|
:: IELTS Tips : Speaking ::
:: Module สุดท้ายกันแล้ว ส่วน Speaking มีคติประจำว่า "ทำตัวให้เหมือนคนพูดเก่ง พูดให้มากที่สุด เท่าที่จะมาได้ อย่าหยุด ถ้าผู้สัมภาษณ์ไม่บอกให้หยุด" แค่นี้ก็ได้ Band สูง ๆ แล้วค่ะ
ส่วนของการพูดประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย ใช้เวลา ประมาณ 15 นาที 1. การแนะนำตัวและสัมภาษณ์ (4-5 นาที) 2. การพูดจากหัวข้อที่ได้รับ (เตรียม 1 นาที พูด 2 นาที) 3. การสัมภาษณ์ หัวข้อต่อเนื่องจากข้อ 2 (4-5 นาที)
Tips ดี ๆ มีอยู่ว่า :
+ ตอบให้ยาวที่สุดเท่าที่จะยาวได้ + อย่าถามผู้สัมภาษณ์กลับ + ถามชื่อให้ตอบเฉพาะชื่อกับนามสกุล (ไม่ต้องใส่ My name is...) + ถามว่ามาจากไหน ตอบว่า Thailand + พูดว่า What's do you mean exactly? เมื่อไม่เข้าใจคำถาม + เมื่อไม่ได้ยินให้พูดว่า Sorry เท่านั้น ไม่พูด Pardon + ใช้เวลาในการเตรียมพูด 2 นาทีอย่างคุ้มค่า (เขียนเป็น Mild map หรือ Topic list) + สบตาผู้สัมภาษณ์ และอ่านริมฝีปาก + ยิ้มแย้มแจ่มใส + พูดและคิดเป็นภาษาอังกฤษ อย่างสม่ำเสมอ
การประเมินการพูด :
+ ความคล่องแคล่วและประติดประต่อ : พูดไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด และมีการเชื่อมโยงที่ดี + การเลือกใช้ศัพท์ : เลือกศัพท์หลากหลาย และยาก + การเลือกใช้ไวยากรณ์และความถูกต้อง : ใช้ประโยชน์ซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย + การออกเสียง : ออกเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ เน้นสูงต่ำให้ถูกต้อง และชัดเจน เช่น Computer เน้นตรง pu นะค่ะ
อ่านะ รู้แค่นี้แล้วก็เอาไปสานต่อกันเลยทีเดียว
การทำแบบฝึกหัดและเอาตัวเองเข้าไปในสภาพแวดล้อมของการใช้ภาษามาก ๆ จะเป็นผลดีต่อการสอบมากเลยค่ะ
พร้อม .... ลุยเลย
Create Date : 10 กรกฎาคม 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2552 13:59:03 น. |
Counter : 681 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
:: Find out University : เรียนที่ไหนดี ::
:: การหาที่เรียนนี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันน้า เริ่มต้นอย่างไรดีล่ะ ไม่รู้ล่ะ แต่เราเริ่มอย่างนี้
+ เลือกประเทศที่ต้องการเรียน : Australia
+ เลือกรัฐที่ต้องการเรียน : Victoria, New South Wales, Queensland, Western Australia (ตามลำดับ)
+ เลือกเมืองที่มีความสนใจ (อยากไป๊ อยากไป) : Melbourne, Sydney, Brisbane, Perth
+ เลือกสาขาที่ต้องการเรียน : เช็คข้อมูล U จากเว็บไซด์ ว่ามีสาขาที่เกี่ยวข้องหรือไม่ : MIT, IT, Com Science, IS
+ เลือกสาขาย่อยที่ต้องการเรียน : ดูว่าในสาขานั้นมีสาขาย่อย หรือ อาจารย์ที่มีความชำนาญด้านนี้หรือไม่ / Artificial Intelligent, Multimedia, Com Education
+ โดย..หาข้อมูล Supervisor ใน area เดียวกับที่เรียน / เข้าไปหน้าเว็บของ U ที่เลือกเรียน เมนูที่จะหา Sup ได้คือ postgraduate, International student, Research และหา Research Staff หรือ Research Supervisor .. ตัวอย่าง //www.rmit.edu.au/browse;ID=h6eyctr423xe1#40012800
+ หรือ หาหัวข้อ research ใน U ที่ต้องการเรียนว่า U สนใจ research หัวข้ออะไรบ้าง และสอดคล้องกับหัวข้อที่เราต้องการทำแค่ไหน
