People like us know how to survive ….There's no point in living if you can't feel alive
Group Blog
 
All blogs
 

..อยากเตือนน้องๆนักเรียนที่มาเรียนภาษาที่อังกฤษ เรื่องทำสัญญามือถือ

ตอนนี้ต้องเริ่มเครียร์เอกสารต่างๆแล้วก็ข้าวของก่อนเดินทางวันที่ ๑ ธันวา อีกแค่อาทิตย์เดียวก็ได้ไปเยี่ยมเมื่องไทยแย้ว

แต่ตอนนี้มีเรื่องที่ทำเราปวดหัวก็คือเรื่องโทรศัพท์มือถือ ปีก่อนโน้นตอนเป็นนักเรียนไปทำ contract มือถือกับร้านโทรศัพท์ใกล้โรงเรียน เครื่องแรกเป็นสัญญาหกเดือน
พอจบสัญญาเราก็คืนเบอร์คืนเครื่องกับทางร้าน แล้วร้านก็ชวนเราทำสัญญาใหม่กับเบอร์ใหม่อีกสามเดือน จบสัญญาเรียบร้อยคืนเบอร์คืนเครื่องไปรับ cash back เรียบร้อย แล้วเราก็ย้ายบ้านมาอยู่กับแฟนที่อีกเมือง

ปรากฏว่าเมือเดือนที่แล้ว ได้รับจดหมายจากบริษัททวงหนี้แจ้งว่าเราเป็นหนี้บริษัทมือถือเครื่องแรกที่เราไปทำสัญญาไว้ £ 144 ถ้าไม่จ่ายมันจะเอาเราขึ้นศาล เชียวละ

งงมากตอนแรกที่ได้รับจดหมายเพราะจำเบอร์มือถือเก่าไม่ได้เลย ไม่ได้เก็บไว้
พอติดตามจากเพื่อนๆสอบถามเบอร์เก่าได้ก็เลยโทรไปถามบรืษัทมือถือว่าเราเป็นหนี้ได้งัย ในเมื่อเราจบสัญญาไปต้องชาติแล้ว(คือปีกว่าแล้วละ)
บริษัทมือถือนี่มันก็จ้างแต่คนแขกรับสายโทรศัพท์ พูดเร็วจนเราฟังไม่ทัน ต้องบอกมันพูดจาภาษาคนเป็นมั๊ย มันถึง slow down เออ ค่อยฟังรู้เรื่องหน่อย
ปรากฏว่า เราเป็นหนี้รวม £400 (สองหมื่นกว่าๆ แหมเกือบเท่าตั๋วเครื่องบินไปกลับเมืองไทยเลยนะ)ทั้งสองเบอร์ของเรา เป็นสัญญา 18 เดือน ไม่ใช่ 6 เดือน กับ 3 เดือน อย่างที่เราทำไว้กับร้านมือถือ บริษัทมือถือบอกว่าส่งบิลตามทวงหนี้มาหลายเดือนแล้ว ก็มันส่งไปที่ไหนก็ไม่รู้ บอกที่อยู่เรามาแต่ละที่โน้น Avon กับอีกที่ Cheltenham กรูนะไม่เคยอยู่ทั้งนั้นแหละ ยืนยันนอนยันว่าอยู่แต่ที่ Hove & Brighton กับ Crawley เท่านั้นใน UK เนี่ย มันก็บอกว่า เออไม่รู้สิ(โว้ย)อยากจบเรื่องก็จ่ายเงินมาละกัน ช่วยอะไรไม่ได้ฟะ เออ เอากับมัน

