ซาตานน้อยตะลอนทัวร์
Group Blog
 
All blogs
 
เขาหลัก-ภูเก็ต

กุมภาพันธ์ 2554

โปรแกรมตามนี้ค่ะ

วันที่ 1 -สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เขาหลัก
วันที่ 2 -สิมิลัน
วันที่ 3 -ภูเก็ต-สุวรรณภูมิ

วันที่หนึ่ง ออกเดินทางจากกรุงเทพตอนเย็นๆด้วยTG221 ถึงภูเก็ตประมาณหนึ่งทุ่มแล้วนั่งรถต่อมาเขาหลัก จ.พังงา ใช้เวลานั่งรถประมาณสองชั่วโมงค่ะ
เข้าพักที่โรงแรมJW Mariott เขาหลัก
....ดูรีวิวโรงแรมในblogนี้ได้เลยค่ะ
JW Mariott Hotel เขาหลัก


วันที่สอง รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้วนั่งรถไปท่าเรือทับละมุเพื่อเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลันค่ะ

เมื่อไปถึงท่าเรือทับละมุ เราก็โดนปล้นรองเท้าค่ะ เราต้องเดินเท้าเปล่าไปรับอุปกรณ์ดำน้ำตามความพอใจอันประกอบด้วยเสื้อชูชีพ snoggleและจะเอาตีนกบหรือไม่ก็ได้ หรือจะเอาตีนกบไปแต่ไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เขาไม่คิดตังค์เพิ่ม รับอุปกรณ์เสร็จก็go barefootขึ้นเรือค่ะ

นั่งspeed boatสักชั่วโมงครึ่งก็ถึงสิมิลันค่ะ บางคนเมาเรือนะคะ ดังนั้นถ้ามียาแก้เมาเรือไว้เผื่อน่าจะดีนะคะ

ในภาพ คุณไกด์ท้องถิ่นกำลังอธิบายเรื่องการดำน้ำและการใช้อุปกรณ์ค่ะ



สัญลักษณ์ของสิมิลันคือนี่เลยค่ะ แหม่มในชุดบิกินี...เพลินตามาก
ล้อเล่นค่ะ...
ตามภาพนะคะ สัญลักษณ์ของสิมิลันคือ หินเรือใบ ที่อยู่ด้านบน ในภาพค่ะ



สามารถไปเที่ยวสิมิลันได้ในเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปีค่ะ เดือนอื่นฝนตกมีมรสุมเพื่อความปลอดภัยจึงปิดการท่องเที่ยวค่ะ

ในเกาะสิมิลันก็มีบ้านพักของอุทยานนะคะ สามารถดูรายละเอียดและจองที่นี่ค่ะ
//www.dnp.go.th

การขึ้นชมหินเรือใบแบบใกล้ชิดสนิมสนมต้องขึ้นไปด้านบนค่ะ barefootตามกันมาเลยค่ะ

ช่วงแรกเดินบนทรายนิ่มๆสบายเท้าดีนะคะ ต่อมาต้องเดินบนดิน หิน กระได ลำบากขึ้นเรื่อยๆแต่ภาพด้านบนก็สวยคุ้มกับการปีนค่ะ

นี่ทางขึ้นค่ะ มีป้ายบอกกันชัดเจน


ทางขึ้นต้องมีการมุดแบบนี้


ปีนกะได อย่างงี้


มุดรูแล้วขึ้นกะไดต่อ จังซี่..



ถึงด้านบนกันซะที ชมวิวจากด้านบนกันค่ะ

ที่ยืนเล่นมิวสิกอยู่คือคุณไกด์ท้องถิ่นของเราค่ะ


ถ่ายรูป ชมวิวกันอิ่มเอมแล้วก็เดินลง เช่นนี้ (เดินที่ไหน นี่มันไต่เชือก)
สังเกต น้องชายด้านหลังกำลังปาดเหงื่อ


ลงมาด้านล่างเป็นเวลาเที่ยงพอดี เรารับข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารของอุทยาน อาหารธรรมดาๆแต่รสชาดดี ทำให้รู้สึกอยากกลับมาเยือนที่นี่อีกแบบนอนค้างบนเกาะ(ก็ที่กินที่อยู่มีครบนี่)

ถ่ายรูปกับป้ายกันตามระเบียบ



ป้าย และ หินเรือใบ


ชมวิวสิมิลันต่อสักหน่อย








ครอบครัวฝรั่งเดินชิวบนฝืนทราย


ฝากรอยเท้าเอาไว้


ไปต่อกันที่ เกาะปายู

ที่นี่มาเพื่อดำน้ำค่ะ น้ำใส ทะเลสวย ไม่มีไรทะเลเลยค่ะ ปลาสีสวยเยอะมากๆ ปลาไม่กลัวเราด้วยค่ะ เราจับปลาได้ตัวนึงสีเหลืองมีลายมันว่ายมาใกล้ๆเราเลยค่ะ




นายท้ายเรือนั่งดูความปลอดภัยของพวกเรา


เกาะสุดท้ายที่เราไปกันวันนี้ เกาะเมียง
เกาะนี้ เรามาเพื่อเล่นน้ำที่ชายหาดค่ะ บางคนก็ถ่ายรูปไป(คนนี้ด้วย)


มาดูรูปที่ถ่ายมาได้กันค่ะ





ปราสาททราย ใครหนอมาสร้างไว้ เราเลยได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย


เล่นน้ำแล้วพักมานั่งกิน โอ๊ะเอ๋ว ซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองภูเก็ต อร่อยมากๆกินแล้วสดชื่นสุดๆเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ค่ะ

โอ๊ะเอ๋วเป็นพืชชนิดหนึ่ง ขนมโอ๊ะเอ๋วทำจากเมือกโอ๊ะเอ๋วผสมเมือกกล้วยน้ำว้า ใส่เจี่ยกอให้ก่อตัวเป็นก้อน ใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็งใส กินแก้ร้อนในและลดการกระหายน้ำ ได้ผลจริงๆด้วยค่ะ



เที่ยวครบสามเกาะนั่งเรือกลับ(หลับตลอดทาง)

อาหารเย็นวันนั้นไปทานกันที่ the similan restaurantซึ่งอยู่ที่kantary beach เขาหลัก อาหารที่นี่เป็นอาหารไทย seafood และมีพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนที่อร่อยมากๆค่ะ







ในภาพคือห่อหมกปลาและปลา(อะไรไม่รู้)ทอด



พริกประดับใหญ่มากกกก


แก้วที่วางตรงกลางคือsingapore slingของจขบ.



นี่ก็ มากาเรตตาของจขบ. ด้านหลังที่เบลอๆอยู่ในจานคือพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน แป้งบางกรอบพร้อมชีสที่ยืดมากกกกกกกก


ตบท้ายด้วยของหวาน...
นี่คือ ไอติมเคลือบช็อคโกแลค


ผลไม้สีสันสดใส


หลังอิ่มท้อง กลับไปนอนหลับสบายบนหมอนยักษ์ของJW Mariottเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปภูเก็ตวันพรุ่งนี้ค่ะ

นั่งรถจากเขาหลักไปภูเก็ตระยะเวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าเช่นเคยค่ะ ระหว่างทางแวะชม(ชะโงก)เรือหลวงที่ถูกสึนามิพามาอยู่บนบก และยังไม่ถูกลำเลียงออกไปเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ แม้เรือหลวงลำนี้จะไม่ได้ออกราชการแล้วแต่ก็ยังมีประโยชน์ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว(ซะงั้น) เราชะโงกดูเรือจากบนรถจึงไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมค่ะ

ถึงเมืองภูเก็ต เราแวะไปชะโงกต่อที่อาคารเก่าทรงชิโนโปรตุกิส ชมตึกจากบนรถเช่นเคย

รถแวะจอดที่สี่แยกเพื่อทัวร์เค้าจะลงไปซื้อขนมพื้นเมืองภูเก็ต คือ ขนมโอ๊ะเอ๋ว และ ขนมอาโป้งค่ะ

พอรถจอดเราก็ดอดลงมาเพื่อถ่ายรูปค่ะ

นี่คือตึกเก่าพร้อมไฟแดงใหม่



อาคารชิโนโปรตุกิส


ขนมมาแล้ว ในมือขวาคือ อาโป้ง ในมือซ้ายคือ โอ๊ะเอ๋ว

อาโป้งหน้าตาคล้ายทองม้วนยักษ์หรือขนมถังแตกขนาดเล็กที่ไม่มีใส้ รสชาดหอม หวานไม่มาก กรอบนอกนุ่มใน กินชิ้นแรกอร่อยจังขอต่อชิ้นที่สอง-สาม ชิ้นที่สี่เริ่มเลี่ยน แต่ก็ประทับใจเพิ่งเคยชิมขนมชนิดนี้เป็นครั้งแรกค่ะ



สุดท้าย ก่อนกลับ เราแวะซื้อของฝากที่ร้านน้ำทิพย์ ของฝากค่อนข้างแพง(ขายฝรั่งในราคาฝรั่ง ขายคนไทยในราคาคนไทย) ใครแวะซื้อขนมที่นี่ ตอนจ่ายเงินต้องดูนะคะว่าเราจ่ายเงินในราคาที่เขียนด้วยเลขไทย เพราะราคาที่เป็นเลขอารบิกจะคิดให้ฝรั่งซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาเลขไทยมากค่ะ

จากนั้น เราก็บินกลับกรุงเทพด้วยการบินไทยเช่นเดิมค่ะ
จบtripนี้อย่างสนุกสนาน แปลกใหม่ อิ่มอร่อย และน่าประทับใจมากๆค่ะ
ถ้ามีโอกาส อย่าลืมมาเยือนสิมิลันนะคะ ทะเลงาม น้ำใส...

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนblogด้วยค่ะ


Create Date : 27 มีนาคม 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 15:27:49 น. 1 comments
Counter : 1600 Pageviews.

 
สิมิลันสวยสุดยอดเลยค่ะ กำลังแปลกใจนึกว่าสิมิลันปิดเกาะซะอีก เพราะดูข่าวสองสามเดือนก่อนเห็นบอกทะเลอันดามันปะการังฟอกขาวอาจต้องปิดเกาะ


โดย: Tick Juntavaro วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:15:46:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sun-Dong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีความฝันอยากเก็บประสบการณ์ทั่วโลก ค่อยๆเก็บกันไปเท่าที่โอกาสอำนวย แค่อ่านหนังสือท่องเที่ยวบางทีก็รู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมไปแล้ว
Friends' blogs
[Add Sun-Dong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.