Group Blog
 
All Blogs
 
เป็นคุณครูคนใหม่ ในเกาหลี

เริ่มงานใหม่ในต่างแดนวันแรก....เป็นอย่างไรกันบ้างคะ

ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่เลยค่ะ
ต้องไปเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ
ยังดีที่มีเทป กับ ซีดี ช่วยสอนอยู่บ้าง
แต่ก็ต้องพูดเยอะ ่สื่อสารกับเด็ก

เครียดมาหลายวันแล้ว
ถ้าผ่านอาทิตย์นี้ไปได้
อะไรก็คงจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น


แม่บ้านต่างแดน ตอนเริ่มงานวันแรกเป็นอย่างไรกันบ้างคะ
ช่วยแชร์ให้ฟังหน่อย
ตอนไปฝึกสอนอาทิตย์ที่แล้วเราก็เครียดจนร้องไปแล้วรอบหนึ่ง
วันนี้สอนจริง ๆ
อีกสองชั่วโมงข้างหน้า

T_T

จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 3 พ.ย. 51 10:13:36 ]


ความคิดเห็นที่ 1

เริ่มงานใหม่ แปลกที่ แปลกคน ก็คงสับสนบ้างเป็นธรรมดา
แต่มันจะผ่านไปค่ะ และคุณจะเก่งขึ้นทุกวันๆ
มีเพื่อนเคยบอกว่าถ้าคิดอะไรไม่ออก
ให้สูดหายใจลึกๆ แล้วทำใจให้สงบ

เอาใจช่วยค่ะ

จากคุณ : ม.แมว - [ 3 พ.ย. 51 13:29:15 ]



ความคิดเห็นที่ 2

มั่นใจเข้าไว้ค่ะ

ถ้ามั่นใจแล้ว จะลองโดนวิชาหรือเด็กลองของใส่ ยังไงก็เอาอยู่ค่ะ

คิดดูสิ ว่าคุณเก่งแค่ไหน เป้นคนต่างชาติที่ไปสอนภาษาอื่นนะ ต้องมั่นใจในตัวเองค่ะ

จากคุณ : yuy - [ 3 พ.ย. 51 17:22:51 A:124.121.27.96 X: TicketID:124751 ]





ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณ คุณ ม.แมวน้ำส้ม และคุณยุ้ย น้ำส้ม มาก ๆ ค่ะ

ใช่เลยค่ะ คุณแมว มันเหมือนเอ๋อ ๆ สับสน ๆ ยังไงก็ไม่รู้
เขิน ๆ เงียบ ๆ หลบ ๆ ผู้คนเล็กน้อย

พยายามมั่นใจอยู่เหมือนกันค่ะ คุณยุ้ย แต่เหมือนจะไม่ไหว
แต่เหมือนเด็กที่นี่เค้าจะเรียนกันตั้งแต่เล็ก ๆ
เวลาพูดที เค้าจะ stress เสียงกันสุดชีวิต
แล้วก็สำเนียงเกาหลีกันทั้งโรงเรียน
เหมือนเรามาจากหลังเขายังไงก็ไม่รู้ค่ะ ^^

กลับมาจากสอนแล้ว

ไม่แย่อย่างที่คิด
แต่ก็ไม่ดีอย่างที่หวัง
คงต้องพยายามต่อไป

วันนี้สอนสามวิชา
ผิดคิวซะสอง
เนื่องจากหัวหน้าบอกเราว่าให้เราเริ่มสอนจากหน้านั้น หน้านี้ ต่อจากคนอื่น
พอไปถึง นักเรียบบอก เรียนไปแล้ว
เอาหล่ะซิ เราก็เตรียมตัวมาแบบพอดี ไม่ได้เผื่อล่วงหน้า
ก็เลยแกน ๆ สอน ไป เหมือนเด็กก็จะเข้าใจว่าเรายังใหม่

