All Blog
มีเรื่องภูเก็ตจะเล่าให้ฟัง

เราไปทำงานภูเก็ตมาค่ะ ไปจัดงาน
"84 พรรษา-พลานามัย วิ่งเพื่อคนที่เรารัก" ที่เซ็นทรัลภูเก็ต เฟสติวัล
ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดงานโปรแกรมสุดท้ายแล้ว

ที่เซ็นทรัลภูเก็ต เราบินไปกับแอร์เอเซียค่ะ
(บินชั้นประหยัด จะได้เหลือเงินบริจาคเข้ากองทุนเยอะๆหน่อย)
ตอนแรกเลยเราซื้อตั๋วของนกแอร์ เที่ยวบินบ่ายกว่าๆ
แต่อยู่ๆ นกแอร์ก็โทรมาขอเลื่อนเที่ยวบิน

นกแอร์ขอให้เราเปลี่ยนเป็นบิน 9 โมงเช้า หรือ เที่ยว 4 โมงเย็นแทน
แต่เราไม่สะดวกเพราะถ้าเป็นไฟท์เก้าโมงเช้า เราก็กลัวตกเครื่องเพราะต้องไปพร้อมๆกันหลายคนแล้วยังต้องแวะมาเอาของที่บริษัทก่อนเดินทางอีก แต่ถ้าเป็นเที่ยวเย็น เราก็จะไม่สะดวกอีก เพราะจากสนามบินภูเก็ต เราจะต้องใช้เวลาเดินทางต่อไปอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวเมืองภูเก็ต
สรุปแล้วนกแอร์ก็เลยต้องโอนเราให้ไปบินกับแอร์เอเซียแทน

ใครเจอแบบนี้มั่งคะ
นกแอร์ขอยกเลิกเที่ยวบินกับเรา 3 ครั้ง โดยสรุปก็คือ เที่ยวบินที่จองไว้ตอนเที่ยงถูกยกเลิกทั้งหมด แล้วต้องเปลี่ยนมาบินเช้า หรือเย็นแทน ถ้าเขาบอกกับเราตรงๆว่า เที่ยวบินไฟท์เที่ยงผู้โดยสารน้อย บินไม่คุ้ม ขอยกเลิกไฟท์เที่ยงไปเลย เหลือแต่เช้ากับเย็น น่าจะดีกว่านะ

วันที่เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เป็นวันที่ 24 มิ.ย. มรสุมเข้าพอดีค่ะ เมฆเยอะ มองแทบไม่เห็นอะไรข้างล่างเลย มาเห็นวิวงามๆ ประทับจิตประทับใจอีกทีก็ตอนเครื่องลดระดับลงใกล้ๆถึงภูเก็ตแล้วน่ะค่ะ
ถ้าเพื่อนๆจะบินไปภูเก็ตแนะนำว่าให้เลือกที่นั่งด้านขวาของเครื่องนะคะ เพราะวิวสวยประทับใจมากค่ะ

เครื่องลงตั้งแต่สามโมงเศษๆ กว่าเราจะได้กระเป๋าและสัมภาระก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็นกว่าๆ เพราะฝนตก เจ้าหน้าที่เขาเอาของออกจากใต้ท้องเครื่องไม่ได้ ขนาดฝนซาเม็ดไปแล้ว กระเป๋าบางคนยังเปียกนิดๆ

เราใช้บริการรถจ้างเหมาจากสนามบินเข้าตัวเมืองภูเก็ต ราคาจ้างเหมารถเข้าเมืองที่นี่ ถ้าเป็นรถเก๋ง อยู่ที่ราคาคันละ 400 บาท ระยะทางจากสนามบิน-ตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ถามคนขับรถได้ความว่า คนที่ภูเก็ตส่วนใหญ่จะใช้รถส่วนตัวกัน ทำให้รถสาธารณะมีน้อย โดยเฉพาะถ้าไม่อยู่ในตัวเมืองจริงๆ ไปไหนมาไหนต้องเหมารถเท่านั้น

เราไปจัดงานที่ ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล ค่ะ ห้างตั้งอยู่บนเส้นทางบายพาสออกไปนอกตัวเมืองนิดนึง ต้องพยายามหาที่พักใกล้ๆห้าง เพราะจะได้สะดวกในการเดินทางไป-กลับบูธ และเพื่อเป็นการประหยัดค่ารถด้วย
เราพักที่ “บ้านสวน เพลส” สถานที่และบรรยากาศดีเยี่ยม ราคาคืนละ 800 บาท อยู่ห่างจากห้างเซ็นทรัลประมาณกิโลเดียว แต่คุณขา ค่าเหมารถจากห้างเซ็นทรัลไปที่พัก 200 บาทค่ะ แ พ ง โ ค ต ร (ขออนุญาตบ่นแบบไม่เพราะหูนะคะ) ดังนั้น ตลอดอาทิตย์กว่าๆที่เราจัดงาน เราก็เลยใช้วิธีเดินไป เดินกลับเอาค่ะ

