึกฝนเฉลี่ย 10,000 ชั่วโมงตลอดชีวิตการเล่นไวโอลิน กลุ่มที่มีความสามารถลดลงมาหนึ่งขั้นใช้เวลาเฉลี่ย 7,500 ชั่วโมง กลุ่มที่ต่ำลงมาอีกขั้นหนึ่งจะใช้เวลา 5,000 ชั่วโมง เป็นต้น ทั้งนี้ การวิจัยในแขนงอาชีพอื่นๆ ก็ได้ผลสรุปในลักษณะเดียวกัน คือ การฝึกซ้อมอย่างเฉพาะเจาะจง มีระบบและต่อเนื่อง

บางคนอาจแย้งว่า บ่อยครั้งที่คนสองคนร่ำเรียนและฝึกฝนมาเหมือนกันทุกประการ แต่คนหนึ่งเก่งกว่าอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันว่าความได้เปรียบของคนบางคนนั้นมีอยู่มากน้อยเพียงใด แต่จะเป็นการถกเถียงในทำนองปลีกย่อย ไม่ได้นำไปสู่การถกเถียงเกี่ยวกับความสำคัญของการฝึกฝน บางคนอาจแย้งว่ามีหลายกรณีที่พบว่าเด็กอายุน้อยมีพรสวรรค์ ซึ่งนักวิชาการก็จะตอบว่าหากศึกษารายละเอียดของกรณีดังกล่าว ก็มักจะพบว่าเด็กมิได้มีความสามารถพิเศษแต่อย่างใด (เว้นแต่อาจมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์) แต่มักพบว่าสาเหตุหลักมาจากผู้ปกครองที่ให้ความสนใจกับเด็กและหมั่นกระตุ้นให้ลูกเรียนรู้ตั้งแต่อายุยังน้อย

บิดาของ Tiger Woods เริ่มสอนลูกให้เล่นกอล์ฟตั้งแต่อายุเพียง 18 เดือน และที่สำคัญ คือ ชี้นำให้ลูกฝึกซ้อมอย่างหนัก ทำให้ Tiger Woods ได้ US Amateur Champion ตอนอายุ 18 ปี เพราะได้เริ่มเล่นและฝึกฝนมาแล้ว 15 ปีก่อนหน้า ที่สำคัญ คือ Tiger Woods ก็ยังพยายามพัฒนาความสามารถของตนอย่างต่อเนื่อง โดยการฝึกซ้อมวันละหลายชั่วโมง

คำถามต่อมา คือ ในการทำธุรกิจนั้นเราจะฝึกซ้อมได้อย่างไร คำตอบคือบางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจนั้นสามารถฝึกฝนได้ อาทิเช่น การกล่าวสุนทรพจน์ การเจรจาธุรกิจ การประเมินผล การวิเคราะห์ ฯลฯ แต่กิจกรรมดังกล่าวอาจไม่ใช่การนำไปสู่ความโดดเด่นด้านการบริหารธุรกิจ ซึ่งต้องอาศัยความสามารถในการตัดสินใจภายใต้สภาวะที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน ภายใต้แรงกดดันและสภาวการณ์ที่มีความไม่แน่นอน เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากแต่เรายังมีแนวทางที่จะพัฒนาความสามารถดังกล่าวได้ อาทิเช่น แทนที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้นไปตามหน้าที่ ก็สามารถเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่ ว่า จะต้องทำงานให้มีคุณภาพสูง ซึ่งบังคับให้ต้องพัฒนาความสามารถของตนในการแสวงหาข้อมูล การวิเคราะห์ให้ละเอียดถี่ถ้วน และหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนการนำเสนอที่ทำให้ผู้รับฟังรู้สึกประทับใจ ความสามารถที่กล่าวมาทั้งหมด จะเป็นความสามารถพื้นฐานในการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจ รวมทั้งการนำเสนอความเห็น และโน้มน้าวให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและเพื่อนร่วมงานเห็นคล้อยตาม และให้ความร่วมมือประสานงานอย่างเต็มที่ เป็นต้น

การวิจัยพบว่าผู้ที่ตั้งใจทำงานและพยายามทำความเข้าใจกับงานอย่างลึกซึ้ง จะสามารถวิเคราะห์ จดจำข้อมูลและงานที่ตนรับผิดชอบได้แม่นยำและยาวนานกว่า คนกลุ่มนี้จะเปลี่ยนทัศนคติของตนจากการทำงานตามความรับผิดชอบเป็นตั้งใจทำงานให้ได้ผลงานที่ดียิ่งขึ้น

นักกีฬาหรือนักดนตรีนั้นสามารถวัดผลงานของตนได้ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากนักธุรกิจที่ผลงานมักจะเห็นไม่ได้ชัดเจนในระยะสั้น ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาข้อคิดเห็น อย่างเป็นระบบ มิฉะนั้น ก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นการเพิ่มความสามารถของตนหรือไม่เพียงใด ซึ่งจะทำให้ความกระตือรือร้นจางหายไปในที่สุด แต่สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นสำหรับคนส่วนใหญ่ คือ จะรู้สึกตัวว่าได้ทำงานหนักมากไปแล้ว จึงไม่รู้สึกว่าจะต้องบังคับตัวเองให้ทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม จะมีคนน้อยคนที่มีความมุ่งมั่นเกินกว่าปกติ ซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องยกนิ้วให้ และสรุปเอาว่าเขาจะต้องมีความสามารถพิเศษที่คนส่วนใหญ่ไม่มี

By supavut
//newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=7745&user=supavut


Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 0:38:06 น. 4 comments
Counter : 558 Pageviews.

 
คิดว่า ทั้ง พรแสวง และ พรสวรรค์ คะ


โดย: sophisti_fated วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:54:33 น.  

 
แลกเปลี่ยนการลงทุนด้วยกันที่ @ThaiValueInvest


โดย: @ThaiValueInvest IP: 58.10.198.62 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:32:09 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบทความที่มีประโยชน์เช่นนี้


โดย: momnic IP: 125.26.154.150 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:15:59:41 น.  

 
ขอบคุณครับอ่านแล้วเห็นแนวทางปฏิบัติเลยครับ


โดย: พงษ์ IP: 180.183.54.218 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:0:05:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.