Group Blog
 
All blogs
 

[Report]Miura Daichi 「Lullaby」Release Event@IKSPIARI 19122010

[Report]Miura Daichi 「Lullaby」Release Event @ IKSPIARI 19122010

จากที่เราดูในเว็บค่ะว่ามันจะมีรีลีสอีเวนท์ แล้วมันไปสะดวก ไม่ติดไรเลยไป ฮ่าๆๆ
เพราะจากหอเรานั้นมันใกล้ดิสนีแลนด์มากกกก เดินข้าวสะพาน ระหว่างกลับบ้านทุกๆวันก็จะเห็น ภูเขากับปราสาทดิสนีทุกวัน
ก็นั่งรถเมล์ไปราวๆ สิบนาทีหน่อยๆก็ถึงค่ะ
ไลฟ์เริ่มสองทุ่มครึ่ง
เราไปถึงราวๆ สี่โมงกว่าๆค่ะ
ไปถึงก็ไปร้านซีดีซื้อซิงเกิ้ลก่อนเลย
แต่ตั้งแต่เที่ยง เราไปดูรายละเอียดอีกทีในเว็บ
เค้าบอกว่าบัตรเข้าเอเรียที่กั้นพิเศษแจกไปหมดแล้ว
แต่ถ้าไปซื้อซิงเกิ้ลก็ยังสามารถได้ตั๋วจับมือ
คือมันเป็นไลฟ์ที่สามารถดูได้ฟรีค่ะเป็นโอเพ่นเอเรีย แต่ว่า ถ้ามีตั๋วเข้าเอเรียก็จะมีสิทธิ์ได้ดูใกล้ๆหน่อย
เราก็ไปซื้อซิงเกิ้ลได้ตั๋วจับมือมาแล้วก็เดินรอเวลาเลย
เพราะอีกนาน กว่าจะสองทุ่มครึ่ง
Photobucket
เราก้เดินไปเรื่อยอ่า
มีstreet show ด้วยค่ะ ก็ไปยืนดูมา


Photobucket

Photobucket

Photobucket
จนได้เวลาใกล้ๆก็มาเดินเฉียดๆ ราว ทุ่มครึ่ง
ก่อนหน้านั้นมีไลฟ์ของ tiara ค่ะ แอบไม่รู้จัก
พอดีว่าเริ่มเล่นพอดีเลยยืนดูจากข้างๆชั้นสอง
ก็ยืนดูไปจนจบ แล้วก็ย้ายไปชั้นสองตรงกลางๆ อุตส่าห์เล็งคนข้างหน้าที่ดูเป็นพ่อแม่ลูกมายืนดู
เหมือนเด๋วจะไปแล้วเราจะได้ยืนแทบรายเง๊ แต่ไม่ค่ะ
ยืนไงยืนงั้นตลอดเลยอ่ะ แถมอิคุณลูกชาย ยืนเล่นเกมเสีบหูฟังตลอดเลยค่ะ ไม่ดู
ย้งเซ็งแบบว่า อยากสะกิดว่าน้อง ไม่ดูอ่ะ ออกไปได้ป่ะ พี่จะดูเว้ยเฮ้ยยยย
คือจากที่เรายืน ริมระเบียงหน้าสุดก็มีแฟนๆไดจินั่นล่ะ ผู้หญิงยืน แล้วข้างหน้าเราก็เป็น พ่อแม่ลูก
ระหว่างรอไลฟ์ ก็มีประกาศเรื่อยๆ
แล้วก็ต้อนคนที่มีบัตรเข้าเอเรียที่ให้ไปยืนเข้าแถวที่อื่นมาเข้า
คือจะบอกว่าคนที่อยู่ชั้นสองที่ยืนดูไลฟ์ของ tiaraเป็นแฟนๆรอดูไดจิหมดเลย ฮ่าๆๆ
น่าสงสารนะเนี่ย นักร้องคนนี้เพลงก็เฉยๆนะ ไม่โดนค่ะ
เสียงก็ธรรมดาไม่ได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับคนที่ร้องแนวเดียวกันคนอื่นๆ เราว่าแอบเหมือนเบนิ
แต่แนว แล้วก็เสียงเบนิแข็งแรงกว่าเยอะค่ะ
จนชีหมดเวลาแสดง แล้วก็จับมือกับแฟนๆเรียบร้อย

Photobucket
ระหว่างนั้นสองทุ่มครึ่งแล้ว
พลุก็จุดขึ้นมา ข้างหลังตรงนั้นพอดีเลยค่ะ
ก็กิ๊วก๊าวกับพลุกันไป
แล้วไลฟ์ของไดจิคุงก็เริ่มขึ้นค่ะ
ไดจิใส่สูทสีเทา ผูกหูกระต่ายด้วย
ขาวมากก ออร่าเปล่งประกายสุดๆ
ขึ้นมาก็พูดสวัสดีทักทาย
แล้วก็ร้องเพลง
You &Me
แล้วก็ต่อด้วยเพลง
Your love แล้วก็มีแดนเซอร์ขึ้นมาเต้นด้วยสองคน ใส่สูทดำค่ะ

จากนั้นก็พัก MC
แล้วก็ต่อด้วยเพลง
ที่ร้องในอัลบั้มรวมเพลงของดิสนี
When she loved me
แล้วก็ต่อด้วยเพลงคริสต์มาสอีกเพลง ไม่รู้ชื่อเพลงค่ะ
เพราะมากกกกกก แบบ โชว์พลังเสียงสุดๆอ่ะ
ช่วงนี้เราแอบเอากล้องอัดเสียงมาด้วย
แต่ก็ไม่จบดีเพราะเมมเต็มค่ะ
ต่อด้วยเพลง
drama ที่เป็นเพลงแถมในซิงเกิ้ลนี้ค่ะ
ต่อด้วย The answer
พักพูด แป๊บนึง
แล้วก็บอกว่าเพลงต่อไปจะร้องเป็นเพลงสุดท้ายแล้ว
แน่นอนว่าก็ต้องเป็นเพลง lullaby
เสียดายไม่ค่อยได้เต้นแบบในพีวีค่ะ ร้องซะมากกว่า
ใครยังไม่ดู นี่เลยค่ะ
แนะนำให้ดูนะ ไม่ไหวแล้ว
เอามาแปะให้เลยค่ะ

เราชอบท่าเต้นมากกๆๆๆๆ สงสัยว่าใครเป็นคนออกแบบท่าเต้น
แต่จากเอ็มซีที่ไดจิคุงพูดวันนี้
ราวๆว่าก็ไม่ได้เน้นแค่เรื่องร้อง แล้วก็เต้น ก็ได้ออกแบบท่าเต้นด้วย
น่าจะออกแบบท่าเต้นเองนะคะ
จากงานUNITED3 ช่วงของไดจิเองก็ออกแบบท่าเต้นเองแล้วมันก็ดีมากๆด้วย
เพลงความหมายก็ดีค่ะ ไวเราจะแปลมาลงบล๊อกนะคะ อีกไม่กี่วันนี้แน่นอนสัญญา