ลักษณะการจัดงานที่นี่ก็คล้ายๆกับที่เซ็นทรัล เชียงใหม่ ที่เคยเล่าให้เพื่อนๆฟัง หน้าตาของการจัดตั้งบูธก็แทบไม่แตกต่างกันเลย ขออนุญาตไม่ลงภาพให้ดูดีกว่านะ เพราะกลัวเพื่อนๆจะเบื่อดู เราต้องเฝ้าบูธที่ห้างทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึงสี่ทุ่ม อยู่จนเอียนห้างเลยค่ะ เอาเป็นว่าขอเล่าข้ามเรื่องนิทรรศการในห้างไปเลยนะคะ

เรื่องที่อยากเล่ากว่าการจัดนิทรรศการคือ แหลมพรหมเทพ ค่ะ

มีอยู่วันหนึ่ง คนท้องที่ซึ่งรู้จักกันอาสาพาเราไปเที่ยวแหลมพรหมเทพ เราก็เลยแอบปิดบูธเร็วหนึ่งวัน จะไปดูพระอาทิตย์ตกกัน ดิฉันเคยไปแหลมพรหมเทพมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อซักยี่สิบปีก่อน เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะค่ะ สิ่งก่อสร้างมากมาย ร้านค้าเยอะแยะ ที่นั่นมีศาลท้าวมหาพรหม กับอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร แล้วก็ประภาคารเฉลิมพระเกียรติ คนที่นั่นบอกว่า ท่านท้าวมหาพรหมที่นี่ศักดิ์สิทธิ์นักขออะไรมักจะได้ตามที่ขอ เราว่าถ้าจะจริงนะคะ เพราะสังเกตปริมาณและขนาดของช้างที่เขาเอามาแก้บนแล้วเยอะจริงๆ ช้างบางตัวสลักที่มาด้วย จากสิงค์โปร์ก็มีค่ะ

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าใจหายแทนคนภูเก็ตก็คือ ต้นตาลที่ปลายแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นของคู่กันมานาน เดี๋ยวนี้เราจะแลเห็นตาลยืนยอดด้วนเกือบหมดแล้ว คนภูเก็ตบอกว่ามีอยู่ปีหนึ่ง จู่ๆก็แล้งจัดแล้วมันก็ยืนต้นตายไปเอง ลองหลับตานึกภาพแหลมพรหมเทพที่ไม่มีต้นตาลเหลือดูสิคะ มันคงแปลกๆโล้นๆชอบกลนะ คนภูเก็ตบอกเราว่า ทางจังหวัดเขากำลังจัดหาตาลต้นใหม่มาปลูกทดแทนต้นที่ตายค่ะ เอาไว้เราจะค่อยๆเอาภาพแหลมพรหมเทพล่าสุดมาลงให้ดูนะคะ (ตอนนี้ file ภาพทั้งหมดติดกล้องเพื่อนไป กำลังตามอยู่ค่ะ)


จบจากเรื่องแหลมพรหมเทพ มีอีกเรื่องที่อยากเล่า เป็นเรื่องที่พักค่ะ

คืนสองคืนแรกที่เราไปภูเก็ต เราพักที่ บ้านสวน เพลส สะดวก ดี และเป็นปลื้มกับที่พักมาก แต่พอคืนที่สาม มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เขาเข้าใจว่าเราพักแค่สองคืน ก็เลยปล่อยห้องพักให้กับแขกอื่นเข้าพักแทนเรา ซึ่งไม่ใช่ความผิดของทางโรงแรมหรอกค่ะ ตกลงคืนที่สามเราก็เลยต้องหาที่พักใหม่ ดิฉันไปได้ที่พักอยู่ไกลออกไปจากห้างเซ็นทรัลราว 3 กิโลเศษ ชื่อโรงแรมอรนิชา

เล่าเสริมหน่อยนะคะ การไปทำงานภูเก็ตเที่ยวนี้ วันที่หนึ่งกับวันที่สอง เราอยู่ทำงานกันหลายคนค่ะ เป็นทีมงานตกแต่งสถานที่, ทีมต้อนรับนักข่าวและทีมคุมคิวเปิดนิทรรศการ แต่พอหลังจากนิทรรศการเปิดแล้ว ดิฉันจะถูกทิ้ง (ประมาณนั้น) อยู่ภูเก็ตคนเดียวเพื่อเฝ้าบูธ และอำนวยการจัดงานเดิน-วิ่งที่จะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า และเพื่อรื้อถอนจัดเก็บงานกลับกรุงเทพฯ
ดิฉันอยู่ภูเก็ตคนเดียวตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. – 3 ก.ค.

