Review Paula’s Choice One Step Face Cleanser

Normal to Oily/Combination Skin

ก่อนอื่นขอบ่นหน่อยว่าช่วงนี้ไม่ค่อย productive เท่าไหร่ นอนก็ไม่ค่อยหลับ แถมยังมาไม่สบายอีก (ไม่ได้เป็นหวัดหมูนะ oink oink) มารีวิวเครื่องสำอางดีกว่า เอ้.. เกี่ยวกันยังไง

ทั้งที่จริงๆ ช่วงนี้เป็นช่วงลด ละ เลิก เตือนใจตัวเองเสมอว่าของมีเต็มบ้านแล้วอย่าซื้อมาเพิ่มเลย แต่เวลาเจอโปรโมชั่นทีไรก็ยังใจอ่อนเสมอ ไม่อย่างั้นคงไม่มีวันเก็บเงินได้ แต่เราว่าเราก็ได้ลองเครื่องสำอางมามากจนพอใจระดับหนึ่งแล้วล่ะ ช่วงนี้คงต้องเพลาๆ ลงไปก่อน ซื้อเฉพาะของที่จำเป็น ไม่ซื้อเพราะมันลดราคา Nordstrom มีจัดชุด Beauty Exclusive อยู่ตอนนี้ เรานะมองน้ำลายหกเลย แต่ยัง ยัง ไม่เสียท่า

ว่าแล้วก็มารีวิว PC One Step Face Cleanser for Normal to Oily/Combination Skin กันดีกว่า ตัวนี้ซื้อมา lot แรกเลย เราไม่พูดถึงส่วนผสมเพราะว่าดูไม่เป็น ใครสนใจไปหาอ่านกันได้ที่บลอกน้องปูเป้ได้ ที่นี่ เลยค่ะ




เครดิตรูปจาก //www.paulaschoice.com/



Cleanser ตัวนี้ดีที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม แต่ไม่เหม็น ไม่เหมือนตัว Skin Balancing Cleanser ตัวนั้นเหม็นอ้วกแตกมาก (หลายๆ คนก็ว่างั้นนะ) บีบออกมาเป็นเจล ป้าเค้าแนะนำให้ใช้บนหน้าเปียก บีบออกมาประมาณเหรียญสิบบาท แล้วนวด วนๆ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สะอาด+สะดวกใช้ นวดใน shower ก็ได้ ไม่ต้องใช้โฟมล้างอีกครั้งเหมือนพวก cleansing oil

ความคิดเห็นจากการใช้จากจขบ. ให้คะแนน 9.5/10 ค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าหักคะแนนทำไม ทั้งๆ ที่ชอบมาก ราคาก็น่าคบหา (8 oz. $15.95) หรือเพราะเธอน่าเบื่อเกินไป แหม... บางทีล้างหน้าก็อยากให้มันมีกลิ่นบ้าง นิดนึงก็ยังดี

ที่สังเกตนิดนึงคือมันสู้เบสคิสไม่ไหวค่ะ วันไหนใช้เบสคิสก็ยังต้องใช้ cleansing oil ล้างอยู่ดี

ขอจบรีวิวดื้อๆ สุดท้าย... ใครมีคำถามหรือความเห็นว่าใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ทิ้งคำถามหรือcomment ไว้ได้นะคะ ไม่ต้องเรื่องป้าพอลล่าก็ได้ค่ะ อยากรู้ว่า จขบ. ใกล้ตายรึยังหรือทำไมหายหน้าหายตาไป ก็หย่อนคำถามไว้ได้นะจ๊ะ




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2552   
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 19:26:39 น.   
Counter : 2565 Pageviews.  

Review Paula’s Choice Exfoliating 2% BHA Liquid

ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของห้องแป้ง จขบ. เกรงว่าถ้าไม่ลองแล้วจะตกเทรน ทั้งๆ ที่ใจจริงกล้าๆ กลัวๆ อยู่มากมาย เพราะเมื่อปีที่แล้วดันซ่าไปลอง Aspirin Mask มาจนหน้าแหกยับเยินมาแล้ว เริ่มจากแพ้ยาสระผมก่อน พอเริ่มมองหาทางแก้ไขก็มาเจอ Aspirin Mask อันแสนโด่งดัง DIY Mask ทำเองราคาถูก แต่ยิ่งใช้สิวยิ่งเห่อ บางเม็ดก็เป็นตุ่มเป็นหนองอักเสบ บางเม็ดก็ขึ้นเป็นสิวอุดตัน ตอนแพ้ Aspirin Mask ก็ไม่รู้ด้วยนะว่าแพ้ สรุปได้ว่า Aspirin Mask ทำหน้าข้าพเจ้าเยินมาแล้ว