เรามานั้งคิดว่าสงสัยเป็นไอ้ร้านมือถือแหงๆเลย หลอกเราว่าเป็นสัญญา6 เดือน กับ 3 เดือน แล้วหลังจากนั้นมาเปลี่ยนที่อยู่เราแล้วเอาเครื่องไปขายต่อหรืออะไรประมาณนั้น
กลับไปที่ร้านมือถือ(เจ้าของเป็นคนจีน)ปรากฏว่ามันปิดร้านย้ายไปแล้ว เซ็งจัดเลยเรา พอดีถามเพื่อนคนตรุกีที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันแล้วก็ทำสัญญามือถือที่ร้านเดียวกันนี่แหละพร้อมๆกับเรา ก็ถึงรู้ว่าเพื่อนเราก็โดนเหมือนกันตั่งแต่เมือปีที่แล้วแต่เค้าหนักกว่าโดนเข้าไป £ 1,100 เค้าบอกแทบลมจับร้องไห้ไปเป็นอาทิตย์เพราะไม่รู้ว่าต้องทำยังงัย ภาษาอังกฤษก็ไม่ร้อยเปอร์เซนต์บริษัทมือถือมันก็เอาแต่พูดๆๆๆ(พูดจาภาษาแขกนั้นแหละ) เพื่อนเราเค้าก็ได้เจ้าของบ้านช่วยทำเรื่องติดต่อ แล้วก็ส่งจดหมายไปที่บริษัทมือถือชี้แจง เรื่องเดินมาปีแล้วตอนนี้ แต่หนี้มันลดให้เหลือ £200
เพื่อนเรายังจะสู้ต่อจะไม่จ่ายซักเพนนี เพราะไม่ใช่ความผิดเรา แถมยุเราว่าอย่าไปยอมมันนะ เราเองก็ได้แฟนช่วยทำจดหมาย Complaint ไปที่บริษัทมือถือ เกือบเดือนแล้ว แต่ก็ยังเงียบอยู่เลย นี่ว่าจะส่งไปอีกฉบับ เราไปขอคำปรึกษาจาก Citizens Advice Bureau เค้าให้คำปรึกษาฟรีเวลาใครมีปัญหาทางด้านกฎหมายโดนเอาเปรียบหรือไม่ชอบกลต่างๆ เค้าให้คำแนะนำว่าเราควรทำอะไรอย่างไรต่อไป ของเราเค้าให้รอคำตอบสองอาทิตย์หลังจากเราส่งจดหมายฉบับแรก หลังจากนั้นหากไม่ได้รับคำตอบหรือคำตอบไม่เป็นที่พอใจก็ให้ทำจดหมายส่งไปอีก จากนั้นอาจต้องทำเรื่องส่งสำนักงานตรวจสอบฯของการสือสาร Office of the Telecommunications Ombudsman (Otelo) มันก็คงเป็นเรื่องยาวอีกปีกว่าอย่างที่เพื่อนตรุกีเราเจอนั้นแหละ ตอนนี้ก็เลยเฉยๆละ

ก็อยากเตือนน้องๆที่มาเรียนที่อังกฤษกันไว้ ให้ระวังเรื่องทำสัญญามือถือ เป็นไปได้อย่าทำแบบ Contract ให้ใช้แบบ Pay as you go จะปลอดภัยกว่า แล้วก็ได้ยินมามีนักเรียนไทยบางคนก็แอบโกงไม่จ่ายบิลค่าโทรศัพท์ หนีกลับเมืองไทยไปซะงั้น ก็ระวังนะคะ ถ้าเค้าขึ้น black list ชื่อเราแล้ว เวลาเราจะกลับมาที่อังกฤษมันก็จะมีปัญหา




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2551 20:55:19 น.
Counter : 1373 Pageviews.  

๐๐๐ must do เมื่อเป็นนักเรียนที่อังกฤษ๐๐๐

ช่วงแรกที่มาถึงอังกฤษ เมื่อเรียนเสร็จ หากมีเวลาช่วงบ่าย ก็ให้ไปจัดการทำบัตรที่จำเป็นสำหรับใช้ที่อังกฤษ ก็มี
๑) บัตรประจำตัวนักเรียนนานาชาติ หรือที่เรียกว่า International Student Identity Card ถ้าใครเรียนที่ Brighton & Hove ก็ไปทำที่ STATRAVAL อยู่เลย Churchill Square เดินลงมาตาม North Street นิดเดียว ทางขวามือ จะเห็นป้ายสีฟ้าชัดเจน ค่าทำบัตรเท่าที่จำได้รู้สึกจะ £5 นะ ให้เอาหนังสือของโรงเรียนติดตัวไปด้วยแล้วก็รูปถ่ายขนาดเล็ก ๒ รูป เพราะต้องใช้ บัตรนี้จะเป็นประโยชน์มากเวลาเราไปไหนมาไหน ซื้อของ ซื้อตั๋วดูหนัง ซื้อตั๋วรถเมล์รายเดือนหรือรายสามเดือน ก็จะได้ส่วนลดแบบราคานักเรียน คุ้มค่าคะ

