ชีวิตในฟินแลนด์ อยู่ให้เป็น ไปต่อให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในฟินแลนด์ ...
Group Blog
 
All Blogs
 
สำรวจคุณสมบัติตัวเอง... อะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนออกเดท

อันที่จริง เราควรจะพูดประเด็นนี้ตั้งกะแรกๆ เน๊อะ เพราะว่าเกิดบังเอิญไปเจอชายในฝันแล้วฝันสลายเพราะว่า แขนเราสั้น เอื้อมไม่ถึงเค้าซะงั้น

เรื่องตรงนี้ป้าลีอยากให้อ่านนะคะ ไม่ว่าคุณจะเจอชายในฝันหรือยังไม่เจอก็ตามเพราะว่ามันเป็นผลต่อเนื่องในการนำไปสู่ชีวิตครอบครัว และนำไปสู่การ “กุมบังเหียน”ผู้ชายในอนาคตนั่นแหละ (ฟังแล้วน่ากลัวเน๊อะ ป้าลีสอนไรฟวะจะมีชายหนุ่มหลงมาอ่านมั๊ยเนี่ย ป่านนี้หนีกระเจิงไปหมดแล้วมั๊ง)

เอาล่ะ ป้าลีเริ่มจากคำถามก็แล้วกันนะคะเพื่อความเห็นภาพที่ชัดเจน

คุณมีความสามารถพิเศษ อะไรบ้าง

คุณมีเสน่ห์ตรงใหนบ้าง (ในความคิดของตัวเอง)

คุณเล่นกีฬาหรือไม่

คุณทำอาหารเป็นมั๊ย

ฯลฯ หากทุกคำถามที่ว่า คำตอบของคุณ คือ “ไม่” เอาล่ะ นั่นคือปัญหา  เพราะทำอะไรก็ไม่เป็นเลย จะเอาเสน่ห์ที่ใหนไปมัดใจชาย

ถ้าคุณไม่สวยก็ไปทำให้ตัวเองสวย อ้วนก็ไปทำให้ผอม

ถ้าไม่ฉลาดก็ไปทำตัวเองให้ฉลาด

ทำอาหารไม่เป็นก็ไปทำให้เป็น หรือ อะไรก็เถอะ มันควรจะเป็น มันควรจะทำได้ ไม่ใช่ใครชวนไปใหนทำอะไร แล้วตอบว่าไม่เป็นอะไรสักอย่าง ตรงนี้แย่นะคะ เพราะว่า คนที่เค้าจะมาเลือกเรา ก็คือคนที่เค้าไปเลือกคนอื่นไม่ได้แล้ว...

ฟังแล้วร้าวรานถูกมั๊ยคะ... อีป้านี่แรงงงงงงงง   (อยากถามคำถามนี้ตามมาชิมิ“แล้วมรึงมีไรดีอีป้า”)

ถ้าถามว่า ทำใมป้าลีพูดแบบนี้... พวกหนูๆ พึงรู้เอาไว้นะว่าการหาแฟนน่ะง่าย แต่การที่หาแฟนที่รักและเทิดทูนเรา เลี้ยงดูชีวิตเรายังกับนางฟ้าเจ้าหญิงน่ะยาก

เพราะว่าอะไร? เพราะว่าชีวิตจริงแล้ว มันไม่มีนางฟ้านางสวรรค์อะไรทั้งนั้น ถ้าเราไม่อยู่เหนือเส้นขีดความสามารถของมนุษย์ นั่นแปลว่าเราเป็นคนที่ธรรมดามากกกกกกกกกกกแล้วคนธรรมดาที่ใหนจะมีแรงเอื้อมไปถึงเทพบุตรล่ะ

แต่อย่าพึ่งโกรธไป... ที่พูดแบบนี้อยากให้ใส่ใจประเด็น หันมองตัวเราแล้วพัฒนาเตรียมพร้อมก่อนลงสนามแข่ง

เพราะการเลือก “ผู้ชาย” ไม่ใช่ “ถูกเลือก” จากผู้ชาย     เป็นเรื่องสำคัญมาก

และสาวๆ ที่ออนไลน์หาคู่ทั้งหลาย ป้าลีอยากให้เล็งประเด็นว่า มันไม่ใช่แค่หาใครสักคน  แล้วนำพาชีวิตเรามาสู่เมืองนอก เดินเรื่องวีซ่าแล้วทิ้งชีวิตที่เมืองไทย ทิ้งความสุขสบายในบ้านตัวเอง  แล้วมาเรียน/หางานทำกลายเป็นแรงงานต่างด้าวในเมืองนอก เพราะชีวิตจริงในเมืองนอกหากเดินไม่ถูกทางแล้วไม่ใช่จะสบายนะคะ  ต้องทนหนาว ทนเศร้า ทนเหงาทนอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง

เอาล่ะ เมื่อพูดถึงการพัฒนาตัวเองแล้ว ต้องทำอย่างไร

ก็คำถามที่ป้าลีถามไปในตอนแรกน่ะแหละ จะเป็นตัวชี้นำว่า ทำอย่างไรเราจึงจะเป็นม้าตัวแรกที่วิ่งเข้าวินเป็นที่หนึ่ง

และเคยเป็นมั๊ยคะที่ว่า... อะไรชั้นก็ทำเป็นหมด รู้หมด  เข้าใจทุกอย่างแต่................. นำไปใช้งานไม่เป็น เออ ทำไงล่ะทีนี้? ตกม้าตายอีก

เช่น รู้มาก ทำให้พูดมากโชว์มันสมองตัวเองว่าเก่ง(อีป้านี่แหละเป็นบ่อย) แต่โชว์ผิดทางซะงั้น...ผู้ชายวิ่งหนีอีกเพราะเก่งเกิน เค้ากลัววววววว