สาเหตุที่กลัวไม่กล้าใช้ BHA ป้าพอลล่าเนี่ยเพราะเรารู้แน่ๆ ว่าเราแพ้ Aspirin ซึ่งมันก็เป็นไปสูงที่เราจะแพ้ BHA ด้วย ขนาดบนเวบป้ายังแปะไว้ชัดเจนมากว่า Those allergic to aspirin (acetylsalicylate) should not use products containing salicylic acid (Beta Hydroxy Acid). แต่เราสั่ง Sample มาลองพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่นแล้วปรากฏว่าไม่แพ้ค่ะ เย้ เย้ แถมผลการใช้ยังเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง เราก็เลยสั่งขวด 4 oz. มาใช้ซะ




เครดิตรูปจาก //www.paulaschoice.com/



ความคิดเห็นจากส่วนผสม อ่านที่บลอกน้องปูเป้ได้ ที่นี่ ค่ะ

ความคิดเห็นจากการใช้จากจขบ. ให้คะแนน 10/10 ค่ะ จขบ. อายุกว่าสามสิบแล้วค่ะ ต้องการผลิตภัณฑ์ Exfoliate ช่วยเหลือการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติที่ช้าลงตามวัย 2% BHA liquid ตัวนี้ทาแล้วสิวหัวดำหัวขาวหลุดออกมาให้จัดการได้ง่ายขึ้น สิวอุดตันล้านปี (อันนี้เว่อร์ เอาแค่ค้างปีก็พอ) ยังหลุดออกมาเลย แต่อ่ะนะเมื่อสิวหลุด ย่อมทิ้งร่องรอยสงครามไว้ ก็ต้องรักษากันต่อไป แต่ที่ไม่หักคะแนนเพราะมันมิใช่หน้าที่ของ BHA จ้า

(paragraph อันนี้ขอนินทาคนหน่อย) พักหลัง บางครั้งการให้คะแนนรีวิวผลิตภัณฑ์มันช่าง misleading เหลือเกิ้นนน วันก่อนมีคนหักคะแนน SK-II FT Essence เพราะไม่ทำให้ขาว ฮ่วย! มันเหมือน อิชั้นขอหักคะแนน cleanser ตัวนี้นะคะเพราะมันไม่กันแดดค่ะ... SK-II เค้าไม่เคยเคลมนะคะว่า SK-II FT Essence ทำให้หน้าขาวขึ้น มันไม่ใช่ Whitening นะคะคุณขา

ข้อเสียอย่างหนึ่งของ 2% BHA Liquid ของป้าพอลล่าตัวนี้คือ ถ้าใช้เยอะเกินไปหรือลืมทาครีมทับ มันจะทำให้ผิวหน้าแห้งไปหน่อย บางจุดถึงกับลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ดังนั้นควรโบกครีมตามลงไปเยอะหน่อยกับอย่าลืมทากันแดดทีเดียวเชียว เดี๋ยวจากผิวสวยจะกลายเป็นแห้งกร้านไป

วิธีใช้ จขบ. ก็ทำตามคนอื่นเขามาอีกทีอ่ะนะ เค้าว่ากันว่าพวก BHA เนี่ยต้องทาทิ้งไว้เดี่ยวๆ ซัก 20 นาทีก่อนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของ BHA ถึงจะตามด้วยครีมทีหลัง ตรงนี้แหละที่สาวเหลือน้อยอย่างเรามักลืม (บางทีก็ขี้เกียจ) และผลอยหลับไปทุกที ตื่นมานี่อย่าให้เซดว่าหน้าแห้งปานกระดาษทราย

