ไตร่ตรองก่อนลงทุนหุ้นเก็งกำไร
ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยถือว่าผันผวนพอสมควร ทำให้หุ้นที่ได้รับการขนานนามว่า หุ้นเก็งกำไร ได้รับความสนใจจาก นักลงทุนที่แสวงหาผลตอบในระยะสั้นๆ แต่นักลงทุนรู้ดีว่า ถ้าขึ้นชื่อว่าหุ้นเก็งกำไรแล้ว หากเข้าหรือออกผิดจังหวะย่อมเกิดความสูญเสียใหญ่หลวง ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักลงทุนเกือบทุกคนครั้งหนึ่งย่อมเคยสัมผัสกับหุ้น เก็งกำไร เพราะบางจังหวะต้องมองและลงทุนในหุ้นเก็งกำไรเพื่อสร้างผลตอบแทน แต่ใครก็ตามที่ชื่นชอบหุ้นประเภทนี้ ต้องรู้จักระมัดระวังและเข้าออกให้เร็ว ไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นเหยื่อ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นเก็งกำไร? คำตอบ คือ ส่วนใหญ่แล้วหุ้นเก็งกำไรจะมีมาร์เก็ตแคปที่ไม่ใหญ่มากนักอาจจะต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท และที่น่าสังเกต คือ การกระจายหุ้นยังกระจุกกับผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่ง และผู้ถือหุ้นรายนั้นค่อนข้างมีนัยสำคัญและสามารถควบคุมทิศทางบริษัทนั้นๆ
เว้ากันซื่อๆ หุ้นเก็งกำไรมักจะมี Story ในการเข้ามาขับเคลื่อนให้ราคาหุ้น หรือสามารถกำหนดราคาหุ้นได้
หากแยกประเภท หุ้นเก็งกำไรบางตัวก็มีปัจจัยพื้นฐาน ราคาหุ้นอาจจะต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เช่น อัตราส่วนราคาตลาดต่อ กำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 10 เท่า แต่หุ้นตัวนั้น P/E Ratio อยู่ระดับต่ำกว่า นักลงทุนจึงเข้ามา เก็งกำไร เพราะมองว่าราคาหุ้นยังต่ำและน่าสนใจ
ถัดมาเป็นหุ้นเก็งกำไรที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานมารองรับ เช่น ผลประกอบการขาดทุน แต่ราคาหุ้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นแบบนี้ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หากคิดจะเข้าไปลงทุนหุ้นเก็งกำไร ต้องมีวินัยว่าจุดไหนควรขาย จุดไหนควรจะ Cut Loss
ดังนั้น ใครที่เล่นหุ้นเก็งกำไรแล้ว Cut Loss ไม่เป็น จะมีความเสี่ยงมาก
ส่วนสไตล์ความเคลื่อนไหวของหุ้นเก็งกำไรมักจะเทรดดิงตามข่าว และเป็นลักษณะการใช้ข้อมูลข่าวสารเป็นตัวเก็งกำไรในราคาหุ้นเป็นหลัก มีราคาแกว่งตัวผันผวนค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่ในแต่ละวันจะแกว่งตัวเกิน 1% นอกจากนี้หุ้นเก็งกำไรมักจะมีเรื่องของปริมาณการเทรดหุ้น เป็นหุ้นที่ร้อนแรง และ Turn Over สูงเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียนหรือหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด
แสดงว่ามีการเข้าออกหลายรอบ เรียกว่าเป็นการเก็งกำไร
และอย่าลืมว่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาโดยที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ แต่มาแบบ แฟชั่น มีกระแสข่าวลือ ยกตัวอย่างเช่น มีข่าวลือว่านักลงทุนรายใหญ่เข้ามาซื้อขาย หรือรายใหญ่กำลังเข้ามาปั่น โดยหุ้นที่ เข้าข่ายว่าเป็นหุ้นเก็งกำไร อาจจะมองว่าราคาขยับขึ้นไปโดยไม่มีเหตุผลรองรับ แต่เป็นการเล่นตามข่าว
สำหรับการลงทุนในหุ้นเก็งกำไร นักวิเคราะห์หุ้นมักจะแนะนำว่าอย่าเล่นหุ้นแบบการพนัน เพราะอาจจะเสียใจภายหลังและ ถึงขั้นล้มละลายได้ ซึ่งต้องดูว่าทำไมถึงเข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้น ไม่ใช่ มีคนบอกว่าให้เข้าซื้อ แต่ให้ดูว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ในการ เข้าซื้อ
หากใครที่ชื่นชอบหุ้นเก็งกำไร ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และถ้ามีกำไรเกิน 10% ต้องระวังแรงขายทำกำไร เพราะการลงทุนในระยะสั้นจะทำกำไรได้ราวๆ 5-10% ถ้าเกินกว่านี้จะมีแรงขายทำกำไรได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่ขายออกมาอาจจะติดหุ้นแถวๆ ยอดดอย และแทบจะไม่มีโอกาสขายออกมาได้ เนื่องเพราะไม่มีปัจจัยพื้นฐานมาสนับสนุนอย่างแท้จริง สุดท้ายต้องขายทุน หรือจำใจ Cut Loss เพราะหุ้นเก็งกำไรไม่ใช่หุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว
ดังนั้น ถ้าเล่นตามข่าวก็ต้องดูว่าข่าวนั้นเป็นข่าวเก่าหรือข่าวใหม่ เพราะถ้าเป็นข่าวเก่า แถมรู้ทีหลังคนอื่น แล้วดันทุรังเข้า ไปซื้อ ราคาที่ซื้อก็อาจจะเป็นราคาที่กำลังรอขาย
ใครไม่คุ้นเคยกับหุ้นเก็งกำไร ต้องระมัดระวังให้ดีๆ
//www.posttoday.com/stockmarket.php?id=74369
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 1:39:59 น. |
|
4 comments
|
Counter : 629 Pageviews. |
|
|
|