|
กล้วยไม้ ( orchid ) มีความเป็นมาอย่างไร
- กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวอยู่ในวงศ์กล้วยไม้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า " orchid " ประเภทพืชมีดอก มีอยู่ประมาณ 25,000-30,000 ชนิด อยู่ทั่วโลก มีการเจริญเติบโตหลายแบบ เช่น เจริญอยู่บนต้นไม้ พื้นดิน พื้นหิน แตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ และอากาศ
- ในสมัยโบราณมีหลักฐานว่ามีการนำกล้วยไม้มาเป็นยาสมุนไพร และในยุคล่าอาณานิคม ได้มีชาวอังกฤษที่ออกไปสำรวจตามดินแดนต่างๆ ได้มีการนำกล้วยไม้จากแหล่งต่างๆมาสะสมและเพาะเลี้ยงไว้ในเรือนกระจกเพื่อพัฒนาพันธ์
- สำหรับประวัติกล้วยไม้ในประเทศไทยได้มีการนำกล้วยไม้มาประดับในหมู่ชนชั้นสูง และในสมัยก่อนดอกกล้วยไม้คือ เอื้องแซะหลวง ซึ่งเป็นดอกที่มีกลิ่นหอมมาก และบานนานกว่า 1 เดือน เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่เมืองแม่ฮ่องสอนนำส่งแก่เจ้าเมืองเชียงใหม่และในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ มีการบันทึกไว้ว่านาเฮนรี่ อลาบาสเตอร์ ต้นตระกูล เศวตศิลา เป็นคนแรกที่นำกล้วยไม้หลายชนิดจากต่างประเทศมาปลูกในประเทศสยาม ในสมัยนั้นยังอยู่ในวงแคบเป็นที่นิยมในกลุ่มข้าราชบริพาร เพื่อนำมาอวดความงามของดอก จนกระทั่งในเวลาต่อมาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ ได้รับช่วงต่อหลังจากที่นายเฮนรี่ฯถึงแก่กรรม ได้เริ่มการผสมพันธ์กล้วยไม้มากขึ้น จึงได้เริ่มแพร่หลายไปสู่ประชาชน ต่อมาในปีพ.ศ.2460ได้มี การพิมพ์ตำรา กล้วยไม้เล่มแรกขึ้น ชื่อ" ตำราเล่นกล้วยไม้" เขียนโดย สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต จึงทำให้ความนิยมกล้วยไม้เพิ่มขึ้นและในระยะต่อมาได้มีการนำเข้ากล้วยไม้จากต่างประเทศมาพัฒนาสายพันธ์ คือ กล้วยไม้ตระกูลหวายพันธ์ มาดามปอมปาดัวร์ ที่เป็นสายพ้นธ์พื้นฐานพันธ์หนึ่งในการปรับปรุงพันธ์ในปัจจุบัน
- ปัจจุบัน กล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่มีผู้ให้ความสำคัญและนิยมปลูกเลี้ยงมาอย่างยืนยาวยั่งยืน ด้วยเพราะมีความงามของดอกที่มีสีสันสวยงาม แปลกตา หลากหลายสายพันธ์อีกทั้งมีบางพันธ์ที่มีกลิ่นหอม มีสมาคมรองรับทั้งระดับในประเทศและนานาชาติ เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง มากกว่าพืชให้ดอกพันธ์อื่น อีกทั้งเป็นไม้ประเภทยืนต้นที่มีระยะเวลาในการเจริญเติบโตนานกว่าจะได้เห็นดอก เรียกว่า กว่าจะเห็นดอก หรือพัฒนาพันธ์ให้ได้หลายชั้นผู้พัฒนาพันธ์กล้วยไม้ก็จะ "ใกล้ม้วย" เสียก่อน จึงเป็นจุดเด่นและมนต์ขลังไม้ดอกประเภทนี้
Create Date : 19 กันยายน 2549 | | |
Last Update : 27 กันยายน 2549 13:33:29 น. |
Counter : 743 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|