อีกวิชา ทางโรงเรียนลืมบอกนักเรียนว่าเปลี่ยนแผนการสอน
นักเรียนเลยไม่ได้เอาหนังสือมาเลย
เราจะไปทำสำเนาให้ เครื่องถ่ายเอกสารของโรงเรียนก็เจ๊งคามือเราเลย
ถ่ายเสร็จไปแค่สามหน้า
ก็เลยต้องเรียนกันแค่สามหน้า
เวลาเหลือ ไม่รู้จะทำไงดี ก็ให้นักเรียนอ่านวนแล้ว วนอีก
จนเด็กเริ่มงง

ส่วนวิชาแรก เด็กนักเรียนเพิ่งเริ่มเรียนกะครูต่างชาิติ
ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย เพราะเด็กยังพูดภาษาเกาหลีในห้องเรียน

สรุปว่า แค่สามวิชา แต่เหนื่อยมิใช่น้อยเลยค่ะ
ต้องเตรียมการสอนแบบ อ่านแล้วอ่านอีก
อ่านให้แฟนฟัง สองสามรอบเพื่อความมั่นใจ


พรุ่งนี้สอนอีกสามวิชา
สู้ ๆ ค่ะ

จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 3 พ.ย. 51 18:28:53 ]





ความคิดเห็นที่ 4

ตื่นเต้นคะ กลัวจะทำเครื่องคอมเค้าพัง เพราะตอนแรกดิฉันไม่เข้าใจภาษาเยอรมัน ถ้าโปรแกรมเดี้ยงนี่ดิฉันตายอย่างเดียวคะ

จากคุณ : @..pity..@ - [ 3 พ.ย. 51 20:09:28 ]





ความคิดเห็นที่ 5

พรุ่งนี้จะดีขึ้นค่ะ ...

จากคุณ : ม.แมว - [ 3 พ.ย. 51 21:20:21 ]





ความคิดเห็นที่ 6

ผ่านวันแรกไปแล้ว วันต่อๆไปก็ถนัดขึ้นเรื่อยๆค่ะ (เคยเป็นครูสอนเด็กๆเหมือนกัน เหนื่อยนะ ต้องพูดทั้งชั่วโมงเนี่ย และเกลียดการเตรียมสอนมากๆ)

ดิฉันเริ่มงานแรกในเมกาด้วยการเป็น bookkeeper (ทำบัญชีและธุรการให้บริษัท) ออกเช็คผิดใบหลายใบแฮ่ะๆ ภาษาอังกฤษที่คิด(เอาเอง)ว่าใช้ได้ในระดับดีมาจากเมืองไทยเพราะทำบริษัทต่าง ชาติ ก็เอ๋อๆงงๆ ใครโทรมาไม่กล้ารับสายเพราะคุยไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นหน้า ยิ่งสำเนียงคนดำนี่ลืมไปเลย แทบจะวางหู

ตอนหลังได้เปลี่ยนงานเพราะมีตำแหน่งอื่นว่าง เราก็โชคดีไป เพราะไม่ต้องมายุ่งเรื่องเงินๆทองๆของบริษัท

จากคุณ : yinnerella - [ 3 พ.ย. 51 23:15:05 ]





ความคิดเห็นที่ 7

ตื่นเต้นสุดๆ เกลียดมากที่สุดเวลาต้องพูดกับใครทางโทรศัพท์
คนฟังเค้าก็หัวเราะสำเนียงเรา (ถ้าพูดปกติเค้าจะโอเค ยกเว้นบางคำ ออกงัยก็ไม่ได้ เหะเหะ)
แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์นะคะ โอย พูดไปตื่นเต้นไป
ทำงานหนุกดีทุกงาน แต่เหนื่อย และมีเบื่อๆ เป็นบางครั้ง
เวลาเบื่อมากๆ จะมานึกถึงภาพคนที่ไม่มีงาน และคนที่ลำบากกว่า
พอคิดแบบนั้นแล้ว ก็ฮึดต่อไป

จากคุณ : Angel N. - [ 4 พ.ย. 51 02:01:32 ]