ความประทับใจกับ 2% BHA Liquid ของป้าพอลล่าตัวนี้คือ ทาสิวที่เริ่มๆ จะอักเสบปุ๊ป (ยังไม่มีหัว) วันรุ่งขึ้นหัวขาวๆ มันโผล่ออกมาเลยค่ะ อันนี้ยังไม่รวมพวกสิวอุดตันที่ไม่เคยคิดว่ามันจะหลุดออกมาได้โดยไม่ใช้ CO2 laser นะ ทา 2% BHA Liquid ไปซัก 2-4 weeks ทาๆ แปะๆ นี่แหละค่ะ ไม่ต้องไปนวดมันมาก หรือใครถนัดใช้สำลีชุบ BHA เช็ด ก็ไม่ว่ากัน สิวจะค่อยๆ ตื้นขึ้นมาถึงระดับที่บีบออกได้ แต่อย่าเมามันจากการบีบสิวมากเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นจะต้องมานั่งรักษารอยดำกันอีก

เอามาทาสิวตามตัวก็ได้อีก ทาๆ แปะๆ เหมือน มองเล่ยะ สิวแห้งไวกว่าไม่ทามากมาย สรุปแล้ว เป็นเครื่องสำอางที่คุ้มค่าน่าซื้อหามาติดบ้านอีกชิ้นหนึ่งค่ะ

ใครเคยใช้แล้วเป็นยังไงกันบ้าง มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ




 

Create Date : 03 เมษายน 2552   
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 18:51:11 น.   
Counter : 5800 Pageviews.  

‘Anti-Aging สูตรลับชะลอวัย’

วันนี้มีบทความสนุกๆ สาวน้อยอ่านได้ สาวเหลือน้อยก็อ่านดีมาฝากค่ะ

‘ความสุข’สร้างได้ กับหมอผิง-แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร
ที่มา //image.gmember.com/monthly/monthly_detail.php?content_id=425


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีความสุขทุกครั้งเมื่อมองเห็นตัวเองอีกคนในกระจก ขอเชิญเข้ามาล้อมวงคุยกับ หมอผิง-แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร ผู้อำนวยการสถาบันความงาม โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง และเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ (Anti-Aging Medicine) เธอมีสูตร‘ชะลอวัย’ที่ทำได้ด้วยตัวเองมาเล่าให้ฟัง

เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์’ เข้ามาอยู่ในความสนใจของหมอผิง เมื่อครั้งที่เธอเดินทางไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่สหรัฐอเมริกา ฟังดูแล้วอาจจะแปลกหูเนื่องจากไม่ใช่คำที่คุ้นเคยแพร่หลาย และยังมีคำอื่น ที่มีผู้พยายามสรรหามาใช้ในความหมายใกล้เคียงกัน อย่าง‘เวชศาสตร์อายุรวัฒน์’

“เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ หรือ Anti-Aging Medicine ไม่ได้หมายถึงเรื่องความสวยความงามเพียงอย่างเดียว จัดว่าเป็นศาสตร์ใหม่ แต่จริงๆ แล้วเป็นการเอาศาสตร์เก่าอย่างเวชศาสตร์ป้องกัน มาบวกกับศาสตร์สมัยใหม่ ทั้งอายุรกรรมต่อมไร้ท่อหรือฮอร์โมน เวชศาสตร์การกีฬา เวชศาสตร์ฟื้นฟู และตจวิทยาหรือศาสตร์ด้านผิวหนัง

“ความสนใจศาสตร์นี้เริ่มมาจากตอนที่ไปเรียนด้านผิวหนัง แล้วเราก็พบว่าการที่ผิวจะดีก็ต้องขึ้นกับสุขภาพภายในที่ดีด้วย ไม่ว่าเราจะมีวิทยาการใหม่ๆ อย่างเลเซอร์หรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าผิวไม่ดี ร่างกายเราไม่สร้างคอลลาเจน มันก็กระตุ้นไม่ได้ แล้วเราก็พบว่า Anti-Aging Medicine คือคำตอบ”

เธอขยายที่มาเพิ่มเติมอีกว่า “บิดาของศาสตร์นี้คือ ดอกเตอร์ โรเบิร์ต โกลด์แมน หมอชาวอเมริกัน เขาเป็นหมอที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมาก วิดพื้นติดอันดับกินเนสส์ บุ๊ก ความที่เขาใส่ใจเรื่องกีฬา ก็เลยก่อตั้งศาสตร์นี้ขึ้นมา โดยพื้นฐานจะเหมือนกับเวชศาสตร์ป้องกัน”

เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ เป็นศาสตร์เกี่ยวกับการป้องกันดูแลสุขภาพทุกด้าน เริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหาร การรับประทานวิตามินและอาหารเสริมที่จำเป็นและเหมาะสม การออกกำลังกาย การใช้ชีวิตประจำวัน การนั่งสมาธิ ฯลฯ อันเป็นวิถีที่จะนำไปสู่ความสุขในวัยที่เพิ่มขึ้น โดยมีแก่นวิชาที่แท้คือ ‘ทำอย่างไรจึงจะแก่อย่างมีความสุข’ เมื่อนำมาผนวกเข้ากับการรักษาผิวพรรณแบบองค์รวม จึงทำให้การรักษาไม่ใช่เพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ

ก่อนจะนำเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์มาประยุกต์ใช้กับคนไข้ผิวหนังเช่นปัจจุบันหมอผิงอุทิศตัวเองเป็น‘หนูทดลอง’ ด้วยการเริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองตามแนวทางที่ได้ศึกษาก่อน อาทิ การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่าง‘อาหารผิวทั้งเจ็ด ’ การออกกำลังกายที่จะช่วยเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัย หรือการใช้กิจกรรมอย่างการนั่งสมาธิอันมีผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ

ฟังดูไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะปฏิบัติ

“สำหรับเราเองไม่ใช่เรื่องลำบาก เพราะชอบออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่การออกกำลังกายในแนวทางนี้ หนึ่งในนั้นเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก คือวิ่งให้เต็มที่ ยกเวท ส่วนการรับประทานอาหารก็เน้นแบบ Anti-Aging Diet คือมื้อเช้ากินอย่างพระราชาเลย กินข้าวกล้องกับเมนูปลา หรือขนมปังโฮลวีต โอ๊ตมีล สลับกันไป

“มื้อเที่ยงก็จะกินแบบเจ้าหญิง คือดูแลหน่อย ไม่กินของทอด ไม่กินกะทิ ไม่กินกาแฟ แต่กินน้ำผลไม้ ไม่กินเค้ก หรือถ้านึกอยากจะกินของว่าง ถั่วอบก็อร่อยเหมือนกัน ส่วนมื้อเย็นกินแบบยาจก ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ ซึ่งการนั่งสมาธินี่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วนะคะว่า ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนเครียดได้” เพราะในทางการแพทย์ ความเครียดมีผลโดยตรงที่ทำให้ความแก่มาเยือนเร็วขึ้น

“การที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในร่างกาย เช่นทำให้เกิดอาการอักเสบในระดับเซลล์ ซึ่งการอักเสบเป็นกระบวนการแก่ชรา เป็นสาเหตุการทำลายคอลลาเจน และฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เราหิว เมื่อเรากินเยอะขึ้น ผลที่ตามมาคือเผาผลาญเยอะ เกิดอนุมูลอิสระเยอะ เพราะฉะนั้นการตัดต้นตอของมันคือต้องไม่เครียด”

สิ่งที่ต้องยอมรับข้อหนึ่งของศาสตร์แขนงนี้คือ ไม่อาจเห็นผลลัพธ์ทันใจเท่ากับการรักษาที่อาศัยเทคโนโลยีเข้าช่วย

“มีเยอะนะคะที่คนไข้เข้าใจว่าการใช้เทคโนโลยีน่าจะง่ายกว่า ทันใจกว่า แต่ในความเป็นจริง การปฏิบัติในแนวทางที่เริ่มต้นจากตัวเองไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คิด ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย เดือนสองเดือนก็จะเห็นผล เห็นผลนี่ไม่ได้หมายความว่าริ้วรอยหายไปนะคะ แต่เขาจะมีพลังในการทำงานมากขึ้น เหนื่อยน้อยลง และผิวก็จะสดใสขึ้น

“การเริ่มต้นไม่มีคำว่าสายเกินไป แต่ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี จะยิ่งเห็นผลชัดเจน ต่อให้อายุสามสิบแล้ว หรือสี่สิบห้าสิบ เพิ่งมาเปลี่ยนพฤติกรรมก็ยังช่วยได้”