ดีใจมาดๆที่วันนี้ได้มาดูไลฟ์ ตอนไปดูUNITED3มันก้คือมีไดจิคุงด้วยนะ
แต่มันก็รวมๆหลายๆคนค่ะ แล้วเราตั้งใจไปดู lead ฮ่าๆๆ ซึ่งไดจิคุงเป็นผลพลอยได้
แต่นี่เราตั้งใจไปดูไดจิคุงเลย
พอไลฟ์จบ ก็จะมีสต๊าฟประกาศว่าต่อไปจะเป็นการจับมือ
ไดจิก็ลงไปพักค่ะ
เราก็รีบลงไปข้างล่างไปต่อแถวจับมือ
คนเยอะมากๆๆๆ จนขดยาวอยู่ แล้วก็เบียดๆกันหน่อย
แฟนๆ ดูไม่เด็กมาก ดูแล้ว น่าจะมัธยมปลายอัพนะ
ผู้ชายก็เยอะค่ะ
ป้าๆลุงๆก็เยอะ
แต่นั่นมันก็อาจจะเป็นผลพลอยได้จาก ไลฟ์แบบโอเพ่นแอเรียด้วย
ก็ต่อแถวไปตอนนั้น เราใส่ถุงมืออยู่ ฮ่าๆๆ พอใกล้ๆก็ต้องถอดออกจะได้สัมผัสมือไดจิคุงได้เต็มที่
แบบพอใกล้ๆแล้วตื่นเต้นมากกกก
คือไดจิคุงยืนอยู่ล่างเวทีค่ะไม่ได้ขึ้นไปจับบนเวทีนะ
คือ ไดจิคุงขาวมากกก ออร่าวิงค์ๆๆๆๆ
แอบเห็นว่า ใครเอาของขวัญ หรือการ์ดอะไรมา สามารถยื่นให้ไดจิคุงด้วยตัวเอง แล้วไดจิคุงก็รีบเดี๋ยวนั้นเลยด้วยค่ะ
พอไดจิคุงรับแล้วก็จะวางที่โต๊ะข้างๆ ให้สต๊าฟมาเก็บลงถุง
อยากให้ lead ทำได้แบบนี้จัง แบบของขวัญเราอย่างน้องก็ผ่านมือ แบบถึงแล้วแน่นอน
ไม่งั้นไม่แน่ใจว่าที่ให้ๆไปมันถึงมือมั้ย
พอถึงเรา
แน่นอนเราก็พูดว่า "มาจากไทยค่ะ"
ไดจิคุงก็ร้อง "อ๊า~~~~~~~ヽ(*'0'*)ツขอบคุณมากๆครับ"
แล้วก็ทำหน้าแบบ ดูซาบซึ้งใจมากกกกกกกกกก อย่างสัมผัสได้
แล้วพอเราเดินออกมาเราก็ยังมองไดจิคุงอยู่
ไดจิคุงก็มองตามมาแล้วก็โค้งๆให้ แล้วก็ยังพูดว่าขอบคุณๆ
เราก็ยิ้มแล้วก็โค้งตอบแล้วก็พูด ขอบคุณค่ะ
แล้วตอนออกสต๊าฟก็ยื่นการ์ดมาให้
แล้วเราก็เดินไปหน้าเวทีค่ะ
แบบห่างจากไดจิคุง ไม่ถึงสี่เมตรอ่ะ มองหน้าตรงๆได้เลย ไดจิคุงก็จับมือไปเรื่อยๆ
แต่ดูจากรีแอคแล้ว ไดจิคุงก็พูดขอบคุณกับทุกคนแต่ไดจิคุงทำหน้าแบบตกใจมากตอนเราบอก ฮ่าๆ
เราก็ยืนดูไดจิคุงจับมือกับคนอื่นๆไปซักพักนึงแล้วก็มุ่งหน้ากลับหอมาด้วยความอารมณ์ค้างสุดๆค่ะ
ในหัวมีแต่เพลงไดจิก้อง
ดีใจมากๆๆๆๆๆค่ะ ที่ได้มาดูไลฟ์ในวันนี้
คือบอกตรงๆ เราว่าไดจิคุงไม่ใช่คนที่หน้าตาดีอะไรค่ะ
แต่สไตล์ หรือโดยรวมๆแล้ว เรียกว่าเท่จะดีกว่า
แต่เราชอบไดจิคุงครั้งแรกตอนนั้นไม่เห็นหน้าค่ะ ฟังเพลง แล้วก็เฮ้ยโดนใครอ่ะ แล้วก็ดูชื่อ
แล้วก็หลังจากนั้น เนื่องจากว่าเราจะเข้าไปเช็คข่าวเว็บวิชั่นประจำ
คือไดจิคุงอยู่ค่ายเดียวกับ lead ก็จะเห็นอะไรประจำ ตอนนั้นก็เฮ้ยคนนี้นี่ ที่ชอบเพลงเค้า
หลังจากนั้นก็ตามฟังเพลงมาเรื่อยๆค่ะ
แบบคุณภาพจริงๆอ่ะ ทั้งร้องทั้งเต้นค่ะ เขียนเพลงและทำเพลงเองด้วยในบางเพลง และออกแบบท่าเต้นด้วย
สมแล้วที่ได้ฉายาว่าเป็นไมเคิล แจ๊คสันของญี่ปุ่นเลยค่ะ ><
จริงๆเมื่อไลฟ์ครั้งที่ผ่านมาตอนที่ออกตารางมาให้ซื้อตั๋ว เรายังเปิดดูอยู่เลยค่ะ
แต่วันที่เล่นที่โตเกียว ตรงกับวันที่เราสอบวัดระดับพอดี
เราก็เลยได้ข้ออ้างในการตัดใจให้ไม่ต้องเสียตังไปดูค่ะ
เพราะตังก็ไม่มีด้วยอ่ะ ฮาาาา(หัวเราะทั้งน้ำตา ฮึกๆๆๆ)

กลับเข้าเรื่องต่อ
ถึงเราจะอยู่ชั้นสองนะ แต่มันเห็นชัดมากค่ะ ถึงจะต้องเขย่งมั่งก็เถอะ
อ้อลืมบอก เราก็เขย่งดูหลังอิเด็กผู้ชายคนนั้นไปราวๆ ครึ่งแรกค่ะ
แล้วเราเห็นว่าชอบมีคนไปยืนข้างๆเด็กคนนั้นแล้วก็งมองลงไป แบบเดินผ่านแล้วแว่บมาดูว่าใคร
เราก็เลยลองไป โอ๊ววว มันเห็นชัดแบบไม่มีใครบัง แล้วไม่ต้องเขย่งด้วย
เพิ่งมารู้นะย้งนะ ตอนนั้นปวดขา ปวดหลังมากๆๆๆๆ
คือระยะห่าง คิดแบบเวกเตอร์เลยนะ (เวคต้งเวคเตอร์อะไรย้ง ฮ่าๆๆ)
คือระห่างเรากับไดจิคุงไม่น่าถึงสิบเมตรอ่ะค่ะ
ชัดมากกกกก

เป็นอันว่า เป็นวันที่มีความสุขทำให้เราลืมเรื่องเครียดไปได้วันนึงค่ะ
อีกหกวัน ไม่ถึงดีแล้ว ห้าวันแล้วด้วย เราก็จะได้ไปเจอ lead แล้ว กรี๊ดดดดด

พีเอส ใครที่รออ่านโปรเจคพิพิธภัณเรา (มีด้วยเรอะ)เราอาจจะพักไปซักระยะค่ะ เนื่องด้วยความบิมโบเพราะlead แล้วตอนนี้ตั๋วเดือนรถไฟเราหมด ไปไหนมันก็ราคาเต็ม แล้วบัตรเบ่งเราก็จะหมดอายุแล้วค่ะ อาจจะซื้อใหม่หลังปีใหม่
แล้วช่วงที่ผ่านมา เดือนนี้เราสอบเยอะมากกก เรียนหนักมากกก มีเรื่องให้เครียดเยอะมากกกกก
ก็เลยพักๆไปก่อน แต่เราไม่เลิก และหยุดแค่นี้แน่ค่ะ มันยังมีอีกหลายที่ที่เรายังอยากไปอีกเยอะเลย
Photobucket

วันที่23 ดูเหมือนจะมีฟรีไลฟ์ที่โตเกียวทาวเวอร์ด้วยค่ะ
เราก็ว่าจะไป ถือว่าเป็นผลพลอยได้ไปดูเค้าประดับไฟแถมนั้นด้วย
เหมือนที่เราไปวันนี้ ฮ่าๆๆๆ




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2553    
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 22:36:14 น.
Counter : 617 Pageviews.  

