Life is a Journey.
 

สเต๊กแบบง่าย

วันก่อนไปตรวจสุขภาพมา คุณหมอบอกว่า MissDenning ขาดธาตุเหล็กมากๆเลยค่ะ มิน่า ถึงเหนื่อยง่าย สาเหตุก็เพราะว่า MissDenning ไม่ค่อยกินเนื้อ นม ผักเขียว ชอบกินแต่เต้าหู้ ผักสีอื่นๆง่ะ คุณหมอบอกว่าพวกเต้าหู้เนี่ยมันขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็กด้วย

ตอนนี้เลยโดนสั่งกินอาหารเสริม และเนื้อวัว อาทิตย์ละ 2 portion (คุณหมอว่าถ้ากินแต่เนื้อๆ ไม่กินมันๆก็โอเคค่ะ) ไม่รู้ทำไรกิน เลยกินซิเต๊กดีกว่า

อันนี้ดัดแปลงมาจากสูตรของ Raymond Blanc นะคะ ใครอยากดู Raymond ทำกับข้าว เข้าไปดู ได้เลยจ้าที่

//www.bbc.co.uk/restaurant/cooking/recipes_raymond3.shtml


ลองทำดูหลายเมนูแล้วดีมากๆ ทำตามง้ายง่าย ชอบกุ๊กที่อังกฤษดีค่ะ จังสอนให้แบบไม่หวงวิชาเลย

อันนี้เป็นสูตร Steak นะคะ

เครื่องปรุง

- เนื้อ Steak สันนอก ประมาณ 2 - 3 ขีด
- เกลือหนึ่งหยิบมือ
- เม็ดพริกไทยบดอีกหน่อย
- น้ำมันมะกอก (น้ำมันพืชอื่นก็ได้ค่ะ)
- เนยจืด วันนี้ Miss Denning ใช้ Hard Olive Oil ค่ะ เพื่อสุขภาพ (แหะๆ)
- น้ำเล็กน้อยประมาณ 100 มิล

แค่นี้แหล่ะค่ะ อะไรมันจะง่ายปานนั้น Raymond บอกว่า เคล็ดลับคือเลือกเนื้อสดๆดีๆค่ะ ถ้าเนื้อดีก็ไม่ต้องปรุงแต่งมากมายเลย

วิธีทำก็แสนง่ายคือ

1) ปรุงรสเนื้อด้วยเกลือและพริกไทย ตบๆให้เข้าเนื้อ ทั้งสองข้าง
2) เปิดไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกและเนย (จริงๆที่ Raymond ให้ใช้เนยจืดเพราะเนยเค็มมันจะไหม้เร็วค่ะ เศษไหม้ๆมันจะติดเนื้อดูไม่น่าทาน แต่ MissDenning ชอบกินนะไอ้ไหม้ๆเนี่ย รู้ว่ามันไม่ดีแต่ชอบจัง แหะๆ)

รอเนยจนมันเริ่มเดือดเป็นฟองค่ะ ฟังเสียงดูมันเริ่มดังฉู่ฉี่ๆ สีจะออกน้ำตาลนิดๆ กลิ่นเริ่มหอมเนยๆ อันนี้แปลว่าร้อนพอแล้วค่ะ

3) เร่งไฟแรง ค่อยๆวางเนื้อลงไป แล้วรอสุกค่ะ แล้วแต่ชอบ แต่การกะความสุกเป็นดังนี้ค่ะ

- รอประมาณ 2 นาที สำหรับ rare
- 3 นาที Medium rare
- 4 นาที Medium

( Note: Raymond ทำทีละสองอันเลย แต่ MissDenning ทำทีละอันค่ะ เผื่ออันไหนสวยให้ซะมีทาน

MissDenning จับเวลาเอาเลยกันพลาด เพราะที่บ้านชอบกินแบบ Medium rare กันเเบบมีเนื้อแดงๆอยู่ข้างในน่ะค่ะ ที่ยุโรปเนื้อค่อนข้างสะอาดค่ะ ไม่มีเชื้ออะไรเท่าไหร่เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ ถ้าเป็นที่เมืองไทยคงไม่กล้ากิน Medium rare คงสั่ง Medium หรือ Well done ไปเลย ยกเว้นพวกเนื้อที่ได้สัญลักษณ์ Q หรือเนื้ออนามัยอะไรแบบนี้ แหะๆพอดีทำวิจัยเรื่องกฎหมาย food safety อยู่ค่ะ เดี๋ยวนี้กินอะไรสุกๆดิบๆก็แอบระแวง)

