แม่ลูกหนึ่ง
|
|||||||||||||
หลังไมค์
ท้ายสุดหลังไมค์
ไม่ได้เก็บบางอันไว้นะคะ พี่ เส..... คือ เพื่อนเรา ส่วน .....ย คือตัวเราค่ะ มีเซนเซอร์ชื่อเล่นจริงๆไว้ อันนี้กุนซือหลังไมค์มาหา     อันนี้ที่เราหลังไมค์ไปหากุนซือ เราไม่ได้เก็บอันแรกๆที่เราหลังไมค์ไปหาวันที่ 13 ก.พ.ไว้ค่ะ  มาอ่านทวนก็พูดประสาดอกไม้กันดีนะ
เราถูกบอกเลิกแล้ว ในเวลาแค่อาทิตย์เดียว{แตกประเด็นจาก L5115387}
ไปใส่ไว้ใน geocities ค่ะ
//www.geocities.com/lalabellja//L5133309.html ส่วนกระทู้ที่ทะเลาะกันล่าสุดจนโดนลบไป ก็ในนี้นะคะ //www.geocities.com/lalabellja//L5388371.html เราถูกบอกเลิกแล้ว ในเวลาแค่อาทิตย์เดียว{แตกประเด็นจาก L5115387} กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก L5115387 อ้างอิงจากกระทู้เก่า แฟนชอบเที่ยว เราชอบอยู่บ้าน คุยกันแล้วตกลงกันว่าเราจะปรับตัวเรื่องนี้จะออกไปไหนมาไหนกับเค้าให้มากขึ้น และจะไปให้ไกลกว่าเดิม แต่ถึงขนาดให้ไปเที่ยวแบบเค้ากับเพื่อนเป็นประจำเราคงทำไม่ได้ วันอาทิตย์เราโทรหากะคุยเล่น เค้าไปดูหนังแล้วคุยอ้ำอึ้งเลยคิดในใจ 70-80% ว่าคงอยู่กับผู้หญิงอื่น เลยรีบตัดบทไป ไว้เค้าว่างเมื่อไหร่ค่อยมาเคลียร์กัน เมื่อคืน(จันทร์) คุยกับเค้านานมากค่ะ ถามเค้า เค้าก็เล่าให้ฟังว่า เค้าชวนผู้หญิงคนนึงไปดูหนัง แล้วพาไปกินข้าวกับเพื่อน,แฟนเพื่อนกลุ่มเดียวกับที่จะชวนเราไปหนก่อนค่ะ ผู้หญิงไม่รู้ว่าเค้ามีแฟนแล้ว ก่อนหน้าเค้าโทรไปปรึกษาแฟนเพื่อนว่าจะชวนผู้หญิงไปดูหนังโดยไม่บอกเราผิดไหม แฟนเพื่อนบอกไม่ผิดเค้าเลยชวนไป เรารับเค้าได้ที่เค้าไปกับหญิงอื่น แต่ไม่ชอบที่เค้าโกหกหรือปิดบังเรา เนื่องจากตอนตกลงเป็นแฟนกันเคยสัญญากันไว้ว่า ถ้าเราไปกับเค้าไม่ได้เราให้เค้าไปกับใครก็ได้ ให้เค้าไปนอนกับหญิงคนอื่นได้ แต่ขออย่า "โกหก" กัน และมีเราเป็นแฟนแค่คนเดียว คนอื่นให้รับรู้ว่าไม่ใช่แฟน แม้คุณจะไปนอนกับคนอื่นแล้วเราโทรไป เค้าก็ต้องบอกเราห้ามโกหก การที่โทรไปตอนที่อยู่กับผู้หญิงอื่นแล้วเค้าอ้ำอึ้ง เค้าอาจนึกว่าเราไม่รู้ แต่เราก็เดาได้แล้วว่าเค้าคงอยู่กับคนอื่น เราให้เกียรติด้วยการไม่ซักไซ้และรีบตัดบทเมื่อเราเห็นเค้าไม่อยากคุย แต่เรารับไม่ได้กับคำโกหกและปิดบัง เราขอแค่นี้มันยากนักหรือคะ เค้าสัญญาว่าจะไม่โกหกอีก แต่เค้ารับไม่ได้ที่เราไม่ยอมไปไหนกับเค้า เค้าชวนผู้หญิงอื่น คนอื่นก็ไปดูหนังไปกินข้าวกับเพื่อนเค้า เราให้เค้าตัดสินใจ เรารับเค้า ที่เค้าเป็นได้ เค้ารับเรา ที่เราเป็นไม่ได้ เค้าเลยตัดสินใจเลิกกับเราค่ะ (ขอพักก่อนเดี๋ยวมาต่อ) จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 08:41:02 ] ความคิดเห็นที่ 1 ใจเย็นๆนะจ๊า ยังไงก็ให้กำลังใจกุยๆเสมอจ้ะ จากคุณ : คนอกหักเพราะเคยรักไม่เป็น (PolojunG) - [ 13 ก.พ. 50 08:45:02 ] ความคิดเห็นที่ 2 ...เอเมน... จากคุณ : NudeGooRoo - [ 13 ก.พ. 50 08:48:48 ] ความคิดเห็นที่ 3 มานั่งเป็นเพื่อนนะ จากคุณ : ลูกอมเม็ดละบาท - [ 13 ก.พ. 50 09:04:52 ] ความคิดเห็นที่ 4 มาส่งกำลังใจให้ครับ จากคุณ : ไอ้แสน - [ 13 ก.พ. 50 09:08:08 ] ความคิดเห็นที่ 5 มาเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ จากคุณ : ka-toey - [ 13 ก.พ. 50 09:09:35 ] ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามานั่งเฉยๆครับ ยังไม่สามารถบอกอะไรออกไปได้ จากคุณ : Kato_nd - [ 13 ก.พ. 50 09:15:35 ] ความคิดเห็นที่ 7 สู้ๆๆนะคะ เฮ้ๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : เสือสาวเขย่าโลก - [ 13 ก.พ. 50 09:34:52 ] ความคิดเห็นที่ 8 ตรรกะแปลกดี ทั้งคู่เลย.. วิธีคิด วิธีคบแบบปล่อยวาง ปลง และเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เหมือนจะดีนะครับ แต่จริงๆแล้วผมว่าไม่ ที่อ่านมาพอเข้าใจได้ว่า เหมือนจะใจกว้าง แต่ยังมีข้อแม้ แต่จริงๆแล้วข้อแม้ที่ขอมันขัดกับสิ่งที่ปล่อยนะครับ คือมันคู่กันเลยล่ะนอกใจกับโกหกเนี่ย = =' แล้วจริงๆแล้วก็ไม่มีคู่รักหรือผู้หญิงคนไหนทำกันไม่ใช่หรอครับ คิดดีๆนะครับว่าต้องการอะไรกันแน่ ยังงี้ไม่ใช่หรอก เรียกว่าคบกันได้ยังไง มันแปลกๆน่ะครับ พึ่งไปอ่าน กทเก่ามา คุณเก็บตัวไม่ค่อยมีสังคม เค้าก็อีกอย่าง ผมว่าปรับกันใหม่ดีกว่า วิธีที่คุณใช้คบกันมามันไม่ใช่นะครับ ผมว่ามันไม่ตรงจุดยังไงไม่รู้ จากคุณ : crazy_joey - [ 13 ก.พ. 50 09:35:01 ] ความคิดเห็นที่ 9 คนสองคน ถ้าปรับเข้าหากันไม่ได้ ก็คงต้องไปอะค่ะ เฮ้อ... พักนี้ได้ยินแต่เรื่องเศร้า ๆ แฮะ T_T จากคุณ : NICE130 - [ 13 ก.พ. 50 09:36:39 ] ความคิดเห็นที่ 10 ยินดีด้วยครับ ที่จากกันได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เคสนี้ยิ่งนานยิ่งปวดหัวอยู่แล้ว จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 ก.พ. 50 09:54:00 ] ความคิดเห็นที่ 11 วันๆนึงนี่คนบอกเลิกกันเป็นหมื่นเป็นแสนคู่หนึ่งในนั้นจะเป็นคู่เราก็ไม่เห็นจะแปลกนิ ทำใจๆ จากคุณ : ใช้หนีภรรยาเท่านั้น - [ 13 ก.พ. 50 10:00:36 ] ความคิดเห็นที่ 12 ก็ไม่น่าแปลกใจ(เท่าไหร่)นี่นา จากคุณ : KHIMM - [ 13 ก.พ. 50 10:08:19 ] ความคิดเห็นที่ 13 คิดซะว่าไม่ใช่คู่กันครับ จากคุณ : I.Brother - [ 13 ก.พ. 50 10:11:23 ] ความคิดเห็นที่ 14 (ต่อ) หลังจากนั้นเราก็สติแตกเอาแต่ร้องไห้น่ะ 555 เค้าก็พยายามปลอบค่ะ ใจนึงเราเสียใจมาก แต่ส่วนลึก ๆ ในใจเราโล่งอกที่ไม่ต้องปรับตัวเองเพื่อเค้า ไม่ต้องฝืนทนไปเที่ยว ไม่ต้องฝืนไปเจอเพื่อนเค้า ถึงคุณคนนั้น ขอบคุณที่อุตส่าห์พาเราไปกินข้าวบ่อย ๆ ทำให้เรารู้ว่าห่างไปแค่ป้ายรถเมล์จากบ้านเรา มีร้านสเต็กและสุกี้อร่อย ขอบคุณที่คอยเป็นห่วงเวลาเราป่วย เรามีความสุขเวลาที่ได้เจอคุณนะคะ ขอบคุณที่ทำให้รู้จักเพลงช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยของพีชเมคเกอร์ ทั้งที่ปกติเราฟังแต่สุนทราภรณ์ตลอด 555 ตอนพิมพ์กระทู้นี้เราอัพเกรดตัวเองมาฟังเพลงทุกสิ่งของน้อยวงพรูแล้วแหละ ขอบคุณที่คอยถ่ายรูปให้เรา เราไม่ค่อยชอบถ่ายรูปไม่ค่อยมีรูปถ่ายเราเลยรู้ไหม ถึงแฟนเพื่อนคุณที่เราคิดว่าคงมาอ่านกระทู้นี้แน่ สำหรับสายตาเธอเราอาจเป็นนางมารร้ายที่ดึงเพื่อนเธอลงมา เธออยากให้เราเลิกกับเค้า แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีเอาผู้หญิงอื่นมาเป็นเครื่องมือค่ะ คุณไม่ได้ทำร้ายเรา แต่คุณทำร้ายผู้หญิงคนนั้นที่เป็นเพื่อนคุณด้วยนะคะ ถึงผู้หญิงคนนั้น ถ้าคุณสงสัยว่าใช่คุณรึเปล่า ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ เราไม่ได้เลิกกันเพราะคุณ แต่เพราะความแตกต่างกันระหว่างเรา ถึงรถสีเขียวประหลาดคันนั้นซึ่งจนบัดนี้เรายังไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร ก็แม้แต่บ้านเราใช้รถอะไรทะเบียนอะไรเรายังไม่รู้เลยนี่ 555 ขอบคุณที่ทำให้เรากลัวรถน้อยลงอีกนิด ที่นั่งข้างคนขับคงเป็นคนอื่นที่จะมานั่งแทนเราในอนาคต ถึงคนที่ขายของในเนต อุตส่าห์รีบส่งของเพื่อให้ทันวันวาเลนไทน์แถมลดค่าส่งเป็นพิเศษให้อีก ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณวุ่นวาย และของขวัญกลายเป็นหมันซะแล้วค่ะ ถึงแฟนเก่า เราไม่ได้เจอหน้ากันมา 5 ปีกว่าแล้วใช่ไหม โอกาสที่เธอจะได้อ่านกระทู้นี้คง 50/50 เรารู้ว่าเธอแอบมองเราผ่านเนตและห่วงใยเราอยู่ ตอนนี้เราเข้มแข็งกว่า 5 ปีก่อนค่ะ ไม่ต้องห่วงเราหรอก ถ้าว่างก็โทรหาเราบ้างก็ดีเจ้า แฮกเกอร์ระดับโครตเซียนอย่างเธอคงหาเบอร์มือถือเราเจอภายใน 5 นาทีนั่นแหละ ถึงคุณแม่ที่คงไม่ได้อ่านหรอกเพราะแม่ใช้คอมไม่เป็น ผู้ชายคนนี้เป็นคนดีค่ะ เค้าไม่ได้มาจีบเพราะอยากได้เงินเราอย่างที่แม่คิด แล้วหนูก็ไม่มีอะไรให้เค้าไถด้วยนะแม่จ๋า ถึงเพื่อน ๆ ที่มาอ่านและให้กำลังใจ ขอบคุณและขอโทษค่ะ แต่ตอนนี้มันจบแล้ว เราถึงเค้าบอกเลิกแล้วอะ 555 ไม่เป็นไรเน้อเดี๋ยวเราค่อยหาคนใหม่ คนที่รับผู้หญิงประสาท ๆ แบบเราได้ รูปที่ขนาดเราพยายามทำท่าประหลาดขนาดหนัก แต่คุณยังอุตส่าห์แอบถ่ายมาได้แบบเหมือนมนุษย์มนานะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 10:22:05 ] ความคิดเห็นที่ 15 อืม..อ่านตอนต่อแล้วครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 ก.พ. 50 10:27:09 ] ความคิดเห็นที่ 16 ทั้งที่ปกติเราฟังแต่สุนทราภรณ์ตลอด 555 ตอนพิมพ์กระทู้นี้เราอัพเกรดตัวเองมาฟังเพลงทุกสิ่งของน้อยวงพรูแล้วแหละ <-- ขอขำอันนี้นะครับ สู้ต่อไปจีบัน.. นี่หละครับ ชีวิตของเราเกิดทุขก์ได้ตลอดเวลา.. บางเรื่องเราก็คิดว่ามันงี่เง่า แต่สำหรับคนที่เจอกะตัวเอง มันเป็นเรื่องใหญ่เลย.. แค่อยากจะบอกว่า บางคนที่ตั้งกระทู้ เค้าก็ต้องการแค่กำลังใจครับ.. จากคุณ : )^^" (Denon) - [ 13 ก.พ. 50 10:29:09 ] ความคิดเห็นที่ 17 วันวาเลนไทน์นี้คุณไปกับผู้หญิงคนอื่นเถอะค่ะ เราคิดว่าคุณหาได้อยู่แล้วคุณไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเราหรอก เราเข้มแข็งพอที่จะอยู่ตัวคนเดียวได้ค่ะ หลังจากนี้เราจะกลับไปใช้ชีวิตในโลกของเรา กลับไปเดินตลาดนัดเหมือนเดิม กลับไปเป็นผู้หญิงเชย ๆ ที่ไม่รู้จักเพลงของบี้เดอะสตาร์เหมือนเดิม 555 (เราไม่รู้จักจริง ๆ นะเชื่อไหม) เราจะกลับไปรอวันที่เจอกับคนที่รับผู้หญิงการศึกษาน้อย ไม่ชอบเที่ยว ไม่ดูแลตัวเองใช้แต่ของถูกกับมือสอง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยใส่น้ำหอม เอาแต่อ่านหนังสือ และฟังเพลงที่มีคนแต่งเมื่อ 50 ปีก่อน สักวันเราคงเจอล่ะน่า สำหรับคุณ เราหวังว่าคุณจะเจอคนในสังคมเดียวกับคุณค่ะ จบแล้วเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 10:31:51 ] ความคิดเห็นที่ 18 555 เอาน่า อย่างน้อยเราก็รู้ว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่โดนบอกเลิกก่อนวันวาเลนไทน์นะเจ้า คนอื่นที่โดนขอเสียงหน่อยนะเจ้า งึมงำ แล้ววันวาเลนไทน์ตรูจะทำไรดีหว่า -_-' เงินก็ไม่มีเอาไปซื้อของขวัญหมดแย้วอะ (อันนี้บ่นกะตะเอง) จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 10:34:40 ] ความคิดเห็นที่ 19 กุยจ๋า กุยไม่สู้เลยอ่ะ แต่ก็นะ ถ้าไม่ไหวแล้วก้ไม่รู้จะยื้อไปทำไม จากคุณ : อย่าทำอย่างง้าน - [ 13 ก.พ. 50 10:36:44 ] ความคิดเห็นที่ 20 มันต้องมีซักวันเป็นของคุณพี่กุยค่ะ สู้เขานะ ^ ^ จากคุณ : ยายกินลำไยน้ำลายยายไหล - [ 13 ก.พ. 50 10:47:38 ] ความคิดเห็นที่ 21 กุยแกครับ ผมติดตามอ่านกระทู้ของคุณเรื่องแฟนคุณมาตั้งแต่กระทู้ก่อนหน้านี้ และผมเริ่มจะรับไม่ได้กับความบิดเบือนที่คุณพูดถึงแฟนคุณต่าง ๆ นา ๆ ในกระทู้ของคุณ ผมนี่แหล่ะเป็นเพื่อนของแฟนคุณเอง ผมเป็นเพื่อนสนิทกับเค้ามา 10 ปีแล้วครับ ผมรู้จักเค้ามากกว่าที่คุณรู้จักเค้าเป็นร้อย ๆ เท่าและเข้าใจดีว่าเค้าเป็นคนยังไง ผมรู้ดีว่าเพื่อนของผม (ซึ่งก็คือแฟนคุณ) คงจะไม่ออกมาตอบโต้ กับสิ่งที่คุณเอามาโพสในนี้หรอก ผมเองก็ไม่อยากจะตอบโต้อะไร เพราะมันดูเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากที่จะมาตอบโต้ เรื่องไร้สาระให้ชาวบ้านเค้าได้มานั่งอ่านกันในที่นี่ แต่หลังจากที่ผมอ่าน ๆ กระทู้ของคุณและได้รับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ จากเพื่อนของผม (ซึ่งก็คือแฟนคุณน่ะล่ะ) ผมรู้สึกเอียนและทุเรศ กับสิ่งที่บิดเบือนจากคุณ ผมจะบอกให้นะ ที่คุณพร่ำบอกว่า เพื่อนผมเป็นคนชอบเที่ยวน่ะ คุณมั่วมากเลย เพื่อนผมน่ะไม่ใช่คนที่ ชอบเที่ยว แบบที่คุณเอามาพูดในกระทู้นี้หรอกนะ เค้าน่ะ ไม่เที่ยวกลางคืน อาจจะมีไปบ้างตามแต่โอกาส ปีนึงจะไปสัก ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นล่ะ แบบนี้เรียกว่าชอบเที่ยวหรือเปล่าล่ะ เค้าไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ (ผมซะอีกที่ดูเจ้าชู้มากกว่าแฟนคุณเยอะ) เป็นคนซื่อ ๆ มัธยัสย์ กตัญญูกับพ่อแม่ ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ เค้าคนเดียวหาเลี้ยงคนในครอบครัวทั้งหมดคนเดียว เพราะพี่ ๆ เค้าตกงานในตอนนั้น การเที่ยวของเค้าที่คุณพร่ำบอกในกระทู้น่ะ จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงแค่การไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ไปดูหนังกันบ้าง ไปเดินเล่นตามคลองถมบ้าง สัปดาห์นึงเค้าก็จะออกจากบ้านแค่วันอาทิตย์วันเดียว เพราะเค้าทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน (ทำโอทีวันเสาร์เพื่อเป็นรายได้เสริม เค้าขยันทำงานมาก ๆ ด้วย จะบอกให้รู้ไว้ เผื่อกุยแกจะได้ตาสว่างบ้าง) บางอาทิตย์ก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน แต่จะไปโบสถ์กับคุณพ่อของ เทียบกันแล้วน่ะ เพื่อนของผม (หรือแฟนคุณน่ะล่ะ) เค้า ก็เป็นแบบคนทั่ว ๆ ไปในสังคมนี้ ที่เค้าออกไปข้างนอกกัน เค้าก็ทำเหมือน ๆ คนอื่น ๆ อีก เป็นพัน ๆ ล้านคนบนโลกใบนี้ แต่สำหรับคุณ กุยแก คุณไม่ยอมออกไปไหนเลย คุณเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปสังคมข้างนอก เมื่อเทียบกับคนทั่ว ๆ ไปแล้ว คุณคือคนที่ผิดปกติกว่าคนอื่น ๆ นับพัน ๆ ล้านคน บนโลกนี้ คุณเอาความผิดปกติของตัวเองมาเทียบกับความปกติของคนอื่น แล้วมาพร่ำบอกว่า แฟนคุณเป็นคนชอบเที่ยว แล้วเที่ยวเอามาป่าวประกาศในที่นี้เพื่อขอความเห็นใจ(หรือจะเพื่ออะไรก็แล้วแต่) ผมว่ามันไม่แฟร์ คุณกุยแก คุณรู้ตัวคุณดีว่าคุณมีความผิดปกติทางจิตใจ ในเรื่องของการออกจากนอกบ้าน เนื่องด้วยภาวะความกลัวการเดินทาง ที่เกิดจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน แต่ในกระทู้ที่แล้วผมก็พยายามพูดเป็นกลาง ๆ ไปแล้วว่า คุณน่าจะรักษาตัวเอง ให้หายจากสภาพความกลัวนี้เพื่อจะได้มีชีวิตเหมือน ๆ คนอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป ที่จะออกไปไหนมาไหนได้บ้าง แต่คุณไม่ทำไง คุณมันดื้อ ตะแบง ๆ ว่าคนอื่น ๆ ที่จะเข้ามาหาคุณต้องรับได้ในจุดนี้ที่คุณจะไม่ออกไปไหนด้วยเลย นอกจากจะออกไปในรัศมีไม่กี่กิโลรอบบ้านคุณ ตอนที่แฟนคุณจะไปดูหนังกับเพื่อนเค้าน่ะ (คนนั้นก็เพื่อนผม) เค้าก็โทรมาหาผม มาปรึกษาผมเหมือนกัน ผมเองล่ะที่บอกให้เค้าไปกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้น เพราะเค้าสองคนนั้นเป็นเพื่อนกันจริง ๆ เค้ารู้จักกันมาเป็นปีแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันต่างจังหวัดเป็นกลุ่ม ไปร้องคาราโอเกะด้วยกัน ทานข้าวด้วยกันเป็นกลุ่ม ผมก็พิจารณาแล้วว่า เป็นเพื่อนกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วก็ใช่ว่าแฟนคุณเค้าจะรู้สึกดีนะ เค้าเปรย ๆ กับผมเหมือนกันว่า เค้าอยากไปกับคุณมากกว่า เค้าน่ะตอนออกไปข้างนอก เค้าก็มองหาโรตีบอย เพราะอยากจะซื้อให้คุณ เพราะเห็นคุณบอกว่าไม่เคยกิน เค้าน่ะ ถึงจะออกไปกับเพื่อนคนอื่น แต่ใจก็ยังแคร์คุณอยู่เสมอ รู้ตัวมั่งหรือเปล่า แล้ววันที่เค้าออกไปดูหนังกับเพื่อนน่ะ ส่วนเรื่องที่คุณมองว่าเค้าโกหก คุณน่ะ บิดเบือนมาก ๆ เค้าไม่ได้โกหกอะไรคุณเลยด้วยซ้ำ ผมน่ะคนที่อยู่ในสถานการณ์ รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่คุณต่างหากที่ไม่ได้รู้อะไรเลย ก็ตีโพยตีพาย ส่ง sms ไปว่าเค้าตอนตีสอง (ใช่มั๊ย) นอกจากเรื่องการที่ไม่ยอมออกไปไหนแล้ว ตัวคุณเองยังมีนิสัยก้าวร้าว ขี้วีน อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ถึงจะไม่ถึงขั้นพูดจาหยาบคาย แต่ก็พูดจาทำร้ายจิตใจแฟนคุณหลายครั้ง คุณคงจะพอรู้ตัวเองนะ ว่าคุณเป็นคนยังไง มีอาการผิดปกติทางจิตใจในส่วนไหนบ้าง เพื่อนผมเค้าเป็นห่วงคุณบอกกับคุณว่า ดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ เพราะรู้ว่าคุณเองก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วยแทนที่คุณจะรับรู้ถึงความห่วงใยที่แฟนคุณมี คุณก็ดันไปตอกกลับเค้าบอกเค้าว่า คุณดูแลตัวเองดีมากแล้ว ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว อยากเลิกก็เลิกกันไป นี่หรือคือการตอบแทนความห่วงใยที่เพื่อนผมมีให้คุณ คุณน่าจะพิจารณาตัวเองให้ดี คุยกับแฟนของคุณให้เข้าใจก่อนที่จะเอามาโพสแบบบิดเบือนแบบนี้ ปกติผมก็ไม่อยากจะตอบโต้อะไรกับคนที่ผมไม่รู้จัก อย่างกุยแก หรอกนะ อีกอย่างหนึ่ง พวกผมก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะ การออกมาตอบโต้เด็กอย่าง กุยแก เป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่สำหรับเพื่อนผมคนนี้ เพราะเค้าเป็นคนดีมาก ๆ คนนึง เป็นผู้ชายที่ดีสมกับชื่อของเค้า เผลอ ๆ อาจจะดีมากกว่าผมเยอะ แล้วการที่เห็น เพื่อนสนิท โดนเอามาพูดถึงในทางบิดเบือนในกระทู้พันทิปนี้ โดยเฉพาะกับการบิดเบือนเพื่อให้ตนเองดูน่าสงสาร หรือจะเพื่อขอความเห็นใจ จากคนในสังคมไซเบอร์ก็ตาม ผมมองว่ามันไม่แฟร์กับเพื่อนของผมเป็นอย่างยิ่ง คุณควรจะพิจารณาตัวเองให้ดีกว่านี้ ว่าตัวคุณนั้นมีปัญหาอะไรทางด้านใดบ้าง แล้วก็พยายามรักษา ปรับปรุงแก้ไข ในส่วนเสียนั้นซะ ทุก ๆ คนน่ะไม่ได้สมบูรณ์แบบหรอก ผมก็เหมือนกัน มีข้อเสียเยอะแยะ ก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง ผลประโยชน์ที่ได้ก็ไม่ได้ตกกับคนอื่น แต่จะตกกับตัวเอง ทั้งนั้น เลิกตะแบง ๆ เสียทีว่า คนจะมาคบกับคุณต้องรับได้ในสิ่งที่คุณเป็น ไม่มีหรอกครับที่จะรับได้หมด มันก็ต้องปรับ ๆ กันไปทั้งนั้น คุณน่ะได้ปรับตัวเองบ้างหรือยัง ถ้ายังก็ทำเสียตั้งแต่วันนี้ ยังไม่สายเกินไปหรอกครับ อย่างน้อยก็เพื่อคนอื่น ๆ ที่คุณจะได้พบเจอในอนาคต (คงจะไม่ใช่เพื่อนเพื่อนผมแล้วล่ะ เพราะคุณบอกว่าเลิกกันไปแล้วนี่นา) ทิ้งท้ายไว้อีกนิดนึง ว่ากรุณาเลิกโพสบิดเบือนความจริง ในที่นี้ด้วย เพราะมันไม่แฟร์กับคนอีกฝ่ายนึง แล้วอีกอย่างนึงนะ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะดีเลยที่ คนเป็นแฟนกันแทนที่จะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยกัน แต่กลับเอามาป่าวประกาศในที่สาธารณะแบบนี้ รู้จักมั่งนะครับ เรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องไหนเป็นเรื่องสาธารณะ คุณกุยแก ไม่ใช่บุคคลสาธารณะนะครับ ถึงจะต้องเอาเรื่องตัวเองมาเผยแพร่ในที่นี้ จริงอยู่คุณอาจจะมีชื่อเสียงในที่นี้ แต่นั่นก็คือคุณคนเดียว ไม่ใช่บุคคลที่สามอย่างเพื่อนของผมนะครับ จากคุณ : bluefox101 - [ 13 ก.