Group Blog
 
All blogs
 

Review : Sigma Complete Kit with Brush Roll in Pink เซ็ตแปรงแต่งหน้าสีหว๊านหวาน [Part 1 Face Brush]

สวัสดีค่าทุกคน สถานการณ์น้ำตอนนี้อุ้ยกำลังลุ้นเลยล่ะ ว่าจะถึงมหาลัยวันไหน ตอนนี้ม.เลื่อนวันเปิดเทอมอย่างไม่มีกำหนด แถมที่หอยังแปะประกาศไว้ด้วยว่า "จุฬาฯคาดว่าน้ำจะท่วมสูงประมาณ 1 เมตร" OMG!!! สูงมากนะนั่น เป็นห่วงหนังสือที่ห้องสมุดคณะ เป็นห่วงมหาลัย ฯลฯ ยิ่งนึกยิ่งเครียด วันนี้เลยขอจัดชุดใหญ่รีวิวแปรงซิกม่าแก้เครียดกันหน่อยค่ะ

เซ็ตที่อุ้ยมีเนี่ย มีชื่อว่า Sigma Complete Kit with Brush Roll in Pink ซึ่งเค้าเลิกผลิตไปแล้วแหล่ะ ซื้อมาก่อนเค้าเลิกไม่นาน เค้าออกเซ็ตใหม่มาเป็นกระป๋องๆ ไฉไลกว่าเดิมอีก เสียใจมาก T___T แต่แบบ in Black ยังคงมีอยู่นะคะ แปรงเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่สีด้ามกับสี Brush Roll ค่ะ

แต่เอาเถอะค่ะ เซ็ตนึงมันก็ตั้ง 3000 กว่าบาท ซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มสิเน๊อะ สีชมพูอันนี้ก็ใช่ว่าจะไม่สวยนะ อุ้ยชอบมากเลยแหล่ะ ดูหวานแหวว คุณหนูมากกกกกก




มาดูกันดีกว่า เริ่มตั้งแต่หน้าตาของ Blush Roll สีชมพูหวานๆก่อน ทำมาจากอะไรอุ้ยไม่แน่ใจอ่ะค่ะ คล้ายๆหนังแต่คงไม่ใช่ ดูแข็งแรงทนทานดี แต่หนักไปนิสนึง เนื้อลื่นๆทำให้สกปรกยาก ^^




ด้านหลังมีที่รัดติดป๊อกแป๊ก (เค้าเรียกอะไรไม่รู้) เป็นแม่เหล็กอ่ะค่ะ สะดวก ใช้งานง่ายดีเหมือนกัน



เปิดออกมา ชะแว้งงงง !!! มีเด็กๆนอนอยู่ในช่องของตัวเอง น่าเอ็นดู๊... 55555+




ทั้งหมดมี 12 ด้ามค่ะ เดี๋ยวจะขอแบ่งการรีวิวออกเป็น Face Brush กับ Eye Brush นะคะ


**** บอกก่อนว่า Sigma Brush เซ็ตนี้ข่วนหน้าอุ้ยเกือบทุกด้ามเลยนะคะ ****


เริ่มกันที่ Face Brush เลยดีกว่า มีทั้งหมด 5 ด้ามด้วยกัน



เรียงจากซ้ายไปขวา
- F30 Large Powder
- F50 Duo Fibre
- F60 Foundation
- F40 Large Angled Contour
- F70 Concealer



F30 Large Powder Brush


เป็นแปรงปัดแป้งขนาดใหญ่ค่อนข้างมากกก ปัดไม่กี่ทีก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ ใช้ได้กับทั้งแป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง และแป้งผสมรองพื้น ขนแน่นพอสมควร เกือบจะบัฟได้เลยล่ะ นุ่มปานกลางนะคะ มีแอบข่วนหน้าบ้างเหมือนกัน