4) กลับด้าน ทำกับอีกข้างเหมือนๆกัน
5) ยกเนื้ออกมา ถ้ายังไม่ทานทันทีอาจจะอุ่นรอไว้ในเตาอบ (เปิดแค่ประมาณ 80 องศา)
6) ทำน้ำเกรวี่ราด ใส่น้ำลงไป ขูดๆกะทะหน่อย ถ้าชอบก็ปรุงรสนิดๆด้วย French Mustard Thyme ผักชีฝรั่ง ไวน์แดง แต่ถ้าเนื้อดีก็ไม่ต้องใส่อะไรก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็เริ่ดแล้ว

ึ7) จัดใส่จาน ทานกับมันฝรั่งต้ม ผักนึ่ง (วันนี้กินกับมันฝรั่งหั่นลูกเต๋า คลุกเนย คลุกเบค่อนอบมั่วๆค่ะ)

รูปจ้ะ มื้อเที่ยง อิอิ







สองจานค่ะ ตอนหลังแอบโดนแย่งจากจานเรานะเนี่ย





Medium rare จ้ะ




 

Create Date : 24 มกราคม 2552    
Last Update : 24 มกราคม 2552 20:42:48 น.
Counter : 471 Pageviews.  

Review เครื่องตีนม Aeroccino ค่ะ

แหะๆอันนี้ไม่ใช่ตีนมหน่มน้มนะคะ เป็นเครื่องตีนมให้เป็นฟองแบบเวลาทำคาปูชิโน่น่ะค่ะ สนนราคาที่อังกฤษก็ 45 ปอนด์ค่ะ รับประกัน 2 ปี



พึ่งได้เป็นของขวัญคริสมาสจากคุณน้องซะมีมาไม่นาน แหม ของมันดีจริงๆ ใช้นมนิ๊ดเดียวก็ปั่นได้ซะแบบฟูฟ่องในเวลาสองนาทีเองค่ะ ฟองนุ่มมากๆ เหมือนไปกินที่ร้านเลย

ลองทำให้ดูนะคะ

อันนี้เป็นเครื่องทำกาแฟ Nespresso ที่เรามีอยู่แล้ว รุ่นนี้ใช้สบายค่ะซื้อเป็นแค็ปซูลมา (ตกอันละ 10 pence ก็ประมาณ 5 บาท) รอไฟขึ้นใส่เข้าไปแล้วก็กด เลือกว่าจะเอา espesso หรือ longo



จริงๆเครื่องนี้ทำฟองนมก็ได้แต่เสียงดังเหมือนที่ร้านกาแฟน่ะค่ะ แล้วก็ต้องใช้นมเยอะ ฟองก็ไม่นุ่ม

อันนี้ลองใช้เครื่อง Aeroccino ตีนะคะ ตอนแรกก็ใส่นมไปนิดเดียว



กดปุ่มรอ 2 นาที มันก็จะปั่นๆไปเรื่อยๆค่ะ



เสร็จแล้วจ้ะ เอามา top กาแฟ (จริงถ้าทำฟองนมก่อนแล้วเอากาแฟใส่ทีหลัง มันก็จะแยกเป็น 3 layers น่ากินไปอีกแบบค่ะ)



โรยช็อกโกแลตหน่อยก็เหมือนกินสตาบัคเรย



อื้ม จริงๆเราว่าอร่อยกว่าสตาบั๊คอีกนะคะ

สรุปเครื่องนี้คุ้มมากๆสำหรับคนรักกาแฟ คุ้มพอๆกับเจ้า Nespresso เลยค่ะ สำหรับ MissDenning ก็ถือว่าประหยัดทั้งตังค์ (ระยะยาว) และเวลา ในการเดินออกไปซื้อสตาบัค ยิ่งทำงานที่บ้านเนี่ยยิ่งคุ้มม อยากกินกาแฟดีๆต้องลงทุนค่ะ อิอิ

แถมรูปแค็ปซูล Nespresso (shot ละ 5 บาท ตาบัค แล้วละ 100 กว่าบาท)





 

Create Date : 20 มกราคม 2552    
Last Update : 20 มกราคม 2552 19:00:38 น.
Counter : 2038 Pageviews.  