พ. 50 10:52:16 ] ความคิดเห็นที่ 22 มาเที่ยวกะเราก้อได้นะคะ วาเลนไทน์ว่าง เหมือนกัน T T จากคุณ : *~:เจ้าหญิง Cyber Space:~* (*~:เจ้าหญิง Cyber Space:~*) - [ 13 ก.พ. 50 10:53:46 ] ความคิดเห็นที่ 23 อ้าววว เป็นงั้นไป .... จากคุณ : ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... - [ 13 ก.พ. 50 10:57:09 ] ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ามันต่างกันขนาดนั้น แล้วไปรู้จักกันอย่างไงหล่ะเนี่ย ? จขกท. ลองตัด internet ออกจากชีวิตประจำวันไปเลยดูนะคะ จะทำให้โลกส่วนตัวแคบลง ถึงเวลานั้นถ้าคุณแฟนมาชวนไปไหน ก็จาตื่นเต้นเวลาได้ออกไป เจออะไรแปลกหูแปลกตาก็รู้สึกอยากเรียนรู้ บางสิ่งบางอย่างมันรู้จากคำบอกเล่าของเพื่อนๆ บนบอร์ดทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองไม่มี เพราะพึ่งสารที่อ่านเข้าไปซะมากกว่า พอเจอหรือเห้นในชีวิตจริงก็ได้แต่นึก่า ไอ้นี่ฉันรู้แล้ว เดวต้องเป้นอย่างนั้นอย่างนี้ ทฤษฎี กับปฏิบัติ ไงมันก็ต่างกันที่คุณค่า แฟนบนเน็ท กับแฟนในชีวิตจริง เลือกเอาเหอะค่ะ ภาพลวงตาที่หลอกตัวเองไปวันๆ กันคนที่จะคอยดูแลเราได้ พี่เข้ามาแล้วนะนายอุ้ย ;p แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 50 11:29:06 จากคุณ : พู่กันไร้สี - [ 13 ก.พ. 50 11:03:35 ] ความคิดเห็นที่ 26 คืออยากจะบอก จขท ว่าอย่าไปฝืนเสียเวลา คบกันไปกันไมได้ก็เลิกไป ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลย เสียเวลา เสียใจ ไม่มีอะไรดี ชีวิตมันเป็นแบบนี้แหละ ก็แค่เดินหน้าต่อไป จะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเรากำหนด เราจะผ่านมันไปได้ถ้าเราสามารถยอมรับกับทุกสิ่งที่เข้ามา ขอแค่อย่ายึดติด เท่านั้นเป็นพอ จากคุณ : < ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ได้เข้าข้างจบกท แต่เราคิดว่าคนที่เป็นแฟนกันถ้าจะออกไปเที่ยวก็ควรจะบอกกันก่อนสิ ยิ่งไปดูหนังกับผู้ญ ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ไปกัน2คนหรือป่าวละ ยังไงก็ควรจะบอกเค้าก่อนอยู่ดี ปรึกษาเพื่อนว่าไปได้ไหมเราว่าปรึกษาแฟนก่อนดีกว่ามัยจะได้ไม่เกิดปัญหาแบบนี้ จากคุณ : need+friend - [ 13 ก.พ. 50 11:19:30 ] ความคิดเห็นที่ 28 ขอให้เข้มแข็งมาก ๆ นะคะ ถ้ามันเหนื่อยมากไป,,บางทีการอยู่คนเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่นัก จากคุณ : ~'o'~LiLLa_KrOnPrInSeSsA~'o'~ (SnOwY~SeAsOn) - [ 13 ก.พ. 50 11:20:49 ] ความคิดเห็นที่ 29 อืม .... จากคุณ : อย่าทำอย่างง้าน - [ 13 ก.พ. 50 11:36:10 ] ความคิดเห็นที่ 30 คุณ คห ที่ 27 ครับ ที่คุณบอกว่า แฟนของกุยแก ควรจะถามกุยแก ก่อนว่าไปกับเพื่อน ญ ได้หรือเปล่านั้น ก็อย่างที่ ตัว กุยแก บอกเองไงครับว่า จะไปกับเพื่อนคนไหนก็ได้ จะไปนอนกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ เค้าไม่ว่า แล้วแฟนของกุยแก ซึ่งคือเพื่อนผม เค้าก็ชวนกุยแกแล้ว ชวนออกไปไหนด้วยกันเป็นครั้งที่ 50 แล้วด้วยมั๊ง แ่ต่ กุยแก เองตะหากที่ไม่ยอมไป แล้วการที่กุยแก ออกมาตีโพยตีพายแบบนี้ ผมว่ามันงี่เง่านะ เอาเถอะครับ ผมคงจะไม่มาโพสในกระทู้ตรงนี้อีกแ้ล้ว ถือว่าการโต้ตอบควรจะจบลงตรงนี้ อีกอย่างนึงผมเห็นว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ ๆ เดียวที่ กุยแก จะสามารถยืนอยู่ได้ ในสังคมพันทิปนี้ เพราะกุยแกเป็นคนที่ไม่ีมีสังคมภายนอกเลย ถ้าผมโต้ตอบมากกว่านี้ เดี๋ยว กุยแก จะไม่มีที่แม้แต่จะยืนในสังคมนี้ ปล. ผมดีใจแทนเพื่อนผมนะ ที่เลิกกับคุณ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นผมก็รู้อยู่แล้วว่า ไปไม่รอดหรอก ลากยาวไปมีแต่จะเสียในกันทั้งคู่ จากคุณ : bluefox101 - [ 13 ก.พ. 50 11:37:09 ] ความคิดเห็นที่ 31 เรามีที่ยืนในสังคมนี้เสมอค่ะ เราไม่เคยโทษแฟนค่ะ เพราะเราอนุญาตแล้ว แต่คุณพิจารณาตัวคุณเองแล้วกัน เราบอกไว้ตั้งแต่ต้นกระทู้แล้วว่าคุยกะอดีตแฟนแล้วว่าเราจะพยายามปรับตัว ย้ำ พยายามปรับตัวค่ะ อ่านดี ๆ ไม่ใช่เราอยู่เฉย ๆ โดยไม่ปรับตัวหาเพื่อนคุณ ถ้าคุณคิดว่าการที่คุณและแฟนคุณ ส่งเสริมให้เค้าคนนั้นไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นสองต่อสองโดยปิดบังเรา เป็นเรื่องถูกต้อง คุณถามคนในนี้ดูก็ได้ค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องถูกต้องไหม แล้วการที่เอาเรื่องมาเล่าในนี้ เราก็ทำประจำอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้บิดเบือนอะไรเลย แม้แต่คนในนี้หลายคนก็แนะนำเราตั้งแต่กระทู้ก่อนว่าน่าจะออกนอกบ้านบ้าง เรายอมรับเราเองไม่ค่อยชอบออกบ้าน และถึงจะไม่กลัวรถเราก็คงไม่ออกไปเที่ยวกับพวกคุณหรอกค่ะ เราไม่เคยก้าวก่ายเรื่องคู่ของคุณนะคะ แต่คุณสองคนรู้สึกจะพยายามเหลือเกินนะ ที่จะยุให้คู่เราแตกกันน่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 11:50:50 ] ความคิดเห็นที่ 32 ทุก ๆ คน อย่าลืมอ่านความเห็น 21 กันด้วยนะครับ .... จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 ก.พ. 50 12:05:53 ] ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆประเด็นไม่ได้อยู่ที่มากเที่ยวน้อยอะม้าง อยู่ที่คนนึงเป็นอย่างหนึ่ง อีกคนเป็นอีกอย่างหนึ่ง แล้วพยายามให้แต่ละฝ่ายมาเป็นอย่างตัวเอง ถึงแม้ฝ่ายไหนบอกว่าเป็นเรื่องปกติก็เถอะ ทำได้ยอมกันได้ ก็สามารถคบกันต่อได้ ทำไม่ได้เลิกกันผมว่าก็เรื่องปกติ ยิ่งคบกันแค่อาทิตย์กว่าๆ มันก็แค่เหมือนพยายามเรียนรู้กันเอง ไม่พอใจจุดที่เป้นอยู่คือแฟน ลองเปลี่ยนมาเป้นเพื่อนน่าจะเข้าที หรือถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่างก็หายสาปสูญกันไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เรื่องเที่ยวเนี้ยพูดยาก จุดที่บอกว่าเยอะหรือน้อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนผมเที่ยวอาทิตย์ล่ะ 3-4 วัน มีเงินจะเที่ยวทำไงได้ ไม่ได้ขอใครมาเที่ยวแถมอยู่คนเดียวไม่ต้องเกรงใจใคร พอมีแฟนแล้ว เหลืออาทิตย์ละวัน แฟนผมก็ว่าผมเที่ยวมากอยู่ดี แฟนคนเก่าก็เลิกกันเพราะบางส่วนเรารับกันไม่ได้ ตอนนี้ผมมีแฟนใหม่ก็คล้ายๆคุณเจ้าของกระทู้ แต่ไม่ถึงขั้นเก้บตัว แค่ชวนไปไหนไม่ค่อยไป อยากให้มาเจอเพื่อนๆผมแล้วเค้าไม่มาก็แล้วแต่ ผมก็ไม่มีปัญหานะ อยากเจอกันก็เน้นไปหาเค้าทีบ้าน ไปหาไรกินกันใกล้ๆ เช่าวีซีดีมาดูกัน เอาส่วนตัวผม คบกับคนไม่ไปไหนเนี้ยผมไม่มีปํญหานะ ขออย่าเรื่องมากพยายามทำตัวเป็นจุดศูนย์กลางของโลกพอแล้ว ไม่ใช่ผมชวนแล้วไม่ไป พอผมไปแล้ว โทรมาจิกๆ "เมื่อไหร่กลับๆ" แบบนี้บอกศาลาด้วยคน แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 50 12:18:05 จากคุณ : I.Brother - [ 13 ก.พ. 50 12:08:32 ] ความคิดเห็นที่ 34 อะไรที่มันไม่ลำบากจนเกินไป ทำได้ก็ทำเถอะค่ะเพื่อคนรัก แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่คนเดียวไปก็เหมาะสมดีค่ะ จากคุณ : NICE130 - [ 13 ก.พ. 50 12:10:57 ] ความคิดเห็นที่ 35 อืม ดูเหมือนว่า กุยแก จะรู้สึกว่า ผมพยายามที่จะ ยุให้คู่ของคุณแตกกัน โดยที่ไม่เคย แหกหู แหกตา มองอะไรให้ถี่ถ้วนก่อน ผมไม่จำเป็นจะต้องไปถามคนในนี้ดูหรอก ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะคนที่มาตอบในนี้ เค้าจะรู้เพียงแค่สิ่งที่คุณบอกเค้าไป รู้เพียงไม่กี่แง่มุม แต่คุณ และผม และแฟนเก่าคุณน่ะ รู้เห็นอยู่แก่ใจ งี่เง่าไม่รู้จักโตแบบคุณนี่ล่ะ ที่เหมาะแล้วที่จะอยู่แต่ในโลกไซเบอร์นี้ ตอนแรกก็คิดว่า อีกหน่อยคุณคงจะเติบโตมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่า คนที่อยู่แต่ในโลกไซเบอร์อย่างคุณ ที่ไม่ได้ออกมาเจอโลกภายนอก (ต่างกับกบในกระลาตรงไหนครับเนี่ย) จะไม่มีวันเข้าใจอะไรที่คนอื่น ๆ เข้าใจหรอกครับ อีกอย่างนึงนะครับ ผมไม่เคยสนใจจะก้าวก่ายเรื่องคู่ของคุณหรอก เพราะบาทเดียวผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไปจากการไปก้าวก่ายเรื่องคุณแน่นอน และถ้าผมคิดที่จะพยายามให้คู่คุณแตกกันน่ะนะ พวกผมคงจะไม่แนะนำคุณสองคนให้รู้จักกันหรอก อย่าลืมนะครับว่าการที่คุณสองคนได้รู้จักกันน่ะ ไม่ได้มาจากเทวดา ฟ้าประทานมาให้นะ อืม ถ้าอยากตอบโต้นะ หลังไมค์มาเลย หรือจะโทรมาก็ได้นะ เบอร์ผมน่ะ แฟนเก่าคุณเค้ารู้ดีอยู่แล้วว่าเบอร์อะไร เพราะผมคงจะไม่ตอบโต้อะไรกับคุณกุยแก ผ่านทางนี้อีกแล้วล่ะ แล้วไอ้ที่คุณว่า คุณปรับตัวน่ะ พยายามแค่ไหนกันมิทราบ คุณได้เคยพยายามแล้วแน่เหรอ ตัวคุณเองคงเข้าใจอะไรผิดไปแล้วล่ะมั๊งผมว่านะ จากคุณ : bluefox101 - [ 13 ก.พ. 50 12:11:43 ] ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าคิดว่า วิธีนี้เป็นสิ่งที่ดีทีสุดสำหรับตัวเอง ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต ก็ทำไปเถอะ การตัดสินใจแบบนี้ไม่มีใครตัดสินใจได้ดีที่สุดเท่ากับเราตัดสินใจด้วยตนเองนะ... จากคุณ : wbj - [ 13 ก.พ. 50 12:11:52 ] ความคิดเห็นที่ 37 ได้ฟังความแล้วทั้ง 2 ฝ่าย คิดว่า..ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถจะปรับตัวได้แน่ ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะฝืนคบต่อไป ไม่เลิกกันวันนี้ วันข้างหน้าก็ต้องเลิกกันอยู่ดี จากคุณ : moonlit_memory - [ 13 ก.พ. 50 12:22:27 ] ความคิดเห็นที่ 38 ทุกคนมีวิถีของตน คงไม่มีใครผิดหรือถูกสำหรับการดำเนินชีวิต มุมและสถานการณ์ต่างกัน เพียงแต่คนที่จะมาเติมเต็มคือคนแบบเดียวกันหรือไม่ เราไม่อยากให้มองว่าฝ่ายชายผิด หรือฝ่ายหญิงผิดมันก้คือเรื่องของคน2คน ที่วิถีต่างกันมารู้จักกัน ในเมื่อมันไปด้วยกันไม่ได้ก้จบค่ะ จากคุณ : Papayahanaga - [ 13 ก.พ. 50 12:37:59 ] ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้ผมโดนลบแฮะ แ่ต่ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าถ้า กุยแก คิดว่าผมพยายามจะืทำให้คุณเลิกกับแฟนคุณน่ะ คุณอย่าลืมนะครับว่า การที่กบในกะลา จะออกมาเจอ กบตัวอื่นเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั๊ย เพราะมันอยู่แต่ในกะลา ดังนั้นมันไม่ใช่ เทวดา ฟ้ืาประทาน แน่นอน ที่ทำให้คุณกุยแก จะมารู้จักกับเพื่อนผม ถ้าไม่ใช่เพราะ พวกผมแนะนำให้ได้รู้จักกัน และผมก็ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนแน่นอน ที่จะแนะนำให้รู้จักกัน เพื่อที่ยุให้เลิกกันทีหลัง ผมไม่มีผลประโยชน์อะไรกับการที่เพื่อนผม จะมีแฟน หรือเลิกกับแฟน ผมเลยไม่จำเป็นที่จะมายุให้คุณเลิกกัน การที่แฟนคุณโทรชวนเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไปดูหนัง ก็เพราะว่า หนังเรื่องที่แฟนคุณอยากดูน่ะ ผมกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไปดูกันมาก่อนแล้ว เหลือเพื่อนผู้หญิงคนนั้นที่ยังไม่ได้ดู ก็เลยชวนกันไปดู แล้วแฟนคุณก็ไปชวนเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไปดูเอง โดยที่ผมไม่ได้แนะนำอะไรเลย เพื่อนผมโทรมาถามว่า จะไปดูกับ คนนี้ดีมั๊ย ผมก็ถามเค้ากลับไปว่า จะดีเหรอ ไปดูกับผู้หญิงอื่นน่ะ ทำไมไม่ชวนแฟนไปล่ะ เพื่อนผมมันก็ตอบกลับมาอย่างเหนื่อยหน่ายว่า ชวนเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้ว กุยแก เค้าไม่ยอมไป เค้าบอกว่าจะไปกับเพื่อนคนอื่นก็ได้เค้าไม่ว่า ผมได้ยินดังนั้นก็เลย ตอบกลับไปว่า ถ้ากุยแก เค้ายืนยันว่าไปกับใครก็ได้ เค้าไม่ว่า ก็ไปสิ ไม่เป็นไรนี่หว่า เพื่อนกัน เรื่องมันก็เป็นยังงี้ หลังจากเค้าดูหนังกันเสร็จ ผมถึงได้เจอกับเืพื่อนผมทั้ง 2 คนแล้วก็ไปกินไอติมกัน แล้วก็กลับบ้าน เรื่องมันก็แค่นี้ แ่ต่เพราะอยู่ในกะลามานาน ไม่เคยรู้เหนือใต้ และเพราะความคลาดเขลมเบาปัญญา ถึงได้ร้องโวยวายออกมา จนนำมาซึ่งการเลิกกันกับแฟน และต้องเอามาโพสในที่นี้ กุยแก พาดพิงถึงคนอื่น ๆ ค่อนข้างเยอะในกระทู้ของเค้า โดยที่ตัวคนที่ถูกพาดพิงไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย และเพราะความเขลาของตัวกุยแกเองที่ทำให้ผมต้องกลับมาตอบโต้อีกครั้ง และอยากให้คนที่อ่านตรงนี้ตระหนักเอาไว้ด้วยว่า การที่เราไม่รู้ ขาดซึ่งสติ แล้วก็ เอามาตีโพยตีพาย หรือ วีน ๆ ๆ อย่างที่กุยแก ทำนั้น ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรกับคู่ของคุณเลย มีแ่ต่จะทำให้เรื่องต่าง ๆ แย่ลง และการกล่าวโทษถึงบุคคลที่สาม โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มันก็จะเป็นเพียงการ แสดงความโง่ของตัวเองออกมาเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับที่ กุยแก ทำอยู่ในตอนนี้ เริ่มเอือมกับเด็กไร้สมอง ที่หลบอยู่แต่ในโลกไซเบอร์แล้วเหมือนกันแฮะ จากคุณ : bluefox101 - [ 13 ก.พ. 50 12:46:44 ] ความคิดเห็นที่ 40 คุณbluefox101ค่ะ ก็เข้าใจนะแต่ปัญหามันอยู่ที่ ไปเที่ยวกัน2คนโดยที่ไม่บอกแฟนก่อนไง แค่นั้นเอง ถึงผู้ญเค้าจะบอกว่าอยากไปไหนกับใครหรือนอนกับใครก็ได้ แต่จริงๆแล้วเค้าก็อดหวงไม่ได้หรอกค่ะ แต่ก็เข้าใจเพื่อนคุณนะแค่คิดว่าไม่ควรไปเที่ยวกับญ2ต่อ2โดยไม่บอกแฟนก่อนแค่นั้นเองอะค่ะ อย่างน้อยๆเช้าวันอาทิตย์ก็น่าจะโทรถามก่อนว่า วันนี้อยากดูหนังคุณจะไปด้วยมัย ผมอยากดูเรื่องนี้มากถ้าไม่อยากไปผมขอไปดูกับเพื่อนผู้ญนะโอเคป่าว อะไรแบบนี้อะค่ะ ไม่รู้สิเราแค่คิดว่าถ้าแฟนเราไปดูหนังกับญอื่น2คนเราก็คงโกธรเหมือนกันอะ ยิ่งถ้าไม่บอกก่อนยิ่งโกธร จากคุณ : need+friend - [ 13 ก.พ. 50 12:49:34 ] ความคิดเห็นที่ 41 ดีที่ไม่เสียเวลาไปนานกว่านี้ จากคุณ : =SILVER EYE= - [ 13 ก.พ. 50 13:07:55 ] ความคิดเห็นที่ 42 อ่านๆดูแล้วเราว่าชีวิตคุณมันจืดชีดไป ทั้งๆที่อายุก็ยังไม่มาก ออกไปพบปะสังคมกับเพื่อนฝูง+แฟนบ้างก็ดีนะ ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าวนอกบ้าน เราว่าแฮปปี้ดีออกได้ทําอะไรกับคนที่เรารัก ถ้าไม่มีอินเตอร์เนต ไม่แย่เหรอคะ -*- คุณต้องพยายามเอาชนะกับสิ่งที่ฝังใจในอดีตให้ได้ \/ ความกลัวการเดินทาง ที่เกิดจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน(อ่านใน#21 ตาจะลายเอา เหอๆ) เราเคยเกลียดหมา(มาก)เพราะเคยโดนหมากัด แต่พอมาเลี้ยงหมากลับรักหมาไม่เกลียดซะงั้น- -'' เราเชื่อว่าคุณทําได้นะ แล้วชีวิตคุณจะสุขกับการคบหาไปไหนมาไหนกับใครสักคน(แฟน) แต่ถ้าคุณคิดว่าตอนนี้คุณสุขแล้ว ก็ตอบเหมือน#34 (อยู่คนเดียวไปก็เหมาะสมดีค่ะ) จากคุณ : ลําเจียก - [ 13 ก.