ล้างครั้งแรกสีตกมากกกกก และขนร่วงด้วย เริ่มดีขึ้นหลังจากล้าง 5-6 ครั้ง พอล้างแล้วขนแปรงไม่บานมากค่ะ คืนรูปเดิมได้ดี แต่ขนยังร่วงนิดดดดหน่อยทุกครั้งที่ใช้ สรุปชอบปานกลางฮะ


F40 Large Angled Contour Brush


แป้งเฉียง สำหรับคอนทัวร์หน้า แต่ตัวนี้อุ้ยชอบเอาไว้ปัดบลัชออนสีอ่อนๆมากกว่าค่ะ เพราะขนค่อนข้างแน่น ถ้าเอามาคอนทัวร์จะกลายเป็นปื้นๆ ดูหน้าตาเลอะขี้โคลนสุดๆ แต่พอเอามาปัดบลัชออนสีอ่อนๆ สีสวยขึ้นมาเลย โดยเฉพาะกับ Pink Swoon ของ M.A.C ที่ซึ่งอุ้ยปัดยังไงก็ไม่สวยอ่ะ ใช้แปรง RMK แล้วก็ไม่เวิร์ค Duo Fibre ก็ไม่ใช่ พอลอง F40 เท่านั้นแหล่ะ มันเกิดมาคู่กันนนนนนนน

ขนแปรงสีขาว แน่นพอสมควรเลย แล้วก็นุ่มมากๆๆๆ แต่บางอารมณ์ก็ยังแอบข่วนๆหน้าอยู่นิดหน่อย โดยรวมค่อนข้างชอบมากค่ะ


F50 Duo Fibre Brush


หลายคนเรียกแปรงแบบนี้ว่า แปรงขนเม่น จากลักษณะขน 2 สีของแปรง โดยที่เจ้าตัวนี้เรียกว่าเป็นตัวชูโรงของซิกม่าเลยละมั้ง เพราะกูรูหลายคนบอกว่ามันเหมือนกับแปรง M.A.C 187 อันโด่งดัง แถมยังเป็นแปรงอเนกประสงค์ ใช้ได้ตั้งแต่ ลงรองพื้น ลงแป้ง ปัดแก้ม ไฮไลท์ เฉดดิ้ง เลยทีเดียว

ในความรู้สึกอุ้ยนะ ใช้ลงรองพื้นแบบลิควิดได้ค่อนข้างบางเบา แต่อุ้ยใช้มือแล้วเบากว่า ใช้ลงแป้งก็บางเกินไปอ่ะ ธรรมชาติเกินไปเหมือนยังไม่ได้ลงเลย ปัดแก้ม อันนี้เข้าท่าหน่อย ใช้ปัดแก้มสีที่ไม่อ่อนเกินไป ไม่เข้มเกินไป วิ้งเยอะๆ สวย!! ไฮไลท์ ก็ทำได้ค่ะ ไม่หวือหวาอะไร ส่วนเฉดดิ้ง รู้สึกว่าควบคุมยากไปหน่อย...

ขนแปรงนุ่มนิ่มมาก ข่วนหน้าน้อยที่สุดแล้วในบรรดา Face Brush แต่ก็ยังนุ่มสู่ M.A.C 187 ไม่ได้ค่ะ (แหงสิ ราคาห่างกันหลายเท่าตัว) เคยลองไปคลำๆที่ช้อปแล้วเคลิ้มกับ 187 มาก จะสอยมันมาให้ได้ (มุ่งมั่น!!!)

แต่ประเด็นสำคัญ F50 ตัวนี้สีตกมากค่ะ ตั้งแต่ซื้อมา ล้างไม่รู้กี่ 10 ครั้งแล้ว สีก็ยังตกทุกครั้ง สีดำตกออกมาโดนขนสีขาวทุกครั้งที่ล้าง เวลาตากแปรงเกือบแห้ง อุ้ยต้องใช้ Brush Cleansing ล้างซ้ำอีกครั้งเพื่อให้สีที่ตกหลุดออก แต่หลังๆมานี้ดีขึ้นหน่อย สีตกน้อยลงเยอะ (แต่ก็ยังตกอยู่ดี) สรุป เฉยๆ เบื่อที่สีตก