Plaice with Salsa Sauce

ดัดแปลงมาจากสูตรของ Gordon Ramsay นะคะ จริงๆจะใช้ปลาทะเลอะไรก็ได้ ปลากระพง หรือ sea bass, sea bream หรือแม้แต่ Salmon สูตรของ Gordon ใช้หอยเชลล์ค่ะ เคยลองทำแล้วอร่อยมากๆ แต่วันนี้จะทำปลา plaice นะคะ พอดีได้มาจาก Mark and Spencer จริงๆไม่แน่ใจภาษาไทยเรียกอะไรค่ะ สงสัยจะปลาลิ้นหมามั๊ง

เครื่องปรุง

* น้ำมันมะกอก
* มะเขือเทศสีดา 200g
* โอลีฟดำ ไม่มีเมล็ด 80g
* เกลือพริกไทย
* ผักชีฝรั่ง
* ใบ Basil หรือกระเพรา
* น้ำจากมะนาว 1ลูก
* thyme หรือ rosemary ก็ได้
* ปลา


ซอส

1. ตั้งกะทะไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไปประมาณสามช้อน ระหว่างรอน้ำมันร้อน ผ่ามะเขือเทศและใส่ลงไป ใส่โอลีฟ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย คนประมาณ 1 นาที
2. ใส่ใบ parsley และ basil สับ หรือจะใช้เท็คนิคของ Gordon จับมารวมกันแล้วใช้กรรไกรตัดเฉพาะใบๆ

3.ใส่น้ำมะนาวลงไป ชิมรส


ปลา

1. หั่นปลาเป็นชิ้น fillet ตามตัวค่ะ (MissDenning ซื้อสำเร็จรูป) พอได้ชิ้นปลามาแล้วก็บากด้านหนังปลา จะทำให้ปลาสุกทั่ว ไม่ม้วนตัว และเกลือเข้าเนื้อ

2. โรยเกลือ พริกไทย และ thyme

3. จี่ที่กะทะ ตอนแรกใส่น้ำมันมะกอกลงไปพอสมควร เอาด้านหนังลง กดไว้ประมาณ 30 วิ โรยเกลือ พริกไทย ด้านเนื้อปลา รอจนปลาค่อยๆสุกจากข้างใต้ขึ้นมาจนปลาสุกประมาณ 90 เปอร์เซ็นก็กลับด้านค่ะ พยายามโรยน้ำมันที่ร้อนๆบนหนังปลาจะได้กรอบๆ

เสริฟกับซอสซัลซ่า ทานกับมันฝรั่งต้มหรือบดก็ได้ค่ะ มะนาวฝานนิดนึง












 

Create Date : 20 มกราคม 2552    
Last Update : 21 มกราคม 2552 16:49:35 น.
Counter : 552 Pageviews.  

Geang Som Cha Om Khai

I'm cooking Geang Som Cha Om Khai today jaa.. It tastes really really good. Umm...no wonder i can't diet.

See the foxes? they came because of the smell.

Ingredient:

1) Lobo Geang Som paste
2) fresh salmon 300 gram
3) prawns 2-3
4) any veggie, cut into bite-size pieces. I'm using plumkin, chinese cabbage and green beans
5) vegetable stem to mix with eggs ( I am using plumkin stems).
6) 3 eggs

How to:

1) cut the salmon into square pieces, deep fry them.
2) beat the eggs, mix with vegetable stems. Deep fried them (like omelette). cut into pieces
3) mix the paste with 4-5 deep fried salmon pieces
4) boil the water, add (3)
5) taste the soup. Add fish sauce, sugar and tamarind paste (can be substituted with lime juice)
6) add vegetables
7) when the vegetables are cook. It's finished.

To serve:

1) put the soup (with veggies) into a bowl
2) place deep fried salmon and omelette on top
3) garnish with some prawns

Yeach!



Hallo foxes? Would you like some Gaeng Som?



Probably not!



But I think this fox does!




 

Create Date : 20 มกราคม 2552    
Last Update : 20 มกราคม 2552 7:06:39 น.
Counter : 546 Pageviews.  

