In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
ทำยังไงดีถ้าซื้อแอลทีเอฟเกิน

บลจ.บัวหลวง ตอบคำถามของคุณอรรณพ กับการซื้อแอลทีเอฟเกิน ว่าทำอย่างไรดีกับส่วนที่เกิน

ข้อมูลคุณอรรณพ
ผมมีรายได้รายปีประมาณ 5 แสนบาท ปีนี้อาจจะมีรายได้พิเศษเข้ามาอีก 2 แสนบาท เท่ากับว่าปีนี้ผมซื้อกองทุนแอลทีเอฟได้ 105,000 บาท ถ้าผมซื้อช่วงหุ้นตกๆ ตอนนี้เลย แต่ปรากฏว่า รายได้ที่คาดว่าจะเข้ามา 2 แสนกลับไม่ถึง แต่เป็น 1.5 แสนบาท แบบนี้ผมต้องทำยังไงกับส่วนที่เกินครับ

ความเห็น บลจ.บัวหลวง
เงื่อนไขของการลงทุนในกองทุน LTF ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ก็คือไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุด 500,000 บาท กรณีคุณอรรณพ มีรายได้รายปี 500,000 บาท และคาดว่าจะมีรายได้พิเศษอีก 200,000 บาท รวมเป็น 700,000 บาท ซึ่งสามารถใช้สิทธิจากเงินลงทุนใน LTF ได้ 105,000 บาทถูกต้องครับ แต่ถ้ารายได้เหลือเพียง 650,000 บาท จะมีสิทธิซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 97,500 บาท ซึ่งถ้าซื้อไปแล้ว 105,000 บาท ก็เท่ากับว่าซื้อเกิน 7,500 บาท ซึ่งกรณีซื้อเกินนั้น แยกได้ 2 กรณี คือ

1) กองทุน LTF กองนั้นไม่เคยลงทุนมาก่อนซื้อกองนี้ปีนี้เป็นปีแรก คุณอรรณพ สามารถขายคืนได้ หากต้องการ โดยกรมสรรพากรระบุว่า เงินที่ลงทุนแล้วไม่ได้ไปใช้สิทธิต้องเสียภาษีกำไรจากการขายคืนด้วย ซึ่งกำไรที่ได้จากการขายคืนนี้ (ถ้ามี) ต้องนำไปรวมเป็นเงินได้ประจำปีด้วย แต่ในความเห็นของผมจะยุ่งยากมากในการจัดสรรเงินเวลาชี้แจงกับสรรพากรว่าส่วน ใดลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีส่วนใดที่ขายออกมา จึงขอแนะนำให้คุณอรรณพลงทุน 7,500 บาทนี้ไปพร้อมกับเงินส่วนที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและรอ 5 ปีปฏิทิน หรือแค่ 3 ปีกว่าๆ ค่อยขายคืนแล้วแจ้งสรรพากรตามสัดส่วนการลงทุนที่ลดหย่อนภาษีกับไม่ลดหย่อน ภาษีจะง่ายกว่าครับ

2) กองทุน LTF กองนั้นเคยลงทุนมาแล้วในปีก่อนๆ คุณอรรณพไม่สามารถขายคืนได้จนกว่าจะครบ 5 ปีปฏิทิน เพราะ การขายคืน LTF จะยึดหลัก FIFO คือเข้าก่อนออกก่อน ถ้าสั่งขายคืนเงินลงทุนส่วนนี้ออกมาจะกลายเป็นการขายคืนเงินที่ลงทุนในปี ก่อนหน้าออกมาก่อน 5 ปีปฏิทิน ทำให้ผิดเงื่อนไขต้องคืนภาษีที่ลดหย่อนได้ เสียภาษีกำไรจากการขายคืน (ถ้ามี) และเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายนในปีถัดจากปีภาษีที่ลงทุน

จะเห็นว่าการซื้อ LTF เกินสิทธิที่ได้ จะมีรายละเอียดที่ต้องชี้แจงกรมสรรพากรมากเหลือเกิน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการลงทุนตามเงื่อนไขที่ให้ไว้คือ 15%ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทไว้ก่อน โดยค่อยๆ ทยอยซื้อตามฐานรายได้ที่ได้รับแล้วก่อน ส่วนเงินเดือนที่ยังไม่ได้รับ เงินพิเศษหรือโบนัสปลายปี ค่อยนำมาคำนวณแล้วซื้อเพิ่มให้ครบตามสิทธิทีหลังเมื่อได้รับแล้วจะดีกว่า ครับ เช่น เงินเดือนเดือนละ 50,000 บาท ได้โบนัสปลายปี 2 เดือน ถ้าจะทยอยลงทุนหรือเห็นว่าหุ้นตกๆ อยากซื้อในเดือนสิงหาคมนี้ ก็ไม่ควรซื้อเกิน เงินเดือน 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ที่ 60,000 บาท (400,000 x 15%) ก่อนและเมื่อรายได้ทยอยเข้ามาก็ค่อยซื้อไม่ให้เกิน 15% ครับ หากเกิดผิดพลาด ลาออกจากงาน หรือโบนัสไม่ได้รับก็จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องลงทุน LTF เกินสิทธิครับ

“บทความนี้ เป็นคำแนะนำตามหลักการลงทุนทั่วไป และอ้างอิงตามข้อมูลเท่าที่ได้รับเท่านั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในสัดส่วนดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และผู้ลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนการลงทุนจริง”

โดย : เสกสรร โตวิวัฒน์
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/fund/20100822/349083/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99.html


Create Date : 22 สิงหาคม 2553
Last Update : 22 สิงหาคม 2553 23:23:37 น. 0 comments
Counter : 675 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.