F60 Foundation Brush


แปรงรองพื้นที่เค้าว่าเทพ แปรงตัวนี้ได้รับการเปรียบว่าเหมือน M.A.C 190 เด๊ะๆ ซึ่งทำให้อุ้ยค่อนข้างคาดหวังกับมันมากๆ แล้วก็ต้องผิดหวังอย่างรุณแรงเลยล่ะค่ะ แม้ว่าขนแปรงจะนุ่มแล้วก็แน่น แต่มีขนบางเส้นข่วนหน้าอ่ะ ข่วนแรงด้วย นิดเดียวจริงๆ เสียดายมากๆ T____T

เวลาจะใช้เนี่ยต้องลองจิ้มหน้าดูก่อนว่าด้านไหนที่มันทิ่มแรงกว่า ต้องเอาอีกด้านค่อยๆปาดรองพื้น แปรงตัวนี้ลงรองพื้นได้เนียนมากกกก ลงง่าย แป๊บเดียวก็ทั่วหน้า สรุป ชอบกลางๆ ถ้าขนแปรงไม่ข่วนหน้าจะชอบมากกก


F70 Concealer Brush


แปรงคอนซิลเลอร์ตัวนี้ รีวิวอะไรมากไม่ได้เพราะไม่ค่อยได้ใช้แหล่ะ แหะๆๆ ปกติเวลาลงคอนซิลเลอร์อุ้ยถนัดใช้นิ้วมือมากกว่าฮะ แต่มันก็โอเคเลยนะสำหรับการลงคอนซิลเลอร์แบบครีมแห้งๆ บริเวณสิวเป่งๆ การใช้แปรงลงจะได้ความหนามากกว่าใช้นิ้ว เหมาะกับจุดที่ต้องการปกปิดแบบให้มันหายไปเลย พวกรอยสิวจุดเล็กๆไรงี้ แล้วก็ต้องใช้นิ้วมือเบลนเนื้อคอนให้กลืนกับผิวอีกที

ขนแปรงแน่นมากค่ะ ไม่นุ่มเท่าไหร่ บาดหน้านิดนึงเวลากดแปรงแรงๆ แต่เวลาใช้จริงๆก็ไม่ต้องกดแรงอยู่แล้ว แค่แท็บเบาๆเอง เลยไม่ค่อยมีปัญหาเวลาใช้ สรุป เฉยๆ เพราะไม่ค่อยได้ปิดรอยสิว ถนัดใช้นิ้วในการปิดแพนด้ามากกว่า



วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนละกันนะคะ เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน สำหรับ Eye Brush เดี๋ยวจะมาต่อวันหลังนะคะ

ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ ถ้าต้องการสอบถาม หรือติชม ให้คำแนะนำ ก็คอมเม้นต์ได้เลยนะคะ น้อมรับทุกคำแนะนำจะได้ปรับปรุงต่อไปค่ะ




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2554 19:42:22 น.
Counter : 3135 Pageviews.  

Review : Paula's Choice RESIST Super Antioxidant Concentrate Serum

รีวิวอันนี้เป็น blog ที่ 3 แล้วสำหรับวันนี้ แอบเหนื่อยเหมือนกันแฮะ ฮ่า
ไอเทมที่หยิบมาให้ชมกันก็คือเจ้า Paula's Choice RESIST Super Antioxidant Concentrate Serum เซรั่มที่รวมเอาสาร Antioxidant สุดแสนจะมีประโยชน์มาไว้รวมกัน



อย่าเพิ่งคิดว่าสาร Antioxidant เนี่ยจะเหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยแล้วเท่านั้นนะคะ เพราะการที่เราบำรุงผิวด้วยเซรั่มที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ จะช่วยให้ผิวเราเหี่ยวช้าค่ะ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ไขเสมอนะคะ


เซรั่มตัวนี้จะช่วยปกป้องผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เรื่องวิธีใช้เดี๋ยวพูดกันด้านล่างนะคะ




เปิดแล้วอยู่ได้ 12 เดือน หลังจากนั้นสารบำรุงต่างๆในหลอดจะเสื่อมลงค่ะ




หลอดเป็นแบบทึบแสง ช่วยเก็บรักษาสาร Antioxidant ได้เป็นอย่างดี ปากหลอดมีรูเล็กๆ สามารถกะปริมาณเนื้อเซรั่มได้ เวิร์คจ้า...




