Devil wear Prada =>ตัวจริง ภาคเรือสำราญ!



ใครหลายๆคนคงได้ดูเรื่องนี้แล้ว เป็นเรื่องจริงของหญิงสาวจบใหม่มาทำงานที่นิตยสาร Vogue กับเจ้านายสาวแก่แสนแซบ แต่นี้ก้อเรื่องจริงอีกเหมือนกัน เรื่องที่ต่างกันก้อตรงที่เธอไม่ได้ร้ายแบบสาว celeb ใน หนังเรื่อง Devil wear Prada แต่เธอคนนี้ร้ายแบบเจ้าแม่ Mafia เธอชื่อ Debbie ได้ยินชื่อเธอมานานแสนนานตั้งแต่เริ่มทำงานเมื่อสองปีที่แล้ว บางครั้งเขาว่าอย่าได้เชื่อคำเขาลือเขาเล่าอ้าง จนกว่าจะได้เห็นของจริง เรื่องของเธอที่ได้ยินมาก้อไม่ใช่เรื่องดีหนักหนา เรื่องโคกสับลูกน้องเป็น หมูสับ หรือบ้างครั้งก้อเละเป็นอาหารผู้ป่วยก้อมี เจ็บทั้งกายและใจกันไปตามๆกัน ทำเอาเรากลัวเป็นกุ้งขี้ขึ้นหัวไปเลย สิ่งที่ได้ยินมาประมาณว่า เมิงทำดีเท่าไหร่ให้ตายห่าไป เจ้เดบก้อไม่เค๊ย ไม่เคย Happy หรอก ต้องหาเรื่องด่า หาเรื่องลงไม้ลงมือกะลูกน้องเป็นประจำ พอเรามาทำงานวันแรก มันจะมี meeting ก่อนทำงาน Fernando โดดไปเต็มตีนอีกแล้ว เนื่องจาก Fernando ถือกุญแจอยู่ในมือหลายพวงอยู่ พอเจ้เดปเริ่ม meeting มือ Fernando ก้อมีเสียง กุ๊งกิ้ง ทีเดียว เจ้เดปพูดเลยว่า “Fernado , could you pls stop making noise when I’m talking. ” ชีใช้น้ำเสียงที่แฮบและเยือกเย็นสะกด staff ทั้งหลาย ส่วนน้อง Fernando ก้อหยุดขยับนิ้วไป และพอ เจ้เขาพูดจบก้อเริ่มจะพูดต่อเรื่องงาน ไม่รู้ว่ามือน้อง Fernando เป็น พากินสัน หรือเปล่า มันดันมีเสียงอีกแล้ว เท่านั้นเจ้เดป จวกเขาไปอีกดอกไปที่น้องเฟอร์ประมาณว่า เมิงสงเสียงอีกแล้วน๊ะ ช่วยกรุณาเก็บมันลงกระเป๋าเมิงสิ จะได้จบๆๆไป หลังจากนั้น ก้อเริ่ม set up table สำหรับขายของ ก้อเดินเข้าออกร้านเหล้ากันไปเพราะวันนี้ขายเหล้า และแล้วเหมือนฟ้ากลั่นแกล้งพระเอกของเราให้ซวยได้อีก เจ้เดปกะน้องเฟอร์ดันเจอะกันที่ประตูร้าน น้องเฟอร์จะออก เจ้เดปจะเข้าร้าน น้องเฟอร์ให้เกียรติเจ้เขาก่อน เจ้ก้อให้เกียรติน้องเฟอร์ออกมาก่อน มันก็ยังคงแสดงความเป็นสุภาพพพโคตรบุรุษโดยการยืนยันให้เจ้เดปเข้ามาก่อน แล้วเจ้เดปเนี่ยไม่ช่ายตัวเล็กๆๆน๊ะเจ้า ตัวใหญ่อยู่ และหลังจากผ่านไป สองนาทีบนสังเวียนการต่อสู้นี้ เจ้เดปเลยโชว์ไม้เด็ด “come to my office . ” เอาเป็นว่าถ้าเจ้เรียกใครเข้าไป office เมื่อไหร่ เป็นศพออกมาทุกรายยยยย !!!! นี้แค่วันแรกของการทำงาน เห็นแล้วก้อกลัววววหนักกว่าเดิม กินไม่ได้ pee pee (ฉี่) ไม่ออกหดกลับไปที่เดิม

