ก่อนอื่น ขออภัยที่ต้องใช้คำแรงค่ะ เพราะคำแรกที่คิดได้จากการได้คุยกับผู้ชายคนนี้คือคำนี้จริงๆ เราไม่ใช่คนดี เราก็ยอมรับ แต่เราว่า เราไม่ทำอย่างที่เราโดนกับคนอื่นแน่นอน

เรื่องของเรื่องก็คือ

เราโทรไปหาคนที่เรา "ซื้อโฆษณาเค้า" ค่ะ จะคุยเรื่องอาร์ทเวิร์คโฆษณา ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร ขอบอกว่าคนที่เราจะโทรไปคุยด้วยเนี่ย ระดับผู้จัดการแล้ว ขอเรียนพี่ผู้หญิงคนนี้ว่า พี่ต้อม (นามสมมติ)

ปรากฏว่า เป็นเสียงผู้ชายรับ
เราก็คิดว่าเป็นคนในออฟฟิศที่พี่ต้อมเค้าอนุญาตให้รับสายได้ เพราะเค้าอาจประชุมอยู่

ต่อไปนี้จะเป็นไดอะล็อก ถอดมาให้ได้ความประมาณ 70-80% ของคำพูด แต่ความหมายเหมือนเดิมเป๊ะ

เรา : เรียนสายคุณต้อมค่ะ
ผู้ชายคนนั้น : คุณเป็นใคร

เรา : (อ่า..) สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรจากบริษัท.... นะคะ พอดีติดต่อกับคุณต้อมไว้เรื่องลงโฆษณาในหนังสือ... ดิฉันจะโทรมาแจ้งเรื่องอาร์ทเวิร์คน่ะค่ะ ว่ามีการเปลี่ยนแปลง
ผู้ชายคนนั้น : บริษัทอะไรนะ


เรา : บริษัท...ค่ะ
ผู้ชายคนนั้น : ไม่อ้ะ ไม่ ผมไม่รู้จัก (เสียงออกแนวรำคาญๆ กระแทกๆ)

เรา : อื่มม ดิฉันติดต่อไว้แล้วน่ะค่ะ ถ้าไม่ยังไงเดี๋ยวดิฉันติดต่อกลับก็ได้ค่ะ
ผู้ชายคนนั้น : เดี่ยวๆ คุณเป็นอะไร ติดต่อเรื่องอะไร โฆษณงโฆษณาอะไร ผมไม่รู้เรื่อง

เรา : (อ่าว....โทรผิดเอยเบอร์รึเปล่าฟระชั้น) ดิฉันโทรจาก....ค่ะ จะแจ้งคุณต้อมเรื่องเปลี่ยนแปลงอาร์ทเวิร์คโฆษณาค่ะ ไม่ทราบว่าดิฉันเรียนสายคุณอะไรคะ
ผู้ชายคนนั้น : นี่นี่...ผมเป็นแฟนต้อม มือถือต้อมอยู่กับผม คุณพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ผมไม่เข้าใจเลย(<< เน้นเสียงทั้งประโยคนี้) โฆษณงโฆษณาอะไร ต้อมเกี่ยวอะไรด้วย งานเค้าไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องโฆษณา คุณไม่ชัดเจนอ้ะ พูดอะไร โฆษณาอะไร

 อ้าว......เป็ด! "คุณไม่ชัดเจน" พูดเป็นนักการเมือง คิดเป็นนักการเมืองไปได้ นี่พูดอธิบายจนหมดแล้วนะคะ
แล้วคุณมะรึงไม่รู้เหรอคะ ว่าแฟนคุณมะริงทำงานอะไร อายุอานามไม่ใช่น้อยๆ กันแล้วนะคะนั่น (มากกว่าเราเกิน 10 ปีอยู่แล้ว)

เรา : (ด้วยความรำคาญและตกใจ กับมารยาทการรับโทรศัพท์และความแคบของผู้ชายนี้) ไม่เป็นไรค่ะ (เสียงเริ่มแข็งขึ้นมาแล้ว คนนะ ไม่ใช่แม่พระ อารมณ์เสียเป็น) เดี๋ยวดิฉันติดต่อกลับมาใหม่เองแล้วกันค่ะ สวัสดีค่ะ
ผู้ชายคนนั้น : อือๆๆ โทรมาใหม่แล้วกัน (เสียงรำคาญๆ กระแทกๆ....แล้ะมีแว่วก่อนเราวางว่า "อะไร...ไม่รู้เรื่องเลย")


;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;

หลังจากนั้น เราเลยสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง ก่อนโทรเข้าออฟฟิศพี่ต้อม และฝากข้อความไว้กับคนในกองบรรณาธิการว่าให้โทรกลับหาเราด้วย ปรากฏว่าชีก็ไม่โทรมา จนเราโทรกลับไปเอง ชีก็บอกว่า แหม... ได้โน้ตแล้ว กำลังจะโทรกลับมาหาเราเลย หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องงานจนจบเรียบร้อย

เราอยากบอกเค้ามาเลยว่า แฟนเค้าพูดอย่างนี้กับเรา มันไม่ใช่การถาม แต่เสียงเค้าตะคอกมาก เราสงสัยเหลือเกิ๊นนนน ว่าแฟนพี่ต้อมเนี่ย ใช่คนเดียวกันกับที่เราได้ฟอร์เวิร์ดเมลคลิปเสียงคนที่โทรไปป่วน Call Center ของโทรศัพท์เจ้านึงรึเปล่า กวนพระบาทบาทามาก

เรื่องนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้ว แต่พอนึกขึ้นได้ก็จี๊ดดดขึ้นขึ้นสมองเหมือนกัน
เหมือนโดนด่าทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ยิ่งโดนพวกงี่เง่า(พิสูจน์ได้จากการที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับงานของแฟนตัวเอง....ระดับเมเนเจอร์นะคะ พี่น้อง) มาตะคอกๆๆๆ ใส่

อยากบอกพี่ต้อมมากว่า แฟนเค้า สะ ถุ นะ หยาบคายขนาดไหน
แต่เรากำลังจะออกจากที่ทำงานนี้ก่อนสงกรานต์นี้แล้ว
อาจไม่ได้ติดต่อกับเค้าอยู่ดี

อยากบอกมากเลยนะ เพราะไม่อยากให้คนอื่นๆที่จะติดต่อกับพี่ต้อมเจอแบบเรา เกรงว่าพี่ต้อมนั่นแหละจะเสียหายเพราะคนใกล้ตัว



ปล. ยังโกรธอยู่เลยนะเนี่ย

Create Date : 06 เมษายน 2552
Last Update : 6 เมษายน 2552 8:17:46 น.		0 comments
Counter : 1178 Pageviews.
Share Tweet