เนื้อเซรั่มเป็นสีเหลืองอ่อนๆ หนืดๆ ไม่ได้เสียแต่ประการใดค่ะ น่าจะเป็นสีของ Vitamin C ขอไม่พูดถึงพวกส่วนผสมนะคะ ไม่มีความรู้ด้านนี้จริงๆ พอจะทราบแค่ว่าสารบำรุงต่างๆ นั้นมีประโยชน์ค่ะ รีวิวของคุณปูเป้ค่ะ
ลองเข้าไปหาข้อมูลจากผู้มีความรู้กันดูนะคะ 55555+

เวลาใช้ บีบออกมาประมาณเม็ดข้าวโพดนะคะ เท่าในรูปนี่แหล่ะ แต่ในรูปมันไหลๆ แล้ว เลยอาจจะดูเหมือนบีบเยอะ สามารถทารอบดวงตาได้ด้วยนะคะ เนื้อเซรั่มหนืดๆ นิดหน่อยพอทาไปแล้วตอนแรกหน้ามันแผล่บเลย แอบตกใจ แต่แป๊บเดียวก็ซึมหายเข้าผิวหมดเลยค่ะ



ด้านหลังหลอดเค้าบอกให้ใช้ตอนกลางคือ แต่อุ้ยว่าทากลางวันด้วยก็ไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้ทำให้ผิวเราไวต่อแสง


สรุปผลจากใช้จริง ประมาณ 1 เดือน

อุ้ยแพ้ค่ะ!!! อ่าว แล้วจะมารีวิวทำไม ?
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า อุ้ยเป็นคนแพ้ Oil ทุกชนิด ตอนแรกอ่านส่วนผสมคร่าวๆก็คิดว่ามันไม่มี Oil เลยไม่น่าจะแพ้ พอใช้ไปซักพักจากสิวอักเสบที่ปกติแทบจะไม่ขึ้น ก็ทยอยกันขึ้นเป็น 10 เม็ด ยังค่ะ ยังไม่เอะใจ ช่วงนั้นใกล้วันนั้นของเดือนพอดี แต่พอมันหมดแล้ว สิวก็ยังขึ้นอยู่... เอาแล้วไง นึกไปนึกมา ใช้ Skincare เหมือนตอนที่หน้าใสทุกอย่างนะ ยกเว้นเจ้านี่แหล่ะ เพิ่งเพิ่มเข้ามา ก็หาข้อมูลดู ได้คำตอบชัดเลยว่า ส่วนผสมหลายๆอย่างในเซรั่ม ถึงแม้จะไม่มี Oil แต่มีหลายตัวที่มีคุณสมบัติเหมือน Oil และพอสอบถามคุณปูเป้ คุณปูเป้บอกว่า วิตซีตัวนี้ก็อยู่ในรูปละลายในน้ำมันจ้า... OMG!!!

แต่ๆๆ สิวที่ขึ้นเนี่ย ขึ้นอยู่ที่แก้มข้างซ้ายค่ะ จะบอกว่าแก้มข้างขวาใสมากกก ผิวส่วนที่ไม่มีสิวมันใสขึ้นจริงๆ ไม่ได้ขาวขึ้นนะ แต่เหมือนมันได้รับการบำรุง ดูอิ่มๆ เต่งๆ อยากแนะนำมากๆ สำหรับคนที่ไม่แพ้ Oil เพราะมันดีนะ ราคาก็พอรับได้ ประมาน 900 บาท กับเซรั่มที่มีแต่สารบำรุงอย่างนี้

ตอนนี้เลยยกให้แม่ใช้ไปแล้ว แม่จะได้หน้าเด้งๆบ้าง ^^


มีคำถามหรือต้องการติชม ให้คำแนะนำ ก็ Comment ได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมค่า




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2554 20:35:23 น.
Counter : 9127 Pageviews.  