พ. 50 13:15:42 A:124.120.71.249 X: TicketID:106337 ] ความคิดเห็นที่ 43 -_-' เฮ้อ นั่นสิเราก็สงสัย คุณไม่เคยเจอเราเลย ไม่เคยคุยกับเราเลย แล้วเพื่อนคุณก็เป็นคนขอเลิกกับเรา ไม่ใช่เราขอเลิกกับเค้านะคะ เราต่างหากที่สงสัยว่าคุณด่าเราตั้งแต่กระทู้ก่อน และมาก่าวก่าย จนกระทั่งเลิกกันแล้วคุณก็มาตามด่าเราเพื่ออะไร แถมสิ่งที่คุณด่าเราหลายอย่างไม่เป็นจริงเลยด้วยซ้ำไปค่ะ เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะคุณไม่เคยเจอเราไม่เคยคุยกับเราไง จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 13:25:55 ] ความคิดเห็นที่ 44 กุยแก..ไปเจอแฟนคนนี้ที่ไหนเหรอค่ะ ทำไมต่างกัน ฟ้ากับเหว เช่นนี้ คุณ bluefox101 ไหนๆ เบื่อกุยแกแล้ว ก็ปล่อยเขาไปมีความสุขเถอะคะ อย่ามาเบียดเบียน หาเรื่องกันอีกเลย เขาจบกันไปแล้วนะ. ความสุขของคนเรา มันไม่เหมือนกันหรอกค่ะ ถ้ากุยแกเขามีความสุขแบบนี้ คุณอย่าไปยุ่งไปกับเขาเลยนะ จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 13 ก.พ. 50 13:37:37 ] ความคิดเห็นที่ 45 อีกอย่างนะคะ เราขอค้านที่คุณหาว่าเรามาตีโพยตีพายในนี้ค่ะ เราถือว่าเราโพสกระทู้แบบปกตินะคะ คุณต่างหากที่มาตีโพยตีพายว่าเรา ไม่ทราบคุณเคยอ่านกระทู้นี้รึยังค่ะ เราโพสไปไม่กี่วันเอง //www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V5118697/V5118697.html และตอนนี้เราก็ซื้อของขวัญมาแล้วด้วย เราโพสกระทู้ไม่ได้ต้องการประจานใครแน่นอนค่ะ มันเป็นปกติของคนอื่นที่พอมีปัญหา หรือต้องการกำลังใจก็มาโพส การที่เราโดนบอกเลิกกับแฟน เราก็รู้สึกแย่ เสียใจ ร้องไห้ เรามาโพสกระทู้เพื่อต้องการกำลังใจ และหาเพื่อนที่โดนบอกเลิกก่อนวันวาเลนไทน์เหมือนกันนี่ผิดหรือ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 13:40:23 ] ความคิดเห็นที่ 46 ปกติผมก็คงจะไม่มานั่งตำหนิคนที่ผมไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้าหรอก ถ้าคุณกุยแำก ไม่เอาเพื่อนของผมมาพูดบิดเบือนความจริง ในที่แห่งนี้ แต่ผมไม่คิดว่าผมด่า คุณหรอก แต่เหมือนจะติง ๆ คุณมากกว่า และที่ผมไม่ค่อยพอใจนัก ก็คือการที่คุณพาดพิงบุคคลที่สาม (คุณคงจะไม่แกล้งไม่รู้นะว่าคุณพาดพิงถึงใครบ้าง) โดยการมากล่าวหากันว่า เป็นคนเข้ามาก้าวก่าย เรื่องของคุณกับแฟน และยุให้เลิกกัน ใน คห ที่ 31 น่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็นปัญหากันอยู่สองคนน่ะ ทบทวนดูนะครับ ก่อนที่จะทำตัวเป็น กุนซือ น่ะว่า เรื่องตรงนี้เข้าตำราว่า รำไม่ดี โทษปี่ โทษกลอง หรือเปล่า โต กันแล้วน่ะ จากคุณ : bluefox101 - [ 13 ก.พ. 50 13:43:11 ] ความคิดเห็นที่ 47 ทำไมต่างกัน ฟ้ากับเหว เช่นนี้ - ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณหวาน ที่เหมือนกันก็มีหลายอย่าง เช่น การใช้เงินประหยัดเหมือนกัน ในชีวิตผ่านเรื่องอะไรหลาย ๆ อย่างมาเหมือนกัน เหมือนที่เพื่อนเค้ามาเล่านั่นแหละค่ะแต่กุยแกเจอหนักกว่าเพื่อนเค้าหลายเท่าไง 555 เวลาคุยกันก็คุยกันรู้เรื่องนะคะ แม้เราจะจบแค่ม.6กศน. เค้าจบวิศวะก็ตาม เค้าเคยไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเรามาแล้วค่ะ ซึ่งเพื่อนเราเนี่ยปกติคุยกับคนยาก (เราก็ด้วย) แต่เค้าก็คุยกับเพื่อนเราได้เนียนเชียว 555 ถ้าคุณ bluefox101 เห็นในวันนั้น คงไม่ด่าว่าเราอยู่ในกะลาหรอกค่ะ มีแค่เรื่องเค้าชอบไปไหนมาไหน แล้วเราชอบอยู่บ้านนั่นแหละค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 13:45:55 ] ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องของเข้าสองคนน่า คุณ bluefox101 ในเมื่อ คู่กรณีเขายังนิ่งอยู่ คุณอย่าไปคิด อย่าไปตัดสิน แทนเขาเลยนะคะ แล้ว จขกท เขาก็ชอบแบบนี้เป็นคนแบบนี้ แฟนเขาจะชอบไม่ชอบ ไม่ใชเรื่องของคุณน่า การที่เขาไม่มาโต้ตอบ เขาอาจมีเหตุผลส่วนตัวที่คุณไม่ทราบก็ได้เนอะ จากคุณ : beautiful civil - [ 13 ก.พ. 50 13:46:35 ] ความคิดเห็นที่ 49 คุณ bluefox101 ช่วยลดระดับความรุนแรงของคำลงหน่อยก็จะดีนะครับ จากคุณ : Kato_nd - [ 13 ก.พ. 50 13:49:26 ] ความคิดเห็นที่ 50 ไม่เอาเพื่อนของผมมาพูดบิดเบือนความจริง - ไม่ได้บิดเบือนความจริงค่ะ และเราเห็นคุณบอกว่าเราเป็นโรคจิต ควรไปหาหมอตั้งแต่กระทู้ที่แล้วแล้วนะคะ นี่ไม่เรียกว่าด่าหรือคะ เราว่าคุณต่างหากที่บิดเบือน จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 13:51:01 ] ความคิดเห็นที่ 51 เราคิดผิดหรือเปล่าเนี่ยที่มาตั้งกระทู้นี้ T-T เราแทบไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนที่โดนขอเลิก แทบไม่มีอะไรตกถึงท้องนอกจากขนมชิ้นเล็ก ๆ ไม่กี่ชิ้น เอาแต่ร้องไห้ แล้วแค่อยากมาระบายด้วยการโพสกระทู้ เราผิดมากหรือ เราหวังว่าจะได้กำลังใจหรือคำปลอบใจ แต่ทำไมต้องมาเจอแบบนี้ด้วยเนี่ย โทรคุยกับคู่กรณีที่เป็นอดีตแฟนแล้วค่ะ เค้าเห็นตั้งแต่กระทู้แรกแล้ว อ่านกระทู้นี้แล้วด้วยค่ะ เค้าไม่ได้ว่าอะไรเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ก.พ. 50 14:23:21 ] ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่ จขกท พูดถึง อยากจะบอกว่าตอนนี้ผมทุกข์ใจมากๆครับ จขกท ยิ่งแย่หนักกว่าผมอีก ผมเองไม่อยากให้เหตุการณ์จบลงแบบนี้หรอกครับ ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับ จขกท มันจบลงแล้ว ผมโทรไปบอกbluefoxแล้วว่าให้หยุด เพื่อนผมเองคงแสดงความเห็นที่ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้ผมและน้องเค้ายิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก น้องเค้าเองปรับตัวเท่าที่เค้าจะปรับได้แล้ว ผมเองต่างหากที่ยังไม่สามารถยอมรับความเป็นตัวเค้าได้เองครับ สิ่งที่ผ่านมาทั้งน้องเค้าและผมต่างรู้กันดี คงไม่พูดอะไรต่อไปแล้วครับ ขอบคุณทุกๆความเห็นที่เป็นกำลังใจให้น้องเค้านะครับ จากคุณ : หยุดร้องไห้ได้แล้วนะคนดี p^-^q (sertfinal) - [ 13 ก.พ. 50 15:27:18 ] ความคิดเห็นที่ 53 จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 ก.พ. 50 15:37:45 ] ความคิดเห็นที่ 54 คุณ กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย อย่าคิดมากนะค่ะ ...เท่าที่เราอ่านมันก็เป็นแค่การมองกันคนละมุมกันเท่านั้นเองนะ..ทั้งคุณกับแฟน แล้วก็คุณกับเพื่อนแฟนอ่ะค่ะ... เราว่าที่คุณเขียน ไม่เห็นมันจะเป็นการบิดเบือนเลยนะ..มันก็เรื่องเดียวกัน..เต่เป็นความคิดของคนที่นิสัยต่างกันเอง.. จากคุณ : หายใจเข้าแล้วก็หายใจออก - [ 13 ก.พ. 50 15:45:33 ] ความคิดเห็นที่ 55 เรื่องของคนสองคน คนอื่นถือว่าเป็นคนนอกครับ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็อย่าทำให้มันแย่ลงเลยครับ เข้าใจว่าหวังดีกับเพื่อน ผมเองก็เคยเป็นเหมือนคุณ แต่ถ้าผ่านอะไรๆมามากกว่านี้ ก็จะเข้าใจเองครับ เรื่องของเขาจบแล้ว ก็ให้มันจบไปเถอะ ผมมองว่าดีเสียอีกที่จะไม่ต้องมาฝืนกัน (คนเราปรับตัวได้ระดับหนึ่ง แต่ต่างกันมากก็ไม่ไหวครับ) จำแต่สิ่งดีๆของกันและกันดีกว่าครับ และเก็บเอาความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียน ขอให้โชคดีในรักครั้งต่อไปทั้งสองฝ่ายครับ และขอให้รักษาเพื่อนที่ดีๆคอยปกป้องคุณไว้ด้วย จากคุณ : Lazy Genius - [ 13 ก.พ. 50 15:54:06 ] ความคิดเห็นที่ 56 อ่านมาตั้งแต่แรก ขออนุญาตแสดงความเห็นว่ารำคาญคุณbluefox ที่สุดเลยครับ อย่าบอกนะว่ารำคาญก็อย่าอ่าน ไม่อ่านได้ไงในเมื่อลากเม้าส์ลงมา ก็เจอแต่คุณวนเวียนเข้ามาด่าผู้หญิง ที่คุณไม่เคยเจอด้วยซ้ำ แค่คุณบอกว่าผมไม่เกี่ยว ไม่ได้ทำให้คู่รักเขาแตกกัน มีอะไรไปทำความเข้าใจกันเอง จบ จะเป็นลูกผู้ชายมากกว่าเลยครับ ส่วนคุณพระเอกก็ช่างกระไร แอบอยู่ข้างหลังเพื่อนให้แฟนเก่าคุณถูกด่าอยู่ได้ตั้งนานสองนาน กว่าจะยื่นหน้าออกมารูดม่านปิดฉาก จากคุณ : จบได้แล้วคร๊าบ - [ 13 ก.พ. 50 16:05:39 A:125.25.33.49 X: TicketID:106097 ] ความคิดเห็นที่ 57 อ้าาา..... ใครเป็นใครกันมั่งเนี่ย..? เวลารักกัน รักกันตอนไหนก็ไม่รู้เนอะ แต่เวลาเลิกกันเนี่ย พยานเยอะเชียว เอิ๊กๆๆ ... จากคุณ : Spirited A's way - [ 13 ก.พ. 50 16:09:45 ] ความคิดเห็นที่ 58 ขออภัยนะครับ ที่ขอขัด เรื่องของ คนสองคน ชาย - หญิง คนที่ 3 ไม่ควรเข้าไปยุ่งครับ ต่อให้คุณเป็น เพื่อน สนิทของฝ่ายไหนก็ตามครับ ยิ่งคุณไม่ได้ไปสนิท อะไร กับ คู่นี้ คุณยิ่งไม่ควรเข้าไปยุ่งครับ เพราะคุณไม่ได้ รู้เห็นอะไรเท่า คน สอง คนหรอกครับ เตือนด้วยความหวังดีครับ จากคุณ : moojiw - [ 13 ก.พ. 50 16:29:33 ] ความคิดเห็นที่ 59 โอว์...งงงงงงง เราเอาใจทุกคนแล้วกันค่ะ จากคุณ : Mikaza_Za - [ 13 ก.พ. 50 17:04:40 ] ความคิดเห็นที่ 60 เข้ามาอ่านด้วยความไม่สบายใจ เฮ่อ เห็นด้วยกับคุณ Spirited A's way พยานเยอะจริงๆค่ะ จากคุณ : la-la-bell - [ 13 ก.พ. 50 17:15:29 ] ความคิดเห็นที่ 61 กำลังจะบอกว่า Bluebox ระวังเป็นหมาเน้อ เพราะว่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไปแล้ว เ เดี๋ยวเค้าดีกันจะกลายเป็นหมาเห่าไป ไม่นานแฟนเก่า จขกท ก็มาโพสต์ (ถึงจะไม่ดีกันก็เหอะ น่าเสียดายจัง) เป็นกำลังใจให้นะคะ คุณไม่ใช่คนเดียวที่อกหักในเดือนนี้หรอก :) จากคุณ : Lingkwis - [ 13 ก.พ. 50 17:41:16 ] ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : หยุดร้องไห้ได้แล้วนะคนดี p^-^q (sertfinal) เป็นสุภาพบุรุษมาค่ะ น่ารักค่ะที่ออกมาบอกแบบนี้ เราปรบมือให้คุณจริงๆ ยังงัยก้อป็นเพื่อนกันนะคะ เป้นอย่าอื่นมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องเกลียดกันนะคะ ชอบผู้ชายคนนี้ค่ะ จากคุณ : beautiful civil - [ 13 ก.พ. 50 18:19:11 ] ความคิดเห็นที่ 63 คิดเหมือนพี่ก้อค่ะ ชอบคำพูดแบบนี้จัง ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : หยุดร้องไห้ได้แล้วนะคนดี p^-^q (sertfinal) จากคุณ : เฉลียงสีชมพู - [ 13 ก.พ. 50 20:13:30 ] ความคิดเห็นที่ 64 bluefox - เรื่องชาวบ้าน มายุ่งอะไรด้วยหว่า จำไว้ที่หลังไม่ใช่เรื่องตัวเองก็อย่าเจ๋อ ไม่งั้นจะเป็นหมา แบบนี้ กุยแก - ออกแนวมีปัญหาทางจิตนิดๆป่าวครับ ไม่มีสังคมเลย มีเพื่อนบ้างไหมครับ แฟนเก่า - อ่านมาตลอด แต่พึ่งออกมาตอนจบ รอให้เพื่อนกับแฟนกัดกันจนยับเยินทั้งคู่ ......แมนโครต เฮ้ออออออออ ......... จากคุณ : เบื่อ... - [ 13 ก.พ. 50 21:46:08 A:58.64.46.232 X: TicketID:019364 ] ความคิดเห็นที่ 65 เดือดจริงๆกระทู้นี้!!! จากคุณ : ARTHER MAN - [ 13 ก.พ. 50 22:55:49 ] ความคิดเห็นที่ 66 รักกันๆ ใจเย็นๆนะคะจขกท. เชียร์คุณกับแฟนให้กลับมารักกันค่ะ ^^ " เธอทั้งสองจงรักกัน แต่อย่าสร้างพันธะแห่งรักนั้น ขอให้รักเป็นเสมือนดั่งคลื่นทะเลที่โหมพัดอยู่ท่ามกลางชายฝั่งแห่งจิตวิญญาณของเธอทั้งสอง จงเติมเต็มในถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน จงแบ่งปันขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน จงร้องและร่ายรำด้วยกันอย่างเริงร่า แต่ก็เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเริงรำด้วยตนเอง เฉกเช่นสายพิณอันโดดเดี่ยว แต่ร่วมกันขับขานเสียงท่วงทำนองของเพลงเดียวกัน และจงยืนด้วยกัน แต่อย่าเบียดชิดกันมากเกินไป เพราะแม้เสาวิหารก็ตั้งตระหง่านเป็นระยะๆ " ต้นโพธิ์และต้นไทร " ก็มิอาจเติบโตภายใต้ร่มเงาของกันและกันได้ ""> คาริล ยิบราน แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 50 00:32:39 จากคุณ : and then - [ 14 ก.พ. 50 00:30:39 ] ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ที่อุตส่าห์เข้ามาตอบ ขอแก้ต่างให้นิดนึง ที่อดีตแฟนมาทีหลังเพราะเค้าไปทำงานเลยไม่ได้อ่านกระทู้ค่ะ เราโทรไปบอกหลังจากคิดว่าสถานการณ์มันไม่ไหวแล้ว เค้าเลยโทรไปเคลียร์กับเพื่อนแล้วมาโพสตอบทีหลังน่ะเจ้า อุตส่าห์อู้งานจัดการให้เลยนะ @^_^@ เลิกกันด้วยดีค่ะไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เพราะต่างฝ่ายก็รู้ว่าปรับเข้าหากันจนสุดแล้วก็ยังไปด้วยกันไม่ได้ จึงขอเลิกแทนที่จะยืดเย้อน่ะค่ะ ไม่ได้โกรธและเกลียดกัน กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันดังเดิมค่ะ เมื่อคืนแฟนเก่าก็โทรมาปลอบใจเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องในกระทู้นี้ ทำให้เราหลับลง ตื่นมาก็หาอะไรกินสักที 555 ว่าแล้วก็เปิดเพลงช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยของพีชเมคเกอร์ฟังต่อ เห็นไหมเราอัพเกรดตัวเองได้จริง ๆ แล้วนะเนี่ย 555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 14 ก.พ. 50 05:51:30 ] ความคิดเห็นที่ 68 ดีใจด้วยนะ บางทีความรักแบบเพื่อนนี่ มันยั่งยืน กว่าความรักแบบคนรักนะ สวัสดี วันแห่งความรักค่ะ จากคุณ : beautiful civil - [ 14 ก.พ. 50 07:41:28 ] chat log
มาแปะไว้เฉยๆค่ะ
Beautiful Funday หรือ ลา ล้า หรือ la-la-bell คือเรา บลู ก็แฟนเรา พี่ ส. ก็เพื่อนเรา ตอนนี้เป็นแฟนเก่ากุนซือ เอามาให้อ่านเฉยๆ คงจะไม่ comment หรือ ชี้นำค่ะ (มีแก้นิดนึง เพราะเห็นว่า มีชื่อเล่นจริงๆ หลุดไปค่ะ) - Beautiful Funday says: สวัสดีค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ดีเจ้า - Beautiful Funday says: เป็นไงบ้างคะ - Beautiful Funday says: คือ คิดอยู่นานเหมือนกัน ว่าจะถาม จะทักดีไหมค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อ้าว ทำไมไม่ทักละเจ้า ก็ทักได้นี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: สบายดีเจ้า - Beautiful Funday says: อืม พี่ก็สบายดี (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ว่าแต่ พี่เป็นใคร - Beautiful Funday says: เห็นมาหลายกระทู้แล้ว ไม่สบายใจ ว่ากุยแกเข้าใจผิด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เอาเมล์เค้ามาจากไหนเจ้า - Beautiful Funday says: แต่ถ้าไม่สบายใจ ไม่อยากคุยกับพี่ก็ไม่เป็นไร (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ??? คุยได้ พี่ชื่อไรเจ้า - Beautiful Funday says: อันดับแรก กุยแก ต้องอย่าโกรธ อย่าโมโหนะคะ เพราะอยากคุยจริงๆ อยากเคลียร์จริงๆ ไม่ได้มาแบบมีอะไรแบบแฝง พี่ la-la-bell ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: -*- (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มีธุระอะไรค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าจะเคลียร์ก็เคลียร์มา แต่บอกก่อนเราไม่เคยไปทำไรให้พี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อยากจะถามว่าทำไมต้องตามมาวุ่นวายกับเราตลอดด้วย - Beautiful Funday says: อันนั้นแหละที่อยากจะบอก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อยากจะถามว่า เราไม่เคยไปยุให้คู่ของพี่มีปัญหากันนะ ไม่เคยไปวุ่นวายด้วย - Beautiful Funday says: ว่าพี่ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกับกุยแกเลยค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทษนะคะ ไม่วุ่นวายตรงไหน - Beautiful Funday says: เพราะตั้งแต่ประมาณเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ที่เลิกกันเนี่ย ไม่ใช่เพราะตาบลูหรือ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: นี่ขนาดหนสุดท้ายที่มีปัญหากัน กุยเป็นคนขอเลิกกะพี่ส.เอง - Beautiful Funday says: อืม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พอมันรู้พี่ส.ก็โดนด่าไม่มีดี - Beautiful Funday says: เพราะตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา พี่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง - Beautiful Funday says: เพราะส.เขาก็บอกว่าอยากจะขออยู่ด้วยกัน 2 คน - Beautiful Funday says: แล้วพี่ก็ยังมีโทรเข้าไปทีนึง ว่า (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่จริงเลยค่ะ - Beautiful Funday says: หายไปเลยจริงๆนะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มากวนตลอด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กุยไม่รู้นะ ว่าพี่โกหกรึเปล่า แต่ที่แน่ ๆ รู้จากพี่ส. - Beautiful Funday says: ที่พี่ไม่สบายใจมาก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพื่อนคนอื่นไม่มีใครมาวุ่นวายเลยนะ - Beautiful Funday says: เพราะจากกระทู้นี้ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มีแต่บลูนี่แหละ โทรมาตามด่า ๆ ๆ ๆ ตลอด - Beautiful Funday says: //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5333982/L5333982.html คห. 2 ก็เริ่มคิดมากมาตลอด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ผ่านพี่ส.