Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
All Blog
::.. "แม่หญิงเชอร์" Baby tale no fairy tale ตอนที่2 วัดอุณหภูมิหาวันไข่ตก

อย่างที่บอก แม่หญิงเชอร์ได้ลองทุกวิธีเพื่อหาวันไข่ตกตอนแรกหลังจากที่หยุดยาคุม ยังไม่รู้ว่ารอบเดือนตัวเองกี่วัน ลองกาปฏิธินไว้2เดือนแรกมัน 28วัน ก็เข้าใจเอาเองว่า รอบเดือนเรา 28 วันชัวร์ผ่านไปสองเดือนเบบี้แดนซ์วันเว้นวันจนเหนื่อย ฮ่าๆ Smileyไม่เกิดอะไรขึ้นตอนนั้นเพื่อนสนิทแม่หญิงเชอร์เพิ่งท้องลูกคนที่สองพอดี เค้าใช้ที่ตรวจไข่ตกเดือนที่สามสำเร็จ เลยเอาเทสที่เหลืออยู่5อันมาให้แม่หญิงเชอร์

อ่านวิธีใช้เค้าบอกว่าถ้ารอบเดือนเรา 28วันให้เริ่มเทสตั้งแต่วันที่ 10 ของรอบเดือน (วันที่ 1 คือวันที่ประจำเดือนมา)เราก็เริ่มเทส ผ่านไป 5 วันเทสหมดแล้วก็ไม่เจอหน้ายิ้มซักที งงๆ ไม่เข้าใจ


หน้ายิ้มแบบนี้ที่เราต้องการ

พอดีเดือนเดียวกันนี้แม่หญิงเชอร์ก็เริ่มวัดอุณหภูมิตัวเองแล้วพล็อตกราฟ มันเป็นวิธีที่ดีมากนะทำให้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับร่างกายผู้หญิงอีกเยอะ จะเล่าให้ฟังว่ามันดียังไง

Basal body temperature (BBT) คืออุณหภูมิของร่างกายเมื่อเราตื่นตอนเช้าหลังจากที่หลับพักผ่อนมาไม่น้อยกว่า4 ชั่วโมง ต้องวัดทันทีที่ตื่น ก่อนลุกจากเตียงไปทำอะไรทั้งสิ้นการวัดนี่ให้ใช้ปรอทดิจิตอลที่แสดงจุดทศนิยมสองตำแหน่งจะแสดงให้เห็นความแตกต่างของอุณหภูมิมากกว่าจุดเดียว ปรอท ที่ใช้วัด BBT โดยเฉพาะก็มีขายนะคะ แต่แม่หญิงเชอร์ใช้ปรอทวัดไข้ที่มีอยู่แล้วที่บ้านเพราะไม่อยากซื้อใหม่

การวัดอุณหภูมิควรทำเวลาเดิมทุกวันเพราะยิ่งเราวัดสายขึ้น อุณหภูมิจะสูงกว่าตอนเช้า แม่หญิงเชอร์ปลุกนากา 6.30ทุกเช้า แต่ก็มีบ้างที่ตื่นสายวันหยุดนะ วันไหนตื่นสายก็ไม่เป็นไรแค่จดไว้ว่าตื่นสาย แม่หญิงเชอร์ใช้กราฟของ 2 เวบ คือ www.fertilityfriend.comกับ www.tcoyf.com (fertilityfriendมี app ให้โหลดใช้กับมือถือ)วิธีอ่านกราฟมันจะแบ่งเป็น


ช่วงก่อนไข่ตก Follicula phase ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีเยอะช่วงนี้จะทำให้อุณหภูมิต่ำยิ่งใกล้ไข่ตกจะยิ่งต่ำ

ช่วงหลังไข่ตก Luteal phase เมื่อไข่ตกแล้วฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนจะถูกสร้าง ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างน้อย0.2-0.5 องศา ไปจนถึงประจำเดือนมาอุณหภูมิก็จะตกอีกที

อย่างที่บอกนะคะกราฟนี้สามารถแสดงให้เห็นว่ามีไข่ตกแล้วต้องทำอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปถึงจะประมาณแนวโน้มของวันที่ไข่จะตกได้

