The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
speak the truth

ตั้งแต่เด็ก ๆ มา พ่อของจขบ.มักอยากให้ลูกพูดเก่ง พูดเก่งนี้ไม่ได้หมายความว่าให้พูดจาเป็นต่อยหอยแต่ประการใด แต่หมายความว่าเมื่อไปอยู่ในที่ชุมนุมชน ก็ให้พูดสปีชให้ดี ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ดูเหมือนว่าการพูดสปีชได้ดีจะเป็นความดีอย่างหนึ่งในโลก ซึ่งบางทีก็ทำให้จขบ.เกิดนึกถึงสมัยโรมันโบราณ ซึ่งมนุษย์ทั้งหลายจะต้องพูดสปีชให้ดี ไม่อย่างนั้นก็อาจจะไม่มีเกียรติไม่มีหน้าไม่มีตาในสังคม ถือว่าเป็นวิชาที่กุลบุตรจะต้องเรียน (ส่วนกุลธิดาในเมืองโรมันเป็นพลเมืองชั้นสอง ดังนั้นช่างมันเถอะ)

ที่จริงแล้ว ตั้งแต่แรกมา จขบ.ก็บอกไม่ได้ว่าตัวเองพูดเก่งหรือไม่เก่ง คือว่ากันจริง ๆ จขบ.เป็นคนเสียงดัง (โดยไม่รู้ตัว เป็นความบัดซบอย่างหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน) และตัวใหญ่ ดังนั้นเวลาที่อยากจะเด่นมันก็เด่นได้พอสมควร และที่จริงแล้ว จขบ.ก็เป็นมนุษย์จริงจัง (ในบางวาระ) ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมารวมกันแล้ว เอาเป็นว่าเคยมีคนเห็นว่า "พูดได้ดี" เหมือนกัน แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้พิศวาสการพูดในที่ชุมนุมชน คือบางทีเวลาตกใจแล้ว จะไม่ได้ยิน "เสียงของตัวเอง" และคุมไม่ได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง อีกประการหนึ่งคือ จขบ.เป็นมนุษย์ฝังใจอย่างยิ่ง คือถ้าใครคอมเมนต์อะไรที่มันกระทบแล้ว ชีจะจำอยู่นั่นแล้ว แม้ผ่านไปหลายปีก็ไม่ลืม และไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเขาว่าที่พูด ไม่ได้ว่าชี รวมทั้งไม่ได้ว่าที่พูดทุกครั้ง แต่ว่าเฉพาะครั้งนั้นด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จขบ.เชื่อว่าคนที่ว่าด้วยใจจริง จขบ.มักจะไม่เดือดร้อน แต่คนประเภทที่ไม่ได้ว่าด้วยใจจริง แต่ว่าเพราะตัวเองนั่นแหละมีปม หรือเพราะพูดจาลักปิดลักเปิด บอกไม่หมด ชวนให้จขบ.จิ้นต่อ จขบ.จะฝังใจเอามาก ๆ คือว่า จขบ.ชอบคนที่เป็นตัวเขาเอง คิดอะไรก็พูด ด่าก็ไม่เป็นไร ส่วนคนที่เป็นบ้าอะไรของมรึงจะอมไว้ทำไมนั้น จขบ.ไม่เข้าใจ และเมื่อไม่เข้าใจก็เลยคิดไปเอง

แน่นอนว่ามีจังหวะอะไรประมาณนี้ ที่จขบ.เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง เลยขยายภูมิรู้เป็นการใหญ่ และในจังหวะอย่างนั้น บางทีก็มีคนรู้มากกว่าอยู่ในวง มีเหตุการณ์ที่เป็นไปได้สองกรณีคือ ไอ้คนนั้นฉีกหน้าตูทันที (ย้าก) หรือไม่อย่างนั้น ไอ้คนนั้นก็ไม่ฉีกหน้า แต่ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้จขบ.รู้ว่าแกรู้ว่าฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่ฉีกหน้าแกหรอก ฉันสุภาพ ซึ่งแบบนี้จขบ.ก็ไม่ชอบเหมือนกัน คือมันมีอะไรความซับซ้อนหลายอย่างระหว่างการฉีกหน้า กับการพูดความจริง และการอมไว้ไม่พูดหรอกแต่กรูรู้ หรือการนิ่งไว้จนจบการสนทนาอย่างสุภาพ แล้วค่อยบอกความจริงกับไอ้คนพูดผิดทีหลัง อย่างไรก็ตาม ก็อย่างที่ว่า คือมันมีจังหวะที่จขบ.แยกตัวเองออกจากบทสนทนาได้ และจังหวะที่จขบ.คิดเอาเองว่า ตัวกรูคือบทสนทนานั้น อีโก้กรูคือสิ่งนั้น

พูดถึงเรื่องแยกตัวเองจากการพูด (หรือการกระทำ หรืออะไรอื่น ๆ เหล่านี้) ก็มีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ควรพูดถึงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ สิ่งที่ตั้งใจจะเขียนก็คือ จขบ.เริ่มรู้สึกแล้วว่าวิธีการพูดให้สบายหน่อย (สำหรับตัวข้าพเจ้าเอง) คือการพูดความจริง คือถึงยังไงก็ไม่มีทริคอะไรมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และยิ่งกลัวเท่าไร ก็ยิ่งหลุดปากไปมากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงควรปล่อยวางไปเลยเสียดีกว่า ว่าอะไรออกจากปากข้าไปแล้ว ข้าก็ไม่มีทางไปบิดไปอธิบายให้มนุษย์โลกทุกคนที่ฟังเข้าใจตรงกันกับข้าอยู่นั่นเอง เมื่อคิดอย่างนั้นแล้ว เมื่อพูดอะไรออกไปก็พูด ไม่ต้องคิดว่าอีกมันจะรักฉันไหม มันจะเข้าใจฉันผิดไหม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าการปล่อยพูดความจริงไปเลย อยู่ที่อารมณ์ในตอนนั้นด้วย ดีที่สุดคือทำอารมณ์ตอนนั้นให้มันนิ่งหน่อย ให้มันรู้สึกกับคนที่ฟังอยู่