นะ แต่ไม่เคยโทรหากุย - Beautiful Funday says: ว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มาหาว่ากุยไปด่าพี่ล้าเบล (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทษนะ กุยด่าไรมิทราบ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตัวเค้าอะ ตั้งแต่ต้นก็มาวุ่นวายตลอด - Beautiful Funday says: เขาโทรตอนไหนคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พอไม่ไปกินข้าวที่เซ็นทรัลลาดพร้าวก็มาบอกให้พี่ส.เลิกกะกุย มาตามด่ากุย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มาด่าในกระทู้ด้วย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ทั้ง ๆที่ไม่เคยแม้แต่คุยกันด้วยซ้ำ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วด่าน่ะ ไม่ได้เป็นความจริงด้วย เอาที่ไหนมาด่า - Beautiful Funday says: เขาไม่ได้บอกให้พี่ส.เลิกกับกุยนะคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: บอกค่ะ - Beautiful Funday says: ตอนไหนคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่ส.บอก บลูบอกให้เลิกกะกุย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กุยเชื่อพี่ส.มากกว่าคุณ มากกว่าแฟนคุณ - Beautiful Funday says: อืมมม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพราะเห็นแล้วว่าแฟนคุณเป็นยังไง - Beautiful Funday says: กุยแกคะ - Beautiful Funday says: เท่าที่พี่เข้าใจนะคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กุยเชื่อว่าพี่ส.ไม่ใช่คนขี้โกหก - Beautiful Funday says: เพื่อนกุยแกก็บอกให้กุยแกเลิกกับพี่ส.เหมือนกันนะคะ - Beautiful Funday says: จะบอกว่า - Beautiful Funday says: เท่าที่พี่เข้าใจ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ใช่ค่ะ แต่ไม่มีเพื่อนคนไหนไปตามด่าพี่ส.นะคะ เค้าก็คุยดีตลอด - Beautiful Funday says: เป็นการปรึกษากันแล้วก็ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพื่อนทุกคนเลยด้วยที่บอกให้กุยเลิก เพราะบลูเข้ามาวุ่นวายไง - Beautiful Funday says: บอกว่าให้ดูๆ ถ้าไม่ไหวก็เลิกเถอะ ทำนองนั้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพื่อนคนอื่นที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ก็บอก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: บอกว่า ถ้ามันเลิกคบเพื่อนไม่ได้ หรือกันไม่ให้เพื่อนมาวุ่นวายกับเราไม่ได้ ก็ เลิกเหอะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คนโลเลแบบนี้ - Beautiful Funday says: เอางี้ดีกว่า (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วอีกอย่าง มันไม่ได้เกี่ยวกะเลิกไม่เลิกด้วย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าเลิกกัน แล้วคุณมาวุ่นวายอะไร มาตามด่าทำไม - Beautiful Funday says: ตามด่าตอนไหนคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เลิกกันแล้วมาตามด่าเราเพื่ออะไร (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ในกระทู้ 3-4 ครั้งที่คุณบลูมาตามด่า ด่าแบบไม่เป็นความจริง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วยังโทรหาพี่ส.อีก - Beautiful Funday says: ถ้าไม่ใช่กระทู้แรกที่ เลิกกันสัปดาห์เดียว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ด่าว่ากุยไม่ดีแบบนั้นแบบนี้ ให้เลิกไปด่าพี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทษนะคะ - Beautiful Funday says: อันไหนที่บลู ตามด่าบ้างคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ก่อนหน้าก็มีค่ะ ก่อนเลิกกันก็มี - Beautiful Funday says: กระทู้ไหนะค 3-4 กระทู้น่ะค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะเท่าที่จำได้มันไม่มีน่ะค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วกระทู้ที่พี่ไปโพสเรื่องงาน กุยไปตอบดี ๆ ก็มาตามจิกด่ากุยหยาบ ๆ คาย ๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทษค่ะ มีค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: หรือพี่ไม่รู้สันดานแฟนพี่ค่ะ - Beautiful Funday says: อ๋อ กระทู้เรื่องงาน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทรมาหาพี่ ส. (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่พอนะ มาด่ากุย แล้วด่าตลอด ๆ ๆ ๆ ๆ ว่าให้กุยเลิกไปว่าพี่ - Beautiful Funday says: อันนั้นขอโทษแทนแล้วกัน เพราะเขาก็เขียนไม่ดีจริงๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มันไม่จบอะ - Beautiful Funday says: เท่าที่พี่เข้าใจนะคะ เขาเคยด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่บอกมันจบแต่แรก กุยก็ไม่ไปยุ่งกะพี่แล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่ทำไมพี่ไม่จบซะที (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เลิกกันแล้วก็ยังตามด่ากันไม่จบ - Beautiful Funday says: โทรไปหนนึง เพราะว่าเขา//www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5333982/L5333982.html เห็นกระทู้นี้ - Beautiful Funday says: //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5333982/L5333982.html (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ใช่ทีเดียวค่ะ - Beautiful Funday says: เขาเลยโทรไปบอกส.ว่า ให้เลิกตามมาว่าในกระทู้แล้วนะคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่ไปคุยกะพี่ส.เอาเอง - Beautiful Funday says: ก็อยากคุยกับกุยมากกว่าค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพราะคนอย่างพี่ คนอย่างแฟนพี่อะ มันไม่น่าเชื่อถือแล้วค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วโทษนะพี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ก่อนหน้า ก่อนหน้าเลยนะ ที่กุยไปโพสกระทู้ว่า กุยชอบอยู่บ้าน แฟนชอบเที่ยว ก่อนกระทู้เลิกกัน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แฟนพี่ก็ตามมาด่าหยาบ ๆ คาย ๆ แต่แรกแล้วค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วถามจริง กุยไปถามเพื่อนไม่มีใครรู้เลยนะ ว่าเป็นคุณน่ะ - Beautiful Funday says: อืม อันนั้นพยายามห้ามแล้วค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าเราจะด่าคุณจริง เราก็ประจานไปแล้ว ว่าชื่ออะไร (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่คุณไม่เคยจบไม่เคยหยุดเลยอะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราถามคุณได้ไหม คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร - Beautiful Funday says: พี่ไม่ได้ทำค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อิจฉาหรือไง เห็นคนอื่นเค้าอยู่แบบปกติสุขไม่ได้หรือไง - Beautiful Funday says: ไม่ได้อิจฉาค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราเลิกกะพี่ส.เราก็เลิกดี ๆ ค่ะ ไม่ได้เลิกกันแล้วจะฆ่ากันไม่คุยกัน - Beautiful Funday says: ก็ดีแล้วค่ะ ที่เลิกกันดีๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วคุณมาตามรังควานเราเพื่ออะไรคะ - Beautiful Funday says: แต่ไม่ได้รังควานค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ก็ไอ้เหตุผลที่เลิกกัน เพราะแฟนคุณมาวุ่นวายนั่นแหละค่ะ - Beautiful Funday says: จะมาพยายามบอกไงคะ ว่าเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ได้เข้าใจผิด - Beautiful Funday says: เพราะเท่าทึ่กุยแกพูดมี 1 กระทู้ก่อนเลิกกัน 2 กระทู้ที่เลิกกันแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กระทู้เรื่องงานคุณด้วยค่ะ - Beautiful Funday says: 3 กระทู้เรื่องงานพี่ ที่กุยแกไปตอบ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราก็ไปโพสตอนดี ๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราอาจใช้คำพูดไม่เพราะ แต่เราตอบของเราแบบนั้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กระทู้ที่คุณบอกจะตัดผมเราก็ไปตอบดี ๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แฟนคุณก็มาจิกด่าเรา - Beautiful Funday says: เขาเข้าใจผิดค่ะว่ากุยแกประชด เพราะกุยแกไปตอบว่า ปัญหาหนักตรงไหนนี่ ทำนองนี้ - Beautiful Funday says: อันนี้ขอโทษด้วยค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ใช่ เพราะมันเล็กมาก ๆ ๆ ๆ ไงคะ - Beautiful Funday says: เพราะเขาเข้าใจผิด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: สำหรับคุณที่อยู่สุขสบายตลอดอาจใช่ แต่สำหรับเรา (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แม้เราจะไม่ได้ทำงานหนัก แต่เราเห็นแม่เรา เราเห็นคนอื่น ทำงานไม่มีวันหยุด - Beautiful Funday says: ว่ามาตอบแบบประชดไงคะ ว่า ปัญหาใหญ่ตรงไหน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แม่เราอะ ไม่เคยได้ดูทีวีแบบมือว่าง ๆ เลย - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่เคยได้นั่งนอนดูแล้วอยู่เฉย ๆ เลยนะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราก็คิดว่าเราตอบดี เพราะคิดว่าไม่ใช่ปัญหาหนัก - Beautiful Funday says: มันเกิดจากการเข้าใจผิดกันไงคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: งานคุณเยอะขึ้น แต่คุณมีงานทำ และคนอื่นก็เอางานกลับมาทำที่บ้าน เราเห็นว่าปกติค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะถ้าตั้งแต่ตอนนั้น พี่ทราบ พี่ก็จะขอโทษค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วแฟนคุณมาตามด่าเราตลอด ไมหยุด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าคุณเข้าใจผิดทำไมคุณไม่ถามดี ๆ - Beautiful Funday says: เพราะฝ่ายนั้นเขาก็เข้าใจผิดค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อยู่ ๆ ก็ให้แฟนมาด่าทำไม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คนอย่างเราไม่เคยตามรังควานใคร ที่เราไม่คุยกะคุณอีก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพราะต้องการตัด เราบอกพี่ส.ไปแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เวลาเรามีเรื่องกะใคร ถ้าแรง ๆ แบบนี้เราตัดเลย ไม่คุยเลย - Beautiful Funday says: ก็เพราะไม่คุยกันนี่แหละค่ะ เลยปัญหายืดยาวไงคะ - Beautiful Funday says: เพราะต่างฝ่ายต่างระแวง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ใช่ค่ะ เราตัดแล้วไง แต่แฟนคุณไม่หยุด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มาด่าเราไม่หยุด - Beautiful Funday says: ว่าตอบอย่างนี้แอบกัดหรือเปล่า ใช่ไหมคะ - Beautiful Funday says: เพราะว่าพี่เชื่อว่าต่างฝ่างต่างตอบกันปรกติไง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ได้แอบแล้วมั้งค่ะ แบบแฟนคุณนี่ด่าตรง ๆ เลย - Beautiful Funday says: แต่เพราะมีปมในใจ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วเราบอกพี่ส.ไปแล้ว เราไม่เอ่ยชื่อคุณในกระทู้ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นคุณ - Beautiful Funday says: เฉพาะ 3 กระทู้นั้นที่พี่จำได้ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่เมื่อคนอื่นมีปัญหาแบบเดียวกัน เราก็พูดเหมือนที่เราเจอมา (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ในสีลม มีคนมาตั้งกระทู้เรื่องงาน ถ้าเป็ฯงานที่เราเคยทำมา หรือเจอปัญหาแบบเดียวกัน เราก็เล่าแบบนี้ - Beautiful Funday says: หมายถึงกระทู้ทั่วๆไปใช่ไหมคะ ที่กุยแกตอบปัญหาเรื่องแฟน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: โทษนะพี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อย่างกระทู้ถามว่าทะเลาะกะแฟนบ่อยไหม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราไปตอบ ก็ถือว่าปกติ - Beautiful Funday says: กลับไปกระทู้สีลมก่อนได้ไหมคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: กระทู้แบบนี้เราก็ยืนยันว่าปกติ - Beautiful Funday says: เพราะเห็นบอกมีกระทู้สีลม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อ้อ เปล่าค่ะ อธิบายให้ฟั (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: สมมติ มีคนตั้งกระทู้ว่า เจอเจ้านายไม่ดี - Beautiful Funday says: อ๋ออ นึกว่ามีอะไรที่กระทู้สีลมอีก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราก็จะปลอบว่าเราเจอเจ้านายไม่ดีเหมือนกัน แล้วเล่าให้ฟังว่าเจอแบบนี้ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วเราแก้ปัญหายังไง - Beautiful Funday says: อืม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าเราจะด่าจะว่าคุณจริง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราก็บอกแล้ว ตอนนั้นเราตั้งกระทู้ คุณชื่อนั้นชื่อนี้มาด่า แฟนคุณ la-la อะไรก็ว่าไป - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: นี่เราไม่เอ่ยชื่อด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นแล้วว่าเราไม่ต้องการให้กระทบถึงคุณ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เฮ้อ เหนื่อย ระบายจบล่ะ นี่แหละความรู้สึกเราค่ะ - Beautiful Funday says: ค่ะ - Beautiful Funday says: คือ แล้วตัวพี่เองที่ตอบๆ กุยแกรู้สึกว่าพี่ไปด่าตอนไหนไหมคะ - Beautiful Funday says: พี่จะได้ตอบตอนนี้ให้ค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะปรกติพี่ก็ตอบปรกติ แต่ถ้ามีอะไรที่พลาดไปจะได้อธิบายให้เข้าใจน่ะ - Beautiful Funday says: ให้พี่ไปสาบานที่ไหนก็ได้ค่ะ ว่าไม่มีจริงๆ - Beautiful Funday says: แล้วตัวแฟนพี่เอง พี่ได้คุยกับเขาแล้วว่า เขาไม่ได้ตามด่าตรงไหนเลย - Beautiful Funday says: การพูดกับคนกลาง บางทีเขาก็อาจจะสื่อกันไม่ครบ - Beautiful Funday says: ก็ถามตรงนี้เลยค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะอย่างที่บอกไม่สบายใจน่ะ เห็นเขียนว่าเพื่อนมาวุ่นวาย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ทราบค่ะ แต่เท่าที่พี่ส.มาเล่าให้ฟัง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ซึ่งพยายามปกป้องพี่กะบลูสุดฤทธิ์แล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คุณบลูโทรหาพี่ส.แล้วพยายามด่ากุยหลายครั้งค่ะ - Beautiful Funday says: อืมม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: และ เราเชื่อพี่ส.ที่บอกเรามากกว่าคุณบลูค่ะ เพราะเคยเห็นนิสัยเค้ามาแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่ส.ก็เล่านิสัยของบลูให้ฟังบ้าง - Beautiful Funday says: เดี๋ยวพี่จะไปถามทั้งคู่แล้วกันค่ะ ??? (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ค่ะ ไปถามเองแล้วกัน เราไม่อยากยุ่งแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราขออยู่แบบสงบ ๆ เลย - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ที่เราตัดเนี่ย คือเราไม่ต้องการยุ่งแล้วไงขออยู่แบบสงบอะ - Beautiful Funday says: พี่ก็อยากอยู่อย่างสงบค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้ามีอะไรที่คิดว่าเราไปว่าคุณหรือไม่พอใจ มาคุยกับเราได้ตรง ๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราจะไม่บล็อกคุณแล้ว - Beautiful Funday says: คิดว่าทุกๆฝ่ายค่ะ แต่ว่า - Beautiful Funday says: เพราะไม่คุยกันนี่แหละ ทำให้คิดกันไปไกล - Beautiful Funday says: ที่พี่ไม่ได้มาตอบหรื่อคุยตั้งแต่แรก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับคุยไม่คุยค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะพี่ส.