เราอาจต้องใช้เวลาเกินหนึ่งวันในการเข้าถึงรายละเอียดปฏิบัติการชะลอวัยด้วยตัวเองทั้งหมด หมอผิงก็เห็นเช่นนั้น เพื่อแพร่องค์ความรู้ไปสู่วงกว้างได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หนังสือ ‘Anti-Aging สูตรลับชะลอวัย’ จากการเรียบเรียงของเธอ จึงเป็นทางที่เธอเลือกนำมาสื่อสาร

“เริ่มจากเราแนะนำเพื่อนๆ ก่อน และอีกสาเหตุหนึ่งคือเราชอบเล่นอินเตอร์เน็ต ก็พบว่ามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในบอร์ดของพันทิป หลายคนอยากมีสุขภาพที่ดี แต่ยังขาดข้อมูล หรืออาจจะมีความเชื่อที่ผิดบ้าง เมื่อเห็นไม่ถูกต้องเราก็จะเข้าไปตอบ แต่บางทีก็ไม่มีเวลา ก็เลยอยากเขียนความรู้ที่เรามีให้มันเป็นเล่ม เพื่อคนที่สนใจจะได้รู้ได้เข้าใจ”

หมอผิงเล่าว่า การเป็นนักเขียนคือความฝันอันดับหนึ่งในวัยเด็กของเธอเช่นกัน ทุกวันนี้นอกจากจะเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และสมิติเวช สุขุมวิท เธอใช้เวลาที่เหลือในแต่ละวันไปกับการแปลหนังสือ ‘Simply Relax’ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมตีพิมพ์ในเวลาอันใกล้ เป็นการสานต่อแนวคิดที่ว่า ‘ความสุขสร้างได้’ เพียงเริ่มต้นจากตัวเอง

ในวัยเด็ก แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร มีความฝันหลายอย่าง เธออยากเป็นนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ สถาปนิก นักเศรษฐศาสตร์ สุดท้ายเธอเอนทรานซ์ติดคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สมความตั้งใจของบิดา หลังเรียนจบและทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นเวลากว่าสองปี เธอตัดสินใจไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston Medical Center, Boston University สหรัฐอเมริกา และศึกษาต่อด้าน Anti-Aging Medicine จาก American Academy of Anti-Aging Medicine ปัจจุบันเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสถาบันความงาม โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ด้วยวัยเพียง 31 ปี

คุณ Crotte ประทับตรา approved ค่ะ เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับเคล็ดไม่ลับของคุณหมอผิง แต่เรื่องปฏิบัติบางทียังใจไม่แข็งพอ ตกเป็นข้าทาสของกาแฟอยู่ร่ำไป





 

Create Date : 20 มกราคม 2552   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 4:11:31 น.   
Counter : 2638 Pageviews.  

Lip Balm <<< Kiehl’s ปะทะ Palmer's >>>

ไม่ได้ทำรีวิวมานาน เกือบลืมซะแล้วว่าต้องเขียนอะไรบ้าง วันนี้ขอรีวิวอย่างย่อ 2 ตัวจบนะคะ ผลิตภัณฑ์กลุ่มให้ความชุ่มชื่นริมฝีปากหรือที่เราๆ เรียกติดปากว่า “ลิปมัน” นั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้บริโภค ทั้งแบบแท่ง แบบกระปุก แบบหลอดหรือแบบลูกกลิ้ง

จริงๆ แล้วเราควรทาลิปมันตลอดทั้งปี แต่ส่วนมากจะลืม 555 มาเห็นความสำคัญของลิปมันมากๆ ก็ช่วงหน้าหนาวนี่แหละ เพราะถ้าไม่ทาปากจะลอก แห้ง แสบและทรมานก็ต้องทาลิปมันบ่อยๆ เคยเห็นผู้ชายบางคนไม่ยอมทาลิปมัน ด้วยความ “แมน” ไม่อยากทาลิปสติก ปากพี่แกลอกแบบหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ เลือดออกซิบๆ แต่ไม่เป็นไร “แมน” ทนได้ แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