++ พอได้ Sup และ มี Proposal (ที่เสร็จพร้อมส่ง) ก็ลงมือส่งตรงไปยัง Sup เป้าหมาย ได้เลย ++
นี่แหล่ะค่ะคือ ขั้นตอนการเลือก U ให้ได้ตั้งใจปรารถนา
แต่ขั้นตอนก่อนไปเรียนยังมีอีกหลายอย่างเลย ไม่ว่า การเขียน proposal, การส่ง proposal และการสมัคร รวมถึงการได้ Offer
เดี๋ยวจะมีมาเล่าสู่กันฟังในครั้งต่อ ๆ ไปนะค่ะ
"เอาล่ะ เลือก U ให้ได้ก่อน จะได้ได้ว่าเป้าหมายคืออะไร" งัยค่ะ
Ps, Supervisor หมายถึง Advisor หรือ Professor ที่เป็นที่ปรึกษาในการทำวิจัยนั่นเอง
Create Date : 01 กรกฎาคม 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2552 12:04:55 น. |
Counter : 333 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
:: IELTS Tips : Writing ::
:: Writing Module ก็เป็นอีก part หนึ่งที่ปราบเซียน ค่ะ สำหรับ part นี้ประกอบไปด้วย 2 หัวข้อในการเขียน คือ
+ การอธิบาย graph, chart, table or picture โดยให้เขียนเป็นรูปแบบรายงานไม่ต้องแสดงความคิดเห็น โดยให้มีการเปรียบเทียบความเหมือนหรือแตกต่างของตัวเลขที่แสดง หรือลักษณะที่แตกต่างอออกไป (20 นาที)
+ การเขียน Essay ถึงทัศนะคติของหัวข้อที่ได้รับ โดยใช้ประสบการณ์หรือความรู้ในได้ (40 นาที)
และก็มีเทคนิคดี ๆ มาฝาก คือ
+ แบ่งเวลาในการเขียนให้เหมาะสม - เรื่องแรกอธิบายกราฟ 20 นาที แบ่งเป็น 5 นาที สำหรับวางแผน และ 13 นาที สำหรับเขียน ส่วน 2 นาทีสำหรับตรวจสอบ (สำคัญมั่ก ๆ ตรวจสอบน่ะค่ะ เพราะอาจจะเสียคะแนนไปกับเรื่องง่าย ๆ เช่น spelling ค่ะ)
- เรืองที่สองเขียน Essay แสดงทัศนคติ แบ่งเป็น 10 นาที สำหรับวางแผน และ 28 นาที สำหรับเขียน ส่วน 2 นาที สำหรับตรวจสอบ
+ อ่านโจทย์ให้รอบคอบ และขีดเส้นใต้คำสำคัญไว้ เพื่อย้ำว่ากำลังเขียนถึงเรื่องอะไร +การอธิบายกราฟ - อย่าพยายามเขียนทุกอย่างในกราฟ ให้เขียนแสดงความแตกต่าง น้อย สุดมากสุด การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด - ใช้คำเชื่อมในการบอกประเด็น (เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่จะทำต่อไปคืออะไร) - แนวทางเดียวกัน : In addition, Furthermore, Besides - แตกต่างกัน : Alternatively, Whereas, On the other hand, In comparison, However - ทัศนคติ : In my opinion, personally speaking - แสดงเหตุผล : Because, Therefore, As a result - เวลา,ลำดับ : Firstly, After that, Finally, Since - ยกตัวอย่าง : For example, For instance, In other word , such as - การใช้ Tense อย่างถูกต้อง (ส่วนใหญ่ present กะ past) - พยายามใช้คำศัพท์ให้หลากหลายเพื่อแสดงการเพิ่มขึ้นและลดลง - Up : rise, increase, growth, reach a peak - Down : fall, drop, decrease, decline, reach a bottom - No change : remain the same, remain stable - How much : rapid, sharp, slight, slow, gradual, steady constant - Figures : just under, nearly,just over,over - นำคำถามมาเรียบเรียงใหม่เป็น Intro - อย่าวิเคราะห์กราฟ ให้บรรยายหรือรายงาน - เขียนให้มากว่าที่กำหนดเสมอ อย่าน้อยกว่าเป็นอันขาด ค่ะ - เขียนบ่อย ๆ สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
+ การเขียน Essay สู้ ๆ นะค่ะ
Create Date : 12 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2552 10:50:43 น. |