วันที่ดิฉันย้ายออกจากบ้านสวน เพลส ไปพักคนเดียวที่อรนิชา ตอนเช็ค-อิน ก็แค่เปิดห้องเข้าไปเห็นสภาพห้องรวมๆ มีเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า และประตูอีกบานเพื่อเปิดเข้าสู่ห้องน้ำ ก็เหมือนๆ ห้องพักทั่วไป ที่เราคุ้นตาเวลาไปพักตามโรงแรมนั่นแหละค่ะ

วันนั้นมีน้องที่น่ารักอาสาขับรถขนของจากบ้านสวนเพลสไปส่งที่อรนิชา
ความที่เราเกรงใจว่าเขาจะรอนาน ก็เลยรีบวางๆ กระเป๋ากับข้าวของไว้อย่างนั้นไม่ได้ดูอะไรละเอียดนัก แล้วก็รีบลงมาหาน้องเขา ซึ่งเขาอาสาจะไปส่งเราต่อที่ห้างเซ็นทรัลอีกรอบ

คืนนั้นกว่าจะปิดบูธ ก็กลับถึงที่โรงแรมอรนิชาเกือบห้าทุ่ม
พอเข้าห้องได้ก็อยากอาบน้ำ ดิฉันเตรียมจะถอดเสื้อผ้าออกแล้วนะคะ เพราะคิดว่าในห้องเราพักคนเดียวเป็นที่ส่วนตัวมาก จะทำอะไรก็คงไม่น่าเกลียด แต่ไม่รู้นึกยังไง เฮ้ย.. อย่าเพิ่งถอดเสื้อดีกว่า เข้าห้องน้ำล้างหน้า ล้างมือก่อนแล้วกัน

เพื่อนๆคะ ไม่นึกไม่ฝัน พอดิฉันหมุนลูกบิดประตูเปิดผ่างออกไป แทนที่จะเห็นเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ กลับเห็นระเบียงโล่งๆ มีกำแพงสูงแค่ครึ่งอก ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีเหล็กดัดหรืออะไรกั้น มองออกไปเห็นทิวเขาไกลๆ ถนนข้างล่างมีรถวิ่งไปวิ่งมา แล้วก็แสงไฟจากบ้านเรือนข้างๆ ส่วนห้องน้ำจะทำเป็นห้องอีกห้องอยู่ด้านซ้ายมือ พูดง่ายๆ โรงแรมนี้มีห้องน้ำแยกออกไปนอกห้องนอน เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินผ่านระเบียงโล่งนี่ออกไปอีกที

ยอมรับค่ะว่า ตะลึงมาก อึ้งไปเลย นี่ถ้าเราถอดผ้าถอดผ่อนเดินพรวดพราดออกไป มีหวังกลุ่มดาวบนฟ้าแตกกระจายแน่
เราตัดสินใจลงมาหาเจ้าหน้าที่ล็อบบี้ทันที “แปลกใจไหมคับ” (ลองอ่านเป็นสำเนียงใต้ดูนะคะ ฟังดูขำดี แต่อารมณ์นั้น เราขำไม่ออก) “ที่นี่นี้ก็เป็นอย่างนี้ทุกห้องแหละคับ เป็นโรงแรมเดียวในภูเก็ตที่มีห้องน้ำอยู่ข้างนอก แขกบางคนก็ชอบ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่ค่อยชอบ” ค่ะ ดิฉันเป็นหนึ่งในแขกที่ไม่ชอบ

คุณคิดดูสิคะ เราต้องหอบเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำให้เรียบร้อยทุกครั้ง ก่อนและหลังอาบน้ำ กลางค่ำกลางคืนจะลุกเข้าห้องน้ำก็ต้องระแวงว่าเปิดผลั่วออกไปแล้วจะมีใครปีนขึ้นมาตรงระเบียง แล้วแอบย่องเข้าไปหลบในห้องระหว่างเราเข้าห้องน้ำหรือเปล่า โอยสาระพัดจะจินตนาการ ตกลงคืนนั้น
กว่าดิฉันจะหลับก็เกือบตีสาม
ซึ่งหลับไปเพราะความเพลียแท้ๆ

รุ่งขึ้น ดิฉันเก็บข้าวของเช็ค-เอ้าท์ ตั้งแต่ยังไม่เก้าโมงเช้าเลย
เฮ้อ… แปลกใจไหมคับ




Create Date : 10 กรกฎาคม 2551
Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 15:48:41 น.
Counter : 3016 Pageviews.