จขบ.สงสัยว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น จะถูกหลอกให้พูดไหม คือหลอกว่าให้ตอบอะไรที่อีกฝ่ายอยากตอบ จขบ.มีประสบการณ์ว่ามีคนมาสัมภาษณ์ เขาชวนคุยสนุกมาก เราก็คุยไป แต่ถึงเวลามันเอาบทสัมภาษณ์ตูไปตัดเอาเฉพาะที่ตัวเองชอบ มาประกอบร่างใหม่เป็นอีบ้าที่ไหนไม่รู้ ไม่ใช่ตูสักนิด เป็นเหตุให้ตูช็อคอย่างยิ่ง อะไรวะตอบตั้งยาว ตัดเหลือหนึ่งบรรทัด เลือกเอาเฉพาะตรงที่พูดแรงที่สุดด้วย จขบ.อดคิดไม่ได้ว่านายคนนี้คงสร้างความด๋อยในชีวิตชาวบ้านอีกไม่น้อย แต่เอาเถอะ เราคงไม่โคจรกลับมาเจอกันอีกแล้ว

ในกรณีสัมภาษณ์ที่ควบคุมไม่ได้ อันนี้จขบ.ไม่ได้เป็นคนคุม มันเป็นคนคุม เพราะมันมีหน้าที่เซนเซอร์ให้จขบ. แต่ในที่ที่ไม่มีใครเซนเซอร์จขบ. เช่นเวลาสปีชหรือตอบคำถามต่อหน้ามนุษย์โลกเล่า จขบ.ก็สงสัยเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง มีคนเคยบอกว่า เขายิงมุกมาแล้ว จขบ.ไม่รับเลย (บอกแล้วว่าข้าเป็นมนุษย์ฝังใจ) อันนี้จขบ.ฝังใจโคตร ๆ เออ มุกคืออะไร มีมุกจริง ๆ หรือ แล้วตอนนั้นการไม่รับเป็นความผิดขนาดนั้นเลยหรือ และอื่น ๆ และอื่น ๆ เพราะจขบ.กลัวว่าเมื่อตัวเองไม่ทำอย่างนั้นแล้ว จะเกิดความน่ากลัวชั่วร้ายต่าง ๆ ในชีวิต และเพราะจขบ.ยังไม่เข้าใจมาถึงตอนนี้ว่า อะไรคือมุกที่มันยิงมาโว้ย ดังนั้นบอกแล้วว่าอย่าอม ถ้าอมไว้จขบ.จะจิ้นเอาเอง ตรงไหนที่คิดก็บอกออกมา จะได้ไม่ต้องจิ้นเอาเอง และจะได้ไม่นอนไม่หลับด้วย

อืมม แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ก็เริ่มคิดว่า การวิจารณ์ก็ต้องวิแบบนิ่ง ๆ เหมือนกัน ไอ้แบบวิจารณ์ว่าเกลียดตัวละครนี้จัง เคี๊ยะมันออกไปที นี่จขบ.ทำอะไรให้ไม่ได้ และมีคำวิจารณ์หลายอย่างซึ่งเป็นปมของคนวิจารณ์เอง คนพูดหรือคนเขียนก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน นอกจากฟังตาปริบ ๆ (ว่าไปแล้ว จขบ.ก็เลยเอาปมตัวเองไปวิจารณ์ชาวบ้านเหมือนกัน) สรุปแล้วก็ดูเหมือนจะยากเหมือนกัน

(ขี้เกียจเขียนต่อแล้วอะ ไว้สักวันคงได้พูดถึงทอปปิคนี้อีกนะ ว่าแล้วก็เลิกดื้อ ๆ...)


Create Date : 02 กันยายน 2552
Last Update : 9 กันยายน 2552 7:32:15 น. 6 comments
Counter : 402 Pageviews.

 
รออ่านต่อ
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:14:08:15 น.  

 
รอให้มาต่อเหมือนกัน

ปกผู้เสกทรายสวยมากเลยค่ะ ออกเมื่อไหร่เจอกันเมื่อนั้น ^^


โดย: Job IP: 192.168.0.10, 125.213.228.27 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:13:07:28 น.  

 
รออ่านต่อ

อ่านแล้วรู้สึกเป็นห่วงแบบคิดไปเองอยู่น่ะ ^ ^"


โดย: romancer IP: 58.8.75.162 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:16:21:33 น.  

 
เริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นเซเล็บ ถูกสัมภาษณ์และถูกตัดต่อประโยค


โดย: ouiya IP: 114.128.41.206 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:22:42:40 น.  

 
รอต่อด้วย


โดย: นักรบ IP: 74.193.252.136 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:23:23:03 น.  

 
เป็นอีกคนที่โกหกแล้วโดนจับได้ทุกทีเลย
ดังนั้น พู ด ค ว า ม จ ริ ง จะปลอดภัยกว่าค่ะ

รออ่านต่อนะคะ

นอกเรื่อง - แล้วจะตามไปขอลายเซ็นพี่ปันที่งานหนังสือนะคะ

งึมงำ ๆ (มีแมงปิศาจบินอยู่รอบหัว) - อยากได้ "ผู้เสกทราย" กับ "ไมรอน" (ปกใหม่) จัง - งึมงำ ๆ



โดย: ฑ า ม (ThaMN ) วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:21:52:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.