: blueprint




ความคิดเห็นที่ 8

วันนี้เพิ่งไปเริ่มงานใหม่เลยค่ะ เป็นงานฟูลไทม์ในบริษัทเอกชนเดนมาร์ก เป็นงานแรก ตอนแรกก็หวาดๆ เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง เพราะแผนกที่ทำเป็นแนว R&D ซึ่งพวก engineer เยอะว่าจะคุยแต่อะไรที่เป็นด้านเทคนิคแล้วจะไม่เก็ท แต่สรุปว่าปล่อยมุขกันตลอดค่ะ (แม้แต่หัวหน้า) แถมในแผนกดิฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวด้วย เลยได้หนุ่มๆ ช่วยเหลือดีเลยค่ะ

จากคุณ : MingDK - [ 4 พ.ย. 51 04:06:46 ]





ความคิดเห็นที่ 9

ทำงานวันแรก กังวลไปร้อยแปดอย่างค่ะ
กลัวจะทำนั่นไม่ได้ ทำโน่นไม่ดี
ไม่ได้ทำงานนานแล้ว ฉันจะทำได้ไหมเนี่ย

แล้วเรื่องโทรศัพท์นี่ใช่เลยค่ะ เกร็งสุดๆ
ภาวนาว่าอย่าเพิ่งมีโทรศัพท์เยอะเลยนะ
กลัวฟังไม่รู้เรื่อง กลัวเค้าฟังเราไม่ออกด้วยสิ

คุณนายฯเก่งนะคะ ได้ไปสอนภาษาในประเทศอื่นด้วย
เอาใจช่วยค่ะ อีกหน่อยก็ชำนาญ

คุณมิ้ง ดิฉันก็ทำกะพวกแนวนี้เหมือนกันค่ะ เป็นผู้หญิงคนเดียว
ขอบอกว่าทำแล้วสบายใจ หายห่วงค่ะ พวกนี้ส่วนใหญ่ง่ายๆ
ไม่เรื่องมาก ไม่มีเรื่องจุกจิกหยุมหยิมเหมือนทำงานกะผู้หญิงเยอะๆ
(แต่ก็แล้วแต่คนด้วยเนอะคะ)

จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 4 พ.ย. 51 04:32:26 ]





ความคิดเห็นที่ 10

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่ร่วมแชร์
น้ำส้ม @..pity..@

น้ำส้ม ม.แมว (ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาอีกรอบ)

น้ำส้ม yinnerella

น้ำส้ม Angel N.

น้ำส้ม MingDK

น้ำส้ม ตรีนุช3903

....ตอนก่อนมาเกาหลี มีแต่คนบอกว่า คนเกาหลีชาิตินิยม
เลยพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เราเลยย่ามใจ
พอเค้าเสนองานให้ก็รับ คิดว่า คงสอน แค่ ABCD
พอมาถึงเจอทั้งอาจารย์ ทั้งนักเรียนตัวเล็ก ๆ แต่พูดภาษาอังกฤษได้ดี
(เผลอ ๆ นักเรียนจะพูดดีกว่าเราซะอีก ^^)

ดีที่ว่า หลาย ๆ วิชาที่เี้ค้าให้เราสอน มีเทปและซีดี
เปิดให้นักเรียนฟัง พูดตาม ช่วยชีวิตเราไปเยอะเลยค่ะ

อย่างเห็นรูปหมีขาว ๆ ในหนังสือ
แฟนถามว่าอะไร เราบอก "หมีโคล่า"
แฟนบอก "โพล่า".... T_T ใครจะไปรู้หล่ะเนี่ย แรคคูนงี้
รู้จักแต่จิ้งจก จิ้งเหลน ^^

แต่ก็ดีหน่อย คือทางโรงเรียนปล่อยให้เราสอนโดยอิสระ
ไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว
ครูที่โรงเรียนก็เป็นผู้หญิงล้วน (คนเกาหลีทั้งหมด)
มีสามีเราคนเดียวที่เป็นผู้ชาย
ก็ได้สามีช่วยชีวิตไว้เยอะเหมือนกันค่ะ
บางครั้งตอนเราเอ๋อ ๆ สามีโผล่หน้าเข้ามาให้ห้องเรียน
ทำให้เราอยากร้องให้ (ไม่ได้เรื่องเลยเรา)