The French Table

ถ้ามีคนให้แนะนำร้านอาหารในอังกฤษที่เป็นอาหารฝรั่ง ไม่ใช่อาหารจีน เกาหลี ญี่ปุ่น แขก แล้วล่ะก็ ขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ The French Table
บริหารงานโดยคุณเชพ ปิแอร์ และคุณซาร่าห์ ผู้จัดการร้าน สองสามีภรรยาคู่บุญ (เหมือนแนะนำคาเฟ่เลยอ่ะ)

//www.thefrenchtable.co.uk/

ร้านนี้คนไทยไม่ค่อยรู้จักแต่จริงๆเป็นที่รู้จักแถว South West London ดีค่ะ ถ้าจะไปตอนเย็นต้องจองล่วงหน้านิดนึง ประมาณอาทิตย์นึง ถ้าวันวาเลนไทน์ก็เป็นเดือนๆเลยค่ะ แต่อาหารชั้นเทพและบรรยากาศดี บริการดีกับลกค้าทุกคน และที่สำคัญ เค้าง้อลูกค้าค่ะ ติชมได้

เมนูก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามฤดูนะคะ แต่ที่แน่ๆ ร้านนี้ทำเป็ดกับเนื้อแกะอร่อยมาก แบบละลายในปากเลย

พวกขนมปังที่แจกฟรีก็อร่อยนะคะ รู้สึกมีคอร์สสอนด้วย เราว่าจะให้คุณแฟนไปอยู่จะได้มีเสน่ห์ปลายจวักกะเค้าบ้าง

อาหารไม่ถูก แต่คุณภาพดี ปกติเราไปตอนเย็นก็คนละ 30 ปอนด์ ถ้าไปกลางวันวันอาทิตย์ ก็คนละ 20 ปอนด์ (รวม house wine 1 แก้วของเรา ส่วนคุณแฟนสั่ง tap water เป็นประจำเจ้าค่ะ)

แต่อาหารเรื่องคุณภาพและฝีมือไม่เป็นรองใครเลย และอร่อยกว่าร้านตามโรงแรมในกรุงเทพมากมาย

เราเลือกร้านนี้เป็นที่จัดงานแต่งงานเราด้วยค่ะ อาหารอร่อย บริการดีและเป็นมืออาชีพกันมากๆ เอารูปอาหารบรรยกาศในร้านไปดูก่อนเลยนะคะ


อันนี้เรียกว่า Marmite of home smoked haddock and queen scallops infuse in a lime leaf and saffron sauce ยาวจัง สรุปก็คือเป็นพัฟข้างในเป็นปลาขาวกับหอยเชลล์ในซอสเปรี้ยวค่ะ



ส่วนอันนี้คือ mille-feuille of asparagus with sauce gribiche คือหน่อไม้ฝรั่งกับซอสออกเค็มเปรี้ยวๆ อร่อยนะคะ


อีกอันเป็น warm salad of confit duck with crispy bacon and roasted leeks เป็นอกเป็ดกับเบค่อนและลีกค่ะ แฟนเราชอบมากๆ เมนูประจำ เป็ดนุ่มเทพๆ



แถมรูปเจ้าของนะคะ คุณซาร่าห์ ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียวค่ะ Professional มากๆ แต่ก็ friendly มากๆค่ะ



โยนดอกไม้หน้าร้านตอนจบ แอบมีสาวๆคนเสริฟออกมารับกันใหญ่เชียว สุดท้ายสาวไทยมือไวได้ไปค่ะ (ตอนแย่งกันสนุกมากๆ ยังกะเล่นเน็ทบอล)



ลอยหวือข้ามหัวคุณเดฟไป พี่แกออกมาแซวสาวๆ จะไปเเย่งกะเค้าด้วยบอก second chance คนฮากันใหญ่ (ภรรยาแกก็ยืนขำอยู่ตรงนั้นแหล่ะ)


คือร้านนี้ยังไงๆก็จะเป็น special place in our heart ค่ะ เป็น soft spot เวลากลับไปกิน เพราะจัดงานที่นี่แล้ววันนั้นแขกชมกันจริงๆ ในอนคตถ้าเรากลับเมืองไทยไปแล้ว มาอังกฤษเมื่อไหร่ก็ต้องหาทางมากินอีกให้ได้ ยังไงก็แล้วแต่ ที่นี่เป็นร้านที่เราจะเเนะนำถ้ามีใครมาลอนดอน อยากกินอาหารฝรั่งดีๆ และไม่มายด์เดินทางออกนอกเมืองนะคะ จากลอนดอน waterloo มา surbiton ก็ 20 นาทีเอง เดินต่ออีกแป๊บเดียวก็ถึงแล้วล่ะค่ะ




 

Create Date : 17 มกราคม 2552    
Last Update : 18 มกราคม 2552 21:24:44 น.
Counter : 596 Pageviews.  

 
 

MissDenning
Location :
กรุงเทพฯ United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add MissDenning's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com