๒) Bank Account อันนี้ใครมาเรียนนานกว่าหกเดือน ก็แนะนำว่าไปเปิดบัญชีธนาคารไว้ เพราะหากเราทำงานเค้าจะได้มีบัญชีโอนเงินเข้าให้เราได้ ที่นี่ก็มี NatWest Bank , Lloyds Bank , HSBC Bank, Barclays Bank ก็เลือกเอาตามใจชอบ ของพี่ใช้ของ NatWest Bank เป็นนักเรียนเค้าจะให้บัตรแบบ Cash card ซึ่งใช้กดเงินสดจาก Hole in the wall(ATMนั้นแหละ) แล้วก็ใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกร้านไม่ต้องถือเงินสด ใช้บัตรรูดหักเงินโดยตรงจากบัญชีเราเลย Direct debit นะอะ อันนี้ทำฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องเอา passport กับหนังสือจากโรงเรียน (ก็ฉบับที่ยืนยันว่าเราเป็นนักเรียนกับเค้านั้นแหละ ใช้ทุกงาน)แสดงให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย แล้วเวลาเรียนจบแล้วก็อย่าลืมมาทำเรื่องปิดบัญชีด้วยละ


๓) ใครทำงานที่นี่ ก็ต้องมี National Insurance Number Card รายละเอียดลองเข้าไปอ่านดูในนี้www.dwp.gov.uk/lifeevent/benefits/ni_number.asp แบบสรุปๆก็คือ พอเราได้งานหรือจะทำงาน ก็ให้ขอหนังสือจากที่ทำงานว่าเราทำงานกับเค้า หรือเอาPay slip แล้วก็หนังสือจากโรงเรียน กับบัตรประจำตัวนักเรียนนานาชาติ แล้วก็พาสปอร์ต ไปที่ Job Centre ที่ Brighton จะอยู่บนถนน Edward Street (ใกล้ๆ.St. James Street )เดินขึ้นไปเรื่อยๆจะเห็นตึกใหญ่สูงๆอยู่ทางซ้ายมือ ไปถามเจ้าหน้า แล้วยื่นเรื่องไว้ เค้าจะนัดสัมภาษณ์แล้วส่งบัตรนี้มาให้เราที่หลัง เราก็จะมี NI Number ประจำตัวเรา เวลาเราไปทำงาน หรือเปลียนงานใหม่ที่ไหนๆส่วนใหญ่จะถามว่าเรามีบัตรนี้มั้ย เพราะมันเป็นกฎของที่นี่ต้องแสดง NI Numberกับผู้ว่าจ้าง

๔) ลงทะเบียนกับหมอใกล้บ้าน อันนี้ก็สำคัญ เพราะเวลาเราไม่สบายจะได้นัดหมอ ขอ prescriptions ไปซื้อยาที่ Chemist ได้ ที่นี่เค้าเป็นระบบแบบนี้คะ ไม่ได้เหมือนบ้านเราพอไม่สบายก็ไปซื้อยาเอง ที่อังกฤษไม่สบายก็ต้องไปหาหมอเฉพาะที่เราลงทะเบียนไว้ ให้เค้าออกใบสั่งยา แล้วก็เอาไปซื้อยาที่ร้านขายยาคะ ยุ่งกว่าบ้านเราเน้อ.....ก่อนอื่นก็ให้ลองถามครอบครัวที่เราพักอยู่ด้วยนั้นแหละว่าเค้ามีหมอ(GP) ประจำครอบครัวอยู่ที่ไหน ให้เค้าโทรนัดให้ว่าเราจะไปลงทะเบียน แล้วเราก็ถือ พาสปอร์ต หนังสือของโรงเรียน แล้วรู้สึกว่าเค้าจะถามถึง NI card ด้วยนะ (ยังงัยลองถามเค้าดูว่าต้องมีอะไรบ้างติดตัวไป)ไปหาเค้าที่ NHS (National Health Services) เค้าจะสอบถามประวัติ ตรวจร่างกายนิดหน่อย แล้วจะออกบัตรประจำตัวมาให้เรา เวลาเราไม่สบายก็โทรไปบอกหมายเลขประจำตัว แล้วก็นัดเวลาตรวจกับหมอ