Mini Review : เปรียบเทียบระหว่าง Maybelline The Falsies และ The Magnum

วันนี้ขออัพรวดเลย เพราะเสาร์-อาทิตย์จะไม่ว่าง อิอิอิ ก็วันนี้ขอรีวิวเปรียบเทียบมาสคาร่าทั้ง 2 รุ่นแบบย่อๆละกันนะคะ เน้นรูปเน๊อะ ^^

Maybelline The Falsies Volum Express Mascara ชื่อเล่น อ้วนม่วง
Maybelline The Magnum Volum Express Mascara ชื่อเล่น อ้วนเหลือง








หัวแปรงของ 2 รุ่นนี้จะแตกต่างกันค่ะ



The Falsies หัวโค้งช้อนขนตาได้ง่าย ตรงคอมันงอๆ ได้ อันนี้บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าดีรึเปล่า 555+
The Magnum หัวโค้งนิดๆ

ความคิดเห็นส่วนตัว The Falsies ปัดขนตาล่างง่ายกว่าค่ะ


Maybelline The Magnum Volum Express Mascara


1. ขนตาปกติ ยาวและหนา โบกแป้งไว้รอบตาเพราะตาดำเป็นหมีแพนด้า
2. ดัดขนตา ชึบๆ
3-4 ปัด The Magnum 2 รอบ ขนตาหนาขึ้น ไม่ยาว เริ่มเป็นก้อนเล็กน้อย


Maybelline The Falsies Volum Express Mascara


1. ขนตาปกติ หนาและยาว แต่ไม่งอน มีแป้งเกรอะกรัง 555555+
2. ดัดขนตาให้งอนเช้ง
3-4 ปัด The Falsies 2 รอบ ขนตาเรียงเส้น ยาวและฟูขึ้นมาก(แต่กล้องจับไม่ได้ หาเลนส์ Macro ไม่เจอ) ไม่เป็นก้อน ค่อนข้างธรรมชาติ


สรุป
ความหนา The Magnum ชนะ
ความยาว The Falsies ชนะ
เรียงเส้น The Falsies ชนะ
จับขนตาเป็นช่อๆ เสมอกัน
แพนด้า The Falsies ชนะขาดลอยยยยย

มีคำถามหรือต้องการติชม ให้คำแนะนำ ก็ Comment ได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมค่ะ




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2554 6:06:58 น.
Counter : 5417 Pageviews.  

Review : Cleansing Express Bright Up Cleansing Lotion โลชั่นเช็ดหน้าสามัญประจำบ้าน

ถ้าถามสาวๆที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ และท่องอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลด้านความสวยความงาม คงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก Cleansing Express ซึ่งได้รับความนิยมจากสาวๆ มากมาย เนื่องจากเป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ง่าย สะอาด สะดวก แถมยังอ่อนโยนอีกด้วย

เมื่อก่อนตอน Cleansing Express ยังไม่ดังมาก อุ้ยก็เป็นคนนึงที่เชียร์เย้วๆ ในกระทู้ต่างๆ ว่ามันดีมากมาย 5555+ สิ่งที่ตอบสนองในวันนี้ คือ ที่หัวหิน Cleansing Express ขาดตลาดฮะ ทั้งวัตสันและบูทส์ทุกแห่งในหัวหิน ไม่มี Cleansing Express ขาย ขวดที่มารีวิวนี้ จกได้มาก่อนที่มวลชนคนกรุงจะแห่กันมากวาดของรักของหวงอิชั้นไปหมดเกลี้ยง ฮ่า...