สำหรับเรา เราชอบลิปมันแบบแท่งที่สุด เพราะมันใช้สะดวกที่สุดแล้ว เราไม่ชอบให้มันเลอะนิ้ว นึกภาพออกกันใช่มั้ยคะ ถ้าเป็นลิปมันแบบกระปุกเราต้องล้วง ควัก จิ้ม จุ่มด้วยนิ้วก่อน แล้วค่อยเอามาป้ายปากตัวเอง ถึงเป็นแบบหลอดเราก็ไม่ชอบเอาหลอดมาป้ายปาก (ใช้นิ้วอยู่ดี) แต่หลังจากได้ทดลองใช้เจ้าสองตัวนี้แล้ว ก็เกิดอาการเปลี่ยนใจเล็กน้อย เพราะมันชุ่มชื่นกว่าแบบแท่งเยอะเลย สรุปว่าแบบหลอดเอาไว้ทาเวลามีเวลาพิถีพิถันหน่อย ส่วนแบบแท่งเอาไว้พกพา แบรนด์ที่เราชอบสำหรับแบบแท่งคือ Chapstick ค่ะ ซื้อมาเป็นโหลแล้วก็โปรยๆ ไว้ตามทาง ใช้บ้างหายบ้างก็ไม่ค่อยเสียดายค่ะ ส่วนยี่ห้อสุดฮิต Blistex เราเกลียดมากทั้งเนื้อทั้งกลิ่น แค่เอามาทาก็กินน้ำไม่ลงแล้วค่ะ

(1) Kiehl’s Lip Balm SPF 15 in clear
ขนาด: 0.5 oz
ราคาเต็ม: $9.50 plus tax
comment: ซื้อมาด้วยความอยากลองค่ะ มีแฟนบลอกคนหนึ่งเค้าถามว่าเราอยู่อเมริกาเคยใช้รึเปล่า เค้าใช้แล้วชอบมากๆ ทาวันละครั้งก็เอาอยู่ เราก็บ้าจี้ไปซื้อมาลองใช้บ้าง ปรากฎว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันก็ชุ่มชื่นดีมีกันแดดด้วย เนื้อเวลาบีบออกมามันจะเหลืองอย่างที่เห็นในรูป ตัวบนน่ะค่ะ ทาบนปากแล้วไม่มีสี ไม่มีกลิ่น สำหรับเราทาวันละครั้งคงไม่เพียงพอ เพราะอากาศที่นี่แห้งกว่าที่เมืองไทย พอเอามาทาตอนกลางคืนตื่นมาปากยังแห้งอยู่ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ค่ะ แอบแพงด้วย ให้ 8/10

(2) PALMER'S COCOA BUTTER FORMULA DARK CHOCOLATE AND PEPPERMINT LIP BUTTER
ขนาด: 0.35 oz
ราคาเต็ม: $3.xx จาก Walgreens จำราคาไม่ได้ แอบดูในเวปเค้าบอกราคาไว้ $2.45 (ซื้อมาแพงกว่า ไม่ยอม ไม่ยอม…)
comment: กลิ่นตามชื่อเลยค่ะ คล้ายโกโก้ผสมมินท์ น่ากินดีค่ะ บีบออกมาเป็นสีใสๆ ทาออกมาแลวจะแวววาวกว่า Kiehl’s เล็กน้อย ยี่ห้อนี้เค้าดังมากเรื่องครีมทาตัว Stretch Marks พวกนั้น ทากลางวันได้กลางคืนยิ่งดีใหญ่ ตื่นมาจะปากนุ่มเหมือน ได้บำรุงเต็มที่ วันรุ่งขึ้นออกไปเดินทั้งวันตากแดดตากลม ไม่ได้ทาอะไรปากก็ยังนุ่มอยู่ค่ะ แนะนำของดีราคาไม่แพง เสียอย่างเดียวหลอดมันบีบยากมากเลยค่ะ ยิ่งหน้าหนาว wax ข้างในมันค่อนข้างแข็ง บีบออกมายากเหลือเกิน แต่ก็เอาคะแนนไปเลย 10/10







อากาศหนาวแล้ว รักษาสุขภาพกันให้ดีนะคะทุกๆ คน ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากคุณ Crotte จ้า




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2551   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 5:00:33 น.   
Counter : 3352 Pageviews.  