ตอนที่เริ่มทำกราฟ แม่หญิงเชอร์ก็อ่านหนังสือ Taking Chart of Your Fertility ของคุณหมอ Toni Weschler ไปด้วย (รูปมาจากamazonนะคะ)


หนังสือเล่มนี้สอน FertilityAwareness Method อธิบายถึงการเจริญพันธุ์ วิธีวัด BBT วิธีอ่านผลและประโยชน์ของการทำกราฟ BBTอย่างละเอียด รวมทั้งสอนให้สังเกตุมูกปากมดลูกและการใช้ที่ตรวจไข่ตกควบคู่ไปกับการวัดอุณหภูมิอ่านแล้วทำให้รู้ว่าวิธีนี้ไม่ใช่แค่สำหรับคนที่อยากมีลูกเท่านั้นแต่คนที่ทำมาหลายเดือนจนชำนาญ ยังสามารถใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดได้อีกนอกจากนี้การทำกราฟ BBTยังสามารถบอกได้อีกว่ารอบเดือนของเราปกติหรือไม่ (ปกติคือ 26-35วัน)

ตาราง BBT ยังสามารถบอกได้ว่าLuteal phase หรือระยะหลังไข่ตกเรียกสั้นๆว่า LP ของเราปกติรึเปล่า โดยนับจากวันที่ไข่ตกไปแล้วถึงวันสุดท้ายก่อนประจำเดือนมาปกติควรอยู่ที่ 12-16วัน ไม่ควรต่ำกว่า 10 วัน เพราะถ้าสั้นเกินไปตัวอ่อนจะฝังตัวไม่ทันเนื่องจากผนังมดลูกลอกตัวก่อนระยะก่อนไข่ตกในแต่ละเดือนจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ไข่ตกเร็วหรือช้า แต่ระยะLP ของแต่ละคนจะเท่าๆกันทุกเดือน อย่างแม่หญิงเชอร์มีระยะ LP 14 วัน วันที่15หลังไข่ตก ประจำเดือนก็จะมาตรงเผงเหมือนตั้งเวลา

นอกจากนี้ ตาราง BBTยังสามารถบอกถึงการตั้งครรภ์ได้อีก ถ้าอุณหภูมิเราที่เพิ่มขึ้นหลังไข่ตกยังสูงคงที่ไม่ตกลงต่ำกว่า cover line เป็นเวลา 18วันแสดงว่าท้องแน่นอน จากประสบการณ์ แม่หญิงเชอร์ยังไม่เคยมีกราฟแบบนี้ ปกติวันที่13หรือ 14หลังไข่ตกอุณหภูมิก็จะตกลง แบบนี้คอยได้เลยว่าประจำเดือนมาแน่

แม่หญิงเชอร์จดบันทึกอยู่4รอบเดือน ค้นพบว่ารอบเดือนตัวเองอยู่ที่ 42-45วัน ยาวกว่าคนปกติ ไม่แปลกเลยว่าทำไมใช้ที่ตรวจไข่ตกไม่เจอยิ้มเพราะไข่ตกช้ากว่าปกติ คือประมาณวันที่ 27-29 นู่น ก็เริ่มคิดนิดนึงว่ามีปัญหารึเปล่า


เดือนที่หนึ่ง 41วัน


เดือนที่สอง 43วัน


เดือนที่สาม 51วัน


เดือนที่สี่ 41วัน

ทีนี้หญิงเชอร์จะทำยังไงต่อไป ติดตามได้ใน babyjourney ตอนหน้าค่ะ Smiley


Lady Cher's : acebook page
Lady Cher's : รวมลิ้งค์ ..

 




Create Date : 27 มีนาคม 2556
Last Update : 27 มีนาคม 2556 21:23:49 น.
Counter : 19700 Pageviews.

9 comment
::.. "แม่หญิงเชอร์" Baby tale no fairy tale ตอนที่1 ไข่ตกกับเบบี้แดนซ์

”จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง

ขอเบบี๋ตัวแดงๆใส่พุงของข้า...”