คนอื่นเค้าสอนกัน เจ็ด ถึง สิบวิชา ต่อวัน
เราแค่สามวิชาก็ใช้เวลาเตรียมการสอนพอ ๆ กับคนที่สอน สิบวิชาเลย

สุดท้าย ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มาร่วมแชร์ และรับฟังค่ะ

ดอกไม้

จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 4 พ.ย. 51 07:31:21 ]





ความคิดเห็นที่ 11

สนุกดีออกคะ่ สอนหนังสือเด็กๆ
อีกหน่อยพอรู้ใจกันแล้วยิ่งสนุก
เหนื่อยแต่ได้ความปลื้มใจมาเยอะ

เคยเดินผ่านเด็กๆตอนเข้าแถว
เด็กๆเรียกชื่อ โบกมือให้กันใหญ่
พอเดินโบกตอบ
ยังถูกเพื่อนร่วมงานแซวเลยว่า ท่าโบกเหมือนนางงามจักรวาลตอนรับตำแหน่งไงงั้น

จากคุณ : She said (She said) - [ 4 พ.ย. 51 09:32:28 ]





ความคิดเห็นที่ 12

ไปเรื่อยๆก็ชินเองค่ะ

เราก็ไม่ชอบรับโทรศัพท์ฝรั่งเหมือนกัน

จากคุณ : yuy - [ 4 พ.ย. 51 21:44:36 A:124.121.17.117 X: TicketID:124751 ]





ความคิดเห็นที่ 13

งานแรกในอเมริกาของเราคือ สาวโรงงานเย็บผ้า
เราตื่นเต้นกับจักร เครื่องใช้ไม้สอย ส่วนกับผู้ร่วม
งานเราเฉยๆเพราะมันแทบไม่ต้องเกี่ยวข้องกันเลย
แถมห้ามคุยกันอีก

ส่วนรับโทรศัพย์ฝรั่งยังพอว่านะ แต่เมื่อวานรับโทรศัพย์
จากครูคนจีนของลูก (ที่เมืองจีนเธอสอนภาษาอังกฤษ
ด้วยนะ) ดิฉันฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ต้องเปลี่ยนให้สามี
รับ

จากคุณ : ปรารถนา - [ 4 พ.ย. 51 23:03:14 ]





ความคิดเห็นที่ 14

แวะมาเอาใจช่วยจ้า

จากคุณ : Irish girl - [ 5 พ.ย. 51 04:27:56 ]





ความคิดเห็นที่ 15

เคยทำงานให้กับธนาคารที่ออสค่ะ ต้องติดต่อลูกค้าเวลาที่เขาใช้วงเงินเกิน (และจ่ายเงินไม่ตรงเวลา) ของบัตรเครดิต ตื่นเต้นสุดๆ ค่ะ สำเนียงออส มาแรกๆ สุดยอด .... ฟังไม่เข้าหูเลย

ลูกค้าส่วนใหญ่ดีค่ะ แต่ไม่ดีก็เครียดไปเลย เขาชอบว่าเราไม่พูดสำเนียงออส ไม่เชื่อถือบ้างล่ะ โทรมาอินเดียบ้างล่ะ (อันนี้ คุณลูกค้าเป็นอินเดียที่อยากเอาบาทายัดปากมาก มาหาว่าอิชั้นสำเนียงอินเดีย เธออ่ะแหละ ภารตะมาเลย)
แต่จริงๆ เราก็พูดสำเนียงออสไม่ได้ค่ะ เรียนมา อาจารย์ที่มหาลัยเป็นเมกันส่วนใหญ่ เลยยังติดแบบเมกัน

เอาใจช่วย จขกท นะค่ะ

จากคุณ : n_nacha - [ 5 พ.ย. 51 14:43:37 ]





ความคิดเห็นที่ 16

เริ่มงานวันแรก สติแตกค่ะ เพราะภาษาสวิดิชของดิฉันร่อแร่ร่องแร่งมาก (ทุกวันนี้ก็ยังร่อแร่อยู่) แถมยังต้องพยายามจำหน้าจำชื่อเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ เหนื่อยทั้งกายทั้งใจเลยค่ะ