[Museum Project@Japan#26+27]Ntl. Museum of Nature n' Science「科学博物館」Museum of Photography「写真美術館」2711

[Museum Project@Japan#26+27]National Museum of Nature and Science,Tokyo「国立科学博物館」,Tokyo Metropolitan Museum of Photography「東京都写真美術館」 27112010


ต่อจากครั้งที่แล้วค่ะ
เดินออกมาปั๊บเลี้ยวซ้ายจะเจอที่นี่เลย National Museum of Nature and Science,Tokyo
//www.kahaku.go.jp
ตามเว็บค่ะ
Photobucket
เราจำไม่ได้ว่าค่าเข้าเท่าไหร่
แล้วพอดีตอนนี้เว็บมันเราเข้าไม่ได้
ไปถึงซื้อบัตรอะไรเสร็จเค้าจะให้เป็นริบบิ้นสีชมพูแปร๋นๆมาให้ติดที่เสื้อค่ะ
ก็ติดด้วยนะ
แล้วพอเดินเข้าไปปั๊บ บรรยากาศกลางเมือง
ห่างจากชิบูยะมาแค่ สองสถานี รอบๆเป็นตึกหมด
ก็เป็นป่าไปทันใดค่ะ

ใครเบื่อเมือง เบื่อตึก
มาทีนี่ได้เลยค่ะ
ป่าจริงๆ!!
เหมือนเดินอยู่เขาใหญ่ไรงั้นเลย

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket


เดินที่นี่เสร็จ ก็มุ่งหน้าเดินกลับสถานีเมกุโระค่ะ
ที่ ที่เราจะไปต่อไปมันอยู่สถานีเอบิสึซึ่งห่างจากที่นี่ไปสถานีนึง
ด้วยความบิมโบของเรา
เราไม่ชึ้นรถไฟค่ะ เดินเอา!!
ระยะทางจิ๊บๆ โลนึง
ก็เดินไปเรื่อยๆค่ะ
Photobucket

Photobucket

เราก็เดินไป จนถึงสถานีมันนั่นล่ะค่ะ
แต่ที่ที่เราจะไปมันคือ ebisu garden place ซึ่ง เราก็เดินหานานม๊ากกกก เป็นชั่วโมงได้
เดินๆๆๆๆ
จนไม่เอาละ หาคนถามก็ได้
ไปถามคุณป้าร้านชายเสื้อผ้า แกก็บอกว่า มันไม่ได้อยู่ฟากนี้น่ะอิหนู มันอยู่อีกฟาก ทางซ้ายๆ
คือถ้าใครมาลงสถานีเอบิสึเลยมันจะหาได้เจอทันทีค่ะ แต่เราเดินทางนั่นเอง มันเลยงงแผนที่
ดูไปก็หลง
เง๊ออออ
จนขึ้นไปตรงทางออกเจอาร์นั่นล่ะ ขึ้นมาแต่แรกก็จบแล้วย้งเอ๊ยย
มัวเดินหลง ฮาาา
มันก็จะมีสกายวอล์คเชื่อมไปถึงเลยค่ะ
ก็ยาวอยุ่นะ ยาวกว่าของสยามไปเซ็นเวิลเท่าตัวได้มั้งคะ
ไปถึง ในที่สุดก็เจอ
ตอนนั้นสภาพขาแย่แล้ว ฮาาา ผ่านการใช้งานมาตั้งแต่ แปดโมงเช้ากว่าๆ ตอนนั้นสามโมงเย็นได้แล้วค่ะ

ที่ที่เราไปเป็นที่ที่สี่ของวันนี้ก็คือ
Tokyo Metropolitan Museum of Photography
//www.syabi.com/

Photobucket
ค่าเข้าแล้วแต่งานแล้วแต่ชั้นเลยค่ะ
ของเราที่ไปดูวันนี้เป็นพอเทรทแบบต่างๆ
แล้วก็ชั้นล่างสุดใต้ดินที่ให้ดูได้ฟรี


ส่วนอื่นในนี้ท่าจะใหญ่อยู่ค่ะ
แต่เราค่อยเก็บไว้มาเดินอีกทีตอนที่ต้องมาดูไลฟ์คริสต์มาสของ lead ฮ่าๆๆ
Photobucket

เดินเสร็จเราก็เผ่นกลับเลยค่ะไม่ไหวแล้วเหนื่อยโฮกกก
ถ้าไม่หลงกินแรงไปจริงๆเราก็ว่าจะไปที่อื่นต่อนะคะ
แต่ไม่ไหวแล้วๆ
ขึ้นรถไฟหลับ คร่ออกกก ตื่นอีกที งัวเงียๆเปลี่ยนสายรถไฟ
ขึ้นอีกสายแล้วก็หลับคร่อกกกก
ตื่นมาอีกที ก็มาโมนาคุ...เอกิ
ถึงสถานีที่หอซะที
แต่ก็ต้องแบกหน้าบานๆ เดินโต้ลมบนสะพาน ยาวร่วมโล ที่มองไปก็เห็นดิสนี่ให้ช้ำใจเล่น
ก่อนจะกลับมาตายที่หอค่ะ ฮาาา

ครั้งหน้าจะไปไหนดีอ่าาาา บิมโบอย่างเราจะไปได้ไกลแค่ไหนรอดูนะคะ
อะรุไบท์สมัครไปมากมาย งานที่ไม่ได้เค้าก็ส่งเมล์มาให้ช้ำใจไปแล้ว
ที่อื่นๆก็สมัครไปมากมายไม่มีติดต่อมาเลย เฮ่ออออ
บิมโบจริงๆค่ะ ฮืออ เอาใจช่วยให้หาไบท์ได้ด้วยนะคะ
จะได้มีตังไปเที่ยวค่ะ ฮาาา

อ๊ะ แถมๆๆๆ วันก่อนกิจกรรมของโรงเรียน เดินกันไปเป็นฝูงทัวร์บั๊วเลย ฮ่าๆๆ
ไปที่ไกเอนมาเอะ
อิจิๆซักอย่างมัตสึริ เห็นว่าดัง
ละครชอบมาถ่ายบ่อยๆ
ไปถึงมันก็ไม่ได้มีอะไรมากตามที่หวังไว้นะคะ แต่ก็สวยดีค่ะ
Photobucket
Photobucket




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 7:54:16 น.
Counter : 711 Pageviews.  

[Museum Project@Japan#24+25]Meguro Museum Of Art「目黒区美術館」, Teian Art Museum「東京都庭園美術館」 27112010

[Museum Project@Japan#24+25]Meguro Museum Of Art「目黒区美術館」,Tokyo Metropolitan Teian Art Museum「東京都庭園美術館」 27112010

กลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง
เอ่อมม ใครเรียกร้อง?
ไม่มีค่ะ ตึง ฮ่าๆๆๆ ตัวเองนี่แหละ
วันนี้ก็ออกแต่เช้าเหมือนเดิม คุณรูมเมทยังไม่ตื่นเลยฮาาา
วันนี้ตั้งใจว่าจะไปแถบ เมกุโระ เอบิสึค่ะ

โดยเราก็ไปลงชิบูยะ สุดทางตั๋วเดือนของเราที่ขึ้นฟรีแล้ว
แล้วก็ไปต่อ JR ยามาโนเตะไปลงเมกุโระค่ะ 130 เอง บิมโบริวกักเซอย่างเราพอไหว ฮาาา

ไปถึงปั๊บ เงียบมากค่ะเพิ่งจะสิบโมงหน่อยๆ
ก็เดินตามหาทางไปที่แรกกันเลย ที่แรกที่เราจะไปก็พิพิธศิลปะเมกุโระ
ตอนแรกแอบหลงทางไปหน่อย ไปผิดถนน แต่เซนส์บอกไม่ใช่ ฮาา
หันหลังกลับ เดินไป
ก็เห็นป่ายบอกให้เลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ
เราเดินแถวนี้แล้วเรารู้สึกเหมือนเราเดินอยู่แถว ประตูน้ำ พญาไท เทือกๆนั้นยังไงก็ไม่รู้เหมือนเลยค่ะ ฮาาา

