BlogGang.com : : lady jun - Next2 Café and Terrace

blog สำหรับคนชอบกิน

Group Blog

Group ตัวอย่าง

All Blogs

Next2 Café and Terrace

เย้ๆ ในที่สุดก้อได้มีโอกาสไปทานอาหารที่โรงแรมซะที เริ่มจากบรรยากาศภายในร้านก่อนเลยดีก่า...

Next2 Café and Terrace เป็นร้านอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โรงแรมแชงกรี-ลา ถึงแม้ว่าร้านอาหารจะเซตตำแหน่งตัวเองในฐานะ “บุฟเฟ่ต์” แต่ก็ไม่กระนั้นเสียทีเดียว เพราะเขายังจัดเมนูอาหารประเภทตามสั่ง (A La Carte) ไว้บริการลูกค้าเหมือนกัน สนนราคาต่อหัวสำหรับสั่งอาหารแบบตามสั่ง ก็อยู่ประมาณ 500 บาท ไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ แต่ถ้าสนใจแบบบุฟเฟ่ต์ดินเนอร์แล้วหละก็ อันนี้ขอแนะนำจริงๆ เพราะอาหารของที่นี่หลากหลายมาก บุฟเฟ่ต์ไลน์มีทั้งด้านใน และด้านนอกของร้าน ราคาต่อหัว เฉลี่ยอยู่ประมาณ 1,500 บาท สำหรับการเดินทางมาที่นี่ ง่ายสุด ก็คงเป็น BTS โดยให้ลงที่สถานีตากสิน และเดินอีกเล็กน้อยถึงในโรงแรมได้เลยจ้า

เมื่อกล่าวถึงอาหาร ก็คงต้องขอยก อาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติมาพูดเป็นอันดันแรก เพราะของเขาเด่นจริงๆ บุฟเฟ่ต์ไลน์มี 2 ส่วน ด้านในเรียก Café มีตั้งแต่ไลน์อาหารยุโรป, อเมริกัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และไทย ส่วนไลน์ด้านนอกเป็น Terrace จัดบริการอาหารสไตล์ BBQ วันที่ผมไปเป็นวันศุกร์ ได้รับประทานบุฟเฟ่ต์แบบ Seafood Extravaganza Nights ราคาหัวละ 1,650 บาท ให้บริการเฉพาะวันศุกร์ และเสาร์เท่านั้น ฮายไล้ท์ก็เห็นจะเป็นอาหารทะเลนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมฝรั่งเศษ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ทูน่าคาพัคโช่ หรือสโม้คแซลมอน และอีกหนึ่งฮายไล้ท์ก็คือ BBQ สไตล์มองโกเลียน ซึ่งเป็นแบบ “อินเตอร์แอคทีฟ”(Interactive) กล่าวคือ เขาจะจัดส่วนประกอบต่างๆเอาไว้ให้เราเลือกตักใส่จาน แล้วส่งให้พ่อครัวผัดลงบนกระทะแบนไฟแรงๆ ซึ่งพ่อครัวนี่ก็เก่ง รู้ว่า หากลูกค้าตักเนื้อแบบนี้มา ผักอย่างนั้นมา เขาต้องผัดกับซอสอะไร ใส่ส่วนประกอบอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ นอกจากบุฟเฟ่ต์แล้ว ก็ยังมีเมนูตามสั่งซึ่งหลากหลายพอกัน แต่จานโปรดที่ลูกค้านิยมสั่ง เห็นจะเป็น Next2 Thai Platter ซึ่งประกอบด้วยลาบหมู และเป็ดรวม, ทอดมัน, ไก่สะเต๊ะ และป่อเปี๊ยทอด อีกเมนู คือ Next2 Asian Simpler ซึ่งประกอบด้วยป่อเปี๊ยเวียดนาม, ทูน่าทาทากิทอด พร้อมสลัดวาคาเมะ, แล้มบ์ วินดาห์ลู (Lamb Vindaloo – แกงอินเดียรสเผ็ดใส่เนื้อลูกกวาง) และแกงเขียวหวานไก่

