|
ช้าลง...
ช่วงก่อนนี้ได้เรื่อง "เร็วไม่ว่า แต่ช้าให้เป็น" มา (ปกสีขาว มีรูปเต่ากับขดลวดเป็นรูปหัวใจละมั้ง) อ่าน ๆ ดูแล้วก็มีตรงหนึ่งที่พูดถึงการ "อ่านให้ช้าลง" ด้วย
อ่านให้ช้าลงนี่หมายความว่าค่อย ๆ ซึมซับกับสิ่งที่อยู่ในตัวหนังสือ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ เคี้ยว คนเขียนพูดถึงเรื่อง "การอ่านเร็ว" ด้วย เข้าใจว่าเรื่องอ่านเร็วนี่เป็นศาสตร์ฮิตพอสมควรอยู่พักนึง ทำนองว่าต้องฝึกให้อ่านเร็ว ๆ จะได้เป็นกำไรชีวิต เรียกว่า fast reading หรืออะไรนี่ละ
เรื่องอ่านเร็วนั้นเราไม่รู้ว่ายังไง แต่เราคิดว่าถ้าใครอ่านหนังสือมานานสักระยะ จะสามารถใส่เกียร์เร่งสปีดได้เอง คือสามารถอ่านเร็วก็ได้ อ่านช้าก็ได้ และสามารถแสกนโดยจับใจความสำคัญได้ เราจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ แม่เคยจำเป็นต้องรีบอ่านหนังสือเด็กเล่มหนึ่งในระหว่างช่วงรถติด แม่เราสามารถอ่านหนังสือทั้งเล่มนั้นจบได้ในเวลาประมาณยี่สิบนาที และสามารถเล่าเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวเราเองอาจจะไม่สายฟ้าแลบขนาดนั้น แต่ถ้าจำเป็นก็ทำได้เหมือนกัน
คนเขียนเรื่องเร็วไม่ว่าฯ เขาพรีเซนต์ว่าบางทีการอ่านเร็วมันอาจจะไม่ใช่กำไรชีวิต แต่มันเป็นความฉาบฉวย และในหลาย ๆ แง่เราก็เห็นด้วยกับเขา จริงที่ว่ามีบางเวลาที่จำเป็นและต้องทำอย่างนั้น แต่ไม่ว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ตาม เราเห็นว่าผลที่เกิดตามมาจากการอ่านอะไรเร็ว ๆ ก็คือ เราจะรู้สึกทีหลังว่าหนังสือเล่มนั้นมันพร่าเลือนไม่คมชัด และดูมัว ๆ ซัว ๆ
ที่พูดถึงนี้ไม่ได้หมายถึงกลไกการจำและการลืมของมนุษย์ หนังสืออ่านไปนานหลาย ๆ ปีแล้ว ถึงรักแค่ไหนก็ต้องลืมเป็นธรรมดา แต่ถ้าหากเป็นหนังสือที่รัก ใช้เวลากับมันมาก ใช้ความคิดกับมันมาก ก็จะจดจำความรู้สึกเหล่านั้นได้อยู่ เราคิดว่าสิ่งที่เหลืออยู่ในใจมักจะเป็นความรู้สึกแบบนี้มากกว่าเนื้อหาต่อเนื่องของหนังสือจริง ๆ
แต่ถ้าอ่านแบบเร็ว ๆ แม้แต่ความรู้สึกแบบนั้นก็จะไม่เหลืออยู่ และจะว่าไปแล้ว ต่อให้สนุกก็จะเป็นความสนุกแบบฉาบฉวยด้วย เพราะมันไม่ได้ฝังรอยอะไรลงไปในสมอง เหมือนเร่งยัดอะไรเข้าไปแล้วกลืน ๆ ลงไปเร็ว ๆ
บางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือ มันอาจจะหมายถึงเรื่องอื่น ๆ รวมถึงชีวิตด้วย บางทีก็มีบางอย่างที่เราไม่สนใจมัน เราอยากจะให้มันผ่านไปเร็ว ๆ และบางทีก็มีบางอย่างที่อยากให้มันฝังรอยอยู่ ให้จำได้ ให้ไม่กลายเป็นภาพเลือนรางพร่ามัว
เราก็รู้ว่าปัจจัยต่าง ๆ รอบตัวบางทีมันก็ไม่เอื้อให้เป็นอย่างนั้น บางทีถึงเราพยายามจะช้าลงแล้ว คนอื่นก็ยังเร่งให้เร็วขึ้น บางทีพยายามจะหยุดมองก็กลายเป็นล้าหลัง บางทีพยายามจะคิด ก็กลายเป็นเสียโอกาส
เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่ แต่เราเป็นคนหัวดื้อคนหนึ่ง ของบางอย่างที่เห็นว่าสำคัญไม่ยอมให้หลุดไปแน่ ๆ เราก็คิดว่าเราจะไม่ให้มันหลุดไปเหมือนกัน
Create Date : 04 เมษายน 2550 | | |
Last Update : 4 เมษายน 2550 22:24:20 น. |
Counter : 459 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Wallpaper tag
มีคนส่งมาให้ทั้ง wallpaper ทั้ง bag tag แต่มีแรงทำได้อันเดียว (อันที่ง่ายกว่า) ดังนั้นเอาแต่วอลด์เปเปอร์ละกันนะ
๑.แปะวอลล์เปเปอร์ในคอมตัวเอง - อะแปะ (วอลล์เปเปอร์ของนังหนืด โน๊ตบุ๊คที่รัก)
๒. บอก OS ของคอมที่ใช้อยู่ - Window XP จ้า
๓. บอกว่าเอารูปมาจากไหน - เว็บไซต์ san-x รูปนังแมวน้ำถั่วงา (mamegoma)ดูดมาเต็มเครื่องเลย
๔. ทำไมเลือกเอามาเป็นวอลล์เปเปอร์ - ถั่วงาน่ารัก!
ป.ล. แถมท้ายสำหรับคนที่ไม่เชื่อจขบ.ว่าหนังอินเดียมันฮา เชิญไปดูของจริงที่กระทู้นี้ //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5281865/A5281865.html
รุ้งยี้เพิ่งให้มาสด ๆ เลย...
Create Date : 02 เมษายน 2550 | | |
Last Update : 2 เมษายน 2550 23:07:17 น. |
Counter : 1269 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สังเกตการณ์ (ภาคปรากฏการณ์ after shock)
หลังจากส่งธีสิสแล้ว คุณเคียวได้กระทำกิจดังต่อไปนี้
- รับประทานซาซิมิ (อีกแล้ว) จริง ๆ เป็นจิราชิซูชิ (ข้าวหน้าปลาดิบ) แต่สั่งแล้วกินแต่หน้า เพราะจิราชิถูกกว่าซาซิมิเฉย ๆ อะ ใครช่วยบอกทีว่าทำไม - -''
- อ่านหนังสือของญาณินครบหมดแล้ว เป็นแฟนแล้วนะ (ขอกันดื้อ ๆ) เล่มสุดท้ายที่เขียนคนเดียว (เจ้านายของหัวใจ) นี่ดีมาก ๆ แต่อ่านจบแล้วเศร้าลึก ๆ เหมือนมีอะไรบาดข้างในเลย
- นอนรับประทานพารารับประทานเคหา ตั้งแต่เที่ยงคืนยันเที่ยงวัน ฝันเป็นมหากาพย์สองร้อยตอนจบ แต่พอตื่นก็ลืมหมดเกลี้ยง (น่าเสียดายแฮะ)
- ที่จริงคือระหว่างทำธีสิสโค้งสุดท้ายเกือบสองเดือนมานี้ ปจด.ไม่มาเลย แต่พอวันแรกหลังจากที่ส่งไป มันก็มาทันที เพื่อนบอกว่าเป็นแบบนี้แหละ อาจจะฟังดูแปลก ๆ หน่อย แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายนี่เป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณจริง ๆ ด้วยแฮะ
นับถอยหลังวันสอบพรีเซนต์
Create Date : 22 มีนาคม 2550 | | |
Last Update : 22 มีนาคม 2550 14:20:52 น. |
Counter : 594 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ทำธีสิสเสร็จแล้ว
Mwahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังต้องให้กรรมการอ่านและสอบอีก และอาจจะต้องแก้อีก ดังนั้นใครที่จะนัดจึงต้องขอตัวก่อนสักพักนะขอรับ
อย่างไรก็ตาม ขอหัวเราะต่อหน่อยเถอะ
Mwahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha hahahahahahahahahahahahahahahahahahahahahaha
มีความสุขว้อย!