เขา ขอ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราไม่คุย เราก็ไม่ยุ่ง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่เคยไปยุ่งไปตามด่าใคร - Beautiful Funday says: ว่าอยากจะอยู่กันสองคนก่อน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่แฟนคุณไม่ใช่แบบนั้นค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ว่าอยากจะอยู่กันสองคนก่อน - นั่นเราบอกเองค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตอนมีปัญหาแล้วแฟนคุณยังยุ่งไม่จบ เราบอกเค้าไปตอนนั้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คุยกันเองว่า เคยมีไหม ก่อนหน้ามีปัญหากับเรา เคยอยากเลิกคบบลูไหม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เค้าบอกว่าเคย - Beautiful Funday says: ค่ะ ก็เป็นไปได้ ก็เลยไม่ได้ไปติดต่ออะไรแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วเล่าปัญหาให้เราฟังค่ะ - Beautiful Funday says: จนยังงงๆว่าทำไมเกิดอะไรขึ้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราเลยบอก งั้นขอเลย ถ้าทำแบบนี้เลิกคบเลย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราไม่รู้ที่คุณบอกไม่มาวุ่นวายเนี่ยเชื่อได้ไหม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่ที่แน่ ๆ คุณบลูยังมาวุ่นวายอยู่ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตามมาไม่จบจนเราเครียดค่ะ - Beautiful Funday says: เท่าที่พี่เข้าใจและจากการอ่านmsn เขายังเข้ามาวุ่นวาย แบบ บอกให้เลิกคบเหรอคะ ในระหว่างที่กุยแกคบกับพี่ส.อยู่เหรอคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ใช่ค่ะ - Beautiful Funday says: พี่ส.เป็นคนบอกเหรอคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ใช่ค่ะ พี่ส.บอก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตอนที่ชวนไปกินข้าวเซ็นทรัลลาดพร้าวกับพวกพี่ คุณบลูก็ด่ากุยว่าเรื่องมากหรือไรประมาณนี้ (อันนี้พี่ส.บอก) (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: บอกว่าผู้หญิงแบบนี้ให้เลิกคบไปซะ -*- (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราขออธิบายเรื่องไม่ไปทานข้าวได้ไหมคะ - Beautiful Funday says: โห - Beautiful Funday says: ได้ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เรามีโรคประจำตัวหลายโรค แต่โรคที่เดือดร้อนชาวบ้านที่สุดคือลมชักค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าป่วยเป็นอย่างอื่นไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลมชักเราจะพูดไม่ได้ทำอะไรไม่ได้ บางครั้งนอนชักอยู่กะพื้น - Beautiful Funday says: อืม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ทำให้คนอื่นตกใจมากเวลาไปไหนมาไหน บางคนไม่เคยเจอมาก่อนก็วิ่งกันวุ่นขนาดเรียกรถพยาบาลหรือพาส่ง รพ.ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราเลยต้องการนัดใกล้บ้าน เพราะรพ.ประจำอยู่แถวนั้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: หรือใกล้บ้านพ่อแม่เรา ซึ่งเห็นเราเป็นประจำจนชินก็จะไม่พาส่งรพ. (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เห็นหนักจริง ๆ ถึงพาส่ง (คนเคยเห็นประจำจะแยกออกค่ะ) - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วเซ็นทรัลลาดพร้าว เท่าที่รู้ กว้าง ต้องไปกินข้าว ต้องไปเดินเล่น เราน่ะไปได้ไม่มีปัญหา (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่ถ้าเราเป็นไรไป ไม่ต้องถึงขั้นลมชัก แต่ป่วยอย่างอื่น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คนไปด้วยก็ไม่สบายใจ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: หรือวุ่นวายต้องมาดูแลเรา - Beautiful Funday says: ค่ะ เข้าใจ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราเลยต้องการนัดใกล้บ้าน ถ้าเห็นอาการไม่ดี เราก็กลับบ้านได้เลยค่ะ - Beautiful Funday says: อืม อันนี้เข้าใจค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราพยายามอธิบายตั้งแต่กระทู้ที่บอกนัดกันแล้วไม่ได้ไป (ตอนนั้นยังคบกันอยู่) ให้แฟนคุณเข้าใจแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่แฟนคุณก็ตามด่าไม่เลิกค่ะ - Beautiful Funday says: เรื่องที่พี่ไม่ได้ไปกินข้าวกับน้องวันนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอธิบายเหตุผลส่วนตัวเช่นกันค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตอนนั้นเราขอโทษที่เข้าใจผิดเอง (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เรานึกว่าคุณบลูเป็นคนล้าเบลใช้ล็อกอินอื่น - Beautiful Funday says: อันนั้นเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายค่ะ เพราะสำนวนต่างกันเยอะมาก - Beautiful Funday says: ไม่คิดว่าจะมีคนเข้าใจผิดขนาดนั้น (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ส่วนเรื่องเหตุผลอะไรเราไม่สนใจ เราบอกจบแล้วคือจบ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: จบคือเราไม่วุ่นวายกับคุณอีกค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าเราจะด่าคุณ เราก็ลงชื่อคุณไปแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตอนมีเรื่องกัน เราก็ไปด่าคุณให้เพื่อนเราฟัง เราด่าเละใช้คำหยาบพ อ ๆกะที่คุณบลูด่านั่นแหละค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพราะฉะนั้นยืนยันว่าที่คุยเนี่ย เราคุยดีค่ะ - Beautiful Funday says: ค่ะ เรื่องวันนั้นเราก็เข้าใจค่ะ เพราะวันที่ไม่ได้ไปกินข้าวเพราะ ตอนแรกที่นัดกันเป็นวันศุกร์ ถ้าจะไปกินจะไปบิ๊กซีวงศ์สว่างมันไกลมากจากที่ทำงาน เลยคิดในใจว่าเป็นวันเสาร์ที่ส.เขาทำงานโอทีดีกว่าค่อยนัดเพราะรถไม่ติด แล้วก็วันเสาร์นั้นก็ไม่ว่าง กะว่าอีกสองเสาร์ค่อยไปวันเสาร์จะเหมาะกว่า รอให้แน่ใจค่อยนัดอีกที เผอิญยังไม่ทันได้กินก็เกิดเหตุการณ์สียก่อน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เออ คุณบอกนั่งรถไฟใต้ดินมา - Beautiful Funday says: แต่ว่าถ้ารถไฟฟ้าถึงเลยก็ได้ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วตรงนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อมาอีกไม่กี่สถานีค่ะ (พี่ส.บอกเพราะเรานั่งรถไฟใต้ดินไม่เป็น) - Beautiful Funday says: แต่ถ้ารถไฟฟ้าแล้วต้องต่อแท้กซี่ที่บ้านเขาไม่ค่อยให้ไปน่ะค่ะ ถ้าจะนั่งแท็กซี่ - Beautiful Funday says: ถึงพี่ส.จะบอกว่าจะไปรับที่สถานีก็ยังคิดว่า ถ้าอย่างนั้นไปเจอวันเสาร์เลยสะดวกกว่าค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะบางทีวันศุกร์พี่ก็ทำงานเลิกไม่แน่ไม่นอน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อันนี้เราไม่ทราบค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่คิดว่ายังไงแฟนคุณก็ไม่ควรมาด่าคนอื่นด้วยเรื่องแค่นี้ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เรายอมรับ เรานิสัยแปลก ไม่ชอบเที่ยวไม่ไปไหน นี่ที่บ้านไปเชียงใหม่กันเราก็อยู่เฝ้าบ้านค่ะ - Beautiful Funday says: อันนี้ถ้าเขาด่าจริงก็สมควรโดนต่อว่าค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่เราไม่เคยไปจุกจิกหรือห้ามพี่ส.ไปไหนค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แค่ดูหนังกะผู้หญิงอื่นเราไม่เคยว่าอยู่แล้ว พี่เค้าไปคาราโอเกะดึก ๆ กะเพื่อนมาไม่รู้กี่หนแล้ว (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไปถามได้เลยค่ะ เราไม่เคยว่า - Beautiful Funday says: ค่ะ อันนี้พี่ก็เชื่อค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะกุยมีเหตุผล ถ้าเพื่อนก็เพื่อน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แต่หนนั้นที่มีปัญหา เพราะมีคนบอกให้พี่ส.ปิดบังไม่ต้องบอกเรา (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เลยไม่พอใจว่าเพราะอะไรถึงเชื่อเพื่อน ทำไมต้องโกหกเรา - Beautiful Funday says: อันนั้นเหตุการณ์ถ้าเท่าที่พี่จำได้ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เปล่าค่ะ ต่อให้เป็นกิ๊กเราก็ไม่ว่า - Beautiful Funday says: พี่บลูไม่ได้บอกให้ปิดค่ะ - Beautiful Funday says: พี่ส.เขาไม่กล้าบอกกุยแกเองค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่ส.บอกพี่บลูบอกค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่ลา ล้าค่ะ ถามไรหน่อยได้ไหม - Beautiful Funday says: แต่พี่ส.เขาถามว่า ไปดูหนังกับเพื่อนคนนี้จะเป็นไรไหม บลูบอกว่า (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เค้าไปคาราโอเกะดึก ๆ ไปตจว.เค้ากล้าบอกเรา - Beautiful Funday says: จะดีเหรอ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ทำไมไปดูหนังตอนกลางวันถึงไม่กล้าบอก (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่คิดว่าแปลกหรือ - Beautiful Funday says: กุยแกลองถามส.อีกทีแล้วกันค่ะ ว่าพี่ธีบอกไหมว่าให้ปิด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เฮ้อ เอางี้ดีไหม ท่าจะคุยกันไม่จบ เพราะมันเกี่ยวกะคุณส.และคุณบลู (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราสองคนไม่รู้ ฟังมาคนละข้างถูกไหมคะ - Beautiful Funday says: เอ้า เล่าต่อ พี่ส.เขาบอกว่าชวนกุยแกแล้วไม่ยอมไป พี่ธีก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไปได้เพราะเป็นเพ่อนกัน - Beautiful Funday says: แต่พี่ไม่รู้ว่า พี่ส.ไปดูหนังโดยไม่ได้บอกกุยแกค่ะ เพราะวันนั้นพี่ไปกินสุกี้กันสองคน - Beautiful Funday says: แล้วก็เพิ่งมาเจออีก 2 คนตอนหลัง แล้วก็กินสเวนเซ่นค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อันนั้นช่างมันเหอะ ถึงจะไปกะเพื่อนกะกิ๊กไรก็ผ่านไปแล้ว เราก็ไม่ได้โกรธ เค้าเรื่องนั้นด้วย - Beautiful Funday says: ยังส่งกระทู้ให้กุยแกดูเลย แล้วกุยแกก็บอกว่า ไหนว่าจะลดความอ้วนไงพี่ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ปัญหาเรื่องชอบเที่ยวหรืออยู่บ้าน ก็เคลียร์กันได้นานแล้วค่ะ ยังไงตอนนี้ก็เลิกกันแล้ว - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถึงจะกลับมาคืนดีกันในอนาคตก็ไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้แน่นอนค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เราน่ะไม่มีใคร แต่พี่เค้าก็มองคนอื่นตามประสาเค้า - Beautiful Funday says: ค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คืองี้นะ เอางี้ดีกว่า ปัญหาตอนนี้คิดว่า เราฟังพี่ส.แม้พี่เค้าไม่ใช่คนโกหกแต่อาจไม่พูดจริงทั้งหมด (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: แล้วพี่ลา ล้าฟังพี่บลูใช่ไหม ซึ่งเราดูจากนิสัยอีกแหละ ไม่พูดจริงแน่นอน (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เพราะฉะนั้นอะไรที่เกี่ยวพันกะสองคนนี้จบไว้ก่อน เอาแค่เรื่องของเรา - Beautiful Funday says: อ้าว เป็นงั้นไป (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ok - Beautiful Funday says: ก็ดีค่ะ - Beautiful Funday says: เพราะเราคงพูดแทนสองคนนั้นไม่ได้ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: สรุป...เวลาโพสกระทู้จะพยายามอย่างที่สุดไม่พาดพิงถึงพี่ละกัน - Beautiful Funday says: เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น คนที่รู้ดีว่าสองคนนั้นพูดอะไร ก็สองคนนั้นแหละ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: อาจมีบ้างที่พูดเรื่องนี้ เพราะเราเคยเจอมาแล้ว แล้วมีคนตั้งกระทู้ก็เล่าตามประสาเรา - Beautiful Funday says: กุยแก หรือพี่ ก็ ฟังมาคนละที - Beautiful Funday says: อ๋อ อืม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าพี่ไม่พอใจหรือไม่สบายใจ พี่มาถามตรง ๆ ไม่ต้องผ่านใคร (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้ากุยเข้าใจผิดกุยจะขอโทษด้วยตัวเอง ขอโทษกะพี่โดยตรง พี่บลูไม่ต้องมาด่ากุยอีก ok ไหม (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ถ้าพี่เข้าใจความหมายในกระทู้ผิด เราก็จะได้อธิบายให้พี่ฟังตรง ๆ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: พี่จะได้เข้าใจใหม่ว่าเราไม่ได้ไปว่าพี่ - Beautiful Funday says: ได้ค่ะ เพราะถ้าพี่เขียนอะไรแล้วกุยแกไม่แน่ใจ ก็ถามพี่ได้เช่นกันค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ตกลงไหมคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ไม่หรอก ถ้าไม่แน่ใจก็ไม่พอใจอยู่ไม่กี่วัน แล้วก็ลืมละ - Beautiful Funday says: เพราะที่ผ่านๆมาถ้ามีก็ขอโทษด้วยค่ะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: มีไม่พอใจพี่อย่างเดียวค่ะ แต่ไม่เกี่ยวกับเรา - Beautiful Funday says: แต่ไม่ได้ตั้งใจ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เรื่องพี่ไปตอบเรื่องลดความอ้วน เกี่ยวกับสูตรแอตกิ้น - Beautiful Funday says: อ้าว แล้วเรื่องไหนคะ - Beautiful Funday says: เอ นานหรือยังคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: คืออันนั้นไม่เกี่ยวกับเราจริง ๆ แต่เห็นไปตอบในกระทู้นึงแล้วสูตรนั้นอันตรายอะคะ พี่ไปตอบประมาณว่าดีใจด้วยที่ลดได้ - Beautiful Funday says: อืมๆๆ อันไหนคะ (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: เล่นเอาเรากลุ้มเลย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: -_-' - Beautiful Funday says: อ๋ออ - Beautiful Funday says: คือตอนนั้นน่ะค่ะ ถ้าจำไม่ผิด พี่ตอบว่ายินดีที่ลดได้ - Beautiful Funday says: แต่ลดแบบนี้นานๆไม่ดี แล้วก็ระวังโยโย่ด้วย (กุยแก) อยากไปเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่เมืองฝางจัง says: ค่ะ กรรม ตามทัน กรรมของความรัก ....
เป็นกระทู้แนะนำในสวนลุมค่ะ