ที่นี่ก็แน่นอนค่ะไม่ให้ถ่ายรูปเหมือนเดิม
ก็เอารูปบริเวณรอบๆไปละกันนะคะ
Photobucket

Photobucket

Photobucket
ข้างใน ตอนที่เราไปเป็นงานโชว์ พวกงาน เอ่อ ภาษาไทยอะไรหว่า ไม่รู้จริงๆขอโทษด้วยนะคะถ้าอธิบายผิด
Photobucket
มันเป็นเหมือนงานเหล็ก แล้วก็ใช้ค้อนทุบๆๆอ่ะค่ะ ฮาาา
อ่านแล้วเข้าใจมั้ยเนี่ย
กร๊ากกก
ชื่อศิลปินเราก็อ่านไม่ออกค่ะ ฮาาาา
เจ้าของงานอ่านเจอแบบนี้คงด่าอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ

ค่าเข้าที่นี่เหมือนจะเปลี่ยนไปตามงานที่นำมาแสดงนะคะ
เพราะงั้นแล้วก่อนไปก็เข้าไปเช็ค ไปดูกันได้ค่ะว่ามีงานอะไรยังไง
//www.mmat.jp/

ระหว่างทางที่จะไปที่อื่นต่อเราก็เดินสำรวจรอบๆค่ะ
ไปเจอศาลเจ้าโอชิมะ
Photobucket

Photobucket

Photobucket



ส่วนนี่อีกวัด เราเดินหลงค่ะ ไปโผล่ไหนก็ไม่รู้

Photobucket

Photobucket


หลังจากนั้น เราก็เดินมุ่งหน้าไปอีกที่ค่ะ
คือTokyo Metropolitan Teian Art Museum
ซึ่งเพราะไอ้ที่นี่แหละที่ทำให้เราเดินหาแล้วเดินหลงไปวัดข้างบน
จนมารู้ทีหลังมามันอยุ่คนละทิศเลย ฮาาา
ออกมาจากเจอาร์ก็จะมีป้ายบอกค่ะ
แต่เยื่องด้วยว่าเราไปพิพิธเมกุโระก่อนออกคนละทางมันเลยไม่เห็นป้าย ไม่งั้นมันก็จะหาง่ายค่ะ
เดินไปราวๆ ครึ่งโล
ก็จะเจอ
//www.teien-art-museum.ne.jp/index.html
ค่าเข้า ที่นี่มีสองแบบค่ะ
คือจริงๆแล้วจะมีเหมือนสวน ก็สองร้อยเยน
ส่วนตึกพิพิธนั้นมันจะเปลี่ยนไปตามงานที่แสดงค่ะ
ตอนที่เราไปเป็นงานน้ำหอมโลก เาก็อยากเข้านะแต่จนค่ะ ฮ่าๆๆ
เข้าแต่สวน ซึ่งที่เรามีบัตรฟรีเข้า
ฤดูนี้ก็ได้ฤดูเหมาะดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี
เข้าไปก็ตามภาพค่ะ
Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

เดินที่นี่เสร็จก็เที่ยงหน่อยๆพอดีค่ะ
ที่ต่อไปที่เราจะไปก็อยู่ข้างๆที่นี่เลย

รั้วติดกันเลยล่ะ
แต่ที่ไหนรออ่านต่อเอนทรี่หน้าค่ะ




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 19:34:28 น.
Counter : 800 Pageviews.  

[Report]Lead's Musical「絆ー少年よ大紙を抱けー」21112010

[Report]Lead's Musical「絆ー少年よ大紙を抱けー」

วันนี้21112010 เราก็ได้ไปดูหนุ่มๆมาค่ะ
สถานที่ก็โรงละครแห่งชาติใหม่หรือ新国立劇場 中劇場
รอบ ห้าโมงค่ะ
Photobucket

มันไม่ไกลนะ แต่ไปลำบากเพื่อประหยัดตัง ฮาาา
ก็นั่งตามปกติที่มีตั๋วเดือนไปลงชิบูยะแล้วก็ขึ้นยามาโนเตะไปชินจูกุ
ออกทางออกใต้
แอบหลงในสถานีอีกตะหาก อิสถานีนี้ไปกี่ทีก็หลง
แล้วก็เดินไปต่อค่ะ
เดินราวๆ ยี่สิบนาที
ระยะทางโล กะอีก ราวๆ เจ็ดร้อยเมตร
ที่เรารู้ขนาดนั้นเพราะเราเปิดแผนที่ค่ะฮาาา

ไปถึงโรงเจอต้นคริสต์มาส
แล้วก็เจอกับพี่ดาว
แล้วก็เข้าโรงเลย
ก็จะมีโต๊ะขายของ ขายไม่ค่อยได้หรอก ฮาๆๆๆ เราว่านะเพราะตอนพักครึ่งมีแม่หาบมาเดินขายด้วย
พร้อมกับเข้าไปเจอดอกไม้วางเรียงรายยยยยยย
แบบ มันมีสองฝั่ง
ฝั่งขวาเป็นของ อิคุณปาร์คจองมิน เอสๆ หมดเลย แอบช๊อค
พร้อมทั้งเห็นโอบ้าซังมากมาย
แบบแฟนคลับ เหอๆๆๆ
ของlead ก็เยอะนะ มีของโทโมะคุงแล้วก็เซโตะคุง ดีบอยส่งมาให้ฮิโรกิ
แล้วก็โซมะคุงให้ฮิโรกิ
พร้อมกับของคนอื่นๆ
รวมถึงแฟนๆด้วย
ของแฟนๆก็มีคนส่งข้อความมาชวนหุ้นตังนะคะ
แต่ถ้าเราจะส่งเราอยากแปะเขียนป้ายไปเลย ว่า
จากแฟนๆที่ไทย
Photobucket
Photobucket
เพราะงั้นแล้วถือโอกาสชวนคนที่มาอ่านเจอเลยนะคะ
ว่าถ้าเราจะทำแบบนั้นจะมีใครสนใจบ้างมั้ย?
อาจจะสั่งแล้วให้ไปส่งคอนปีหน้าค่ะ
ที่นั่งเราชั้นสอง แถวสอง (จากทั้งหมดมีแค่สามแถวแง่มมมม)
เอียงๆไปทางซ้ายเลยค่ะ
ทางซ้ายจากเราไปแล้วไม่มีใครมานั่งเลย ว่างงงง
แอบไม่เข้าใจ บัตรมันจะมีสองราคาค่ะ S 7500 กับA 6500
ของเราก็แบบเอสอ่ะ
แบบแพงงงงงโฮกกกกอ่ะ
ทำไมได้ที่ตรงนี้ ฮือออออออ
Photobucket
นั่งรอจนเริ่มแสดง
พอจะเริ่มอยู่ๆไฟก็มืดไปเลยค่ะ

ที่จะเล่าต่อไปนี้ลำดับอาจจะไม่แน่ชัดนะคะ
แล้วก็เราอาจจะไม่พูดถึงเนื้อเรื่องมากนะ
เนื้อเรื่องก็เหมือนกับที่เราเคยแปลลงบอร์ดไปแล้ว

ตอนขึ้นก็จะมีคนใส่ชุดฮากามะ ถือพู่กันอันใหญ่ๆออกมา
ด้านหลังฉากก็เป็นม่านดำ
แล้วคนที่ออกมาก็จับพู่กันลากไปบนพื้น
แล้วก็จะปรากฏเป็นตัวหนังสือ "絆"คือชื่อเรื่องขึ้นมา
ปั๊บ ก็ดึงม่านขึ้น
แล้วก็เป็นจอแอลอีดีเหมือนทุกๆงานช่วงนี้
สองชั้น
ก็จะเป็นการแนะนำตัวละคร
ทุกๆคนใส่ฮากามะ สาวๆ ใส่ชุดนักเรียน
เป็นรูปเซ็ตเดียวกับในเว็บแล้วก็ โปสเตอร์ต่างๆ
มีรูปพร้อมชื่อ แนะนำทีละสองคน บนล่าง
อากิระ อยู่บน ฝั่งพอดี ค่อยยังชั่ว ฮาาา