ใครจะไปคิดว่ากว่าจะมีลูกได้มันไม่ง่ายเลย (สำหรับบางคนนะคะ) แม่หญิงเชอร์เองพยายามมาได้ปีครึ่งแล้ว จนเพื่อนๆที่เริ่มทีหลังแซงหน้าได้อุ้มลูกไปแล้ว3คู่ ตอนที่เริ่มปล่อยให้มีเบบี๋ไม่ค่อยได้บอกใครหรอกว่าอยากมี กะว่าท้องแล้วค่อยบอกก็ได้ แล้วก็ขี้เกียจตอบคำถามที่ตามมาถ้าเกิดเราไม่ท้องพุงเราไม่ป่องซักที เรื่องพยายามมีเบบี๋นี่เป็นเรื่องค่อนข้างเซ้นสิทีฟสำหรับแม่หญิงเชอร์ ก็เลยไม่ต้องการให้คนอื่นยกเว้นครอบครัวรับรู้ เวลาผ่านไปมาถึงปีนี้ก็ทำใจได้แล้วว่าเบบี๋ไม่มาง่ายๆแน่ เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมากว่าปีครึ่งนี้ให้คนอื่นได้รู้บ้าง เผื่ทุกอย่างที่แม่หญิงเชอร์เรียนรู้จากทั้งหนังสือ อินเตอร์เนทและคุณหมอ จะเป็นประโยชน์กับใครก็ตามที่ก็กำลังพยายามอยู่เหมือนกัน Smiley

เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นเลยละกันเนาะ แม่หญิงเชอร์หยุดยาคุมเดือนกันยายน 2011ในช่วงแรกๆกะว่าลองดูเบบี๋จะมาก็มา ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก แต่ตามประสาคนช่างอ่านก็ในเมื่อเราสนใจเรื่องนี้อ่ะนะ ก็เริ่มกูเกิ้ลไปเรื่อยๆ

ตอนแรกๆอ่านเจอว่าใน1รอบเดือนคู่สมรสในวัย 20-30ปี จะมีโอกาสท้องประมาณ 20-25% แต่ในแต่ละรอบเดือนเราเนี่ยโอกาสที่จะเกิดการปฏิสนธิมีแค่ประมาณ 12-24 ชั่วโมงตอนที่ไข่ตกเพราะไข่อยู่ได้แค่24ชั่วโมง Smiley เฮ้ย...ไม่เยอะเลยนะ แต่เค้าบอกว่าสเปิร์มเนี่ยอยู่ได้นานกว่าไข่คือประมาณ 3-6วัน (ยิ่งอยู่ได้หลายวันถ้าผู้หญิงมีมูกไข่ตกพอดี) เพราะฉะนั้นถ้าเราเบบี้แดนซ์ก่อนไข่ตกสเปิร์มก็เข้าไปรอเจอไข่ได้ (BD - baby dance ฝรั่งใช้คำนี้ตามฟอรั่มต่างๆเกี่ยวกับมีลูกยากหมายถึงทำกิจเพื่อให้มีลูกนั่นเองแม่หญิงเชอร์ว่ามันฟังดูน่ารักดีนะ)

ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่ไข่จะตกเท่าที่แม่หญิงเชอร์อ่านเจอก็มีวิธีรู้ได้ประมาณนี้ค่ะ

  • ดูปฏิทิน - รอบเดือนปกติของผู้หญิงจะประมาณ 26-35วัน (นับวันแรกที่มีประจำเดือนไปจนถึงวันสุดท้ายก่อนประจำเดือนครั้งต่อไป) ปกติแล้วไข่จะตกช่วงกลางๆรอบเดือน เช่นถ้ารอบเดือน28วัน ไข่น่าจะตกประมาณวันที่14 แต่บางทีมันอาจจะช้าบ้างเร็วบ้างวิธีนี้เลยทำได้แค่กะประมาณเอาไม่ค่อยแน่นอนแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีเพื่อให้รู้จักรอบเดือนของเรา ถ้าใครรอบเดือนไม่ปกติก็จะกะยากหน่อยตอนนี้มีเวบหลายเวบที่ช่วยคำณวนกะวันไข่ตกให้ด้วย เช่น

//www.ovulation-calendar.net/


  • ฟังสัญญานจากร่างกาย ผู้หญิงประมาณ 20% จะรู้สึกปวดท้องจี้ดๆหรือหน่วงๆทางซ้ายหรือขวา(ขึ้นอยู่กับว่าไข่ตกข้างไหน) ในช่วงกลางๆรอบเดือน ต้องหัดสังเกตุให้ดีแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกได้ค่ะ