มาเริ่มที่เมนูแรกกันเลยดีก่า

แล้มบ์แช้งค์ (Lamb Shank) รับประทานคู่กับซอสค็อคเทล(Cocktail Sauce) สีอมส้ม รสชาดคล้ายเคียงซอสธ้าวแซนด์ อายแลนด์ (Thousand Island) ตกแต่งให้ดูดีเล็กน้อยด้วยเลมอนฝานครึ่ง แนมด้วยผักสดพอให้ดูมีสีสัน และวิตามิน อาทิ พริกกระดิ่ง และแครอท พร้อมเพิ่มโปรตีน และโอเมก้า-3 อีกหน่อย ด้วยเนื้อปลากะพงที่ปั้นมาเป็นก้อน

จานนี้รวมส่วนประกอบเรียกน้ำย่อย และส่วนประกอบหลักเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มที่หอยแมลงภู่ตัวโตจากนิวซีแลนด์ (New Zealand Mussels) ราดด้วยซอสซีฟู้ดแบบไทย ต่อด้วยเนื้อปลาทูน่าฝานบางสไตล์อิตาเลี่ยนเรียก “ทูน่าคาพัคโช่” (Tuna Carpaccio) โรยหน้าด้วยหอมดองสับละเอียด ยังไม่อิ่ม คั่นด้วยขนมปังฝรั่งเศสชิ้นน้อย (baguette) และข้าวคุซขุซ (Couscous) ซึ่งเป็นข้าวพื้นเมืองจากตะวันออกกลาง ตามด้วยเนื้อไก่งวง (US Turkey) ที่มากับแยมแครนเบอร์รี่ (Cranberry topping)สุดอร่อย

จานนี้เป็นอาหารสไตล์มองโกเลี่ยน ส่วนประกอบเน้นพืชผัก และสมุนไพรต่างๆ อาทิ เห็ดเข็มทอง, พริกกระดิ่ง, แอสพารากัส, กระเทียม และขิง แต่ทั้งนี้ ก็ขาดเนื้อสัตว์ไม่ได้ เราเลือกปลาหิมะ, หอยพัด และเนื้อแกะหั่นชิ้นเล็กๆ ทั้งหมดถูกจัดรวมใส่จาน แต่ส่งให้ Chef คนเก่งลงมือผัดบนเตาแบน ปรุงด้วยซอสมองโกเลี่ยน (Mongolian Sauce) รสชาติเผ็ดแปลกลิ้น แต่อร่อยอย่างไม่น่าแปลกใจ

นี่คืออาหารสัญชาติอินเดียทั้งจาน ไก่ทอดผสมเครื่องเทศเรียก “ติ๊กก้าชิกเค่น” (Tikka Chicken) มาพร้อมกับข้าวอินเดี้ยน หรือ “บาสมาติ” (Basmati Rice) ข้าวบาสมาติ เป็นภาษาฮินดีแปลเป็นไทยว่า ข้าวนุ่ม (soft rice) พบปลูกที่บริเวณตีนเทือกเขาหิมาลัยในประเทศอินเดีย และปากีสถาน มีกลิ่นหอม และรสชาติที่นุ่มนวล สำหรับเมนูนี้ นำมาปรุงร่วมกับใบกระวาน, อบเชย, ยี่หร่า และใบเบย์

Blueberry Cheese Cake เมนูนี้ ขอ Recommend ให้กับความอร่อย ,ความพอดีของความหวาน อย่างลงตัว บวกกับความเปรี้ยวจากลูกบลูเบอร์รี่ และความสวยในการตกแต่งที่เรียบง่าย พื้นหน้าสีม่วงอ่อน mix and match กับสีม่วงเข้มชุ่มฉ่ำของลูกบลูเบอร์รี่ ช่วยให้ดูน่ากินจริงๆ