วันที่สองเป็น seaday โคตรโชคดีเลยมี training ตลอดทั้งเช้าเลยรอดตัวไปไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์อาไรให้มันบั่นทอนจิตใจ แต่ยังไงก้อตาม เจ้เดปก้อบอกเราว่าหลังจากจบ training ยูไป Break ได้ 45 นาทีน๊ะสำหรับกินข้าวเที่ยง แล้วกลับมาทำงาน พอจบ training เราก้อโทรไปรายงานตัวให้เจ้รู้ก่อนว่าเออ จะไปกินข้าวแล้วน๊ะเด้วเที่ยงสิบห้าจะกลับไปทำงาน ไอ้เพื่อนเจ้ากำตัวดีดันไปเจอะหน้ามันที่ Crew office เพราะเราต้องไปทำ ไอดีก่อน เขาเรียกid พนักงานว่า Sea Pass Card เอาไว้ใช้แทนเงินซื้อของได้ ยกเว้นตู้น้ำอัดลม ต้องใช้เงินจริงๆๆ เพื่อนคนนี้ชื่อ Deepak ไอ้ดีปั๊กมันก้อบอกว่าให้รอกก่อนแล้วไปพร้อมกัน ก้อเลยบอกมันว่าขอเวลาเดินไปบอก Debbie ที่ office ก่อนน๊ะ ว่าจะไปเบรก มันก้อบอกว่าทำไมต้องบอกด้วย อ้าวไอ้เชียยยยหาเรื่องให้กรูแล้ว เมิง
เอาเป็นว่าเราก้อรบเร้าจนมันบอกว่า เออ รอด้วย ไปกินข้าวด้วยกัน ที่ห้องอาหารมีโทรศัพท์ก้อโทรที่นั้นก้อได้ ก้อเลยได้โทรไปบอกเจ้เขาตามธรรมเนียม ซึ่งโชคดีมาก เพราะว่าต่อมาเจอท่านรอง(ผู้จัดการ)พูดว่า “Debbie is waiting for you in the office.” เราก้อใจหายกลับไปอยู่ที่กรุงเทพแล้วว่าไรว่ะ กรูบอกแล้วน๊ะเนี่ยว่าจะไปแด๊กข้าวก่อนแล้วก้อกลับมาตรงเวลาด้วย ก้อเลยบอกท่านรองไปว่าเออเนี่ยโทรบอกเจ้เดปแล้วว่าจะกลับมาเวลานี้เพราะไปกินข้าวมา ท่านรองก้ออ้อเหรอ งั้นก้อไปทำงานไป๋ ฮ่าๆๆๆ พอตกเย็นหลังจากไป Break กลับมาอยู่จนถึง สามทุ่มครึ่ง ท่านรองเรียกไปที่ office เฮ้ยอาไรกันหนักหนาว่ะกรูว่ากรูรอดแล้วน๊ะเนี่ยทำไมยังชอบหาเชือกมาลากคอเข้าห้องเฉือด อีกว่ะ เจอหน้าเจ้เดป อาการเริ่มออกเหมือนเจอคุณครูไหวที่ยังไม่ทันทำไร ใจก้อหายยไปใหนอากาศแล้วตู เจ้ก้อประมาณว่าเออชมเชยไรสักอย่างประมาณวิน contest วันนี้กลับไปได้ตั้งแต่สี่ทุ่มน๊ะวันนี้แล้วก้อไม่ต้องเดินมาบอกฉันหรอกว่าจะไป เดินไปเลย โอ้ซะงั้น ก้อเลยไม่ต้องเก้บร้านได้กลับก่อนโชคดีไป ไอ้วันที่เป็น Sea Day เนี่ยเป็นวันที่ทรมานร่างกายสุดๆๆๆ ประหนึ่งเหมือนว่าเป็นการทดสอบความแกร่งของร่างกายว่าจะอึดได้ขนาดไหน เนื่องจากว่าต้องยืนกันตั้งแต่แปดครึ่งจน ห้าทุ่มครึ่ง โดยเฉพาะเรือลำนี้
เจ้เดปให้เบรก สี่สิบห้านาที สำหรับ กินข้าวเที่ยง ส่วนที่อื่นให้หนึ่งชม. และ ดินเนอร์ให้ ชั่วโมงครึ่ง แต่เรือลำอื่นให้สองชม. และวันนี้เจอ Jason นายหัวคนใหม่ที่เคยทำงานด้วยกันถามว่า เจสัน ยูจะเปลี่ยนเวลาเบรกใหม่ไหม เจสันบอกว่าไม่เปลี่ยน โอ้ !!!!!! กรี๊ดอยู่ในใจพร้อมทั้งเก็บอารมณ์ทางสีหน้าไม่ได้มันรู้ว่ากรูเหนื่อยน๊ะเมิงงงงง
ที่อื่นร้านปิดห้าทุ่ม ที่นี้ห้าทุ่มครึ่ง วันสุดท้ายปิดเที่ยงคืน เอ๊าสู้โว้ยยยยย อย่าให้ได้เป็น manager บ้างน๊ะ!!!! ก้อได้แต่คิดไปอย่างนั้น .



Create Date : 24 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 20:13:04 น. 0 comments
Counter : 396 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

kuromichan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากอดีตสาว office วันๆๆทำงานต๊อกๆๆๆๆ ในกรุงเทพฯมาหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งอดรนทนไม่ไหวกะชีวิตที่สุดแสนจะจำเจ มีความใฝ่ฝันว่าจะได้ข้ามน้ำข้ามทะเลอย่างคนอื่นๆบ้าง แต่ติดตรงที่เงินไม่ได้มีเหลือเฟือ ครั้นจะเก็บเงินไปเที่ยวเองคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ทันการณ์แน่ และเหมือนฟ้ามาโปรดฉันได้งานบนเรือสำราญ ที่อเมริกา ไปเป็นพนักงานขายของเหมือน พนักงาน PC บ้านเราเนี่ยแหละค่ะ ทางโน้นจะเรียกเราว่า " Shoppies" และเมื่อมาถึงจุดนี้ ชีวิตก้อเปี๋ยนไป .......
[Add kuromichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com