รีวิว Nuxe and Fresh ที่ใช้อยู่ค่ะ

วันนี้จะมารีวิว skin care ที่ซื้อมาเพราะเห็นแก่ของแถม (อีกแระ) นะคะ เนื่องจากว่าคุณ Crotte เป็นพวกชอบลอง แถมได้รับแรงบันดาลใจจาก คุณ Phoebe กับนู๋ ม. ว่า Nuxe Skin Care แนวธรรมชาติจากประเทศฝรั่งเศสน่าลอง ประกอบกับรีวิวใน MUA ก็ไม่เลว พอโอกาสเหมาะได้ของแถม ไหนเลยคุณ Crotte จะรอช้า รีบสอยมากลองซะ จาก drugstore.com อีกเช่นเคยค่ะของแถมเมื่อซื้อครบ $75




คำโปรยของแบรนด์ Nuxe is a leading French expert in natural cosmetology. Nuxe Laboratory has developed gentle, effective beauty products in total harmony with consumer expectations – luxurious scents, original textures, both creamy and lightweight, and exclusive botanical ingredients. Nuxe natural skin care was established in 1957.

สรุปแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ exclusive botanical ingredients ทำขายมานานแล้วว่างั้นเถอะ ของเค้าธรรมชาติ ไม่ใส่กันเสียจริงๆ ค่ะพี่น้อง ซื้อมาแล้วต้องรีบใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ตอนนี้เราใช้มาแล้วประมาณ 4 เดือน เหลือครึ่งกระปุกค่ะ เตยสู้ๆ ต้องทาถู ทาถูครีมแข่งกับเวลา

วันนี้เราจะรีวิว Nuxe 2 ตัวที่เราใช้อยู่ Nuxe Creme Fraiche Energizing Emulsion กับ Nuxe Floral Toning Lotion ค่ะ และแถมด้วยรีวิว Fresh Sugar Lip Treatment อีก 1 ตัวค่ะ เริ่มจาก Fresh ก่อนแล้วกัน

Fresh เป็นแบรนด์จากฝั่งอเมริกาออกแนว Spa เน้น น้ำหอมและ skin care ที่มีกลิ่นหอมๆ เป็นแบบฉบับของตัวเองค่ะ ราคาค่อนข้างสูง เข้าร้าน Fresh แล้วห้อมหอม ไม่อยากออกเลยค่ะ นอกจากน้ำหอมแล้ว Fresh ยังมี Skin care ตัวที่ดังๆ อีกหลายตัวเช่น Rose Face Mask, Soy Face Cleanser, Brown Sugar Body Polish แล้วก็ Sugar Lip Treatment ที่เรากำลังจะพูดถึงนี่แหละค่ะ





1. Fresh Sugar Lip Treatment SPF15 ได้มาครั้งแรกเพราะเพื่อนให้มาเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ ใช้แล้วติดใจจนต้องซื้อต่อ
a. ราคา 4.3 g $22.50
b. ส่วนผสม Active Ingredients: OCTINOXATE (ETHYLHEXYL METHOXYCINNAMATE) 7.49 %, OXYBENZONE (BENZOPHENONE-3) 2.00 %, Other Ingredients: BEESWAX (CERA ALBA), น้ำมัน seed oil มากมายหลายชนิด, น้ำหอม, สารกันเสีย กันบูดต่างๆ
c. Comment กลิ่นหอมถูกใจ Citrus นิดๆ Vanilla หน่อยๆ ไม่มีสี มี SPF15 Texture จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยต่างจากลิปมันแท่งละเหรียญเท่าไหร่นักแต่ทำให้ปากชุ่มชื่นได้นานกว่านิดหน่อย แและหอมกว่ามาก ถ้าไม่ไปกินอะไรซะก่อนนะ

ถ้าปากแห้ง severe แบบตอนหน้าหนาวก็เอาไม่ค่อยอยู่เหมือนกัน Package ดูไฮโซเป็นยิ่งนัก แต่เป็นแบบหมุนๆ นะคะ เวลาควักออกมาทาถ้าเป็นพวกบ้าเครื่องสำอางเหมือนกันเค้าก็จะดูออกว่าเธอใช้ Fresh Sugar 555 แต่สุดท้ายเราก็ไม่ค่อยได้พกพาอยู่ดีค่ะ กลัวหาย ซึ่งผิดวัตถูประสงค์ของลิปมันอย่างแรง ข้อดีที่ว่าควักออกมาทาแล้วดูไฮโซก็เลยตกไป