ที่ต้องไปตามหา Cleansing Express อีก ก็เพราะว่าจะซื้อตัว Cleansing Liquid มารีวิวคู่กัน แต่หาไม่ได้จริงๆ ขอติดไว้ก่อนนะคะ


สูตรที่เลือกมารีวิววันนี้เป็นสูตร Bright Up จากทั้งหมดมี 4 สูตรคือ Moist, Sebum, Bright Up และ Agecare ตัวที่ไม่เคยลองก็มีแค่เอจแคร์ตัวเดียวค่ะ ทั้ง 3 สูตรนี้อุ้ยใช้มาหลายปี รวมๆแล้วเป็น 10 ขวดแล้วล่ะ




ตั้งแต่ออกมาแรกๆ เมื่อหลายปีก่อนก็เป็นขวดปั๊มแบบนี้ค่ะ ตรงคอมีที่ล็อคมาให้ด้วย เผื่อเดินทางไปไหนจะได้ไม่หกเลอะเทะ เวิร์ค... แต่ขวดใหญ่ขนาดนี้ไม่ค่อยพกไปไหนหรอก =-=




ทุกสูตรจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ แบบนี้ค่ะ ปั๊มลงสำลีประมาณ 2-3 ปั๊มก็ชุ่มๆแล้ว ถ้าชุ่มเกินไปอุ้ยว่าเช็ดยากนะ มันเปียกไปหมด

เวลาเช็ดก็เอานิ้วชี้ กับนิ้วก้อยหนีบล็อคสำลีไว้ บางคนก็แนะนำให้ใช้นิ้วชี้กับนิ้วนางล็อค แต่อุ้ยไม่ถนัดอ่ะ แล้วเช็ดเบาๆนะคะ อย่าถูลากปื้ดๆ เดี๋ยวหน้าจะเหี่ยวเอาง่ายๆ ^^




ในชีวิตประจำวันที่แต่งหน้าปกติ ลงรองพื้นด้วยจะใช้ประมาณ 3 แผ่นสำลี อุ้ยพยายามเช็ดไม่เกินนี้ค่ะ เพราะว่าถ้า 4 แผ่นจะเริ่มแสบหน้า (Bioderma ก็แสบ) ทั้งๆ ที่เช็ดเบามือสุดๆแล้ว แต่ 3 แผ่นก็สะอาดแล้วนะ

เค้าบอกว่าเช็ดด้วยตัวนี้แล้วนอนได้เลย ไม่ต้องล้างออก แต่เพื่อความชัวร์อุ้ยจะล้างน้ำเปล่าก่อนรอบนึง แล้วพออาบน้ำก็ล้างด้วยโฟม เพราะเวลากลับถึงหออุ้ยเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนค่ะ แล้วจะกินข้าว เล่นคอม ดูทีวีเรื่อยเปื่อย ค่อยอาบน้ำ ที่ต้องเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนเนี่ย เพราะไม่อยากให้มันอยู่บนหน้าเรานานๆ เปลื่อยหน้านี่แหล่ะ สบายที่สุดดดด


เทียบกับ Bioderma สีชมพู Sensibio
- ประสิทธิภาพในการเช็ดเครื่องสำอาง อุ้ยว่าพอๆกันค่ะ แต่ Cleansing Express จะเช็ดพวก Eyeliner, Mascara ออกน้อยมาก ซึ่ง Bioderma เช็ดออกแต่ต้องใช้เวลา
- ความอ่อนโยนใกล้เคียงกันมากๆ


ความเห็นส่วนตัวต่อ Cleansing Express ทั้ง 3 สูตร

- Moist เป็นสูตรที่ลองเป็นขวดแรกเลยหลังจากหาซื้อ Bioderma ไม่ได้เมื่อหลายปีก่อน อ่อนโยนมากๆ เช็ดหน้าสะอาดเอี่ยม แต่หลังเช็ดจะเหมือนมีฟิล์มเคลือบผิวไว้ เหนียวๆนิดนึง คิดว่าคงเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายอุ้ยก็ล้างน้ำเปล่าออกอยู่ดี