ยาวมากๆจะตัดเฉพาะที่เจ้าของกระทู้เล่านะคะ กรรม ตามทัน กรรมของความรัก //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4341474/L4341474.html ### กรรม ตามทัน กรรมของความรัก 2 ### //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4350940/L4350940.html ### กรรม ตามทัน กรรมของความรัก 3 ### อวสาน //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4357654/L4357654.html ผมมีเรื่องราว อยากจะเตือนใจเพื่อน ในห้องนี้ เกี่ยวกับ การผิดหวังในความรัก แล้วตัดสินใจทำอะไรไป ถึงมันจะมีเหตุผลก็ตาม แล้วมันจะย้อนคืนมาถึงตัวเราเอง ที่ผม เรียกมันว่า "กรรม ของ ความ รัก" จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 04:41:40 ] ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องเริ่มต้น จาก ผมเป็นผู้ชายธรรมดา คนนึง ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสมบูรณ์ อยู่พอตัว คือ พอมีพอกิน พ่อแม่ อยู่กันครบ แต่ พ่อ และ แม่ของผม ประกอบ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ จะอยู่ ต่างจังหวัด ซะส่วนใหญ่ ผมได้รับการสั่งสอนมาให้ดูแล ตัวเอง ผมก็สามารถ ทำอะไรเองตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่า ที่บ้านผม ก็จ้างแม่บ้านเหมือนกัน ซึ่งผิดกับ พี่ชาย และ น้องชายผม ผมทำเองเกือบหมด เช่น ซักผ้า รีดผ้า เอง ถูพื้น เก็บกวาด แต่ผมจะทำเฉพาะ ส่วนที่ผมรับผิดชอบ คือห้องนอนของผมเอง หรือ เสิ้อผ้า ก็เป็นของผมเอง แล้ว ชีวิตผม ก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด คือ สามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้มาตลอด ไปสมัครเรียน ต่อ ม.1 ยันมหาวิทยาลัย เรียนกวดวิชา ตัดสินใจ เลือก คณะ ตัดสินใจเองทุกอย่าง และ ผมก็ได้เจอกับ แฟนคนแรกของผม ตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ปีแรก ซึ่งเธอเองก็ไม่ต่างจากตัวผมเท่าไหร่ ทั้ง ฐานะ และ การเลี้ยงดู คือ สามารถ ช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง แล้วเราก็ตัดสินใจ คบกันเป็นแฟน ซึ่งก็มองดู เป็นแบบ เด็กมหาวิทยาลัย ทั่วๆไป ผมคบกับ แฟนมานานพอสมควร เกือบ 10 ปี ได้ ถ้าไม่ได้มีปัญหากันซะก่อน ปีที่แล้วก็จะครบ 10 ปี จริงๆ ก่อนหน้านี้ ผมวางแผนที่จะแต่งงานกับเธอ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมกับเธอตกลง ซื้อบ้านกันไว้ก่อนที่จะแต่งงาน เพราะว่า บ้านที่ไปจองไว้ เงินดาวน์ ค่อนข้างสูง จึงต้องผ่อนดาวน์ ไปเรื่อยๆ จนบ้านใกล้เสร็จ หรือโอนได้ ซึ่งผ่อนดาวน์ไปไม่ถึงปี ก็มีปัญหาซะก่อน เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อผมต้องหาเงินมากขึ้น เพื่อบ้านที่ตัดสินใจซื้อร่วมกัน จึงต้องหางานทำมากขึ้น ซึ่งก็พอดีกับที่บ้านผม มีโปรเจ็คใหญ่เข้ามาพอดี อยู่ต่างจังหวัด ช่วงนั้นผมก็ต้องขึ้นลงต่างจังหวัด เป็นว่าเล่น ส่วนงานประจำ ซึ่งเป็นงานกะ สามารถที่จะวางแผนลาหยุด ค่อนข้างสะดวก เพราะเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยมีปัญหาอะไร จึงค่อนข้างทุ่มให้กับงานมากๆ ทั้งสองที่ สิ่งที่ตามมาก็คือ ไม่มีเวลาอยู่กับแฟนเหมือนแต่ก่อน แรกๆก็คุยกันว่า มันจะดีแล้วเหรอ เหมือนเราขาดหายเวลาช่วงนี้ ไป ผมก็ได้แต่ปลอดเธอว่า เอาน่า ทนหน่อย คงไม่ถึงปีหรอก ผมลืมเล่าไปว่า แฟนผม ก็ทำงานโรงแรม 5 ดาวแห่งนึง ซึ่ง งานบริการ ก็คงเข้าใจกันนะครับ ว่าเครียดขนาดไหน เวลาเครียด แฟนผมมักอยากจะให้ผมพาไปทำในสิ่งที่เราสองคนชอบ ดูหนัง บางวันที่หยุดพร้อมกัน ดูวันเดียว 4 เรื่องเลยก็เคยมี เมื่อเวลาผ่านไป 3-4 เดือน ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้น แฟนผมเริ่มติดเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เหตุเพราะ เพื่อนๆเข้าใจในปัญหาเพราะทำงานที่เดียวกัน มีเจ้านายคนเดียวกัน คุยกับผมแล้ว ผมไม่ค่อยเข้าใจ ได้ปลอบแล้วก็ให้ทำใจเย็นๆ อย่างเดียว ไม่สามารถ คุยลายละเอียดได้ ผมก็ยอมรับกับเธอตรงๆ ว่าให้ปรึกษาเพื่อนๆบ้างก็ดี จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:00:53 ] ความคิดเห็นที่ 2 และแล้ว มันก็เกิดขึ้นจริงๆ ความใกล้ชิด ของเพื่อนผู้ชายคนนึงในกลุ่มเธอนี้เอง ซึ่งตัวผมเองก็เคยเจอด้วย ซึ่งตอนแรกๆ เธอก็จะเล่าให้ผมฟังหมด ทางโทรศัพท์ ว่าไปไหนมาบ้าง มีปัญหาอะไร แล้วปรึกษาเพื่อนคนไหน เพื่อนๆแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง ขนาดมีข่าวใน ที่ทำงาน ว่าเธอ กับเพื่อนผู้ชายคนนั้น เป็นกิ๊ก กัน เธอก็ยังขอร้องให้ผมเป็นคนไปยืนยัน กับแฟนของเพื่อนผู้ชายคนให้หน่อย ผมเองก็ตอบตกลง แต่ด้วยความไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยไม่ได้ไป เพราะว่าไม่ได้นัดกันอย่างจิงๆจังๆ จนเรื่องก็ผ่านไป หายไปเฉยๆ หลังจากนั้น ก็พบว่า เธอก็เครียดขึ้นมากขึ้นทุกๆวัน จนบางครั้งผมทนไม่ได้ ต้องลงมาจากต่างจังหวัด เพื่อไปหาเธอที่บ้าน แล้วเธอก็ดีขึ้น แต่ก็ยังมีเหตุการณ์อย่างนี้ อีกเรื่อยๆ จนเธอเริ่มไปเที่ยวกลางคืนมากขึ้น กับเพื่อนกลุ่มนี้ และก็มีเพื่อนผู้ชายเธอคนนี้ไปด้วยทุกครั้ง แต่เธอก็จะรายงานผมตลอดว่า ไปเที่ยวที่ไหน ใครไปบ้าง พอเธอไปเที่ยวบ่อยขึ้น ก็ไม่ค่อยกลับบ้าน บอกว่า ไปค้างหอเพื่อนผู้หญิงคนโน้นที คนนั้นที แรกๆ ผมก็เชื่อใจ เพราะรักเค้ามาก และก็ยังเชื่อมั่นในความรักของแฟนที่มี่ต่อ ผม ก็เลยไว้ใจ แต่ทางบ้านของเธอก็โทรมาบ่นกับผม ให้ช่วยพูดให้หน่อยว่า อย่าไปนอนที่หอเพื่อนบ่อยๆ เกรงใจเพื่อนบ้าง แต่เธอก็อ้างว่า เค้าสนิทกันมากแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ผมก็ยังเชื่อใจเธอ พองานที่ต่างจังหวัดของผม เริ่มที่จะเบาลง ใกล้จบแล้ว ผมก็มีเวลามากขึ้น ก็เลยจะกลับมาใช้เวลากับ เค้าให้มากขึ้น แต่ก็พบว่า เธอก็จะให้เหตุผลว่า ติดเพื่อนไปแล้ว แต่ก็จะพยายามกลับมาเหมือนกัน เพราะเราก็วางแผนกันไปไกลแล้วเหมือนกัน จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:12:49 ] ความคิดเห็นที่ 3 แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีก เธอก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย ไม่กลับมาเหมือนก่อน ทั้งที่ ผมไม่ต้องไปต่างจังหวัดแล้ว ผมเริ่มเกิดความสงสัย เลยขอไปเที่ยวมั่ง เธอก็ให้มาเลย ผมก็ไปบ้าง ไม่บ้าง แล้วแต่โอกาส แต่ว่าทุกครั้งที่ผม ไปเที่ยวกลางคืนกับเธอ ก็จะไม่เจอผู้ชายคนนั้น แรกๆก็ไม่ค่อยสังเกต มานึกได้ตอนหลังที่จะรู้ความจริง ความมีพิรุธก็เกิดขึ้น เมื่อเธอเริ่มไม่กลับบ้านบ่อย ทำอะไรตามใจตัวเองบ่อยๆ แม้เรื่องงานของเธอก็ยังมีปัญหาอยู่ดี จนในที่สุด ก็ทะเลาะกัน เรื่องไม่ค่อยกลับบ้าน ผมได้คุยกับที่บ้านเธอ ก็เครียดจนผมต้องพูดกับเธอจริงๆจังๆ แต่เธอเองก็โตพอที่จะบอกว่า เธอดูแลตัวเองได้ อย่าทำเหมือนเธอเป็นเด็ก ประมาณนั้น เหตุการณ์เริ่มแย่ลง วันนึงผมชวนเธอไปดูหนัง เธอก็ไป โดยวันนั้น รถผมไม่ว่าง จึงต้องใช้รถบ้านเธอ ซึ่งก็ตกลงว่า ดูหนังเสร็จผมก็ไม่อยากให้เธอขับรถกลับบ้านคนเดียว จึงบอกว่า จะไปนอนที่บ้านเธอ คือ กลับบ้านเธอพร้อมกันเลย ผมคบกับเธอแบบ เข้านอกออกในบ้านเธอได้สบาย ที่บ้านเธอยอมรับผมมาตั้งนานแล้ว แต่แล้ว ในโรงหนังมีโทรศัพท์ เข้ามา ซึ่งผมบอกให้เธอปิดโทรศัพท์ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะเปิดสั่น แล้วก็มีโทรศัพท์เข้ามา เธอก็จะเดินไปรับข้างนอกโรง ผมจึงคิดว่า มันต้องไม่ธรรมดา แล้ว จึงตัดสินใจคุยกับเธอ หลังจากหนังจบ แต่เธอไปไวกว่าผมอีก เธอบอกให้ผมกลับบ้าน เธอจะไปหาเพือนเธอ เพื่อนเธอกำลังมีปัญหาอยู่ ผมอึ้งเลย อึ้ง โครตๆ ผมเลยบอกว่า มีปัญหาอะไรมากขนาดนี้เลยเหรอ มีอะไรให้ช่วยมั้ย ผมกับเธอจะเป็นคนที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอ ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ไม่ค่อยจะก้าวก่ายเรื่องของแต่ละคน ส่วนใหญ่จะบอกกันออกมาเอง ไม่ต้องถามกัน แต่ เธอกลับให้เหตุผลว่า ผมไม่เข้าใจหรอกไปก็ไม่มีประโยชน์ อะไร ให้เค้าจัดการปัญหาของเค้าเอง แต่ขอร้องให้ผมกลับบ้านเถอะ แล้วเธอจะโทรไปหา จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:25:54 ] ความคิดเห็นที่ 4 ความรู้สึก งง มึน ทำให้ผม ไม่ได้คิดอะไร ได้แต่ลงรถแล้วปล่อยให้เธอขับจากไป แล้วก็โบกมือเรียกรถแท็กซี่ แบบไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน "พี่ พี่ครับ ไปไหนครับเนี่ย" "อุ้ย ลืมไป ขอโทษที ครับพี่ ไป........................." มันมึนครับ มึนมาก ว่าเรื่องมันได้เกิดขึ้นกับผมแล้ว หลังจากเหตุการณ์ที่โรงหนัง ผมก็เลยจำเป็นต้องสืบเรื่องราวเอง โดยที่ก็ยังเกรงใจ แฟนอยุ่ว่า ถ้ารู้ว่าเราสืบ เธอต้องไม่พอใจ และหาว่าผมไม่ให้เกียริตเธอแน่นอน แต่ผมก็ต้องทำ ก็เริ่มโทรไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงบางคนของเธอที่ผม พอจะรู้จักบ้าง แต่ทุกคนก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่มีอยุ่คนนึง บอกออกมาแบบน่าสงสัย จากนั้นมา ผมก็ยังไม่สืบอย่างเชิงลึก ตัดสินใจ ถามจากปากของแฟนผมก่อน ว่ามันมีอะไรมากเกินไปหรือยัง เพราะยอมรับ ว่าตอนนั้น ยังมีความเชื่อใจแฟนอยู่ ว่ามันอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่เค้าต้องทำอย่างนี้ เพราะตลอดเวลาที่คบกันมา ทุกๆอย่าง จะทำอย่างมีเหตุและผล และคุยกันมาตลอดทุกๆเรืองจริงๆ ผมลืมบอกไปครับ ว่า โทรศัพท์ที่เธอใช้นั้น เป็นชื่อผม ผมสามารถขอลายละเอียดการโทรได้ตลอด แต่แรกๆ ผมก็ยังไม่ทำ พยายามทำทุกสิ่งให้มันดีขึ้นดีกว่า พูดคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า แต่แล้วก็ไม่ได้คำตอบที่มีเหตุผลเหมือนแต่ก่อน จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:36:43 ] ความคิดเห็นที่ 5 จนผมทนไม่ไหว จึงตัดสินใจ ต้องสืบแล้ว ผมโทรหาเพื่อนผู้หญิงคนนึงที่ตอบอย่างน่าสงสัยในวันนั้น ซึ่ง เธอก็ยอมบอกทุกอย่างกับ เพราะเธอยอมรับว่า ไม่แน่ใจเรื่องแฟนผมเหมือนกัน ว่าจะเป็นจริงหรือป่าว ที่เค้าเป็นมากกว่า กิ๊กกันแล้ว เพราะตัวเพื่อนเองก็รับรู้เรื่องราวของผม กับ แฟนตลอด ว่าวางแผน ซื้อบ้าน แต่งงาน เป็นรูปเป็นร่าง จริงๆ เธอยอมเล่าทุกเรื่องที่ผมถาม ผมถามว่า ไปเที่ยวกันมีผิดสังเกตบ้างไหม ก็ตอบว่า ก็มีบ้าง แบบแซวกันเล่นๆ ประมาณนี้ แต่ในกลุ่มก็เริ่มมีสงสัยกันบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดกันออกมา ส่วนเรื่องไปนอนหอเพื่อนเนี่ย ก็มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่เค้าไปนอน บ่อยมาก แต่ว่ามันเป็นหอเดียวกับที่ อ้ายเพื่อนผู้ชายมันนอนนะสิ เพราะตอนกลับจากเที่ยวทุกครั้ง ก็จส่งกันแค่ข้างล่างหอ จะขึ้นไปสามคน แล้วก็ไม่รู้ว่า ใครนอนห้องไหนกันบ้าง ผมจึงโทรไปหา เพื่อนผู้หญิงที่อยู่หอเดียวกัน ในวันที่แฟนผมไม่กลับบ้าน ก็ได้คำตอบที่กุกๆกักๆ ว่ายังไม่ได้เค้ามาเลย วันนี้ ตัวเค้าเองไม่ได้ไปกับพวกเพื่อนๆ พอมาถึงตรงนี้ ผมจึงเชื่อไปกว่า 50% แล้ว ด้วยความที่เป็นคนไม่เชื่อข่าวลือมาก่อน ต้องหาคำตอบด้วยตัวเองก่อน จึงจะเชื่อ เลยลอง ถามกับเพื่อนผู้หญิงคนแรก ว่า เค้าคิดว่า เป็นจริงใช่มั้ย เค้าก็ตอบว่า น่าจะสัก 80% ขึ้นไป ความเศร้าเข้ามาเยือน เพราะ ว่า ขนาดเพื่อนเค้าเอง ยังเชื่อขนาดนี้ ความเสียใจหลั่งไหลเค้ามา คิดกับตัวเองมากเลยว่า สิ่งที่ทำที่เหนื่อยมากๆนี่ เพื่อเราทั้งสองคนนะ ทำไมทำกันอย่างนี้ มันมีเหตุผลอะไร จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:47:50 ] ความคิดเห็นที่ 6 ความน้อยใจ ความอ่อนแรง กำลังใจ หายไปหมด ที่เข้ามามีแต่คำถาม คำถาม แล้วก็ คำถาม ว่าทำไม อย่างโน้น อย่างนี้ ผมทนไม่ไหว จึงถามเธอตรงๆ เลย ว่ามีอะไรกับเค้าแล้วใช่ไหม ก็ยังปากแข็ง (ลืมบอกไปว่าผมตกลง กับเพื่อนผู้หญิงของแฟนผมว่า ไม่ต้องไปพูดกับแฟนผมหรือใครก็ตามในกลุ่ม ผมต้องการให้ เธอพูดออกมาจากปากของเธอเอง แล้วผมก็จะไปบอกว่า ผมมาถามข้อมูลจากเพื่อนเธอเอง) บอกว่า ไม่มีอะไร เป็นแค่ เพื่อนที่สนิทมากๆ เลย ในกลุ่ม สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องเลย อยากให้ผมเข้าใจเธอด้วย สำหรับผม ยังไง เค้าก็จะแต่งงานกับผมแน่นอน ให้ไว้ใจเธอ ตัวผมเองยอมรับว่า ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป รู้สึกหมดแรงจริงๆ จึงต้องตัดสินใจ ขอข้อมูลโทรศัพท์ มาดู แล้วก็พบว่า บางทีไม่ต้องได้ยินจากปากของเธอก็ได้ ข้อมูลโทรศัพท์มันก็ฟ้องแล้ว เพราะผมรวมเวลาการโทร เบอร์ที่บ่อยที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นเบอร์ผม แต่กลับเป็นเบอร์ของ "คนนั้น" เฮ้ออออออออออออออออออออออออออ จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 05:59:40 ] ความคิดเห็นที่ 26 ต่อจาก ที่ผมเสียใจ กับการเช็ค การโทรของแฟนผมอยู่นั้น มันเจ็บปวดมากๆ ไม่อยากจะพูดเรื่องราวนี้ ให้กับใครฟัง ไม่ว่าจะที่บ้านของเธอ ที่บ้านของผม เพื่อนๆสมัยมหาวิทยาลัย ที่สนิทกัน ทั้งกับผมและ แฟนมากๆ เหตเพราะ ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แฟนผม ค่อนข้างเพื่อนน้อยมากๆ (เพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับแฟน) ส่วนใหญ่แฟนผมจะอยู่กับผมตลอด แล้วก็จะสนิทกับเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับผม แล้วเธอเองก็ยอมรับว่า อยากเจอเพื่อนอย่างนี้มั่ง เพราะว่าเพื่อนเธอที่เรียนด้วยกัน ดูเหมือนคบกันเพียงผิวเผิน ผมเองก็ไม่เป็นไร ก็ให้สนิทกับเพื่อนผมไปเลย บางคนจะสนิทกับแฟนผม มากกว่า ผมเสียอีก บางครั้งเพื่อนผมโทรมาหาผม แต่ถามว่า แฟนผมอยู่ไหนจะคุยด้วย ผมก็ยังงงๆเลย แต่ก็ไม่มีอะไร เพราะเพื่อนผมที่สนิทกับแฟนผม จะเป็นผู้หญิงด้วยกัน ผมก็เข้าใจในการที่เธอได้เจอกับเพื่อนกลุ่มนี้ ซึ่งคล้ายๆกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของผม ผมจึงยอมให้แฟนผมมีเวลากับเพื่อนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ผมเองก็ยอมรับว่า รักแฟนผมมาก ถ้าหากจะเป็นอย่างนั้นที่ผมคิดจริงๆ ผมคงอยากจะเก็บมันไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครรู้ จนกว่าความจริงจะบอกของมันเอง ด้วยความที่ต้องอยู่คนเดียว ค้นหา สืบเรื่องราวว่าเป็นมาอย่างไร ก็ทำให้เครียดหนัก งานการก็ไม่เป็นอันทำ แต่ดีหน่อย เพราะว่างานประจำที่ผมทำอยู่ มันเป็นงาน รูทีน คือประมาณว่า แบกอัพข้อมูล ค้นหาข้อมูลให้กับลูกค้า อะไรประมาณนี้ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่นัก นี่ถ้าผมเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ ทำงานที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลามากกาว่างานที่ทำอยู่แล้วละก็ ผมคงต้องไปเช็คสมองแน่ ทำให้ผม ตัดสินใจ เที่ยวครับ พร้อมกับสืบไปเรื่อยๆ แต่ผมบอกกับตัวเองว่า ถึงจะสืบจนเจอคำตอบแล้ว ว่ามั่นใจ 99.99 % ผมก็จะต้องได้ยินจากปากของเธอ ถึงจะยอมจบเรื่องราว ไม่ว่าจะให้อภัยเธอหรือไม่ แต่เธอต้องบอกกับผมเอง แต่นี่แหละครับ จุดเริ่มต้นของ กรรมของความรักที่ผมตั้งเป็นชื่อเรื่อง จุดเริ่มต้นที่ผมตัดสินใจ ปล่อยตัวไปเที่ยวเล่น เมาไปทุกๆที่ มีเพื่อนเก่าบ้าง ใหม่บ้าง เจอกันที่เที่ยวบ้าง เพราะผมรู้สึกว่า ถ้าผมจะเที่ยวบ้างเพื่อหาความสุข มันก็เป็นสิทธิของผมแล้วที่สามารถทำได้ จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 14:57:26 ] ความคิดเห็นที่ 27 แล้วผมก็มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิต จากที่ไม่เป็นคนเจ้าชู้มาก่อน เพราะรักเธอมาก เพื่อนสมัยเรียน เคยชวนไปเที่ยว อาบอบนวด ยังปฏิเสธ ไปง่าย ๆ เหตผลเพียงแค่ ผมรักแฟนผม ไม่อยากให้เธอเสียใจ เพราะผม ไม่ค่อยปิดบังอะไรเธอ อยู่แล้ว จะบอกทุกๆอย่างกับเธอ แต่ด้วยการที่ผม ไม่เคยเป็นคนเจ้าชู้มาก่อน ผมก็เลยไม่ได้เป็นคนเข้าหาผู้หญิงก่อน แรกๆ จะมีผู้หญิงเข้ามาก่อน ผมก็ตามน้ำไปเรื่อยๆ จนมีความสัมพันธ์ อย่างที่เข้าใจ ที่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ด้วยเพราะเหตุผล ที่เธอทำกับผมได้ แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้ ผมก็เลยคิด ประชดไปเลย แล้วกับที่ผม เป็นคนที่ทำอะไรด้วยตนเองมาตลอด มีปัญหาก็จะแก้ปัญหาด้วยตนเองตลอด ที่บ้านผม จะรับรู้เฉพาะสิ่งที่ผมทำอยู่ ปัญหาของผมจะไม่ได้เล่าให้ที่บ้านฟัง ผมคิดว่า ผมแก้ปัญหามันได้ บวกกับ ผมไม่อยากเล่าให้เพื่อนๆ ฟังด้วย ก็เลยทำให้ตัดสินใจอะไรไปง่ายๆ จากที่แรกๆ ผู้หญิงเข้ามาเอง แล้วก็ผ่านไป ต่อมา ก็เป็นผมเองที่เข้าไปหาบ้าง แล้ว คนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แล้วผมก็ป้องกันทุกคน และหนึ่งในนั้น ก็มีผู้หญิงคนนึงที่ หน้าตาค่อนข้างดี หน้าที่การงานก็ใช้ได้ ซึ่งผมเห็นเธอมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจ ด้วยเหตผล ของความรักของผม และ เธอเองก็มีคนจีบเยอะเหมือนกัน เพราะว่า เธอทำงานที่เดียวกับผม ด้วยความที่ผมไม่ได้คิดมากอะไร ก็เลยลองหยอดดูว่า เธอจะสนใจคนอย่างผมบ้างหรือเปล่า โดยแรกๆ ยอมรับว่าไม่ได้ จีบหรอก ถ้าเธอไม่ได้สนใจ ผมก็จะไม่สานต่อ แล้วผมก็ทำกับผู้หญิงทุกคนอย่างนี้ ทุกคนที่ผ่านเข้ามา เพราะผมเป็นคนไม่ชอบตื้อ แต่ว่า เธอเอง (ผมขอเรียกเป็นนามสมมุติว่า "กิ๊ก" ละกัน) ก็ให้ความสนใจผมอยู่เหมือนกัน ผมเองก็ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากที่จริงๆ แล้วกิ๊กเองก็มีปัญหา เรื่องความรัก และครอบครัว เธอเอง แต่ว่า กิ๊กเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 15:19:26 ] ความคิดเห็นที่ 28 จนเมื่อเริ่มคุยกัน ก็เปิดอกกัน ทุกเรื่อง เพราะว่าเราก็โตๆกันแล้ว แต่ว่า กิ๊กจะอายุน้อยกว่าผม ประมาณ 4-5 ปี เห็นจะได้ โดยเฉพาะ เรื่องความรักของเธอ และของผม ก็คือแลกเปลี่ยนกัน ตัวเธอเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนที่จะคุยได้ลึกซึ้งเท่าไหร่ และเธอเองเป็นคนนิสัยไม่ค่อยชอบพูดเรื่องปัญหาของตัวเองให้ใครฟัง ซึ่งมันตรงกับนิสัยผมอยู่พอดี แต่เมื่อได้ไปเที่ยวกันแรกๆ กิ๊กเองก็ยอมรับว่า งง มากที่ผมเข้าไปชวนเธอ เริ่มอยากที่จะรู้จักเธอ เพราะเธอเองก็เห็นผมมานานแล้ว แต่ไม่เคยคุยกันเลยสักคำพูดเดียว แม้แต่มองหน้าทักทาย จนเธอก็ยังบอกว่า ผมเพิ่งเข้ามาทำงานหลังจากเธอ หรือเปล่า แต่จริงๆ ผมทำงานก่อนเธอประมาณ 3 ปี แล้ว เธอเพิ่งเข้าทีหลังผมเอง แต่เธอก็ทำงานมาได้ 1 ปีแล้ว ไม่รู้ว่างง กันหรือเปล่า จากนั้น ความสัมพันธ์ก็เริ่มมีมากขึ้น จากที่ไปเที่ยวกลางคืนกัน บ่อยๆ ก็มีไปดูหนัง ฟังเพลงบ้าง แต่ผมก็ยังงง กับตัวเองเหมือนกันว่า ผมเองเป็นคนธรรมดา หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไร แต่ก็ไม่น่าเกลียด