แล้วงาน Purchaser ของดิฉันมันต้องใช้โทรศัพท์เป็นหลัก กว่าจะรวบรวมความกล้าโทรศัพท์ไปหาซัพพลายเออร์สวีดิชได้นี่ต้องตั้งนะโมอยู่ หลายจบ แต่ก็ผ่านไปได้ค่ะ เพราะพอพูด ๆ ไปแล้วเราเริ่มไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ดิฉันก็เปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษแทน

ตอน นี้ดิฉันมีซัพพลายเออร์อยู่ทั่วโลก ทั้งอังกฤษ อเมริกัน จีน ญี่ปุ่น ก็จูนหูไปเรื่อย ๆ น่ะค่ะ คาดว่าฝ่ายตรงข้ามก็ต้องจูนหูให้เข้ากับ Thailish ของดิฉันเหมือนกัน

ชีวิตในที่ทำงานในสวีเดนนี่ก็แปลกมาก เพราะว่าหาเพื่อนสนิทในที่ทำงานยากจริง ๆ คนสวีเดนเขามักแยกงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันเด็ดขาด ดิฉันก็เลยต้องทำตัวแบบคนสวีเดนเหมือนกัน ผิดวิสัยของตัวเองมากเลย บางทีก็เลยรู้สึกเบื่อที่ทำงาน

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ตัวเองไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ การไม่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย

จากคุณ : A-Chee - [ 5 พ.ย. 51 17:38:20 ]





ความคิดเห็นที่ 17

แรกๆก็เหนื่อยและเครียดหน่อยนะคะ แต่อีกสักพัก พออะไรเข้าที่เข้าทาง ความเชื่อมั่นในตัวเองมันก็จะค่อยๆมา จากนั้นก็จะสนุกและเพลินกับการเรียนการสอนจนลืมเรื่องเครียดเรื่องสั่นไปเอง ค่ะ

นึกย้อนอดีตไปตอนดิฉันจบครูใหม่ๆ พอสอบบรรจุได้ ชั่วโมงสอนชั่วโมงแรกคือสอนเด็กนักเรียนชั้น ม. 6 ค่ะ นร. บางคนแก่กว่าครูเสียอีก "- - แถมเด็กมันปากดีอีกต่างหาก แซวเสียจนขาดิฉันงี้สั่นไปหมด นึกถึงความหลังแล้วก็ขำดี

ตอนนี้ดิฉัน ทำงานฟรีแลนซ์ ทุกวันเวลาไปทำงานนี้คือการเริ่มต้นใหม่ เพราะต้องไปเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องภาษานั้นก็ไม่ใช่ว่าเก่งกาจอะไรนักหนา อาศัยว่าหน้าด้าน พูดผิดพูดถูกก็พูดไปเรื่อยๆ หากเพื่อนร่วมงานและคนไข้/ญาติคนไข้ยังฉงนสนเท่ห์ว่าเธอพูดอะไรน่ะ ฉันฟังไม่ออก ดิฉันก็จะควักกระดาษมาเขียนให้เค้าดูซะเลย อิอิ

จากคุณ : Smilla - [ 6 พ.ย. 51 06:27:00 ]





ความคิดเห็นที่ 18

คุณ A-Chee สงสัยว่าคุณต้องไปทำงานดูแลเด็ก (Barnomsorg) รับรองว่าจะได้เพื่อนเพียบเลย ตอนดิฉันทำงานเป็นผู้ช่วยครูที่ Dagis ที่สวีเดนนะ ดิฉันมีเพื่อนสนิทจากที่ทำงานหลายคน ชวนกันไปกินไปเที่ยวเฮฮากันบ่อยๆ :)

จากคุณ : Smilla - [ 6 พ.ย. 51 06:29:10 ]





ความคิดเห็นที่ 19

ตอนนี้แย่มากเลยค่ะ
เตรียมแผนการสอนไม่เสร็จ
ไม่มีใครบอกเราเรื่องหนังสือ
เราเพิ่งมารู้ตอนกลับถึงบ้านแล้ว
ว่า ต้องใช้หนังสือควบคู่กับหนังสือที่เรามีอยู่