Counter : 330 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
:: IELTS Tips : Reading ::
:: มาถึง Reading Module กัน ว่ามีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำของสอบการอ่านอะไรบ้าง ค่ะ
++ Reading Module ++
เรื่องที่อ่านประกอบไปด้วย 3 เรื่องด้วยกันค่ะ (3 section) ทั้งหมดมี 40 ข้อ ให้เวลาก็ 60 นาที (1 ตอน / 20 นาที) ซึ่งจะเริ่มจากเรื่องง่ายไปเรื่องยาก ลักษณะของข้อสอบจะเป็นเรื่องที่คัดลอกมาจาก บทความทางวิชาการ นิตยการ วารสาร ตำราเรียน หนังสือพิมพ์ และอาจจะมาจาก Reader Digest ก็เป็นได้ค่ะ และเป็นศัพท์ที่ยากมาก ๆ ด้วยค่ะ
ซึ่งมีเทคนิค และทิป ต่าง ๆ ดังนี้
+ แบ่งเวลาให้เหมาะสม 1 เรื่อง ใช้เวลา 20 นาที (เท่านั้น)
+ ตอนทำให้ทำในกระดาษโจทย์ก่อนแล้วใช้เวลาอีก 2 นาที ลอกคำตอบใส่ answer sheet ค่ะ (18 นาทีทำ และ 2 นาทีลอกคำตอบ) เพื่อเป็นการทบทวนการตอบด้วยค่ะ
+ อ่านคำสั่งให้เข้าใจว่าสั่งว่าอย่างไร แต่ละเรื่องอาจไม่เหมือนกันในเรื่องของข้อกำหนดในการตอบ
+ อ่านชื่อเรื่องเพื่อ Scope ความคิด
+ อ่านโจทย์ก่อนแล้วขีดเส้นใต้คำสำคัญหรือ key word เพื่อให้รู้ว่าอะไรคือ สิ่งที่ต้องการหาในเนื้อเรื่อง
+ key word มักจะเป็นคำที่บอก ชื่อ สถานที่ เวลา วันเดือนปี
+ หาคำตอบจากเนื้อเรื่องอย่างรวดเร็วด้วยการใช้ key word และ Symonyms (บางครั้ง key word อาจเป็นคำต่างแต่ความหมายเดียวกันค่ะ)
+ อย่าอ่านเนื้อเรื้องทั้งหมด (ไม่ต้องเข้าใจหมด) อ่านกลับไปกลับมาได้
+ อ่านแบบ Skim เพื่อหา key word เมื่อเจอ key word ให้อ่าน scan เพื่อหาคำตอบ
+ พยายามใช้ปากกาช่วยอ่านลดการมึน (มึนจริง ๆ ค่ะ เนื้อเรื่องก็เยอะ เวลาก็น้อย .... สู้ )
+ ต้องสรุป Main Idea ของแต่ละย่อหน้าให้ได้
+ โจทย์จะถามตามลำดับเนื้อเรื่อง ไม่ถามกลับไปกลับมา ทำให้เราหาคำตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ
+ คำตอบจะมาจากเนื้อเรื่องเท่านั้น อย่าเอามาจากที่อื่น (เพราะเขียนตอบจะผิดได้)
+ ข้อยากไว้ทำทีหลัง (อาจตัด chioce ไปหรือ เลือกข้อที่น่าสนใจไว้) แล้วกลับมาทำ
+ อย่าปล่อยว่างไว้ ให้ตอบทุกข้อ
+ ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ให้ เดา เดา และ เดา ค่ะ
+ ต้องมีสมาธิ สติ ตลอดระยะเวลาการทำ
+ ควรอ่านหนังสือพิม ฟังข่าว และดูหนัง เป็นภาคอังกฤษ
+ จำศัพท์ไว้เยอะ ๆ (เจอที่ไหนก็จดและหาคำแปลเอาไว้) อาจได้ใช้แน่ ๆ
:: สำหรับ Reading ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ข้อกำหนดทางด้านเวลาและลักษณะของเนื้อเรื่องที่ให้ ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย ทำแบบฝึกหัดเยอะ ๆ และจับเวลาไปด้วยนะค่ะ .... มาดู part ต่อไปกันดีว่าค่ะ Writing ::
Create Date : 06 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 15:05:08 น. |
Counter : 296 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
:: IELTS Tips : Listening ::
:: แนวการสอบ IELTS ประกอบไปด้วย 4 Module ด้วยกัน และแต่ละ Module ก้อมีเทคนิคและแนวทางในการทำข้อสอบ IELTS ตามที่ได้รวบรวมมาและจากประสบการณ์ของตัวเองด้วย มาดูกันว่ามีเทคนิคดี ๆ อะไรกันบ้างนะค่ะ.. อ้อ .. อีกนิดนึงค่ะ IELTS เข้าเน้นการเขียนมาเลยค่ะ การตอบจึงเป็นการเขียนตอบหมดทุก Module เลยค่ะ ไม่มี Choice ให้เลือกตอบค่ะ อย่างแรกที่จะเขียนถึงคือ การทำข้อสอบ Listening ค่ะ ::