เนื้อเรื่องก็เริ่มขึ้น โดยมีลูกน้องอากิระ แก๊งเด็กซิ่งสามคนออกมา
เวทีก็มีม้านั่งซึ่งก็จะเป็นฉากหลักเหมือนกัน
แล้วก็มีบอร์ดด้านหลัง
ตรงจอก็จะเป็นภาพกราฟฟิคตึกเรียน
มีเรื่องงานเลี้ยงอำลา ก็ไปดูๆดึงๆกัน อากิระก็เดินเข้ามา
โฮกๆๆ หล่อออถึงจะไกลก็เถอะนะ
แล้วก็จะเป็นเหล่าเมนควีนสามสาว ยืนอยูชั้นสอง
แล้วก็พูดถึงกลุ่มs5 ทีละคน ตอนนั้นแต่ละคนก็จะเดินอออกมา
ชินยะ น่ารักอ่ะ
แต่งตัวแบบชุดนักเรียนแล้วก็ผมยาวแล้ว น่ารักๆๆๆ หนุ่มรองเท้าแดง
เคตะก็ผมเหมือนเห็ดๆหน่อยๆ โดนหนีบผมมาอ่ะ ฮ่าๆๆ
แล้วก็มาร้องเพลงกลางเวทีกัน ฟีลบอยแบนเล๊ยยยย
จำไม่ค่อยได้อ่ะ อาจจะข้ามๆแล้วก็เป็นส่วนๆ ไปนะคะ
ร้องเพลงเสร็จสาวๆเมนควีนก็กรี๊ดๆๆๆ กันซะ
นางเอกแล้วก็เพื่อนนางเอกก็ออกมา
เหมือนอิหนุ่มๆ s5 นี่จะชอบไปใช้โรงยิม ทำตัวเป็นบอยแบยกัน จะโดนอาจารย์ดุประจำ ฮ่าๆๆๆ
แล้วก็คุยกันเรื่องงานอะไรพวกนี้กันตลอดนะ
แล้วก็จะมีที่สาวๆเมนควีนไปอยู่ชั้นสอง
แล้วก็พูดถึงเหล่านักเรียนภาคค่ำทีละคน แล้วแต่ละคนก็จะเดินออกมาเหมือนกัน
(เราขึ้นต้นด้วยแล้วคิดกันมาสามบันทัด ฮาาา มองขึ้นไปแล้วไหงเป็นงั้นเนี่ย ฮ่าๆ)
ของฮิโรกิ ฮามากกกก
เป็นพ่อหนุ่มโฮสท์เดินออกมาเลย เดินมา แล้วก็เก๊กๆ ฉีดน้ำหอม
เห็นปั๊บนึกถึงอิคนที่เรียนในห้องเราเลย อิคุณปาร์คจองฮี
เซ็ตผมเด้งชิ้ง มันจะมีฉากที่นั่งตรงโต๊ะเรียน ก็ไม่ฟัง แล้วก็นั่งส่องกระจกดึงผมตลอดเวลา
เหมือนอิปาร์คที่นั่งหน้าเราเป๊ะ เลย ฮาาา ยังไงย้งก็ไม่เชื่อว่ามันทำร้านเนื้อย่างอ่ะ ไบท์อ่ะ
ยังไงมันก็ต้องเป็นโฮสท์แน่ๆ!!
แล้ววันนี้อิคุณปาร์คหนุ่มโฮสท์หน้าย้ง มันนั่งดึงหนวดซึ่งมันทำบ่อยเราเห็นจนชินแล้วล่ะ
แต่ว่า อาจารย์เข้ามาก็ยืนแบบจ้องมันแบบกลั้นขำๆอ่ะ จนเพื่อนทั้งห้องหันมามองมันก็ยังไม่รู้ตัวค่ะ ฮ่าๆๆๆ
เอ่อ ออกนอกเรื่องๆ กลับมาๆๆ ย้ง (ไว้มีรูปมันที่ถ่ายรวมทั้งห้องแล้วจะเอารูปมาให้ได้ดูว่าลุคมันโฮสท์จริงอย่างที่ย้งบอกมั้ย)
แล้วตรงนี้ เมนควีนจะพูดตบท้ายทุกครั้งว่า "น่าเสียดาย"ฮ่าๆๆๆ แบบทุกๆคนก็หล่อๆ แต่จะมีอะไรที่แปลกๆ
ตอนแฝดชินเปมัมเป คนไหนเล่นเป็นฮิคิโคไม่รู้จำไม่ได้ เดินออกมาได้ ฮิคิโคริมากกก ย้งชอบ ฮาา

เวลาที่s5 อยู่ด้วยกันครบ พร้อมอีกหนึ่งหนุ่มเป็นหก ก็จะชอบแซวเคตะว่าชอบไอใช่มั้ยๆๆ
บทเคตะดูเป็นคนเงียบๆ ขี้อายอ่ะ
แล้วจะมีฉากที่อากิระไปเรียน แล้วเจอกับไอ (นางเอก) ไอก็มาถามว่าเป็นไงๆ
อากิระ ก็ดูเขิน แล้วแบบอย่ามายุ่งๆ
แล้วนางเอกก็ล้มลง
อากิระก็เดินเข้าไปพยุง โอบไหล่ กรี๊ดดดดด ม่ายยยยยยยยยยยยยย
ตาร้อนไฟลุก
แล้วเพื่อนนางเอกยูกิมาเจอ แล้วก็นึกว่ามาทำอะไรไม่ดีกับไอก็ไปด่าๆๆๆ
ไอก็แบบไม่ใช่นะๆ ริวจิแค่มาช่วย
แล้วยูกิก็ลากไอออกไป
หลังจากนั้นเพลงก็ขึ้น เป็นเพลงเดี่ยวของริวจิ(อากิระ)
แบบร้องขึ้นต้นมาน้ำตาย้งไหลพรากกกก ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องมาให้ได้จิตตกอีก (เอาเข้าไปชีวิตเรามันดราม่าค่ะ)
เสียงที่รักทำไมเพราะได้แบบนี้
พร้อมกับอยากเป็นคนที่อากิระร้องให้จริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ (เพ้อ)


แล้วก็จะมีฉากที่นางเอกกับเพื่อนนางเอกกนั่งคุยกันที่ม้านั่ง เพื่อนก็จะถามว่า ตกลงเธอชอบใครยะ
ประมาณนั้น
เกลียดนางเอกอ่ะ ฮาาาาา อิคนลังเล
แล้วพอดีก่อนหน้านั้นเคตะก็ลืมเสื้อนอกไว้ที่เก้าอี้ก็กลับมาแล้วก็เจอนางเอก
แล้วก็ไปนั่งอายๆกันอยู่คนละมุมม้านั่ง
คือนางเอกนั่งทับเสื้อเคจังอยู่
แล้วก็ เผลอพูดตอบเคจังไป ว่า ”ซุยมาซอง”มันก็คือขอบคุณแหละ แต่พูดแบบ จริงๆมันต้องเป็นซุยมาเซ็งใช่มะ
นี่เป็นแบบนี้ไงแบบฮาๆหน่อย เคจังก็ขำใหญ่เลย
แล้วก็คุยกันเรื่องเบสบอลมั้งจำไม่ค่อยได้ แล้ว นางเอกก็เผลอพูดถึงริวจิ(อากิระ)
ยาวเลย
จนเคจังออกแนวเซ็งๆ นั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ดูเซ็งมากๆ
แล้วค้อนๆ โกรธ แล้วก็เดินกลับไป
เหมือนหมดฉากนี้แล้ว จะเป็นโซโล่ของเคจังค่ะ
เพลงแนวเศร้าๆเลย แบบชอบมาตลอด อยากป้องคอยดูแล อุกรี๊ดดดด