วันนี้สอนสามวิชา
เราไม่พร้อมทั้งสามวิชา

ช่วงนี้รู้สึกเอ๋อ มาก
สอนอาทิตย์แรก
เจอนักเรียนหมุนเวียนกันไปทุกวัน ๆ
ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ ไม่มีภาษาไทยเลย
เพื่อนร่วมงานเค้าก็ทักทาย
แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน


สามีก็ปลอบใจว่าเราเพิ่งเริ่ม
คนอื่นเค้าก็มีพลาด แต่เค้าไม่ได้มาบอกเรา
สามีเองก็เคยพลาด
เราก็เข้าใจ
แต่เราอยากทำให้ได้ดีกว่านี้
รู้สึกว่า ยังทำได้ไม่ดี

พอสามีปิดประตูออกจากบ้าน
เราก็ร้องให้โฮ
บางวิชาเราก็สอนได้ แต่บางวิชามันก็ยากจริง ๆ

วันนี้มีสอนบ่ายสองครึ่ง
แต่เราต้องไปตั้งแต่เช้า
เพื่อไปเตรียมแผนการสอนต่อ

ไม่อยากเจอหน้าบอสเลย

จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 6 พ.ย. 51 07:04:49 ]


Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 20:23:10 น. 6 comments
Counter : 586 Pageviews.

 
... สอนเด็กเหรอคะสู้ ๆ นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ...

มั่นใจซะอย่างอะไรก็เป็นไปได้ค่ะ

Photobucket


โดย: Vannessa วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:22:41 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้นะคะ ช่วงแรกๆ ต้องต่อสู้กับความรู้สึกตัวเราเองมากหน่อย แต่สักพักใหญ่ๆ ไปแล้วพอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง จะหายเครียดนะคะ เข้าใจกับความรู้สึกเลยค่ะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:21:04 น.  

 
เเรกๆก้อเหมือนจะเครียดค่ะ


ไปนานๆเเล้วลงตัว

เเล้วเดี๋ยวก้อชินค่ะ


เปนกำลังใจให้นะคะ


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:39:10 น.  

 
หลงมาอ่านค่ะ
แต่ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
คงจะตื่นเต้นน่าดูนะคะ

หาได้ไม่กี่รายนะคะเนี่ย ที่เป็นครูไทย แล้วไปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กเกาหลีเนี่ย ( คนเดียวรึเปล่าคะเนี่ย)


โดย: freedom of life IP: 89.211.42.222 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:10:29 น.  

 
อยากหาเพื่อนคนไทยในเกาหลีคะ พอดีจะยาย ลูกไปเรียนที่เกาหลีิดือน มีนาคมนี้คะ พูดเกาหลี ไมไดค่ะ lily_aiai@hotmail.com ฝากดวยคะอยากหาเพื่อนคนไทยในเกาหลีคะ พอดีจะยาย ลูกไปเรียนที่เกาหลีิดือน มีนาคมนี้คะ พูแเกาหลี ไมไดค่ะ lily_aiai@hotmail.com ฝากดวยคะ


โดย: pim IP: 110.49.232.76 วันที่: 2 มีนาคม 2556 เวลา:0:16:48 น.  

 
อยากหาเพื่อนคนไทยในเกาหลีคะ พอดีจะยาย ลูกไปเรียนที่เกาหลีิดือน มีนาคมนี้คะ พูดเกาหลี ไมไดค่ะ lily_aiai@hotmail.com ฝากดวยคะอยากหาเพื่อนคนไทยในเกาหลีคะ พอดีจะยาย ลูกไปเรียนที่เกาหลีิดือน มีนาคมนี้คะ พูแเกาหลี ไมไดค่ะ lily_aiai@hotmail.com ฝากดวยคะ


โดย: pim IP: 110.49.232.76 วันที่: 2 มีนาคม 2556 เวลา:0:17:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณนายเหรียญบาท
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




SmileyOn this planet, in this lifetime, there are so many people we know, but how many of those...will love us and be our friend?


SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley



Friends' blogs
[Add คุณนายเหรียญบาท's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.