Group Blog
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
::.. "แม่หญิงเชอร์" จับพลัดจับผลูไปดูฟุตบอลที่ Milan ตอนที่2

หลังจากได้ยาแก้ปวดและนอนเต็มอิ่มตื่นเช้ามาเราก็ไปกินอาหารเช้าที่บ้านพ่อกับแม่ของพี่ดาวิเด้ อิ่มหนำสำราญแล้วเราก็อัดกันไปในเจ้าแพนด้ามุ่งหน้าไป Lecco พี่ดาวิเด้เค้าเห็นแดดออก น่าจะอากาศดีจะพาเราไปเดินรับลมชมวิวริมทะเลสาบแล้วก็เดินเล่นที่เมือง Lecco ก่อนเข้ามิลาน

ทะเลสาบที่ว่านี้ก็คือ Lake Como คราวที่แล้วที่มาอิตาลี แม่หญิงเชอร์ก็ได้มาชมทะเลสาบนี้เหมือนกันแต่ตอนนั้นไปที่เมืองโคโม่ เมืองเลคโค่ที่มาครั้งนี้อยู่อีกฝั่งนึงของทะเลสาบ


เดินกินลมชมวิวและwindow shopping

เมืองเล็กๆน่ารักดี เราเดินดูเรื่อยๆ ไม่ได้ซื้ออะไร

เค้าจัดหน้าต่างโชว์ของได้น่ารักดี แม่หญิงเชอร์เดินรั้งท้ายหยุดดูนู่นนี่ตลอดทาง

เดอนไปเรื่อยๆไปเจอร้าน Kiko Milano เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์ของมิลาน เลยกระโดดแว่บเข้าไปดู

ที่จริงเครื่องสำอางค์เค้าราคาไม่แพง แต่แม่หญิงเชอร์ไม่ได้อะไรติดมือออกมา เพราะเกรงใจชาวแกงส์คนอื่นๆที่รออยู่ ไม่กล้าเดินนาน

เราเดินกันได้ไม่ถึง2ชั่วโมงดี เริ่มรู้สึกว่าลมมันจะพัดแรงขึ้นๆ แต่ละคนผมกระเซิงแล้วก็หนาวมากๆเลยตัดสินใจรีบไปดีกว่าอย่าเดินอ้อยอิ่งอยู่นาน

รูปสุดท้ายก่อนขึ้นรถ เค้าทำไว้เพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่1 แผ่นหินรอบๆด้านล่างเป็นรายชื่อทหารที่เสียชีวิตตอนสงครามโลกครั้งที่2

เราเอาแพนด้าไปจอดที่มิลานฝั่งตะวันออกเป็นที่จอดรถของบริษัทที่พี่ดาวิเด้เคยทำงาน แล้วก็หาอาหารกลางวันง่ายๆกินแถวนั้นเสร็จแล้วก็ขึ้นรถไฟใต้ดินเข้าตัวเมือง


ออกจากรถไฟใต้ดินมาเจอร้านรวงเพียบ นี่แหละที่ชั้นรอคอยมาวันครึ่ง แต่มีเวลาเดินแค่สามชั่วโมง แม่หญิงเชอร์เลยขอแยกกับเจ้าถิ่นเรานัดมาเจอกันอีกทีที่สถานีรถไฟใต้ดินอันเดิม


จากนั้นเป็นอันรู้กันว่าวิ่งเข้าร้านนู้นกระโดดออกร้านนี้แม่หญิงเชอร์ไม่ได้ซื้ออะไรเลยตอนแรกเพราะของเช่นเครื่องสำอางค์ส่วนใหญ่ราคาสูงส่วนเสื้อผ้าก็ต้องลองเราไม่ค่อยมีเวลาเลยดูผ่านๆซะมากกว่า

เห็น Sephora เหมือนโดนดูดวิญญาณ รีบลอยเข้าไป เดินวนๆเห็นราคาแล้วได้สติ ของส่วนใหญ่ราคาแพงกว่าตามเวบที่แม่หญิงเชอร์สั่งซื้อ เลยไม่ได้เอาอะไรกลับบ้านอีกเช่นกัน Smiley