ตอนนั้นเองในห้องเรียนนักเรียนภาคค่ำก็เรียนกันอยู่
อาจารย์ก็ให้เขียนพู่กัน บอกว่าให้เขียนคำที่ชอบ
ระหว่างนั้น นางเอกก็โทรไป จะบ่นกับเพื่อนว่าตัวเองทำพลาดลงไปแล้ว
ก็เป็นโรคนางเอกอีก เป็นลมหมดสติไป
แล้วแก๊งซิ่งก็กริวจิก็มาเจอ แล้วก็โทรตามรถพยาบาล
พร้อมโทรตามยูจิที่นั่งเรียนในโรงเรียน
ริวจิก็รีบวิ่งอย่างเป็น ดูร้อนรนมาก พาไอ แล้วก็ขึ้นรถพยาบาลไปด้วย
พร้อมกับอุชิ(จิลสัน)ที่เดินไปชูกระดาษที่ริวจิเขียนเป็นคำว่า ”愛”(ที่แปลว่ารัก แล้วก็เป็นชื่อของนางเอก)
ตอนนี้จะจบองค์ที่หนึ่งพักครึ่ง
กรีดร้องงงง กรี๊ดดดด ดูแล้วรู้สึกปวดใจ ฮือออออ อยากเป็นนางเอก


พักครึ่ง
เปิดมาพร้อมกับฉากเป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณเชว
แล้วหนุ่ม s5 ที่ใส่ชุดแบบชิยเซนกุมิ
ถือดาบออกมาฟันๆ
ก็งงอยุ่ว่ามันเกี่ยวไรกับเรื่อง ฮาๆๆ
จนอาจารย์ใหญ่เดิน(จริงๆแล้วเป็นรองอาจารย์ใหญ่รักษาการ)ออกมาบ่น
คือหนุ่มๆมันก็ยึดโรงยิมเล่นไรกันอีกแล้วน่ะดิ ฮาๆๆๆๆ อิกลุ่มบอยแบนด์

ตอนช่วงหลังก็จะเป็นช่วงที่รบเร้าให้คนในโรงเรียนจัดงานอำลา
พาร์ทปรับความเข้าใจระหว่างริวจิกับไดสึเกะ
แล้วก็ไอ ที่เข้าโรงพยาบาลไป
ต้องผ่าตัด แต่ถึงผ่าตัดแล้วสำเร็จดีก็อาจจะตาบอด

มันจะมีฉากที่เหมือนไดสึเกะโดนกดดันว่า รู้สึกยังไงก็พูดไปเลยตรงๆสิ
แล้วไดสึเกะ ก็เหมือนแบบทนไม่ไหว แล้วจนต้องมาร้องตะโกนว่า "好きで 好きで たまんない " แปลว่าชอบ ชอบมากๆ จนทนไม่ไหวแล้ว อันนี้จำได้ขึ้นใจมากกกก

ตอนที่ริวจิกับไดสึเกะนั่งปรับความเข้าใจกัน
คือเหมือนตอนม ต้นทั้งสองคนเรียนที่เดียวกัน แล้วก็อยุ่ชมรมเดียวกัน
แล้วมีไอเป็นผู้จัดการ
ก็เถียงกันว่าตกลงไอชอบใครกันแน่
ไอ้ริวจิก็บอกว่า ไอน่ะชอบไดสึเกะ
เพราะตอนอยู่บนรถพยาบาลเอาแต่พูดว่า ไดจัง ขอโทษๆๆ (ที่พูดถึงริวจิให้ไดสึเกะโกรธไป)
ไดสึเกะก็บอกว่าไอน่ะชอบริวจิ เพราะ ไอเอาแต่พูดถึงริวจิ
แล้วก็เถียงวนไปวนมา ว่านายนั่นล่ะๆ ตอนนี้หน้าสองคนใกล้กันมว๊ากกก ฮาา
แล้วตรงนี้ก็จะมีเพลงที่ร้องกันสองคน ของไดสึเกะกับริวจิ
ก็แบบ อยากไปอยู่เคียงข้าง อยากทำนู่นทำนี่ แล้วมันจะมีท่อนที่สลับกันร้องรับว่า ฉันด้วย
ชอบมากๆอ่ะ
แล้วระหว่างนั้นก็จะมีเสียงไอ พูดแบบ นึกถึงตอนเมื่อก่อนที่ทั้งสองคนไปซ้อมเบสบอลกันจนดึกดื่นๆ
เป็นช่วงเวลาที่มีความทรงจำที่ดีไรประมาณนั้น

หลังจากนั้น ทุกๆคนนักเรียนภาคค่ำก็ตกลงจะจัดงานอำลากัน
ทั้งนักเรียนระบบปกติแล้วก็ภาคค่ำก็ทำความเข้าใจกันน
คือทั้งสองกลุ่มจะมีหกคนพอดี
แล้วคนในทั้งสองกลุ่มก็มีคนที่เหมือนๆกันเป็นคู่พอดี
ก็มี อากิระ กับเคตะที่เล่นเบสบอลเหมือนกัน
ฮิโรกิ กับ ชินยะ ในเรื่องของยิมนาสติก
เรียวตะกับฮามะเคน ที่ชอบพวกบรูซลี ต่อสู้ๆ
ชินเปกับชินโนะสึเกะ ที่มีเรื่องเกี่ยวข้องเหมือนกันคือพวกการแสดง
อุชิสึกะ กับ มิยุ ที่เป็นตัวรั่วๆของกลุ่ม ฮาๆ ชอบทั้งสองบทนี้มากเลย
ฮิโระ กับทากาชิ ฝาแฝด ชิมเป มัมเปนั่นเอง
แต่ ฮิโระเป็นฮิคิโคโมริ บทนี้ก็น่ารักดีนะชอบ
เราชอบบทของกลุ่มนักเรียนภาคค่ำมากกว่าอ่ะ คาแรคเตอร์แต่ละคนชัดเจนแล้วก็ฮาด้วยตัวของมันเองมากๆ
อย่างมีช่างไม้ มนุษย์เงินเดือน โฮสท์ ฮิคิโคโมริ แก๊งซิ่ง กับอีกคนที่รั่วๆ ฮาาา
ส่วนตัวชอบอุชิ ม๊ากกกกก น่ารัก ฮาได้อีก เป็นบทที่ไฮเปอร์มากกก
ส่วนS5ก็จะเป็นแบบบอยแบ๊นบอยแบน

แล้วก็จะถึงไคลแม็กซ์แล้วค่ะ
ที่ทุกๆคนมาดวลฝีมือการใช้พู่กันกัน
ก็จะจับคู่แข่งกันตามที่บอกไป
บางตัวเราก็อ่านออก
บางตัวเราก็ไม่รู้แฮะ
ที่แน่ๆ แฝดชิมเป มัมเปเขียนว่า "夢"ความฝัน
คู่ของ อุชิ กับมิยุ "笑" หัวเราะ
ชินเปกับชินโนะสึเกะ "武" การต่อสู้
จำได้แค่นี้ล่ะครึ่งเดว
คนอื่นๆพอจำได้ แต่มันมาแบบไม่ครับตัวคันจิอ่ะ มาแบบเป็นส่วนๆ
คือคำที่แต่ละคนเขียนก็จะเป็นคำที่บ่งบอกถึงคำจำกัดความของคาแรคเตอร์ของตัวเองค่ะ