Create Date : 19 มีนาคม 2550 | | |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 3:56:38 น. |
Counter : 566 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สังเกตการณ์ (๓)
คำปลอบใจคลาสสิกส่วนตัวคือ "โลกนี้เป็นเรื่องไร้สาระ"
อ้าว ไม่ไร้สาระหรือไง สมมุติว่าพรุ่งนี้เกิดมีดาวหางอาเรลาเฮ้อมาจนโลกบึ้มเดียว ก็ไม่มีอะไรแล้วจริง ๆ นะ
ไม่มีอะไรแล้วจริง ๆ
ถ้าพรุ่งนี้มีเรื่องที่ร้ายแรงกว่าวันนี้เกิดขึ้น เรื่องร้ายแรงวันนี้ก็กลายเป็นเรื่องด๋อย ๆ ไปแล้วนะ
แล้วต่อให้ไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ถ้าสมมุติว่าเราผ่านเรื่องนี้ในวันนี้ไปแล้ว สิ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ "มีความหมายมากมาย" เท่ากับตอนที่เราเวียนว่ายอยู่ในมันหรอกนะ
ช่วงก่อนนี้ดูซอดองโย รู้สึกว่ามันช่างเป็นหนังที่ยืนยันคำว่า "โลกไร้สาระ" ได้ถึงใจ ดูแล้วนึกถึงคำของมหาตมะคานธี (หรือใครสักคน) ที่บอกว่าเราใช้ชีวิตนี้ทั้งชีวิตทำเรื่องไร้สาระที่จำเป็นต้องทำ (หรืออะไรแบบนั้น) ซึ่งหมายความว่าชีวิตก็เป็นแค่ซีรีย์ของปัญหาที่ถูกส่งเข้ามา การแก้ปัญหาหนึ่งก็นำไปสู่ปัญหาสอง การแก้ปัญหาสองก็นำไปสู่ปัญหาสาม
คนเราไม่มีทางแก้ปัญหาหนึ่งแล้ว "มีความสุขไปชั่วกาลนาน" ได้หรอก บางทีต่อให้ได้ของที่นึกว่าอยากได้ที่สุดในชีวิตมา มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรอก
พอได้ "ของที่อยากได้ที่สุดในชีวิต" มาไว้ในมือ ขอบฟ้าที่เห็นมันก็กว้างขึ้น บันไดที่นึกว่าปีนไปจนสุดแล้วก็จะมีต่อให้ไต่ขึ้นไปได้อีกเรื่อย ๆ (เพราะอย่างนี้นักปราชญ์จีนถึงบอกว่าคนเราไม่มีทางได้พักจนกว่าจะตายสินะ)
มันไม่เกี่ยวกับการทะเยอทะยานหรือไม่ทะเยอทะยานหรอกนะ มันเกี่ยวกับว่าชีวิตมนุษย์มันขาดปัญหาไม่ได้ต่างหาก ปัญหางี่เง่า ปัญหาโลกแตก ปัญหาร้ายแรง ตัวเองไม่ก่อปัญหาเอง คนอื่นก็เอาปัญหามาให้ vice versa
แต่ทุกครั้งที่คิดว่า "โลกนี้ไร้สาระ" ก็อดคิดไม่ได้ว่าเพราะไร้สาระ ถึงต้องอยู่ให้คุ้ม ๆ (เธอคงไม่มีวันหลุดพ้นหรอก)
เพราะว่าถ้าพรุ่งนี้ดาวหางอาเรลาเฮ้อมาชนโลกจริง ๆ ก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว (บูชิโด?) น่าเสียดายเหมือนกันนะ
ถ้ามองแบบนี้ เรื่องบางอย่างที่นึกว่าใหญ่โต ก็กลายเป็นเรื่องโคตรไร้สาระ ตูมายุ่งกับเรื่องโคตรไร้สาระพวกนี้ทำไม
ถ้ามีคนเจอดาวหางดวงใหม่แล้วไม่เอาชื่อตัวเองตั้งไปก่อน แต่ประกาศให้ทุกคนส่งชื่อเข้าประกวด
จะส่งชื่ออาเรลาเฮ้อเข้าประกวดแล้วกันนะ
Create Date : 15 มีนาคม 2550 | | |
Last Update : 15 มีนาคม 2550 18:40:47 น. |
Counter : 515 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|