แต่ทำไมเธอให้ความสำคัญกับผมมาก กว่าที่ผมได้รับ จากผู้หญิงคนอื่นๆ เสียอีก อาจเป็นเพราะ เราคุยกันทุกเรื่อง นิสัยตรงกันมาก ในขณะนั้น ผมเองก็ยังมีผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาแล้วยังไม่ผ่านไป ซึ่งกิ๊กเองก็ยังคงมีคนมาจีบเธอ ค่อนข้างเยอะ แรกๆ ผมก็ไม่ได้เล่าเรื่อง ผู้หญิงอื่นๆ ให้กับเธอได้ฟัง เพราะผมก็ไม่ได้คิอะไรกับเธอมาก คิดว่าจะเก็บเธอไว้เป็นเพื่อน คุยเรื่องปัญหา ของผม เพราะผมไม่ได้คุยให้ใครฟังเลย ยกเว้น กิ๊กคนเดียว แต่แล้ว มีอยู่คืนนึงที่เธอรู้สึก เครียด กับเรื่อง แฟนของเธอ ก็เลยอยากไปเที่ยว ก็โทรชวนผมออกไป พอดีผมกำลังจะไปกับเพื่อนผมอยู่แล้ว (เพื่อนผู้ชาย ที่ทำงาน) แล้วผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ว่าดูเหมือนเธออยากจะไปกับผมมากๆ โดยไม่สนใจว่าผมจะไปกับใคร หรืออยู่กับใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิงก็ตาม จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 15:33:13 ] ความคิดเห็นที่ 29 โดย ตัวกิ๊ก ผมก็ยอมรับว่า มีข่าวกับคนที่ทำงาน เยอะเหมือนกัน แต่กิ๊กเองก็บอกว่าเป็นแค่ ข่าวลือ ผมก็เชื่อนะ เพราะจากที่คุยกันแล้ว ด้วยตัวเธอจะมีแต่ผู้ชายเค้ามาคุย เยอะมากๆ บางคนก็คุยแบบเพื่อน บางคนก็คุยจีบ เธอเองก็ไม่ได้ ปฏิเสธไปทุกคนหรอก เพราะกิ๊กเอง ก็ยอมรับว่า อยากจะคุยเล่น แก้เหงาไป ก็เลยเป็นข่าวเยอะหน่อย แรกที่ไปเที่ยวกับผม กิ๊กจะระวังเป็นพิเศษ กับข่าวที่เกิดขึ้น ไปกับผมทีไร ต้องถามให้ละเอียด ว่ามีคนที่บริษัทไปไหม ไปที่ไหน ย่านที่ใกล้ที่บริษัทหรือป่าว เพราะกิ๊กเริ่มเบื่อข่าวที่ไม่เป็นจริงแล้ว เธอก็เคยปรึกษาผมอยู่เหมือนกันในเรื่องนี้ ผมก็โอเค พยายามระวังให้เธอ บางทีนัดกันไปดูหนังหลังเลิกงาน ผมยังต้องขับรถไปรับเธอ อีก 2 ป้ายรถเมล์ เลย ขนาดนั้น แต่ว่าคืนนั้น ดูกิ๊กจะซีเรียสมาก ผมก็ตามใจ เธอ ทั้งที่บอกว่ามากับเพื่อนที่ทำงาน แต่ว่าไปกันแค่สองคนเท่านั้น กิ๊กก็ยืนยันที่จะไปด้วย ผมก็ไปรับเธอที่บ้าน แต่ว่ายังไม่ได้เข้าบ้าน เพราะตอนนั้น ผมยังไม่รู้จักเธอมากถึงขนาดเข้าบ้านเธอได้ มันเป็นเพียง ผิวเผิน เท่านั้น จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 15:39:58 ] ความคิดเห็นที่ 44 ครับ ผมก็ไปรับกิ๊กที่บ้าน โดยจอดรถรอ แล้วให้เธอออกมาเอง ซึ่งเธอก็อย่างว่า นะครับ เธอสวยอย่างที่เพื่อนผม อึ้ง เพราะทุกครั้งเพื่อนผมจะเห็น กิ๊กเฉพาะในชุดฟอร์มที่ทำงานเท่านั้น แต่เวลาออกเที่ยวกลางคืน เธอจะเป็นอีกคน ซึ่งตรงนี้ ทำให้ผมเริ่มประทับใจเธอ ต่อจากเรื่องนิสัยใจคอ และหน้าตา เราก็ไปเที่ยวกัน สามคน เพื่อนผมเอง ก็มีท่าทีที่แปลกไป ตามประสาผู้ชายที่เจอ ผู้หญิงที่น่าสนใจคนนึง ยิงคำถามต่างๆกับ กิ๊ก โดยไม่เกรงใจผมเลย ผมเลยต้องเบรก นิดหน่อย ก่อนที่เพื่อนผมจะคิดไปไกลกว่านี้ เรียกว่า แสดงความมาก่อนให้มันได้เห็น ตอนนี้ ผมเพิ่งรู้ตัวว่า นิสัย เจ้าชู้แบบผู้ชายของผม มันมาจากไหนเนี่ย ที่ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่มีให้เห็น หรือมันจะเป็นเพราะ จิตใต้สำนึกของคนเราเอง แล้วผมก็คุยกับ กิ๊กกันไปในรถ อย่างสนิทสนม ทำให้เพื่อนผม เริ่มเข้าใจ ความสัมพันธ์ ของผมทั้งสองคน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมารับ กิ๊กนั้น ผมไม่ได้บอกเพื่อนผม เพราะถือว่า ฉุกเฉิน พอสมควร ไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วเราทั้งสามก็เลือกร้านที่จะไปเที่ยวกัน เปรียบที่โน่น ที่นี่ต่างๆ นานา และแล้ว ก็ไปถึงที่หมาย ผมก็ไม้ได้ ถามไถ่ กิ๊กถึงปัญหาที่เธอ เครียดๆอยู่ แต่ผมก็พอจะรู้อยู่เหมือนกัน เพราะได้คุยกันมาก่อนหน้านี้ แล้วสักระยะ เพราะว่า เวลาที่ผมไปทำงานที่เป็นเวลา ปกติ (เพราะผมจะทำงานเป็นกะ บางกะ จะเป็นเวลาคาบเกี่ยวกับการทำงานปกติ ของ office คือ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ) จะคุยกันด้วยสายภายในกันตลอด ครั้งนึงก็ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชม. จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 20:37:55 ] ความคิดเห็นที่ 45 ซึ่ง ปัญหา ของเธอ หลักๆ ณ ตอนนั้น ก็คือเรื่อง ความรัก นั่นเอง คือ แฟนของเธอ ห่างเหินเธอไป ติดเพื่อน ติดเกม ไม่ค่อยสนใจเธอเท่าแต่ก่อน ที่คบกันใหม่ๆ ซึ่งเธอเองก็สับสน ว่า แฟนเธอมีคนใหม่หรือป่าว แต่เธอก็มีความเชื่อว่า ไม่ใช่ เพราะเธอเข้าใจนิสัย แฟนเธอดี ความเป็นเด็กยังมีอยู่เยอะ เอาแต่ใจตัวเอง แบบเด็ก เป็นส่วนที่ทำให้ เธอค่อนข้างจะ สับสนในความรักของเธอ เพราะว่า เธอสามารถที่เลือกคนที่สามารถ ดูแลเธอได้มากกว่า แฟนเธอ แต่ด้วยสำนึกของตัว กิ๊กเอง และความรักที่มีต่อแฟนเธอ ก็ยังทำให้เธอลังเล จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 20:58:56 ] ความคิดเห็นที่ 51 ผมก็เลย ปล่อยให้ความสนุก เข้าช่วยให้ กิ๊กคิดกับมันมากนัก ผมรู้ว่า เธอต้องการอะไร ณ ตอนนี้ ก็เหมือนกับที่ผม ต้องการเหมือนกันครับ ผมขอ ท้าวความ ตอนเป็นเด็กของตัวผมหน่อยแล้วกัน สมัยเรียน มหาวิทยาลัย ว่าผมนั้น มานั่งมองตัวเองย้อนกลับไปแล้ว ก็พบว่า เป็นคนที่จริงจัง กับชีวิต ตัวเองเกินไป ชอบวางแผนชีวิต ว่าจะต้องตามนั้น ตามนี้ แต่มันก็ไม่ได้สูงเกินตัวเองไปนักเท่าไหร่ ซึ่งก็จะมีแฟนเป็นที่ปรึกษา แค่ที่ปรึกษา เท่านั้น ส่วนการตัดสินใจ ผมจะตัดสินใจเอง แค่ได้รับความคิดเห้นจากแฟน ผมเท่านั้นเอง ซึ่งความเป็นคนร่าเริงก็ไม่ค่อยจะได้มี จะมีก็แต่ตอนอยู่กับเพื่อนๆ ซึ่งจะไม่ใช่ผมที่เป็นคนนำด้านนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนมากกว่าที่ชอบทำตัวสนุกสนาน ส่วนพอเจอเรื่องซีเรียส อะไร ที่ต้องทำด้วยกันในกลุ่ม เพื่อนๆทุกคนก็จะวางใจ ให้ผมเป็นผู้นำ ตลอด ซึ่ง ณ ตอนที่ผมได้เริ่มคุยกับ กิ๊กนั้น ก็คุยกันถึงว่า อาจจะเป็นปัญหานี้ ก็ได้ ที่ผมจริงจังกับชีวิตมากเกินไป หรือป่าว ที่ทำให้ แฟนผม ไปติดอยู่กับกลุ่มเพื่อนเค้าที่มีความสนุกสนาน เหมือน กลุ่มของเพื่อนผมสมัยเรียน ผมเลยให้คำตอบกับตัวเอง และ กับ กิ๊ก ว่า ผมจะลองเปลี่ยนตัวเองเพื่อหาคำตอบดู ผมลองทำตัวให้สนุกสนาน มากขึ้น หัดเล่นมุก หัด ขำ ขำ บ้าง แรก ๆ ก็ฝืนๆ เหมือนกัน แต่ก็ขำตัวเองเหมือนกัน ไม่เคยนึกว่าจะมาพูดอะไรอย่างนี้ ประมาณ เวลา จีบสาว ก็เอาคำพูด เน่าๆ ขำๆ มาชูนำ ให้เป็นสะพานไปเพื่อสานความสัมพันธ์ ต่อ อะไรประมาณนี้ จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 22:13:45 ] ความคิดเห็นที่ 52 ซึ่ง เวลาที่ผมไปเที่ยว ผมก็จะทำตัวอย่างนั้น ตลอด จากที่เป็นคน ฟังแต่ดนตรี ร็อค อย่างเดียวเท่านั้น เพราะว่าเป็นคนเล่นดนตรีด้วย จะเกลียด และ ไม่ฟัง เพลง แดนซ์ เลย แต่เดี๋ยว นี้ ได้ยิน hip hop ที่ไร สะโพกมันโยกเองอัตโนมัติ เลย ก็ยังแปลกใจตัวเองเหมือนกัน แต่ผมค้นพบคำตอบ ของมันว่า ใช่แล้วหละ ที่เราเป็นคนซีเรียส เกินไป วางแผนอะไรแล้วทำให้ได้ มันเป็นสิ่งดี ที่คนทุกๆคนควรจะทำ แต่มันจะขาดสิ่งปรุงแต่งด้วยความสนุกสนาน ไป เหมือน ขาดน้ำจิ้ม ขาดเครื่องปรุงประมาณนั้น เพราะ กิ๊กเองก็บอกว่า เวลาผมสนุกสนาน ผมน่ารักมาก จนเธอพูดอะไรบางอย่างไม่ออกเหมือนกัน แล้วคืนนั้น เองที่กิ๊ก ก็เริ่มเมา ด้วยความซีเรียส หรือสนุกไปกับ ผม ก็ไม่ทราบ จูบ แรก ก็เกิดขึ้น กลางผับในคืนนั้น ความรู้สึกของผม นั้น ตกใจมาก เพราะเป็น กิ๊กเองที่เหมือนว่า จะเป็นคนที่พยายามเต้นเข้ามาใกล้ผมทุกที จนเกาะเอวผมเต้น แล้วหน้าเราก็ใกล้กันใกล้กัน ผมก็เบี่ยงบ้างแรกๆ เธอเองก็เบี่ยงบ้าง จนระยะเวลานึง ผมเองก็ใจเต้น เพราะว่าไม่ได้คิดจะทำอย่างนี้ตั้งแต่แรก แล้วหน้าเราก็หยุด ในท่ายืนที่ตรงกัน ผมมองตาเธอ เธอมองตาผม เหมือนต่างคนต่างถาม แต่ไม่มีคำพูดใด หลุดออกมาจากปากแต่ละคน แล้ว กิ๊กกับผม ก็ค่อยเอียงหน้าเล็กน้อย พร้อมๆกัน เพื่อ ประกบปากกัน ช่วงเวลานั้น ผู้ไม่รู้สึกถึงเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ผับเลย เหมือนผมยืนอยู่กันแค่สองคนจริง ซัก 1 นาทีได้มั้ง ผมก็ผละตัวออก เพราะเหมือนผมฉุกคิด ถึงความคิดแรกที่มีต่อ กิ๊กว่า จะเป็นเพื่อนคุยกันไม่ใช่เหรอ แล้วผมก็มองหน้าเธออีกครั้ง หน้าเธอแดงกล่ำ ตาเริ่มเบรอ เหมือนคนเมา "กิ๊ก ไหวมั้ย อยากอ้วกหรือป่าว" "ป่าว อยากทำอย่างอื่น ม่ายช่าย 5 5 5 " ผมคิดในใจ เมาชัว "กลับมั้ย ไม่ไหวแล้วอ่ะ" "ยัง ยัง ยังสนุกอยุ่เลย แป๊ปนีง " จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 22:26:24 ] ความคิดเห็นที่ 54 เมื่อผับใกล้เลิก ผมเห็นเธอ เริ่มเต้นเป๋ๆ แล้วด้วย ก็เลยไม่ถามเธอแล้ว ก็กระซิบข้างหูเพื่อนผมว่า เฮ้ย ท่าทางไม่ไหวหวะ กลับเหอะ เพื่อนก็ได้แต่พยักหน้า เหมือนงง ๆ อะไรบางอย่าง แล้วผมก็ถือกระเป๋าของ กิ๊ก แล้วก็จูงมือเธอ ออกมาจากผับ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ที่ผมจับมือเธอ พอเดินออกจากผับ เธอก็เหมือนเดินไม่ไหว ทำเหมือนเป๋ไปเป๋มา แล้วก็ อ้วกใต้ต้นไม้ไปหนึ่งดอก ส่วนผมก็พยายามพยุงเธอแล้วก็ ลูบหลังเธอให้ แต่ก็ยอมรับว่าตัวผมเอง ก็มึนๆเหมือนกัน เพราะเวลาผมก้มไป เสยผมให้กับกิ๊กนั้น เหมือนหน้ามืดวูบเหมือนกัน พออ้วก เสร็จ ผมก็หิ้วปีกเธอขึ้นรถ โดยนั่งข้างหล้ง ส่วนเพื่อนผม ก็ทำหน้าตาเหมือน ไฟโด้ ดีโด้ หน้างงๆ นั่นแหละ "เฮ้ย เพื่อน กรูนั่งข้างกลังมรึงไม่ว่านะ กิ๊กเค้าไม่ไหวหวะ " "เออ ไม่เป็นไร แค่รู้สึก เหมือนเป็นกระดูก หรือไม่ก็เจ้าของกระดูก กำลังขับรถให้เจ้านายอยู่ แค่นั้นเอง" "อ้าว เฮ้ย พูดอย่างนี้ คิดมากนี่หว่า เป็นอะไรมากป่าวว่ะ" "ป่าว ป่าว ย้อเย่น" ผมตั้งใจว่าจะไปส่งกิ๊กที่บ้าน ก่อน แล้วค่อยว่ากัน ยังคิดไม่ทันเสร็จ เธอก็ส่งเสียงดังขึ้นมา เหมือนคนเมา ไม่ใช่สิ คนเมาแล้ว "ทำไม่ ยังไม่เลิกเลย ออกมาทำไม พี่" "เลิกแล้ว เค้าเปิดไฟแล้วไม่รู้เหรอ เมาอ่ะเดะ " "ใครว่า เมา แมว ต่างหาก 5 5 5 5" ชัวร์ ครับ ชัวร์ จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 22:39:40 ] ความคิดเห็นที่ 56 "ไปไหนต่อป่าวป่ะ ยางมายอยากกลับบ้านเลย" เธอ พูด เสียงยานบ้าง เร็วบ้าง "อ้าวไม่กลับบ้านแล้วจะไปไหนหละ " "ไม่รู้สิ ไม่อยากกลับบ้าน " แล้วเธอ ก็ดูเหมือน น้ำตาคลอเล็กๆ ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เพราะเธอเมาแล้ว หรือ เธอจะร้องไห้จริงๆ "อ้าวพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปไหนดีวะเพื่อน" เพื่อนผมมันนั่งนิ่งผิดปกติ ไม่มองมาข้างหลังเลย ซึ่งผมพยายามมองหน้ามัน มันก็ไม่มองตอบ เอาแต่ทำหน้าเหรอหรา แล้วก็พยักไหล่ เอียงคอ พูดว่า "ไม่รู้ แล้วแต่มรึง" แบบไม่ออกเสียง "ไปกินข้าวต้มไหม " "มาย หิว อ่ะ เดี๋ยว ออ้วกกก อีกกก หรอกกกก อึก" เธอตอบ ผมมองหน้าเธออีกครั้ง แล้วก็พยายามมองตาเธอ แล้วก็คิดในใจ ใจผมเต้น แรงมาก ว่าจะเอาไงดี ผมหันไปมองเพื่อนผมอีกที มันก็เห็นว่า ผมกำลังหันกลับไปมองมัน มันก็หันหน้ากลับไปมองถนนต่อ แล้วก็ทำท่าเหมือนเดิม พยักไหล่ พูด "ม่าวรู้ แล้วแต่มรึง" แบบไม่ออกเสียงอีกรอบ ในใจผม ก็รู้อยู่แก่ใจดี ว่ามันจะต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน แต่ด้วย ความเป็นตัวผมเอง ผมไม่ใช่คนที่ชอบฉวยโอกาสจากผู้หญิงง่ายๆ แต่ว่า ผมก็ชอบเธอเหมือนกัน ความคิด แต่ผมมาคิดอีกที ตอนหลัง ว่า ทำไมความคิด เกี่ยวกับความรัก ที่มีต่อแฟน ทำไมมันไม่มีผุดขึ้นมาในหัวผมเลยตอนนั้น มันเป็นเพราะอะไร คงจะเป็นเพราะว่า ปวดร้าว แค้นเล็ก ผิดหวัง จากสิ่งที่เราเคยทำดีมา แล้วได้รับผลตอบแทนอย่างปวดร้าว ก็เลยไม่คิดที่จะทำดีต่อไปมั้ง จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 22:53:10 ] ความคิดเห็นที่ 58 ผมหันกลับไปมองหน้าเธออีกครั้ง แต่เธอก็เหมือนหลับแบบสลึม สลือ ผมจึงเอามือทั้งสองข้างของผม จับหน้าเธอให้มองมาทางผม สั่นหน้าเธอ แล้วก็เรียกให้เธอรู้สึกตัว "กิ๊ก กิ๊ก กิ๊กกกก" "เหอ เหอ อาราย" "กิ๊ก ขอบพี่มั้ย ชอบพี่มั้ย" "อืม อืม ถามทามมายยยย อ่ะ" "ก็ พี่ก็ขอบกิ๊กนะ แล้วถ้าพี่ตัดสินใจอ่ะไรไปแล้ว ก็ไม่อยากเป็นคนที่ฉวยโอกาส อย่างน้อยพี่ก็ได้ถามออกมาแล้ว" "แล้วพี่รัก กิ๊กมั้ย" ผมอึ้งกับคำถาม แบบตาโต เลย เพราะว่า ตอนนี้ ความคิดของผม แค่ชอบเท่านั้น ยังไม่ถึงกับรักอ่ะ แต่ด้วยความเห็นแก่ได้ ของผู้ชาย ซึ่งมันเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว ตอนที่ผมเคยไปกับ ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาก็เลยตอบไปว่า "ร๊าก รักจ้า" สั้นๆ "แล้วกิ๊กอ่ะ" "อืม" สั้นกว่าแฮะ จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 23:03:11 ] ความคิดเห็นที่ 62 ค่ำคืนนั้น เป็นค่ำคืนที่ผม จำได้เกือบทุกอย่าง ทุกเหตการณ์ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นความถูกต้องหรือไม่ แน่นอน ผมกลับเอามาคิดตอนรุ่งเช้า ผมรู้ว่ามันไม่ถูกต้องซะทีเดียว แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวที่ผมเองก็ยอมรับมันว่า เป็นความเห็นแก่ได้ ของผู้ชายคนนึง ยอมรับผิดแต่โดยดี แต่หลังจากคืนนั้น ผมก็ได้คุยกับกิ๊กว่า เธอรู้สึกอย่างไร เธอบอกว่า ผมไม่ผิดหรอก อย่าโทษตัวเองเลย เป็นเพราะเธอด้วย ที่ยอม ก็รู้สึก เมานะ แต่ก็ โอเค กับผม เพราะชอบผม ด้วย เธอให้เหตผลว่า ถ้าหาก เธอไม่ได้ โอเค กับผมตั้งแต่ต้น เธอก็คงไม่ไว้ใจผมขนาดนี้หรอก แต่เธอก็ถามและสงสัยว่า มันจะเป็นยังไงต่อ เพราะ เธอเองก็ยังมีแฟนอยุ่ ถึงจะยังมีปัญหาอยุ่ ก็ตาม ผมเองก็เหมือนกัน ซึ่งผมก็ตกลงกับเธอว่า ในเมื่อมาถึงตรงนี้ แล้วเราคงต้องคุยกันอย่างละเอียดขึ้นกว่านี้ เยอะ โดยเรื่องแฟน ของแต่ละคนก็ให้ ตัดสินใจเอาเอง แต่ก็คงจะบอกกันให้รับรู้ด้วย ว่ายังไง ส่วนความสัมพันธ์ ของเราทั้งสองคน ก็ค่อยๆปล่อยให้ความรู้สึกบอกกันเองทั้งคู่แล้วกัน ถ้ามันคิดว่า ใช่มากกว่า แฟน ก็บอกมา ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ส่วนเรื่อง มีอะไรกัน นั้น ผมถามเธอว่า เธอยังจะคิดมีอะไรกับแฟน อยู่หรือป่าว เธอก็บอกว่า ไม่มีอะไรกับแฟนมานานแล้ว แต่ถ้าแฟนขอขึ้นมาก็กลัวว่า เค้าจะสงสัย ผมก็เลยบอกให้ กิ๊กตัดสินใจว่า ถ้าคิดจะมีอะไรกับผม ก็ต้องตัดใจที่จะมีอะไรกับแฟน หรือไม่ก็ไม่มีอะไรกับผมเพื่อจะมีกับแฟน ซึ่งเธอก็ขอคิดดูก่อน จากคุณ : lagaze - [ วันฉัตรมงคล 23:36:12 ] ความคิดเห็นที่ 73 จากเรื่องคืนนั้น ที่ผมเล่ามานี้ ผมอยากจะเล่าแบบ สลับไปมาระหว่างกัน นะครับ เพราะเหตการณ์ จริงก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันครับ ทำให้ผมไม่รู้ตัวอะไรบางอย่าง จนผมได้รับบางสิ่งบางอย่างที่ดูเหมือนเป็น ผลจากการกระทำของผมเอง ซึ่ง ผมยัง เศร้าๆ อยู่เลย ณ ปัจจุบันนี้ ต่อ ครับ ต่อ ส่วนตัวผมเอง ก็ไม่มีอะไรมากับแฟนผม ตั้งนานเหมือนกันครับ ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่ ตอนที่ผม ต้องไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ไม่ค่อยมีเวลานะครับ แต่พอ เสร็จจาก งานนั้น ก็พอมีเวลาบ้าง ก็มีบ้างที่ขอมีอะไรกับ แฟน แต่ก็ถูกปฏิเสธ เรื่อยมา ตอนนั้นแฟน ผม ผ่าตัด ซีด ที่มดลูก มาได้ไม่ถึงปี นะครับ ก็เลยยังมีอาการอยู่ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ มีอะไรกันมาตั้งแต่ผ่าตัดแล้ว คือลดลงกว่าก่อนผ่าเยอะ แต่ยิ่งผมไปต่างจังหวัดบ่อย ก็เลยไม่มีเลยครับ การถูกปฏิเสธ เรื่องอย่างนี้ ก็ทำให้ผม เอามาคิดด้วยเหมือนกัน ผมว่า ผู้ชายทุกคนก็คงคิดเหมือนผมเหมือนกัน ทำให้ผมแน่ใจกับ การกระทำของแฟนผมมากขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ได้ยินจากปากของเธอเองก็ตาม จากคืนนั้น ทำให้พฤติกรรม ของ กิ๊กเปลี่ยนไป อย่างเห็นได้ ชัด ผมเองก็รู้ตัว ว่า กิ๊กคงรู้สึกกับผมมากขึ้น เพราะเรื่องอย่างว่า บวกเข้าไปด้วย แต่ตัวผมเองนี่สิครับ กลับค่อยๆมีความรู้สึกมากขึ้น ทีละนิดเท่านั้นเอง แต่ก็รู้สึกดี ที่ได้ไปไหนด้วยกัน กว่าตอนเจอกันใหม่ๆ เพราะผมรู้สึกดีมากๆ กับ การมีอะไรกันของเธอ ถ้าจะเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้ว เธอสุดยอดมากครับ ส่วนเรื่อง ปัญหาของแต่ละคน ก็ดูเหมือนกิ๊กจะคุย น้อยลงกว่าตอนแรกๆ ส่วนตัวผมจะพูดมากขึ้นซะอีก บางครั้งก็มี ผมคุยไปซักระยะ กิ๊กจะขอตัวทำธุระ ซึ่งแรกๆ จะไม่มีอาการอย่างนี้ให้เห็น ณ ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่มาคิดทีหลังนี้เอง เลยเข้าใจทีหลังว่า ความรู้สึกของ กิ๊ก ก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นมา ทั้งๆที่เราก็ตกลงกันแล้ว แต่ว่าข้อเสียของ กิ๊ก ณ ตอนนั้น ก็คือ จะไม่พูดไม่บอก ต้องถามถึงจะบอกจะพูด ซึ่งตอนนั้นผมเอง ยังรู้สึกอะไรไม่มาก ก็เลยไม่ได้ถามออกมา จากคุณ : lagaze - [ 6 พ.