คำว่าไม่สวยก็ไปทำให้สวยของป้าลีนั้น หมายถึง.... คือ คนเราทุกคนสวยในตัวอยู่แล้ว แต่ต้องยิ้มเป็นและสบตาเป็น อันนี้แหละ ที่สาวๆ อาจจะทำไม่เป็น

เช่น การสบตา สบยังไงไม่ให้มันดูแข็งทำยังไงให้สายตาดูอ่อนโยน จริงใจ ใสซื่อ ไม่ใช่ ตาแข็ง ตาดุ ปลิ้นปล้อนอะไรทำนองนั้นแหละ

ลองยิ้มแล้วมองสายตาตัวเองในกระจกสิคะ ถ้าอยากจะเห็นชัดเจน เอากล้องมาบันทึกวิดิโอแล้วยิ้มและสบตาที่กล้อง แล้วเอาออกมาเปิดดูตัวเองตรงนี้แหละ เป็นเสน่ห์วินาทีแรก ที่เราจะต้องใช้ ก่อนภาษาพูด(พูดไม่เก่ง อังกฤษไม่คล่อง นั่นเป็นเรื่องรองลงไป เชื่อป้าลีสิ)


เรื่องการพูด ต้องไม่ชักถามเรื่องลึกลงไป เพราะว่าฝรั่งไม่ชอบการละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าไม่ถามเลยก็กลายเป็นไม่ใส่ใจอีกอันนี้จะทำยังไงถึงจะพอดีๆ อันนี้อยู่ที่ประสบการณ์นะคะ

 แต่ยึดหลักเอามารยาทไทยนี่แหละเป็นบันทัดฐานเช่น งานคุณหนักหรือเปล่า ไม่ใช่ไปถาม คุณทำงานอะไร(อันนี้คนตอบเค้าก็ตอบในแนวเดียวกันนั่นแหละ แต่มันฟังดูดีกว่ากัน)

และป้าลีให้ทริค เกี่ยวกับการที่จำเป็นต้องถามในเรื่องที่เฉียดฉิวระหว่างความละลาบละล้วงนั้น ให้ใช้สำเนียงอ่อนโยน

เช่น ถ้าจะถาม ว่าคุณทำงานอะไรก็ให้ทิ้งเสียงยาวๆ ให้ฟังไพเราะไม่ใช่ถามด้วยน้ำเสียง “จิก” และบางคนใช้น้ำเสียงจิกโดยที่ไม่รู้ตัวอีกด้วยกว่าจะรู้ก็แชทไปหลายปีแต่ยังหาหนุ่มไม่ได้สักที อะไรประมาณนั้นแหละ

ทริคที่สองก็คือ อาจใช้คำถามนำ เช่น  “เอ่อ ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงน๊า .......แล้วต่อให้คำถาม”

How I can speak in English ummmm about your job?  ประมาณนี้นะคะ เดี๋ยวเค้าก็ช่วยเราถามตัวเค้าเองนั่นแหละเราก็จะเสิรมไปว่า ใช่ๆๆๆๆ ใส่อารมณ์ในน้ำเสียงให้ตื่นเต้นไปด้วย 

อันนี้ป้าลีพยายามยกตัวอย่างนะคะแต่ก็เอาไปประยุกต์ใช้เอาก็แล้วกัน


การสร้างเสน่ห์ให้ตัวเอง เช่น เสื้อผ้าหน้าผม ตรงนี้ทริคคือให้เช็คเค้าก่อนว่าเค้าจะชอบประมาณใหน           เช่นผู้ชายบางคนไม่ชอบคนที่แต่งตัวโป๊เกินไป ไม่ชอบคนแต่งหน้าจัดเกินไปขนตาปลอมงอนมาจากสามกิโลเมตรหรืออะไรแบบนั้น 

หรือบางคนชอบสีสดใส บางคนชอบสีดำ อะไรแบบนี้ อย่าแต่งตามใจฉัน ประมาณ จ๊อจเป็นตัวของจ๊อจเองไรงั้น      รอให้เค้าตกเป็นสามีเราซะก่อน  แล้วค่อนว่ากัน(ตรงนี้ป้าลีพูดบ่อย)

เวลาออกเดทก็หาสถานที่ ที่เหมาะสมกับตัวเค้า ไม่ใช่ที่ที่เราอยากไป เช่น ต้องซีร็อคโค่ เท่านั้นที่ชั้นจะไปเดท อะไรแบบนั้น  

(สาวกรุงเทพฯ อย่าปล่อยให้เค้าเป็นคนเลือกสถานที่นะคะเพราะว่าเราควรเลือกที่ปลอดภัยและใกล้ในเดทแรกๆจะดีสุด แต่ถ้าเค้าเสนอมาเราก็เช็คดูก่อนก็ได้ว่าโอเคกับเรามั๊ย )


ว่าแล้วเราก็ไปเช็ควิธีการดูโปรไฟล์ของหนุ่มกันค่ะ  (ซ้ายมือ)

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=leejayfinland&date=25-11-2013&group=34&gblog=6



รู้จักหนุ่มฟินแลนด์ ทางนี้ค่ะ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=leejayfinland&date=22-11-2013&group=34&gblog=4




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 18:10:07 น. 0 comments
Counter : 1331 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lee Jay
Location :
Nurmijärvi,Vantaa,Helsinki Finland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 143 คน [?]




ชื่อ ลี ค่ะ เป็นป้ารุ่น เกือบ เลขที่ 5 เข้าทีมวัยรุ่น
ไม่ได้อัดบล็อกเกือบ 3ปี

pub-3852458659373246
New Comments
Friends' blogs
[Add Lee Jay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.