๕) ใครบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนก็ไปซื้อตั๋วรถเมล์รายเดือนราคานักเรียน ใช้บัตรนักเรียนนานาชาติ แสดง ก็ £50หรือรายสามเดือนก็ £100 จะประหยัดกว่าซื้อรายวันได้เยอะ ไปที่ One stop Travel Services Shop ที่ Brighton อยู่ตรงหัวมุมถนน St. James Street ด้านขวามือ ตรงข้ามร้านขายของแขกTaj ถ้าซื้อตั๋วสามเดือนต้องมีรูปถ่าย ๒ ใบขนาดเล็กด้วย สำหรับติดบัตร

๖) บัตรโทรศัพท์ มาอังกฤษอาจเอามือถือเครื่องเดิมชนิดที่ไม่ได้ล๊อกติดตัวมา เพราะมาใช้ที่นี่ได้ แค่ไปร้านมือถือ O2 ขอ SIM Card ฟรีมาแล้วเราก็เติมเงินเอา แบบนี้ปลอดภัยกว่า พยายามอย่าไปทำประเภทสัญญา Contract กับร้าน เพราะเราเป็นนักเรียนมาอยู่ไม่นาน อาจโดนหลอกว่าทำสัญญาแบบ๓เดือน๖เดือน ซี่งจริงๆแล้วมันเป็นสัญญา ๑๘ เดือน แล้วสุดท้ายกลายเป็นหนี้ไม่รู้ตัว อันนี้โดนมากับตัว ให้ระวังไว้ด้วยละกันเวลาจะทำสัญญาอะไร ต้องดูให้รอบคอบก่อน

หลักๆมันก็คงมีแค่นี้แหละ นี่มันก็ปาเข้าไปหลายอยู่ ค่อยๆจัดการไล่ทำไปทีละอย่างตามลำดับความสำคัญละกัน เหนื่อยละ แค่นี้ก่อนนะ แล้วมีเรื่องรัยนึกได้จะเล่าให้ฟังตอนต่อไป





 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 19 เมษายน 2554 5:41:23 น.
Counter : 1378 Pageviews.  

๐๐๐พบ Host Family และเมื่อไปถึงโรงเรียนภาษาใน Brighton, UK

กดกริ่งประตูหน้าบ้าน Host Family แล้วเจ้าของบ้านก็จะออกมาจูบแก้มเราเป็นการทักทายตามธรรมเนียมคะ
เจ้าของบ้านเป็นคู่สามีภรรยา มีลูกชายสามขวบน่ารักมาก
เอาสัมภาระเก็บในห้องแล้วก็ดื่มน้ำชากาแฟ คุยแนะนำตัวนิดหน่อย
แล้วเค้าจะรู้ว่าเราเหนื่อย จะให้เราไปพักผ่อน จัดการกับข้าวของของเรา
ใครมาได้อยู่ห้องเดี่ยวก็สบายมากเลย ไม่ต้องมีปัญหารบกวนกัน
เราเองขอจ่ายแพงกว่านิดหน่อยแต่ได้ห้องเดี่ยวเป็นส่วนตัวดีคะ
ห้องเราเป็นแบบห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัว ค่าห้องพักรวมอาหารเย็นตอนนั้น
เมื่อสองปีก่อนก็ราว £90

ตอนหลังอยู่แบบทำกับข้าวกินเองคะ ถูกใจและถูกเงินในกระเป๋ากว่า
เราใช้ข้าวของในครัวเค้าได้ ทำเสร็จก็เก็บล้างทำความสะอาดให้ดี
เป็นคนรักความสะอาด เจ้าของบ้านชอบใจเรา
สองวันแรกก็พักผ่อนก่อนคะ ออกไปเดินรอบๆทำความคุ้นเคยกับสถานที่
เดินคะ เดินเล่นชายหาด เดินไปโรงเรียน เดินไปชอปปิ้ง
เดินเป็นหลักอยู่ที่นี่สองขานี้แข็งแรงมากขึ้นกว่าอยู่เมืองไทย