ใครจะปฏิเสธว่าไม่คิด ไม่เคยดูว่าคนอื่นเค้าใช้ของอะไรบ้าง เราก็ไม่ว่านะคะ เพราะเราสังเกต เราดูด้วยความอยากรู้ แต่เราไม่ judge ค่ะ

d. Grade 8/10 ตัดที่ราคาแพง ทำให้เราไม่ใช่คู่แท้ ไม่กล้าซื้อบ่อย ไม่กล้าพกไปไหนมาไหนด้วยกลัวหาย


2. Nuxe Creme Fraiche Energizing Emulsion for normal skin
a. ราคา 60 ml 2.1 oz. $41.00
b. ส่วนผสม Active Ingredients: 8 Plant Milks; 4 Essential Oils; Pomegranate; 5 Plant Saps; Wheat Seed Ceramides; Hazelnut and Jojoba Oils.
c. Comment กลิ่นหอมถูกใจ คลายเครียด เราก็อธิบายไม่ค่อยถูกนะคะว่ามันหอมยังไง เท่าที่เค้าบอกว่า botanical ก็แนวๆ นั้นแหละ คำโปรยเค้าโม้ไว้เยอะมากๆ ว่าครีมมันจะไปดูดน้ำจากใต้ผิวหนัง กักเก็บน้ำไว้ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำช้าลง ทำให้หน้าชุ่มชื่นตลอด 24 ชั่วโมง เอ่อ... อาจจะจริงนะ แต่มันทำให้หน้าเรามันมากเลยค่ะ ขนาดเราเริ่มใช้ตอนหน้าหนาวนะ

ครีมตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องริ้วรอย คือเป็นตัวช่วยเรื่องความชุ่มชื่นพื้นๆ จริงๆ นอกจากกลิ่นแล้วเราก็ยังไม่เห็นอะไรพิเศษจากครีมตัวนี้นะคะ ดีที่ไม่แพ้ แต่เนื่องจากเนื้อครีมมันหนัก เราเลยสงสัยว่ามันทำให้หน้าเรามีสิวอุดตันขึ้นตามหน้าผากเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องด้วยรึเปล่า เราเคยฝากความหวังไว้ด้วยว่ามันคงช่วยหน้าเราที่แห้งแตกเป็นขุยจากที่เราไป exfoliate มันมากเกินไป แต่ปรากฏว่าเราโบกเช้าโบกเย็น ยอมหน้ามัน แต่ไอ้หน้าลอกมันก็ยังไม่หายนี่สิ งงเหมือนกันว่าทำไมถึงทำกับฉันได้... T_T

ข้อเสียอีกข้อนึงคือครีมมันมีอายุสั้นมาก 6 เดือนเท่านั้น คือต้องรักกันมาก ทาเช้าทาเย็น ห้ามนอกใจปันใจไปให้ครีมอื่นถึงจะใช้หมด

d. Grade 6/10 จริงๆ แล้วก็ยังรักมันอยู่นะ อยากให้คะแนนซัก 8 แต่หลังจากเขียน comment ข้างบนแล้วก็เริ่มคิดได้ว่า เราอย่าได้เจอกันอีกเลย 8 คะแนนยังมากไป เอาไป 6 พอสำหรับข้อเสียต่างๆ ที่เธอมี

e. Verdict ครีมตัวนี้ได้คะแนนจาก MUA ค่อนข้างสูงเลยนะคะ แปลว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้แล้วดี


3. Nuxe Floral Toning Lotion
a. ราคา 200 ml 6.7 oz. $21.00
b. ส่วนผสม Active Ingredients: Floral Waters (Witch Hazel, Rose and Camomile)
c. Comment กลิ่นหอมถูกใจ คลายเครียด เหมือนตัวข้างบน เช็ดแล้วเบาสบายไม่หนักหน้า ช่วยเรื่องทำความสะอาดได้ดีทีเดียว ตรงตามวัตถุประสงค์ของ Toner จ้า
d. Grade เอาไปเลย 9/10 หักที่ราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น


ทั้ง Nuxe และ Fresh ค่อนข้างหายากในเมืองไทยแต่อ่านไว้ก็ไม่เสียหลายนะคะ ฝากคำถามไว้ได้นะคะ คุณ Crotte ชอบคนอ่าน รักคนเมนท์จ้า




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 12:41:13 น.   
Counter : 6025 Pageviews.  

1  2  3  

Crotte
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Crotte's blog to your web]