- Sebum เนื่องจากไม่ค่อยชอบที่รุ่น Moist นั้นเคลือบผิว เลยมาลองรุ่น Sebum ก็ปรากฏว่าไม่เป็น เช็ดสะอาดเหมือนกัน ใช้มาประมาณ 4 ขวดผิวหน้าก็แห้งลงมากจนลอกเป็นขุยหลังเช็ด แสบหน้าง่าย จนต้องเลิกใช้ กลับไปใช้รุ่น Moist เหมือนเดิม

- Bright Up เป็นสูตรที่มีทีหลังจาก 2 รุ่นแรก ค้นพบว่ามันไม่มีอะไรเคลือบผิว แถมใช้มาเกิน 4-5 ขวดหน้าก็ไม่ได้แห้งลงกว่าเดิม จึงยกให้เป็นคลีนซิ่งในดวงใจ ใช้สลับกับ Bioderma ค่ะ บางทีก็เช็ดสลับกัน สำลีแผ่นแรกเป็น Cleansing Express แผ่นที่สองเป็น Bioderma ฮ่า เช็ดขำๆ คือมันคล้ายกันมากๆ ในส่วนเรื่อง Bright Up ผิวได้รึป่าวนั้นอุ้ยไม่ได้สนใจอ่ะค่ะ มันอยู่บนหน้าเราแป๊บเดียว ถึงจะมีสาร Active ก็คงยังไม่มีเวลาออกฤทธิ์ 555+


Cleansing เป็นสิ่งที่สำคัญในการล้างหน้านะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้า แต่แค่ทาครีมกันแดด ก็ควรเช็ดด้วย Cleansing แล้ว กันแดดบางอย่างอาจจะบอกว่าล้างออกง่าย แต่เราก็ไม่ควรเอาหน้าเราไปเสี่ยงใช่มั๊ยคะ อุ้ยว่า Cleansing Express ก็ไม่ได้ราคาแพงมากจนเกินไป ลงทุนหน่อยดีกว่าเน๊อะ ผิวของเราจะได้สวยๆกันถ้วนหน้า


หากมีคำถาม ต้องการติชม หรือแนะนำอะไรก็ Comment ไว้ได้เลยนะคะ

แล้วถ้าต้องการคุยเล่น ทักทายก็คุยกันได้ใน Chat Box ด้านขวามือเลยค่ะ ^^




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2554 15:20:30 น.
Counter : 5898 Pageviews.  

Review : Coffret D'or Silky Lasting UV Pact แป้งผสมรองพื้น เนียน แต่บางเบา..

โผล่หน้ามารีวิวกันอีกแล้ว ขอขุดของใช้ประจำวันมารีวิวหน่อยละกันค่ะ เผื่อใครกำลังมองหาแป้งผสมรองพื้นอยู่ เพราะเท่าที่ดูแล้วไม่ค่อยเห็นใครรีวิวแป้งตัวนี้เลยอ้ะ

Coffret D'or Silky Lasting UV Pact ที่อุ้ยใช้เป็นสี OC-B นะคะ ซึ่งแป้งรุ่นนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะออกมาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นแป้งสำหรับสาวผิวมัน เพราะปรับปรุงสูตรให้เนื้อสัมผัสบางเบา แต่ยึดติดกับผิวได้ดีขึ้น มอบผิวเปล่งประกายเงาวาวดูเป็นธรรมชาติ และติดทนนาน



ตอนแรกอยากได้เพราะตลับเลย เห็นในเน็ตแล้วรู้สึกว่าตลับมันสวยมว๊ากกก แต่พอได้มาก็เริ่มเฉยๆนิดหน่อย แฮะๆๆ ความจริงมันก็สวยแหล่ะ แต่ไม่เท่าที่คิดไว้แค่นั้นเอง


Coffret D'or ส่วนใหญ่จะแยกผลิตภัณฑ์กับตลับนะคะ แป้งรุ่นนี้ก็เหมือนกัน คือแป้งของ Lunasol Coffret D'or แล้วก็ Impress เนี่ย จะใส่ตลับร่วมกันได้ อ้อ... น่าจะ Freshel กับ Kate ด้วย เครือเดียวกัน ^^