เมื่อไปโรงเรียนวันแรก(โรงเรียนส่วนมากให้นักเรียนใหม่เริ่มเรียนทุกวันจันทร์ของสัปดาห์) ก็แจ้งเจ้าหน้าที่โรงเรียน แสดงจดหมายโรงเรียน เอาพาสปอตร์ ติดตัวไปด้วยละ
แล้วเค้าจะมีแบบทดสอบระดับภาษาอังกฤษให้เราทำ
เพื่อจะได้ส่งเราลงห้องเรียนที่เหมาะสม เราได้ระดับปานกลาง Intermediate
ก็โอเค พอใจคะไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป เค้าให้หนังสือแบบเรียนแล้วก็เริ่มเรียนเลยวันนั้น

เข้าห้องไปแนะนำตัวกับครูแล้วก็เพื่อนๆในห้องเรียน
Hello, my name is Nita . I come from Thailand. Nice to meet you  แล้วก็แจกยิ้มไปทั่วห้อง
ง่ายๆ แต่ทำเอาเราเขินเลย เออ เราอยู่นี่มีชื่อเป็นอังกฤษคะ Nita
เพราะชื่อเล่นไทยเค้าออกเสียงไม่ได้กัน เลยเอาชื่อจริงตัวเองสั้นๆมาใช้แทน
จากชื่อไทย Nittaya มาเป็นชื่ออังกฤษ Nita


วันแรกตื่นเต้น ดีใจที่ได้เรียน รู้จักเพื่อนใหม่เกือบสิบคนในคราวเดียว
พยายามจำชื่อเพื่อนให้ได้คะ แอบจดใส่สมุดไว้แถมวาดเอกลักษณ์หน้าของแต่ละคนไว้ด้วย
วันแรกก็มีการบ้านกลับมาทำเลย เรียนแกรมม่าสำหรับคนไทยแล้วไม่ยากเลย
แต่ที่ยากมันก็ คือ Conversation นี่แหละ
เรานะ อยากจะพูดให้น้ำไหลไฟดับอย่างเพื่อนยุโรปบางคน
ซึ่งเค้าไม่เก่งแกรมม่าเหมือนคนไทย แต่พูดเก่ง และพัฒนาได้เร็ว
ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบร้อน มันก็เพิ่งวันแรกเน้อ

เริ่มเรียนวันแรกผ่านไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ลองมาดูว่ายังมีอะไรที่ต้องจัดการให้มันเรียบร้อยเมื่อเริ่มมาเป็นนักเรียนที่อังกฤษกัน ติดตามอาทิตย์หน้าคะ






 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2551 4:09:21 น.
Counter : 3305 Pageviews.  

๐๐๐จาก Airport จะไป Brighton เอง ๐๐มาเรียนภาษาที่อังกฤษ

ขอเล่าต่อจากตอนที่แล้วนะ
เรามาลงที่สนามบิน Heathrow
รู้คะว่าต้องไปซื้อตั๋วรถโค้ชเพื่อไปไบรตัน Brighton
ไม่ยากคะไปรถโค้ชดีกว่าไม่ต้องหอบหิ้วสัมภาระต่อหลายต่อให้ยุ่งยากเหมือนไปรถไฟ
พอออกจากทางออก gate ยังอยู่ในสนามบินนะ
ให้มองหาป้าย Central Bus & Coach station จะอยู่ประมาณด้านขวา เดินลงไปตามทางเดินใต้ดิน (underground walkway)
ตามป้ายบอกไปเรื่อยๆ พอสุดทาง
แล้วต้องเข้าลิฟท์ขึ้นไปชั้นบน(มีชั้นเดียวแหละ มีแค่ขึ้นกับลงเท่านั้น)
สถานี่รถโค้ช ของ National Express เค้าเปิดบริการ ๒๔ ชม.
เข้าคิวไปซื้อตั๋ว
Can I get single ticket to Brighton, please?
ราคาตั๋วตอนนี้น่าจะราว£20 ได้ตั๋วเรียบร้อยก็ออกไปยืนรอที่ชานชลาที่อยู่ทางซ้ายมือ เค้าจะมีป้ายบอกว่าชานชลาไหนไปที่ไหน เวลารถออกกี่โมง
ก็เดินไล่ไปถึงป้ายที่จอดรถโค้ชไปไบรตัน ย้ำคนขับอีกที่ว่าเราจะไปไบรตันนะ
คนขับก็จัดแจงยกกระเป๋าเรายัดใต้ท้องรถ เราก็ขึ้นรถไปเลือกที่นั่งสบายๆ
นั่งชมเมืองไปเกือบสองชั่วโมง เพราะเค้าจะแวะรับส่งคนตามจุดสำคัญๆ
ก่อนจะมาสุดสายปลายทางที่ไบรตัน ...ที่สถานี Pool valley
ที่ป้ายนี้ เดินออกมาหน่อยเดียว (ให้ถามคนขับรถโค้ชก็ได้ว่าเดินไปทิศทางไหน)
ก็จะเจอป้ายจอดรถแทกซี่ ขึ้นไปแล้วยื่นกระดาษที่เขียนที่อยู่ของ Host Family
ให้คนขับ แค่นี้ก็ถึงประตูที่พักอย่างง่ายดาย
เออ อีกอย่าง แทกซี่ที่นี่เค้าจะรับผู้โดยสารเป็นที่เป็นทางคะ
เค้ามีป้ายจอดเฉพาะของเค้า จะมาเดินกวักเรียกอย่างบ้านเราไม่ได้คะ
คนที่นี่ใช้โทรเรียกแทกซี่กัน