++ Listening Module ++
ข้อสอบการฟังให้เวลาฟัง 30 นาที และเขียนตอบลงใน Answer Sheet อีก 10 นาที่ รวม 40 นาที ข้อสอบจะมี ทั้งหมด 4 ตอน 40 ข้อ ซึ่งในแต่ละตอนจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ + ตอนที่ 1 โดยส่วนใหญ่เป็นบทสนทนาระหว่าง 2 คน ในเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น การนัดหมาย การจอง การสมัคร >> คำตอบส่วนใหญ่ คือ ชื่อ ที่อยู่ (สถานที่) เบอร์โทรฯ อีเมล์
+ ตอนที่ 2 โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดคนเดียวเกี่ยวกับ ข่าว สถานการณ์ ประเด็นต่าง ๆ
+ ตอนที่ 3 โดยส่วนใหญ่เป็นการสนทนา 2-4 คน เป็นเรื่องราวทางวิชาการหรือภาวะเหตุการณ์ต่าง ๆ หรืองานวิจัย
+ ตอนที่ 4 โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดคนเดียวเชิงวิชาการเป็นลักษณะของการบรรยาย สอน ปาฐกฐา
โดยมีเทคนิค และทิป ต่าง ๆ ดังนี้
+ ฟัง (อ่าน) และทำความเข้าใจคำสั่งให้ชัดเจนว่าสั่งหรือมีข้อห้ามอะไร เช่น ห้ามเขียนเกิน 3 คน, ตอบเฉพาะตัวเลข
+ พยายามอ่านคำถามก่อน > และหา Keyword + ขีดเส้นใต้ Keyword ไว้ > และเดาคำตอบไว้ล่วงหน้า โดยใช้เวลา 30 วินาที่ ก่อนฟังให้เกิดประโยชน์ที่สุด
+ ขณะฟังให้นึกถึงสถานการณ์จริง
+ ชื่อคน ชื่อเมือง ควรเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ หรือดูตามตัวอย่างที่มีมาให้ค่ะ
+ จับเสียงการเน้นคำของเรื่องราว โดยมากคำตอบจะเป็นการเน้นเสียงที่คำนั้น ๆ
+ ระหว่างฟังให้จดไปเรื่อย ๆ ใน keyword สำคัญ ๆ (เผื่อเอาไว้ตอบค่ะ)
+ อ่านโจทย์และสังเกตว่าคำตอบจะมาจากผู้พูดคนไหน (สนทนา) ให้ตั้งใจฟังให้มาก ๆ ขึ้น
+ สะกดให้ถูกต้อง (ถ้าเทปสะกดให้)
+ ถ้าทำไม่ทันให้ทำข้อต่อไปเลยไม่ต้องย้อนกลับมาคิดข้อที่ผ่านมา
+ เขียนตอบต้องเขียนให้อ่านออก (และต้องสะกดให้ถูกด้วย)
+ ควรเขียนตอบสไตล์ อังกฤษ เช่น Colour, 1st May, 2008 จะดีกว่าการตอบแบบ America
+ ให้ตอบทุกคำตอบ คิดไม่ออกให้ใช้ข้อมูลมาจากข้อความใกล้เคียง
+ ระหว่างที่ให้ตอบในโจทย์ และใช้ 10 นาทีในการย้ายคำตอบไป answer sheet อย่างคุ้มค่า
+ ถ้าตอบไม่ได้จริงๆ ให้ เดา เดา เดา อย่างว่างไว้เป็นอันขาด (เสียดาย)
+ให้มีสติและสมาธิ ตลอดเวลาการฟังและตอบ อย่าเหม่อ จะหลุดยาว
+ ให้อ่านศัพท์ Synonyms มาด้วย เพราะบางครั้งโจทย์กับคำตอบ คำศัพท์ต่างกันแต่ความหมายเหมือนกัน)
+ ฟังให้ดี ๆ ได้ยินแล้วอย่าตอบทันที ให้ mark เอาไว้ก่อนเพราะอาจจะมีคำตอบที่ถูก ตามมา (บ่อยมาก)
+ ให้ระมัดเรื่องเติม s ด้วย สำหรับข้อนี้ให้ดูตาม context ซึ่งอาจจะเป็น Subject หรือ Noun ซึ่งต้องสอดคล้องกัน
:: ค่ะ สำหรับคนไทยแล้ว Module นี้จะเป็น Module ที่คะแนนน้อยกว่า Module อื่น แต่ก็อย่าเพิ่งท้อใจนะค่ะต้องพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ และถ้ารู้สึกว่าทำได้ไม่ดีในการสอบ part แรก พยายามตั้งสติ และทำ part ต่อไป นั่นคือ Reading ต่อไปค่ะ งั้นไปอ่านกันต่อดีกว่ามีเทคนิคอะไรกับการอ่านบ้างค่ะ ::
Create Date : 06 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 14:18:34 น. |
Counter : 272 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|