แต่ที่แน่ๆ ทั้งริวจิแล้วก็ไดสึเกะเขียนคำว่า ”ไอ”เหมือนเดิม
แล้วพอดวลตัวๆเสร็จ ทั้ง หกคนก็จะไปยืนเรียงกัน แล้วก็เขียนพร้อมกัน
เขียนเป็นประโยคว่า ”愛してるぜ!”อันนี้เป็นกลุ่มของs5
แล้วของนักเรียนภาคค่ำก็ ”がんばれ愛!”แน่นอน ตัว 愛 ริวจิกับได้สึเกะเป็นคนเขียน
อ้อตอนฮิโรกิ กับชินยะ ดวลกัน เนื่องด้วยพื้นฐานบทของทั้งคู่ เป็นหนุ่มในชมรมยิมนาสติก
ก่อนไปเขียนพู่กันที่กระดาศ ชินยะก็เต้นเรคแดนซ์ ส่วน ฮิโรกิก็ทัมบลิ่งออกมาแน่นอนสิคะ (เราว่าที่ต้องเขียนให้ชินยะเป็นนักกีฬายิมนาสติกด้วยนั้น ก็เพราะว่าคนเขียนบทอยากให้ฮิโรกิ ทำทัมบลิ่งแน่ๆค่ะ)
แล้วก็ของแฝดชิมเปมัมเปก็จะเน้นในมุมมองการเต้นเหมือนกับส่องกระจกค่ะ
แล้วจอด้านหลังก็จะเน้น รูปของทั้งสองคนที่มีเต็มไปหมดเลยค่ะ หลอนมากก

ชิๆหมั่นไส้อิคุณนางเอก คือเป็นการให้กำลังใจนางเอกที่จะผ่าตัดนั่นเอง
แล้วก็จบเรื่อง
ที่ทุกๆคนมายืมรวมกันกลางเวที ร้องเพลงรวมแล้วก็จบ
หลังจากนั้นก็จะมีรูปภาพขึ้นมา เป็นภาพตอนซ้อมให้ดู
แล้วก็เปิดม่านอีกครั้ง
เป็นการเดินออกมาโค้งเป็นกลุ่มๆที่ละกลุ่ม
เปิดม่านอีกครั้งก็เป็นlead ออกมาไลฟ์เพลง speechless
จบไปท่อนกลางเพลงก็จะเป็นมิกซ์แล้วก็หนุ่มๆที่เหลืออออกมาเต้นๆด้วย
พอหมด อิปาร์คจองมินก็ออกมาแทรกกลางleadของย้งแล้วก็ร้องด้วย เฮ่ออออ
จากเทนช่องๆแรงๆ แมกซ์ๆ กลับห่อเหี่ยวและเซ็งได้เพราะคนๆนี้
แฟนๆเอสๆ มาอ่านเจออยากด่าอยากว่าชิญ ย้งไม่ว่า ฮาาา แต่อย่าแรง อ่านแล้วเหนื่อยใจ
แบบ ไม่เข้าใจว่าจะมาเล่นทำไมอ่ะ
โผล่มา แค่ สองสามฉาก แล้วก็เป็นตัวประกอบ ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเลย
ชอบแบบเวลาs5 พูดถึงนักเรียน ศิษย์เก่า นักเรียนแลกเปลี่ยน เฮียก็จะออกมาร้องเพลงแล้วก็เต้นอยุ่บนเวทีชั้นสอง
เอ่ออออ
แล้วก็มีอีกฉากที่อาจารย์โทรไปคุยกะมานที่อยู่เกาหลี แค่นั้น
แล้วบอกว่าจะมางานอำลาโรงเรียน
แล้วสามๆเมนควีนกรี๊ดวิ่งขอลายเซ็นก็แค่นั้น
แล้วแบบเวลาโผล่มาทีไร
จะมีเสียงกรี๊ด แล้วก็ปรบมือดังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เฮ่ออออออ

Photobucket
Photobucket
เก็บตกเล็กน้อย
มันจะมีตอนที่ เรียวตะ ทำท่าบรูซลีให้คนในห้องดู แล้วอยู่ อิคุณเซโตะจินก็ อยู่ๆเด้งขึ้นมา จะต่อยด้วยซะงั้น ฮามากกก แล้วคนทั้งห้องก็ด๊องแด๊งๆ ไปวนๆรอบอาจารย์กันใหญ่เลย น่ารักมาก
แล้วก็บทฮิคิโคโมริ ของชิมเปก็น่ารักค่ะเราชอบ
ถึงแม้บทพูดจะน้อย แต่ก็ เน้นการแสดงล้วนๆเลย
แล้วก็เรารู้สึกได้ค่ะว่า ฮิคิโคโมริคนนี้อยากจะกลับมาเข้าสังคมแล้วก็มีเพื่อนอีกครั้ง
ที่สำคัญบทของ อุชิ น่ารักมากกกก ชอบ ฮ่าาาา
ซาราลี่แมน ชินเปก็ฮาค่ะ พูดอะไรเป็นแบบซาราลี่มังเลย
แล้วเวลาส่งงานอาจารย์ไรงี๊ก็ใช่ ฮามากๆๆๆ
แถมตอนที่ฮาที่สุด เราชอบตอนที่ เฮียแกเดินคุยโทรศัพท์มาแล้วพอวางสาย จะเก็บมือถือก็ทำท่าฟันดาบซามูไร ก่อนที่จะวาดแขนเอาดาบเก็บเข้าฝักค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ส่วนฝั่ง ลิ่วล้อ S5 มิยุก็ฮาค่ะ แต่เทียบกันแล้ว เราชอบอุชิมากกว่า
ส่วนสาวๆ เมนควีนก็น่ารักดีค่ะ คนที่ตัวเล็กสุดเนี่ยน่ารักมากๆ
ส่วนคนที่อ้วนๆก็น่ารักแบบสาวอวบค่ะ
แต่ที่เคืองคือนางเอก และเพื่อนนางเอกค่ะ ฮาาา ไม่ชอบตัวบทเลยอ๊ะ
แล้วก็จูริหนุ่มที่อยู่ s5 บทก็เงียบๆค่ะ แต่ตัวสูงที่สุดเลย
ดูขรึมๆ เงียบๆ เท่เงียบ มองไปมองมาเหมือนอนันดาค่ะ
ตอนมาเต้นใน speechless ตอนสุดท้าย แอบรำคาญว่าแขนขายางเก้งก้างเกิ๊นนน
แล้วเต้นเก้งก้างมากอ่ะ ฮาๆๆๆ

ให้เราสรุปเองนะ จริงๆแล้วไอไม่ได้ชอบทั้งไดสึเกะและริวจิค่ะ
แต่แค่เป็นห่วงที่เห็นทั้งสองคนหมางเมินใส่กันค่ะ ฮาาา (ซะงั้น คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ ฮาๆๆๆๆๆ)

ส่วนรางวัลการแสดงเมมขลาทองคำการแสดงยอดเยี่ยมขอมอบให้ลีดเดอร์ค่ะฮ่าๆๆ
เพราะอากิระ ก็ชอบเล่นเป็นแต่บทแยงกี้ๆโวยวายๆแบบนี้มาเป็นไม่รู้จะกี่ครั้งแล้ว
เล่นบคุลิกเดิมตลอดเลย
เคจังเองก็เหมือนกันเป็นหนุ่มติ๋มๆ หงิมๆ มาแบบนี้มันก็ทุกเรื่อง
ชินจังเองก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ
คือสามคนข้างบนเล่นบทอะไรที่เป็นเหมือนตัวเองค่อนข้างถนัดอยู่แล้ว
แต่ฮิโรกิดิ มาเล่นเป็นโฮสท์ โอยฮาาาค่ะ แล้วเป็นบทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน
แล้วเป็นผู้ชายอยู่แล้ว ใครมันจะไปรู้ว่าโฮสท์มันเป็นยังไงมั่ง
แล้วก็เล่นได้เหมือนสุดๆค่ะ
จากที่เราเล่าไปว่าอย่างกริยาท่าทาง ท่านั่งยังเหมือน อิคุณปาร์คคนในห้องเราเลย(อ่าววว ในบอกยังไม่รู้แน่ว่าอิคุณปาร์คเป็นโฮสท์จริงป่าว แต่มันเหมือนนะ) ฮ่าๆๆๆ
แต่เวลาบนเวทีตอนไหนถ้ามี lead คนใดคนหนึ่งออกมาก เราจะไม่มองไปที่อื่นค่ะ (ขอโทษด้วยน๊า ฮ่าๆๆ) โฟกัสๆๆ
แบบอากิระใส่แหวนอะไรวิ๊งๆๆๆ มากกก ส่วนคุณโฮสท์ก็แน่นอนวิ๊งไปทั้งตัวพวกเครื่องประดับ
แต่ตอนท้ายที่เต้น speechless ทั้งสี่คน ใส่เข็มขัดเส้นเก่ง ที่มันแวววาวๆ แวบตามาก ยิ่งเพิ่มความเจิดจ้า และตอกย้ำว่าทั้งสี่คนนี้เป็นตัวเด่นนะเคอะ !!


จบแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
พี่ดาวก็ขึ้นสถานีตรงหน้าโรงเลย ไอ้เรา บิมโบ ประหยัดตังก็เดินกลับไปที่ชินจูกุ ค่ะ
มีความสุข
แต่ยังไง เราก็ชอบแบบที่เป็นไลฟ์มากกว่าอ่ะ ฮาๆๆ
แต่มันก็คนละฟีล
อันนี้ต้องมาปวดใจกับการเห็นหนุ่มๆกับสาวๆอีก ฮ่าๆๆๆ
ที่สำคัญบัตรแพงค่ะ
พูดประจำว่าดีใจที่หนุ่มๆมีงาน
แต่เครียดที่เราไม่มีตัง เหอๆๆๆ

ครั้งหน้าก็จะรอไปเจอตอนงานคริสต์มาสค่ะ
สาธุ ที่ดีๆนะ
สาวกเตรียมตัวเก็บตังซื้อของหน้างานได้เลยค่ะ
(ว่าแล้วเราก็จนซ้ำจนซากกันต่อไป TAT)



Kagimoto Y.y 21112010




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 2 มกราคม 2554 8:22:36 น.
Counter : 780 Pageviews.  

[Museum Project@Japan#22+23]Jindai Botanical Garden 「神代植物公園」,Mitaka City Gallery Of Art 「三鷹市美術ギャラリー」

[Museum Project@Japan#22+23]Jindai Botanical Garden 「神代植物公園」,Mitaka City Gallery Of Art 「三鷹市美術ギャラリー」14112010


ต่อจากครั้งที่แล้วในช่วงเช้า
ช่วงบ่ายเราก็เดินไปหารถเมล์
ซึ่งที่เราจะไปก็คือJindai Botanical Garden
ตามนี้ค่ะ //www.tokyo-park.or.jp/park/format/index045.html
วิธีไปไปได้หลายทางนะ จากหลายๆสถานีค่ะ
เอาเท่าที่เรารู้นะ
วิธีแรกไปแบบเราคือ ลงสถานีคิจิโจจิ (หรือมิทากะ)ก็ได้ เจอาร์สายจูโอค่ะ
แล้วก็ไปขึ้นรถเมล์ ไปลงสถานี สวนจินไดเลย ค่ารถเมล์ทั้งสาย 210 ค่ะ
ก็นั่งไปซักพัก
ส่วนจากสถานีจูฟุหรือ ทสึทสึงะโอกะก็ได้นะคะ
แล้วก็ต่อรถเมล์เหมือนกันค่ะ

ค่าเข้าเหมือนจะห้าร้อยนะ แต่เนื่องด้วยเรามีบัตรเบ่งเราก็เดินฉลิว
เสียแต่ค่ารถ
แต่แค่ค่ารถก็หนักเอาเรื่องนะ ทั้งวัน วันนี้เราใช้ไปราวๆ พันสามได้ค่ะ โฮกก
ที่เราเข้าไปในสวนตอนแรกเลยก็จะเจอพวกดอกไม้ที่ชนะการประกวดที่เค้าจัดๆไว้เอามาโชว์ค่ะ
Photobucket

Photobucket
ก็เดินไปตามส่วนต่างๆค่ะ
ที่นี่ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นมากๆๆๆ อากาศก็ดีค่ะ
ต้นไม้เยอะ
ก็ชื่อมันก็บอกอยุ่แล้วว่าสวนต้นไม้อ่ะ ฮาาา
Photobucket

Photobucket
ไอติมรสกุหลาบค่ะ
หอมแบบกุหลาบอ่อนๆ หวานๆ หอมอร่อย รสนุ่มๆดีค่ะ
Photobucket
เดินมาทั้งสวน ส่วนของกุหลาบนี่เหมือนจะเป็นจุดขายของที่นี่เลยค่ะ
สวยมาก
Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket
น่ารักมากกกกเด็กใช่ชุดกิโมโนเนี่ย
ช่วงนี้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วง ชิจิโกะซัง (753)เด็กๆ ที่อายุ 7 5 และ3 จะใส่กิโมโนไปศาลเจ้ากันค่ะ
ช่วงนี้ก็จะเห็นเยอะเลย
น้องๆใส่กิโมโนน่ารักๆ เดินขึ้นรถไฟกัน บางทีพ่อกับแม่ก็แต่งด้วยนะ
Photobucket

Photobucket

สเจอน้องคนนี้อีกคน พ่อน้องเดินถือกล้องวีดีโอตามถ่ายน้อง
เรารึรีบควักกล้องออกมาแล้วมองซ้าย ขวาไม่มีคนเห็นแล้วรับกดแชะมา
ฮ่าๆๆ
Photobucket

ก็เดินจนทั่วค่ะ
แล้วเราก็ออกจากสวน
แต่ไมได้นั่งรถเมสายเดิมกลับไปคิจิโจจิค่ะ
เรานั่งไปลงสถานีมิทากะ
แล้วไปพิพิธศิลปะอีกที่นึงต่อ
ซึ่งมันอย฿ตรงข้ามทางออกทิศใต้ของสถานีเลย
อยู่ในตึกชั้นห้าค่ะ
ตอนไปถึงแอบหาไม่เจอ
เพราะบันไดเลื่อนมีถึงแค่ชั้น สี่
ซึ่งมันอยุ่ชั้นห้า ก็ยืนงง
จนเห็นคุณป้าเดินหายเข้าไปในซอกหลืบ บันไดหนีไฟ
เราก็คิดว่าใช่แน่ๆ
เลยเดินตามไป
เห็นป้ายว่า Mitaka City Gallery Of Art
Photobucket

//mitaka.jpn.org/gallery/
ยัตต้า เจอซะที
ขึ้นไปก็เหมือนทุกๆที่ ที่ไป ที่เจอแต่โรจิน(ผู้สูงอายุ ฮาาา)
เดินไปรีเซฟชั่น
อวดบัตรเบ่ง
แทนที่จะเหมือนทุกๆที่ที่เค้าจะเอาบัตรไปฉีก แต่เค้ากลับพูดมาว่า ตอนนี้มีจัดงานอื่นอยู่
ซึ่งเข้าชมฟรีค่ะ
ไม่ต้องใช้บัตร
เหออออออ บัตรเบ่งไม่ได้ใช้ค่ะ ฮาาา ก็เดินเข้าไปดู
เป็นงานของซิลปินญี่ปุ่นหมด
หลายแนวหลายแบบแล้วก็เยอะ
เดินวนๆแล้วก็ออกค่ะ
ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ
แล้วเราก็เดินเล่นแถวๆนั้นอีกหน่อย
แต่สถานีคิจิโจจิ ใหญ่กว่าเยอะค่ะ
ที่นี่คนละฟีลเลยออกแนวเงียบๆ
แต่เราไมได้ลองเดินไปลงอีกทิศค่ะว่าเป็นยังไง
แบบเหนื่อยอยากกลับแล้ว
ขึ้นรถไฟได้ก็หลับยาวเลยอ่ะ ฮาาา
หมดวันค่ะ

คราวหน้าไปไหนดี...






 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2553 7:11:24 น.
Counter : 774 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

Kagimoto Y.y
Location :
Tokyo-->Ibaraki Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




follow me @KagimotoYy
facebook: Thai Leaders
メラメラสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539メラメラ
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*
New Comments
Friends' blogs
[Add Kagimoto Y.y's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.