  • สังเกตุลักษณะของมูกปากมดลูก (Cervical mucus) มันคือมูกหรือตกขาวที่เราเจอติดกกน.ได้บางช่วงของเดือนค่ะหลังจากประจำเดือนหมดแล้วจะเป็นช่วงที่แห้ง ไม่มีอะไรออกมาติดกกน.หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆเริ่มผลิตมูกปากมดลูกออกมา ในช่วงแรกอาจจะมีลักษณะขาวขุ่น เหมือนโลชั่น แต่พอเริ่มใกล้ไข่ตก มันจะเปลี่ยนเป็นมูกใสๆ หนืดๆเหมือนไข่ขาวดิบ สามารถจับมายืดได้ นี่เป็นสัญญาณสำคัญว่าควรจะเบบี้แดนซ์ได้แล้ว หลังจากไข่ตกแล้วบางคนก็จะกลับไปแห้งอีกบางคนก็จะมีมูกหรือตกขาวทีข้นๆ ครีมๆไปจนประจำเดือนมาค่ะ


  • ตรวจและจดอุณหภูมิตัวเอง (Basal body temperature หรือ BBT) ทำโดยวัดอุณหภูมิทุกเช้าแล้วพล็อตกราฟฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีเยอะช่วงก่อนไข่ตกจะทำให้อุณหภูมิต่ำ เมื่อไข่ตกแล้วฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนจะถูกสร้างทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างน้อย 0.2-0.5 องศาไปจนถึงประจำเดือนมาอุณหภูมิก็จะตกอีกที วิธีนี้สามารถใช้ยืนยันได้ว่ามีไข่ตกแล้วถ้าทำหลายๆเดือน จะสามารถเห็นแพทเทิร์นอุณหภูมิของเราเองและกะวันไข่ตกได้ค่ะ


  • ใช้ที่ตรวจไข่ตก (Ovulation predictor kits) ไอ้เจ้านี่ใช้ตรวจปัสวะเรา หาLuteinizing Hormone หรือ LH ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดpeak 12-24 ชั่วโมงก่อนไข่ตก ที่ตรวจมีทั้งแบบที่เป็นแถบสีที่เราต้องอ่านผลเองหรือแบบดิจิตอลที่ขึ้นหน้ายิ้มเมื่อตรวจเจอฮอร์โมน LH ถ้าตรวจเจอฮอร์โมนนี้ ก็ควรจะเบบี้แดนซ์วันนั้นและวันรุ่งขึ้นจะเป็นสองวันที่เรามีโอกาสท้องมากที่สุดค่ะ



อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยากต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเพื่อให้ท้อง อันนี้ก็แล้วแต่จะคิดนะคะใครอยากทำอะไรขนาดไหนก็แล้วแต่ สำหรับบางคนแค่ไม่คุมก็ท้องแล้ว แต่บางคนพยายามกันอยู่นานก็ไม่ท้องซักที ที่จริงเค้ามีหลักง่ายๆสำหรับคนที่ไม่ต้องการตรวจนั่นสังเกตุนี่คือให้เราเบบี้แดนซ์ประมาณวันเว้นวัน แล้วซักวันมันก็ต้องยิงถูกเป้า


ทุกวิธีนี้แม่หญิงเชอร์ทำมาหมดแล้ว Smiley ใครอยากรู้ว่า Baby tale ของแม่หญิงเชอร์จะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตาม Baby journey อันแสนยาวตอนหน้าค่ะ

Smiley


Lady Cher's : acebook page
Lady Cher's : รวมลิ้งค์ ..



Create Date : 19 มีนาคม 2556
Last Update : 19 มีนาคม 2556 5:47:29 น.
Counter : 12336 Pageviews.

1 comment
1  2  3  

LadyCher
Location :
Västerås  Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]



แม่หญิงเชอร์ สาวไทยที่บ้านอยู่ไม่ไกลจากขั้วโลกเหนือ สนใจในเรื่องสุขภาพและความงาม เอาตัวเองเป็นหมูทดลองประจำ
New Comments