ค. 49 10:48:33 ] ความคิดเห็นที่ 74 ผมขอตัดกลับมาที่ แฟน บ้างแล้วกันนะครับ ในช่วงที่ผม เที่ยวมากๆ นี่ก็ยังมีคุยโทรศัพท์ กับแฟนอยู่ ยังถามอยู่ ยังจับพิรุธอยู่เรื่อยมา แต่ผมก็บอกกับแฟนเหมือนกันว่า "ถ้าเธอติดเพื่อนมาก อยากไปกับเพื่อนมาก ก็ไม่เป็นไร งั้น ผมก็ขอเที่ยวบ้างแล้วกัน" เธอก็โอเค แต่ก็ขอกับผม ไว้เรื่องนึง ก็คือ เรื่อง ผู้หญิง อย่าให้มีแล้วกัน ผมก็ตอบ โอเค ไปงั้นๆ ไม่สนใจอยู่แล้ว แล้วการที่ผมบอกเธอว่าขอเที่ยวบ้าง ก็ให้เธอตายใจ ว่าผมคงไม่ไปยุ่งกับเธอตอนกลางคืน แน่ๆ ถ้าผมไปเที่ยว แล้วช่วงนั้น ผมก็โทรไปหา เพื่อนผู้หญิง ของ แฟน ที่ให้ข้อมูลผม อยู่บ่อยๆ เหมือนกัน แล้วก็ได้ข้อมูลมากๆขึ้นๆ และเพื่อนเค้าเอง ก็เห็นอะไรมากขึ้นๆ ทุกวัน จนเค้าก็บอกกับผมว่า เค้าไม่คิดว่ามัน แค่ 80 แล้วหละ ตอนนี้ 95 แล้ว ซึ่งผมเองก็บอกเค้า ว่า ผมก็ทำใจแล้ว ตอนนั้น รอแต่เวลาที่จะให้แฟนผม บอกกับผมจากปากของเธอเอง ผมอยากจะดูว่า เค้าจะเห็นแก่ตัว หรือจะอยู่อย่างนี้ ไปได้ตลอดเลยเหรอ ซึ่งเวลาผ่านไป ผมก็เที่ยว แฟนผมก็ยังคงมีพฤติกรรมเช่นเดิม ขนาดที่บ้านของแฟนผม เค้าก็โทรมาหาบ่อยขึ้น บ่นเรื่องไม่กลับบ้าน บ่นต่างๆ นาๆ ผมก็ได้แต่รับคำ แล้วก็บอกว่า จะช่วยพูดให้ แต่เค้าไม่ฟังผม ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่ช่วงเวลานี้ ถามผมว่า เจ็บปวดแค่ไหน มันตอบไม่ได้เป็นคำพูดเลย บางครั้ง นอนไม่หลับ ต้องลุกขึ้นมานั่งเขียนอะไรไปเรื่อยๆ เขียนเป็นคำถาม ต่างๆ วุ่นวายสับสน ท้อแท้ เบื่อ ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี เพราะใจนึง ก็รู้ว่า ถ้าไปจับผิดถึงที่ ก็จบแน่ แต่ถ้าอยู่อย่างนี้ ต่อไปก็ทรมาน ตอนนั้น ผมก็ยังทำใจไม่ขาดซะทีเดียว ก็มีแต่ กิ๊กนี่แหละที่ผมสามารถระบายให้เค้าได้ฟัง เค้าก็รับฟัง บางครั้งผมเล่าเรื่อง ไปเรื่อยๆ ถึงจุดที่โดนใจผม ก็ร้องไห้ออกมา บอกตรงๆ แต่ก่อน ผมไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นมาก่อน แม้แต่ พ่อแม่ คนสนิทที่สุด จะมองภาพผมเป็นคนเข้มแข็งอยู่ตลอด พอผมร้องไห้ กิ๊กก็จะร้องตามแล้วเราก็จะจับมือกัน เหมือนปลอบโยนกันตลอด พอผมสะอึก พูดไม่ออก กิ๊ก ก็จะเล่าเรื่องของเค้าบ้าง เพื่อเปลี่ยนเรื่อง ไม่ให้มันเจ็บปวดต่อเนื่อง จากคุณ : lagaze - [ 6 พ.ค. 49 11:05:59 ] ความคิดเห็นที่ 75 ณ ตอนนั้น ผมมองว่า กิ๊กอยากจะทำให้ผม ลืมความเจ็บปวดให้ได้ มั้ง ก็เลยยอมไปกับผมทุกที่ ทั้งเที่ยวกลางคืน เที่ยวต่างจังหวัด ไปกันสองคนก็ไป ซึ่ง กิ๊กก็ยอมรับว่า ขนาด แฟนของกิ๊ก ยังไม่เคยไปด้วยอย่างนี้มาก่อนเลย บางอย่างที่ผมทำ ก็บอกอย่างนี้เหมือนกัน ขนาดแฟนเธอยังไม่ทำให้ขนาดนี้ เลย ประมาณนี้ วันนึง เป็นวันหยุด เสาร์ หรือ อาทิตย์ นี่แหละ ผมทำงานกะกลางคืน แล้ว กลับบ้านตอนเช้า ถึงบ้าน ผมก็อาบน้ำนอน ไม่เกิน 8 โมงจะหลับสนิท แต่ตอนก่อนนอน กิ๊กก็โทรหาผม ถามว่า ตื่นแล้วไปไหนหรือเปล่า กิ๊กอยากไปดูหนัง ผมก็รู้สึกเหนื่อยๆ ด้วย ก็เลยอยากจะปฏิเสธ เธอบ้าง ผมบอกว่า อยากนอน ยาว แล้วเธอก็ถามว่า จะตื่นกี่โมง ผมบอก ช่วงบ่าย 3 โมงประมาณเนี้ย เธอบอกว่า เดี๋ยว 3 โมงจะโทรหาอีกที ผมก็ โอเค แล้วหลับไป พอตื่นมาสักพัก ล้างหน้าล้างตา กิ๊กก็โทรมา "ตื่นยังเนี่ย.." "อ๋อ ตื่นแล้ว ว่าไงจ๊ะ" ผมจะพูดหวานกับเธอตั้งแต่คืนนั้นมา "อืม ออกมารับที่หน้าปากซอยหน่อยสิ " "หา หน้าปากซอยที่ บริษัท เหรอ พี่อยู่บ้านแล้ว" "ป่าว ป่าว ก็หน้าปากซอยบ้านพี่นั่นแหละ" "หา ............................ " "เฮ้ย .... แล้วมาได้ไงเนี่ย" "อ้าว ก็นั่งรถเมล์ มาไง ถามได้ คงเดินมาหรอก เร็วสิ อยู่คนเดียว เนี่ย" "ด ดด เดี๋ยว เดี๋ยวนะ นี่มุกป่าวเนี่ย" "จามุกทำมาย เนี่ย ก็อยู่ หน้าซอย.............. เนี่ยไง ที่พี่เคยบอกกิ๊กไง " "แล้วจะไปไหนเนี่ย แล้วทำไมไม่บอกว่าจะมาก่อนหละ จะได้รู้ตัวก่อน" "ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งตัดสินใจเมื่อก่อนขึ้นรถอ่ะ แล้วก็ไม่อยากโทรไปกวน เห็นพี่หลับอยู่ พอดีกิ๊กออกมาจากบ้านแล้ว ยังไม่อยากกลับบ้าน" "เออ เออ รอแป๊ปนึงแล้วกัน เดี๋ยวออกไปรับ" จากคุณ : lagaze - [ 6 พ.ค. 49 11:19:00 ] ความคิดเห็นที่ 76 ผมเดินออกไปรับ กิ๊ก พร้อมกับ คิดไปคิดมา ว่า จะทำยังไงดี ดูเหมือนว่า กิ๊กจะรู้สึกกับผมมากขึ้น ถึงขั้น จะจริงใจด้วยใช่ไหมเนี่ย แต่ตัวผมเอง ตอนนั้น ก็ยอมรับว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เหมือนคนที่จีบกันใหม่ๆ อะไรประมาณนั้น ซึ่งผม งง และก็ตกใจมาก จนผมตัดสินใจบอกอะไรบางอย่างกับเธอ หลังจากที่ เธอได้เข้าบ้านผมแล้ว ผมบอกเธอเรื่องผู้หญิงคนอื่นๆ ของผม ที่ยังคงมีอยู่ นอกจากแฟน ของผม และผมก็บอกเหตุผล ด้วยว่า ทำไปเพราะ ความเจ็บปวด ความประชด ต่างๆนาๆ เพื่อให้เธอลดตัวเองลงก่อน ที่จะเลยเถิดไปไกล แล้วคนที่เจ็บมากก็คือ กิ๊ก เอง กิ๊ก เอง ก็อึ้งๆ ไปเหมือนกัน แต่ก็ยิงคำถามเรื่อง ผู้หญิงคนอื่นๆ อีก ว่าเป็นใครบ้าง รู้จักที่ไหนบ้าง ผมก็ตอบหมดทุกอย่าง ด้วยเพราะว่า ตอนนั้น ตัวกิ๊กเอง ก็ยังไม่เคียร์ ปัญหาของตัวเองได้ขาด ผมเองก็เหมือนกัน บวกกับ ความจริงใจ ที่ผมคบกับเธอในลักษณะนี้ ผมไม่ได้หลอกเธอเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ผมไม่ได้ต้องการสิ่งๆเดียวที่ต้องการจากผู้หญิงคนอื่นๆ กับเธอ ผมอยากแสดงความจริงใจกับเธอ และ ผมคิดว่า อยากให้เธอชั่งใจก่อน ดีๆ จากคุณ : lagaze - [ 6 พ.ค. 49 11:29:01 ] ความคิดเห็นที่ 77 กิ๊กเอง ก็ยอมรับ ว่า เค้าไม่มีสิทธิห้ามผมเรื่องผู้หญิงอยู่แล้ว เพราะเธอเองก็ยังไม่ใช่แฟนผม หรือเรายังไม่ได้คบกับแบบ แฟน เต็มตัว บอกว่า ผมทำแล้วสบายใจก็ทำไปเหอะช่วงนี้ เพราะผมเจ็บปวดมาก กิ๊ก เข้าใจการกระทำของผม และก็เชื่อถึงความจริงใจ เพราะ ถ้าผมต้องการจะหลอกเธอ จะบอกเธอทำไม รอให้จับได้ แล้วก็เลิกกัน ก็จบแล้ว แต่เธฮก็อยากจะเตือนผมไว้ว่า มันไม่ดีหรอก อย่าไปทำอย่างนั้นเลย ผมเองก็รู้ตัวดี ว่าทำไม่ดีอยู่ แต่ก็อย่างว่า แหละครับ ผมยอมรับ ว่า ตอนนั้น ก็กลายเป็นคนเจ้าชู้อย่างเต็มตัวไปแล้วก็ว่าได้ ผู้หญิงบางคนที่ยังไม่ได้ สิ่งที่ผมต้องการ ก็ยังมี ผมก็อยากดำเนินการต่อ แต่ผมเองก็คิดไว้ในใจ ว่า สักระยะนึงให้ลืมความเจ็บปวดมั้ง หลังจากวันที่เล่าให้เธอฟังจนหมด เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง ผมจะบอกเธอตลอดว่า วันนี้ ไปกับใครมาบ้าง วันนั้น ไปกับอีกคน แล้วคนนี้ เป็นยังไง นิสัยดียังไง ไม่ดียังไง เธอเองก็รับฟังมาโดยตลอด จนผมก็คิดว่า กิ๊กคงคิดได้ว่า คงไม่ควรถลำลึกกับผมมาก เพราะ กิ๊กจะเจ็บมากกว่านี้ แต่ว่า การกระทำของ กิ๊กเองก็ยังเหมือนเดิม บางครั้งยังมีกระแนะ กระแหน ว่าทีไปกับคนนั้น คนนี้ ได้ ไปกับเค้าบ้างไม่ได้เหรอ ประมาณนี้ แล้วก็มีทะเลาะกันบ้าง เหมือนงอนๆ ไปแต่ก็ไม่บ่อย เพราะ กิ๊กเป็นคนงอนไม่เก่ง ไม่เหมือนผู้หญิง ส่วนใหญ่ หลังจากนั้น เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิม โดยเฉพาะ จะเน้นคุยกันถึง ปัญหาของแต่ละคน แล้วก็แทรกเสริมด้วย เรื่องผู้หญิงของผม เป็นเรื่อง ขำ ขำ ไป แต่แล้วเรื่องของแฟน ผมก็มาถึงจุดคลายแม็กซ์ ซึ่งผมคุยกับกิ๊กไปก็ร้องไห้ไปเหมือนกัน แต่จะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ติดตามต่อไปนะครับ ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ ง่วงมากเลย เพิ่งนอน ได้ 3 ชม. เอง ครับ อรุณสวัส แล้วกันนะครับ ปล. ต้องขอโทษ เพื่อนที่อาจจะรู้สึกค้างบ้าง แต่ก็อยากให้ติดตามไปเรื่อยๆ นะครับ ขอบคุณ เพื่อนๆ ทุกคนที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ครับ จากคุณ : lagaze - [ 6 พ.ค. 49 11:44:48 ] ความคิดเห็นที่ 98 หลังจากที่ตกลงคบกับ กิ๊ก แบบ กิ๊ก กัน ไปอย่างนั้น ระหว่างนั้น ผมก็ยังตามสืบ ถามเกี่ยวกับเรื่องของแฟนผมจาก เพื่อนของเธอ แล้วก็ดูพฤติกรรมการโทรออาของเธอว่า ลดลงบ้างไหม แต่กลับพบ ว่ายิ่งหนักขึ้นไปเรื่อยๆ เธอก็คงยังเที่ยวกลางคืน บ่อยขึ้นกว่าเดิม ยังไม่กลับบ้านในวันที่ไปเที่ยวเหมือนเดิม แต่ผมก็จะโทรไปหาเธอตอนกลางคืนที่เธอไปเที่ยว ก็ได้คำตอบว่า เครียด อยากเที่ยว ไม่อยากเครียด กับที่ทำงานมาก เลิกงานแล้วก็ไปกับเพื่อน แล้วสบายใจ ผมก็บอกเธอว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปทำงานก็เครียดอยู่ดี ไม่แก้ปัญหาไปเลย จะได้จบๆ แต่เธอก็กับอารมณ์ เสีย แล้วก็รำคาญผม ตอบส่งๆ มาว่า ก็มันแก้ไปแล้วแต่คนอื่นไม่ยอมรับจะให้ทำยังไง โดยเฉพาะ คนที่ไม่ยอมรับ มันก็คือคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเค้า โดย ส่วนตัวแฟนผม ก็เป็นคนชอบความสนุกสนานอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ของคนทั่วไป แต่ถ้าเป็นเรื่อง งานแล้ว เธอจะไม่ยอมให้เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผ่านไปง่ายๆ แล้วก็มีความมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองทำในเรื่องงาน มากๆ ประมาณว่าสาวมั่ม นะแหละ บางครั้ง ผมคุยกับเธอเรื่องงาน ก็พบว่า บางสิ่งเธอต้องการให้มันออกมาดี แต่เธอก็จะลืมนึกถึงคนอื่น ไปจนทำให้มีผลกับ งาน ก็เลยทะเลาะกัน แฟนผมเป็นคนไม่ยอมเลยเรื่องงาน ถ้าเค้าไม่ผิด จนสุดท้าย วันนึง ระหว่างนั้น เธอโทรมาบอกผมว่า เธอจะลาออก ผมตกใจมากๆ แต่ก็เริ่มเข้าใจเมื่อเธอเล่า ว่าเธอทะเลาะกับ เจ้านาย ซึ่งสิ่งที่ทะเลาะ ก็เพราะว่า เธอรู้แล้วว่าเธอ เครียดเรื่องงานมากๆ นี่ก็มาจากเจ้านายเธอนั่นแหละ เพราะว่า เธอกับเจ้านายนิสัยเหมือนกันเลย เรื่องงานไม่ได้ อะไรไม่เข้าตา ต้องจัดการ แล้วความคิดของตัวเองต้องมาก่อน ซึ่งแรก เธอก็ชอบเพราะ เหมือนกัน เข้ากันได้ แต่พอมาเริ่มทะเลาะกัน ก็เริ่มเข้ากันไม่ติด ตอนนั้น เธอบอกว่า เธอตัดสินใจเขียนใบลาออกเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ยื่นให้เจ้านายเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้านายเธอก็ยอมเซ็นง่ายๆเหมือนกัน แล้วพึ่งจะโทรมาบอกผม ว่า มีผลเดือนหน้า คือทำอีกเดือนเดียว ผม อึ้ง การกระทำของแฟนผมมากๆ ทำไมเธอไม่คิดจะปรึกษา ผมก่อนเลยเหรอ จากคุณ : lagaze - [ 7 พ.ค. 49 13:40:51 ] ความคิดเห็นที่ 99 แต่ ใจนึงผมก็คิดว่า ก็ดีเหมือนกัน เผื่อว่าเราจะได้มีโอกาสอยู่กันมากขึ้น คุยกันมากขึ้นกว่านี้ เธอคงไปเที่ยวน้อยลง เธอไม่ต้องเครียดแล้ว ให้เธอหยุดพักสักระยะ นึงก็ดีเหมือนกัน ซัก เดือนสองเดือนคงดี เพราะว่า ที่บ้านเธอเองก็ไม่ได้ลำบอกอะไร แถมยังได้คนช่วยขายของซึ่งจะทำเป็นงาน พิเศษของที่บ้านเธอ เฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ เธอ ก็บอกกับผมเหมือนกันว่า อยากจะพักเรื่องงานตรงนี้ สักพัก เพราะเหนื่อยมาก ที่คิดซีเรียสอย่างนั้น ระหว่างพักงานก็ยังสามารถ ช่วยที่บ้านได้ มีรายได้ บ้าง ถึงจะไม่มากเท่าที่ทำงานอยู่ สักพักแล้วค่อยว่ากัน เพราะจะได้ถือโอกาสเปลี่ยนงานเลย ผมก็ดีใจเหมือนกันนะ จนถึงเดือนที่เธอ ลาออก เธอไม่ต้องไปทำงานแต่เช้า กลับดึกๆแล้ว ดูเธอมีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ซูบเซียวกว่าตอนทำงานอยู่ เธอคิดว่า มันเป็นเพราะเครียดด้วย แต่พอมาอยู่บ้านหลายๆอย่างก็ไม่ต้องไปคิด แต่พออยู่บ้านได้สัก อาทิตย์เดียว เธอก็จะกลับไปเจอเพื่อน บ้าง เธอโทรมาบอกผมเหมือนกัน ด้วยความที่ช่วงนี้ ดูเธอคุยกับผมได้ดีขึ้น ผมก็โอเค แต่ในใจก็คิดว่า ต้องไปกับ "คนนั้น" แน่ๆ แต่ด้วยความที่ อยากจะพิสูจน์อีกสักครั้ง ก็เลย ปล่อยไป ถ้าหากเป็นอย่างนั้น จริง ผมคงทนรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ต้องจับแบบคาหนังคาเขา วันที่เธอไปหาเพื่อนเธอ เป็นวันศุกร์ ซึ่ง ที่บ้านเธอต้องเตรียมของ ซื้อของเพื่อเตรียมนำไปขาย ในวันเสาร์ แต่เช้าตรู่ ซึ่งเธอเองก็บอกกับที่บ้านว่า จะเลยแวะไปซื้อของบางอย่างให้เลย แล้วกลับมาค่ำ เตรียมของต่อ แต่ปรากฏว่า ที่บ้านเธอโทรมาบอกผม ตอนเที่ยงคืน ว่า ไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว จะทำยังไงกันดีเนี่ย งานที่ออกมาแล้ว น่าจะช่วยที่บ้านได้เต็มที่ กับแค่เพื่อน ไม่น่าจะทำอย่างนี้ ผมก็เลยโทรไปหาเธอ ก็ปิดเครื่อง ผมเลยเช็ค โทรศัพท์อีกครั้งปรากฏว่า ก่อนเธอออกจากบ้าน เป็นเบอร์ "คนนั้น" จริงๆ แสดงว่า ไม่ได้ไปกับเพื่อน ต้องไปกับแค่ "คนนั้น" จากคุณ : lagaze - [ 7 พ.ค. 49 13:55:52 ] ..........คุณคะ.......ผู้หญิงคนนี้ฝากมาบอกคุณค่ะ..................
//www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4355934/L4355934.html
..........คุณคะ.......ผู้หญิงคนนี้ฝากมาบอกคุณค่ะ.................. คุณอาจจะยังไม่รู้นะ คงไม่เคยรู้ และก็ไม่ได้สนใจจะรู้ด้วย.. ผู้หญิงคนนี้ร่าเริงใช่ไหม??? ผู้หญิงคนนี้ยิ้ม หัวเราะ เหมือนไม่เคยเจ็บ ไม่เคยเศร้า ไม่เคยเป็นอะไรใช่ไหม?? เธอดูไม่ได้อ่อนแอ เปราะบาง ดูสามารถรับปัญหาได้อย่างสบายๆ ใช่ไหม??? คุณก็คิดอย่างนั้นใช่ไหม??? ผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ดูร่าเริง ใครๆ ก็สนใจเธอ พูดเก่ง คุยเก่ง ขี้อ้อนนิดๆ นิสัยเหมือนเด็กๆ ครอบครัวสมบูรณ์ สังคมอบอุ่น เธอดูพร้อม เธอน่ารัก น่าอยู่ใกล้ น่าเอ็นดู ปราดเปรียว ไม่น่าจะเป็นอะไรได้ง่ายๆ......... ถ้าคุณรู้ความจริง ณ ตรงนี้ วันนี้ และคุณกำลังคิดจะเล่นๆ กับเธออยู่ โปรดอ่านก่อนเถอะ ขอโอกาสให้เธอบอกอะไรบางอย่าง.............. แล้วคุณค่อยตัดสินใจ เธอฝากบอกคุณว่า.............. - ถ้าคุณยังไม่ลืมคนที่คุณเคยรัก...คุณปล่อยเธอตรงหน้าไปเถอะ เธอคนนี้ก็มีอดีต เธอก็เคยเจ็บ ถ้าคุณรู้ว่าการเจ็บปวดเป็นอย่างไรละก็.....อย่าทำเธอ เธอเองก็แคยเจ็บปวดมาไม่แพ้คุณ - ถ้าคุณแค่มีเธอเพื่อแก้เหงา เพื่อพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถเริ่มต้นใหม่ได้.....คุณจงเริ่มต้นใหม่ด้วยตัวคุณเอง อย่าใช้เธอเป็นเครื่องมือ เธอคนนี้ก็อยากมีชีวิตใหม่ที่ไม่เจ็บปวดเช่นกัน และเธอเลือกที่จะทำมันด้วยตนเอง โปรดอย่าทำลายชีวิตใหม่ของเธอ - ถ้าคุณยังคงมีใครอื่นๆ ศึกษาคนอื่นๆ อีกมากมาย แค่อยากลองศึกษาเธอคนนี้ แต่ยังไม่ได้ต้องการเธอคนเดียวอย่างจริงจังละก็ ...โปรดรอจนคนที่ใช่ของคุณผ่านเข้ามา เธอคนนี้ไม่เหลือจิตใจจะให้เจ็บอีกแล้ว ปลอ่ยเธอไปซะเถอะ - ถ้าคุณแค่อยากลองทดสอบฝีมือการจีบ อยากมีกิ๊ก อยากขำๆ สนุกๆ ทดสอบเสน่ห์ กรุณาหาสิ่งบันเทิงอย่างอื่น อย่าให้ความบันเทิงของคุณทำลายชีวิตกระท่อนกระแท่นของเธอเลย - ถ้าวันนี้คุณก็ยังไม่แน่ใจว่าคุณต้องการเธอหรือไม่ เพียงแค่ถูกใจที่เธอน่ารักดี ขอโปรดปล่อยเธอไป คนน่ารักมีอีกเยอะ มีอีกหลายคนที่ยังมีชีวิต ความหวัง กำลังใจ เพียงพอที่จะเสี่ยงในความรัก เธอคนนี้เจ็บป่วยมานานแล้ว เป็นตายเท่ากัน ถ้าไม่รักเธอ...โปรดอย่าฆ่าเธอ ปล่อยให้ความเหงาและอดีตฝังใจฆ่าเธออย่าช้าๆ ดีกว่าคุณจะมาเพิ่มความทรมาน ขอร้อง... และตอนนี้ เธอก็กำลังร้องไห้.................. อ่านแล้วลองคิดใหม่นะคะ ตอนนี้ยังทันค่ะ จากคุณ : เจ้าหญิงต้องสาป - [ 10 พ.ค. 49 13:17:03 A:125.25.128.183 X: TicketID:012788 ] โดนก๊าบ ตอนนี้กำลังคิดว่าตัวเองกำลังโดนคล้ายๆตรงนี้อยู่ - ถ้าคุณยังคงมีใครอื่นๆ ศึกษาคนอื่นๆ อีกมากมาย แค่อยากลองศึกษาเธอคนนี้ แต่ยังไม่ได้ต้องการเธอคนเดียวอย่างจริงจังละก็ ...โปรดรอจนคนที่ใช่ของคุณผ่านเข้ามา เธอคนนี้ไม่เหลือจิตใจจะให้เจ็บอีกแล้ว ปลอ่ยเธอไปซะเถอะ ขออย่าให้เจออย่างที่เรากลัวเลย  |
la-la-bell
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ตอนนี้เลี้ยงหลานเป็นงานอดิเรก เลี้ยงจนมีคนหาว่าลูกหรือเปล่านี่ เห่อที่สุด ในรูปก็เราเองค่ะ ตอนประมาณ 4-5 ขวบได้ ตุ๊กตาแพนด้าตัวนี้ก็ยังอยู่ค่ะ แต่มอมแมมมาก ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ตั้งเป้าอยากลดน้ำหนัก 15 ก.ก. จะสู้ต่อไปค่ะ Group Blog All Blog
Friends Blog
|
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