เดินๆมาเรื่อยๆจนโผล่ที่ Duomo di Milano


แม่หญิงเชอร์เคยมาเมื่อ10ปีที่แล้วจำได้ว่าตอนนั้นด้านข้างมีนั่งร้านก่อสร้างปิดอยู่ทั้งแถบส่วนคุณซะมีเคยมาก่อนหน้านั้นหลายปีก็บอกว่าตอนนู้นเค้าซ่อมด้านหน้ามาเที่ยวนี้โชคดี แทบจะไม่มีนั่งร้านเลย ยกเว้นส่วนยอดของโบสถ๋ทำให้ถ่ายรูปงามๆระลึกความหลังเมื่อทริปก่อนได้หลายใบ Smiley ในระหว่างที่เดินถ่ายรูปก็มีคนผิวดำวนเวียนจะเอาเชือกมาผูกมือเราหลายคนแต่วันนี้ยกการ์ดสูงไม่ได้แอ้มเงินชั้นหรอก มีคนนึงบอกกับสามีแม่หญิงเชอร์ว่า No problem…it’s for free. คุณชายสวนกลับทันที Free my ass! (ขอไม่แปลไม่ได้อารมณ์) Smiley

เราไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะคิวยาวมากๆ พอถ่ายรูปเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในนี้


อยู่ข้างๆโบสถ์นั่นแหละ มีห้างร้านแบรนด์เนมมากมาย เรากะว่าจะไปเยี่ยมเจ้าวัวกระทิงที่พื้นที่ทุกคนไปเหยียบไข่มันแล้วหมุนๆ เพื่อความโชคดี แต่ว่าพอไปถึงมีนักท่องเที่ยวอยู่กลุ่มใหญ่ เราก็เลยไม่รอ เหยียบครั้งเดียวในชีวิตคงพอนะไข่กระทิง

หันไปทางซ้ายเป็นปราด้า หันไปทางขวาเป็นหลุยส์ เราไม่เข้าร้านไหนเลย แม่หญิงเชอร์บอกไม่อยากดู เที่ยวนี้ไม่มีงบมาซื้อกระเป๋า ดูไปอยากได้เปล่าๆ เราก็เลยเดินออกมาด้านข้าง มาเจอร้านไอศครีมกิ๊บเก๋ คนเยอะมากๆ


ไม่ได้เป๋าใหม่กินไอติมปลอบใจละกัน เค้าให้เราเลือกโคนไอติมก่อน มีแบบธรรมดา เคลือบถั่ว เคลือบช็อคโกแลต เราเลือกโคนที่มีถั่วเคลือบช็อคโกแลตคนละอัน เสร็จแล้วเค้าก็ให้เลือกช็อคโกแลตที่เห็นเหลวๆในรูป มีให้เลือก3อย่าง เลือกแล้วเค้าก็เติมลงไปในโคนไอติม เสร็จแล้วก็ให้เราเลือกไอติมได้คนละ2รส

ค่าไอติมอันละ4ยูโร (ตั้งแต่มาถึงเพิ่งได้ควักเงิน) ไอติมอร่อยมากๆ กินเล็มๆสู้อากาศหนาวไปเรื่อยๆก็หลบเข้าห้างชื่ออะไรลืมไปแล้ว

ไอติมก็จะกิน เครื่องสำอางค์ก็จะลอง นี่แม่หญิงเชอร์นั่งอยู่เคาเตอร์เบอเบอรี่ บ้านนอกไม่มีอ่ะนะขอซักนิด ได้อะไรติดมือมาจะไปเห่อให้ดูกันอีกที Smiley

เสียทรัพย์แล้วเดินต่อไป เจอเคาเตอร์นี้ สติหลุด Smiley

โอ้ว...งดงาม เลอค่า แต่ราคาไม่น่าคบอย่างแรง แม่หญิงเชอร์มีของ1อย่างที่เป็น wish list ของยี่ห้อนี้ มีหรือจะเดินออกมามือเปล่า แต่ซื้อชิ้นนั้นแล้วไม่อ้อยอิ่ง กลัวแพ้ใจตัวเอง รีบเดินออมาสูดอากาศด้านนอก 

เราเริ่มเดินกลับไปทางจุดที่นัดคนอื่นๆไว้ ระหว่างทางก็แวะร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยๆ ได้ของมาคนละชิ้นสองชิ้น หมดเวลาพอดี

สภาพตอนรอพักพวก ณ จุดนัดพบ เมื่อยเท้าสุดยอด Smiley คิดดูว่าเดิน3ชั่วโมงได้มาแค่2ถุงข้างตัว (กลับเมืองไทยยังซื้อมากกว่านี้) ซื้ออะไรมาบ้างจะเอามาอวดโพสหน้านะคะ