ถ้าใครมา Brighton แนะนำว่าหาสายการบินที่ลงที่ Gatwick Airport เราใช้สายการบิน Qatar Airline จองล่วงหน้าหน่อยสักสองเดือนก็ได้ถูกว่าจองกระชั่นคะ
ถ้าลงที่ Gatwick Airport ก็จะมา Brighton ได้ง่าย ประหยัดและเร็วกว่าลงที่ Heathrow Airport กว่าครึ่งทาง
ที่ Gatwick Airport เมื่อผ่านด่านตรวจ พิธีต่างๆก็เหมือนกัน
อ้อ ลืมบอกไป ส่วนใหญ่ถ้าบินจากเมืองไทยจะลงที่ South terminal
ได้กระเป๋าเรียบร้อย ออกจากทางออก gate ยังอยู่ในสนามบินนะ
ให้เดินไปทางขวามือ ไม่ไกลคะจะเห็นป้ายบอกไป Train Station
ไปเข้าคิวซื้อตั๋วรถไฟไปไบรตัน จากสนามบินแกทวิกนี้ ราคาตั๋วราว £7
ได้ตั๋วแล้ว ให้ดูที่ป้ายบอกเวลาเดินรถไฟในนั้นก่อนว่าขบวนไหนไป Brighton จะได้ไปรอได้ถูกชานชลา (Platform) จากนั้นเดินลงบันไดเลื่อนมาคอยรถไฟ
นั่งเพลินๆมาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึงสุดสายปลายทางอย่างง่ายๆ ที่ Brighton train station
ออกจากสถานีรถไฟที่ไบรตันก็จะเจอแทกซี่จอดรอด้านหน้า
ที่นี้รู้แล้วนะว่าจะไปต่อยังงัย

เจอกันใหม่อาทิตย์หน้านะคะ พบ Host Family และเมื่อไปถึงโรงเรียน





 

Create Date : 25 ตุลาคม 2551    
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 18:23:12 น.
Counter : 1963 Pageviews.  

++ก้าวแรกที่สนามบินในอังกฤษ (นักเรียนกระเหรี่ยงมาเรียนภาษาที่อังกฤษ)


เมื่อเตรียมตัวและจัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เวลาเดินทางไกลก็มาถึง
รู้สึกตื่นเต้น ปนกังวลกันทุกคนละคะ
เพราะเป็นการเดินทางไกลแล้วระยะเวลาที่ต้องจากบ้านมันก็นานไม่น้อย
ทุกอย่างที่จะเจอมันก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ให้เรียนรู้ทั้งผิดและถูกนั้นละ
ก่อนออกเดินทาง อย่าลืมโทร หรือ อีเมล์ confirm กับโรงเรียนให้ดี
ว่าเราจะมาถึงอังกฤษวันไหน เข้าพักกับ host family เมื่อไหร่
จะมาเองหรือให้เค้าจัดคนไปรับ (ซึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่มตามที่เค้าระบุค่าธรรมเนียม)
เพื่อเริ่มเรียนวันแรกตามวันที่ระบุไว้ในจดหมายของโรงเรียน

จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาบนเครื่องก็ไม่น้อยกว่า ๑๒ ชั่วโมง
บางคนเลือกบินตรง บางคนประหยัดงบหน่อยก็ต่อเครื่อง
นั่งๆนอนๆบนเครื่อง เปลี่ยนท่านอนก็หลายท่า
จนสุดท้ายเมื่อยก็ต้องออกไปเดินขยับแข้งขาให้มันหายเมื่อย
เดินไปเข้าห้องน้ำ บ้าง ไปขอดริ้งจากแอร์โฮสเตสบ้างละ
เหนื่อยนะอยู่บนเครื่องบินเนี่ยต่อให้ไม่ได้ทำอะไรเลย
ทำมัยมันทั้งเหนื่อยทั้งล้าก็ไม่รู้

สุดท้าย เครื่องบินก็ร่อนลงสนามบิน ณ ประเทศอังกฤษ
เดินตามฝูงคนที่ทะยอยกันเดินออกจากเครื่องบิน ให้เดินตามป้ายที่เขียนบอกว่า Arrival เอาไว้ เดินไปเรื่อยๆก็จะผ่าน Immigration
ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้นแหละตัวดี ชอบถามซักไซ้ไล่เรียงกระเหรี่ยงอย่างเราจริงๆ
เข้าคิวไว้ก่อนนะคะ ช่องที่มีคนเยอะๆหน้าตากระเหรี่ยงนั้นแหละ
เพราะเค้ามีช่องแบ่งชนชั่นคะ ว่าพวกไหนกระเหรี่ยง พวกไหนคนยุโรป
พวกถือพาสปอตร์ UK หรือยุโรป EU เราขอเรียกว่าพวกอภิสิทธิ์ชน
เค้าก็จะผ่านด่านตรวจอย่างง่ายดายและรวดเร็ว อย่าไปมองค้อนเค้าละ
เราเผลอ ค้อนและด่าปากหงุบหงิบๆหลายครั้งอยู่
ส่วนเรากระเหรียงก็รอคิวไปเถอะ ให้เตรียมเอาเอกสารออกไว้ให้พร้อม
เช่นหนังสือจากโรงเรียน พาสปอตร์ ตั๋วไปกลับ
แล้วที่สำคัญ คือเอกสารตรวจโรคจาก MOI

พอถึงคิว เราก็ยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่
ที่นี้เจ้าหน้าที่เค้าจะทำหน้าตาขึงขัง ซักถามว่ามาเรียนอะไร ที่ไหน
พักที่ไหน กลับเมื่อไหร่ มีตั๋วยัง ประมาณนั้น
ให้ตอบไปด้วยความมั่นใจ ไม่ต้องลุกลนให้เสียฟอร์มนะคะ
ถึงเรากระเหรี่ยงก็ขอมีฟอร์มหน่อย สุขุมเข้าไว้
อย่าไปลุกลี้ลุกลนนะมันดูไม่งาม

แล้วเค้าก็จะสแตมป์ ให้เราผ่านในที่สุด โล่งใจไป
เดินต่อออกไปยังห้องรับกระเป๋า กว่าจะลากกระเป๋าใบใหญ่ๆของเราลงมาจากสายพาน ก็เล่นเอาปวดแขน เพราะสัมภาระหอบมาก็เต็มพิกัด
ลากกระเป๋าเอาไปใส่รถเข็นได้แล้วก็มุ่งหน้าออกไปประตูทางออกละเรา
ไม่มีคนมารับไม่เป็นรัย เรามันฉลาด เอาตัวรอดได้น่า
ขอจบแค่นี้ก่อนนะ
คราวหน้าจะมาเล่าต่อว่าจาก Airport จะไป Brighton เอง ยังงัย สะดวกที่สุด


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2551    
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 17:33:13 น.
Counter : 1166 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

riverstone
Location :
Crawley United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




การเรียนรู้ชีวิต และประสบการณ์ต่างๆที่แปลกใหม่ ทำให้คนเรามีมุมมองชีวิตที่กว้างขึ้น ฉันจึงไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ไหนก็ได้ ใช้ชีวิตให้เป็นและคุ้มค่า แต่ก็ไม่เบียดเบียนใคร
......................................
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๙ ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ หรือข้อความใน Blog นี้ไปใช้ โดยเผยแพร่หรือเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add riverstone's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.