พัฟฟองน้ำมาพร้อมตลับแป้ง นุ่มมากกกกกกก แล้วก็ไม่แน่นค่ะ คิดว่าทำให้แป้งดูเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าพัฟแน่นๆ ก็จะ Pack แป้งลงบนหน้าเราได้เนียนๆแน่นๆเหมือนกัน




สิ่งที่อุ้ยชอบของตลับแป้งก็คือก้นโปร่งๆนี่แหล่ะ ทำให้พัฟไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี แล้วรูที่เอาไว้เปลี่ยนแป้งก็ใหญ่ดีด้วย ชอบๆๆ




มาดูสีแป้งกันดีกว่า อันนี้สี OC-B เป็นโทนเบจๆออกชมพูนิดหน่อย ค่อนข้างขาวมากๆ ขาวกว่าผิวอุ้ยนิดนึงค่ะ แต่เวลาทาแล้วพอแป้งเซ็ตตัวก็จะพอดีๆกับหน้า




แอบปาดสีออกมาให้ดู ได้ประมาณนี้ แป้งไม่ร่วนมากนะคะ ใช้แปรงปัดวนๆ ก็จะออกมาเป็นฝุ่นๆนิดหน่อย อุ้ยชอบใช้พัฟในการลงมากกว่าเพราะเนียนกว่าใช้แปรงเห็นๆ





ทีนี้มาลองดูประสิทธิภาพการปกปิดกันดีกว่าค่ะ



จำลองรอยดำ รอยสิว แล้วก็รอยแดง... ภาพก็ชัดเจนเน๊อะ ปิดได้ไม่หมดค่ะ แต่ทำให้จางลงเยอะ อันนี้อุ้ยใช้พัฟกดย้ำๆแล้วนะคะ โบกเต็มที่แล้วได้เท่านี้ ถ้าจะปิดรอยให้กริบๆ ลงคอนซิลเลอร์ช่วยจะเวิร์คมากค่ะ



เลยลองลงกับผิวหน้าให้ชมด้วย (โปรดมองข้ามสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และสิวอุดตันต่างๆบนแก้ม T^T)



ภาพแรก ผิวเปล่าๆ ลงสกินแคร์แล้ว มีความมันๆพอสมควรเลย
ภาพสอง ลงแป้งด้วยแปรง (เอาพัฟไปอาบน้ำพอดี) สีผิวขาวขึ้น เนียน สม่ำเสมอขึ้น แต่ก็ขาวกว่าผิวจริงไปเล็กน้อย
ภาพสาม ผ่านไปประมาน 4 ชม. แป้งกลืนเข้ากับผิว เงาขึ้น มีความมันค่ะ แต่ยังมีแป้งอยู่บนหน้า


จากที่ใช้แป้งตัวนี้มาหลายเดือน ต้องบอกเลยว่า เป็นแป้งที่ชอบมากๆ เพราะบางเบา แต่ติดทนนาน ไม่คุมมันแต่เวลาหน้ามันก็จะไม่เละ ไม่เยิ้มมาก พอซับมันเสร็จผิวจะเนียนเหมือนเดิมค่ะ

สามารถใช้ Touch up ระหว่างวันได้นะคะ แต่ต้องซับความมันออกจากผิวก่อน ไม่หนาเกินไปค่ะ



หวังว่ารีวิวนี้น่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ หากมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามอะไร หรือต้องการติชม Comment ได้เลยนะคะ

ปล. อุ้ยทำ Chat Box ไว้ด้านขวามือ ถ้ามีคำถามหรือต้องการคุยเล่นก็คุยกันได้เลยค่า ^^




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 2:18:30 น.
Counter : 5521 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

Pinoui
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Oui Pinprapai



ShoutMix chat widget

free web counter
free web counter

Start : October 2011
Friends' blogs
[Add Pinoui's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.