อันนี้เป็นผังเมืองจำลอง คุณซะมีเจอตอนที่แม่หญิงเชอร์นั่งหมดสภาพเลยถ่ายรูปมา

พอทุกคนมาครบ เราก็ขึ้นรถไฟใต้ดินกลับไปเอาแพนด้ามุ่งหน้าไปบ้านพ่อกับแม่พี่ดาวิเด้ เค้าทำอาหารเย็นเลี้ยง อลังการงานสร้างมากๆ

เริ่มด้วยจานบนซ้ายมีลาซานญ่ากับอะไรลืมชื่อไปแล้ว อร่อยมากๆ กินเสร็จอิ่มไป3ใน4ของกระเพาะ เค้าก็ยกจานบนขวาตามมาอีก แล้วยังไม่พอ ยกพวกชีสหลายๆชนิด แฮม ซาลามี่แล้วก็สลัดมาด้วย ทุกอย่างอร่อยหมด ยกเว้นแฮมกับชีสบางอันที่แม่หญิงเชอร์ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว ตามมาด้วยของหวานเป็นสตอเบรี่กับครีม ณ ตอนนั้นไม่มีพื้นที่ในท้องแล้ว Smiley อิ่มพุงจะระเบิด แม่พี่ดาวิเด้บอก ช้าก่อน ยังไม่หมด ชั้นทำเค้กแอ็บเปิ้ลไว้ให้กินกับกาแฟ Smiley โห แม่หญิงเชอร์ว่ากินเก่งแล้ว ต้องยอมแพ้ พยายามยัดเค้กลงท้องไม่งั้นเดี๋ยวมามี้เค้าจะเสียใจ อิ่มมากๆลืมถ่ายรูปมา

วันรุ่งขึ้นเราตื่นเช้ามากินกาแฟและขนมรองท้องบ้านพ่อกับแม่แล้วก็ขับรถไปที่สนามบิน พอไปถึงต้องไปหาที่เติมน้ำมันก่อนคืนรถ เสียเวลาไปพักใหญ่ เรากะว่าไม่เป็นไรเพราะเราเช็คอินออนไลน์กันมาแล้ว ไปถึงก็แค่ผ่านที่ตรวจกระเป๋าได้เลย

พอไปถึง โอ้ว...แม่เจ้า คิวยาวเยียด ขนาดมีเครื่องสแกนกระเป๋าสี่ห้าเครื่อง เรายืนหันซ้ายหันขวา มีเวลาอีกแค่3นาทีก่อนที่เกทเราจะปิด พี่ดาวิเด้เลยพาไปตรงช่องที่เป็น fast track ซึ่งเป็นช่องที่ปกติต้องเสียเงินเพิ่ม พอเราไปถึงเจ้าหน้าที่ก็บอกไม่ได้ๆ พวกเธอไม่ได้เสียเงินซื้อ fast track ต้องกลับไปต่อแถวนู่น พี่ดาวิเด้ส่งภาษาว่าเราจะตกเครื่องบินกันถ้าไม่ได้ไปที่เกทตอนนี้ ตอนแรกเจ้าหน้าที่ส่ายหัวอย่างเดียว แต่คุณลุงคุณป้าที่ต่อแถวอยู่เค้ารีบบอกเจ้าหน้าที่ว่าให้พวกเค้าไปเถอะ เค้าจะตกเครื่องอ่ะ น่าสงสารออก เจ้าหน้าที่เลยยอมให้เราเข้ามา พอสแกนกระเป๋าเสร็จก็วิ่งร้อยเมตรกันเลย ไปถึงเกททันเวลาพอดี ต่อแถวเดินขึ้นเครื่อง โฮก...ลมจะใส่ Smiley

สรุปว่าทริปนี้ประทับใจครอบครัวพี่ดาวิเด้มากๆ กลับบ้านด้วยรอยยิ้มถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ทริปช้อบปิ้งอย่างที่แม่หญิงเชอร์คิดในตอนแรกก็ตาม Smiley


Lady Cher's : acebook page
Lady Cher's : รวมลิ้งค์ ..





Create Date : 27 มีนาคม 2556
Last Update : 27 มีนาคม 2556 3:58:22 น.
Counter : 1697 Pageviews.

1 comments
  
เป็นเมืองที่สวยจริงๆๆๆ อยากไปบ้าง
โดย: เจเจ้ IP: 115.87.220.218 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:11:13:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LadyCher
Location :
Västerås  Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]



แม่หญิงเชอร์ สาวไทยที่บ้านอยู่ไม่ไกลจากขั้วโลกเหนือ สนใจในเรื่องสุขภาพและความงาม เอาตัวเองเป็นหมูทดลองประจำ
New Comments