27 comments
  
วันนี้มีวีรกรรมเด็ดๆ มาเล่าสู่กันฟังเยอะเลยนะคะ อ่านไปลุ้นไปว่าคุณน้ำตาลจะรอดมั้ยเนี่ยกับการเดินทางที่แสนลุ้นระทึก
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:35:51 น.
  
ลุ้นไปต่างๆนาๆ คิดว่าเปิดไปเจอน้าผีซะอีก ..อิอิ

โดย: T (Neilnuch_T ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:12:14 น.
  
โทษทีนะ คุยเก่งไปนิด พูดมากไปหน่อย คราวหลังจะเน้นภาพมากกว่าเรื่อง

ส่วนพักโรงแรมแล้วเจอผีอะ เราไม่เจอ แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันเจอ

แต่ไม่เจออะดีแล้วคุณ

ใกล้เที่ยงแล้ว.... เอ้า เอาข้าวมาฝากเพื่อนๆที่แวะเข้ามานะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: คุณน้ำตาล วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:52:38 น.
  
ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ...
มีภาคต่อไหมค่ะ เล่าได้มันส์มากเลยค่ะ
โดย: ปลายดินสอ วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:50:41 น.
  
เคยไปภูเก็ตครั้งนึง
แต่ไปทำงาน อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งวัน
ก็ต้องเดินทางกลับแล้ว

ตลกดีนะตรง
"แปลกใจไหมคัป" น่ะ

ปล.ว่าจะลองบริจาคเกร็ดเลือดดูเหมือนกัน
แต่พึ่งบริจาคแค่ สองครั้งเอง
คราวหน้าต้องลองดูล่ะ
โดย: สุดท้ายก็ชื่อนี้ วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:29:41 น.
  
คุณปลายดินสอขา -- ภาคต่อคงจะมีแน่ แต่คราวนี้จะเน้นรูปแล้ว คุยน้อยลงหน่อยดีกว่า

คุณสุดท้ายที่บางกอก เอ้ย.. สุดท้ายก็ชื่อนี้คะ

บริจาคเกล็ดเลือด กาชาดจะให้สิทธิเฉพาะผู้ชายค่ะ เราเคยเดินเข้าไปจะบริจาคครั้งหนึ่ง เขาบอกไม่เอา ขอเป็นผู้ชายดีกว่า

สงสัยอาจเป็นเพราะเขากลัวผู้หญิงจะรับไม่ไหวมั้ง เพราะบริจาคแต่ละครั้ง จะต้องนอนให้เป็นชั่วโมงๆ เรียกว่าดูหนังจบเป็นเรื่องๆ เลยอะ

ข้อดีของบริจาคเกล็ดเลือดคือ กาชาดเขาจะจัดช่องพิเศษให้เรากดบัตรคิวต่างหาก คิวไม่ยาวเหยียดเหมือนช่องปกติหรอก เนื่องจากต้องนอนทีละนานๆ ก็เลยให้สิทธิพิเศษ

ข้อระวังของการบริจาคเกล็ดเลือดคือ ห้ามกินอาหารมันเด็ดขาด มันนิดมันหน่อยก็ไม่ได้ เพราะเลือดของเราที่เจาะออกไป จะมีไขมันออกมาปะปนชัดมาก แล้วเกล็ดเลือดของเราวันนั้นก็จะเสียไปเลย ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
โดย: คุณน้ำตาล วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:44:35 น.
  
สวัสดีครับ ผมอยู่ห่างจากตากอากาศบางปูนิดเดียวครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ
โดย: AW Milan วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:26:42 น.
  
สวัสดีค่า คุณน้ำตาล
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมอ๊อบนะคะ
โดย: off_elmas วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:47:26 น.
  
แหล่วต่อนหนี้ หยั่งแปล๊กใจม้ายครั่บ



(ดู๊ ถามมาได้ เขกกะโหลกมานทีค่ะ)



เอิ้กกกกกกกกกกกกกกกกกก
โดย: เจ้าป้ามหาภัย (เจ้าป้ามหาภัย ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:54:23 น.
  
โห..เล่าได้มันส์มากเลยค่ะ คุณน้ำตาล ดีนะคะ คุณน้ำตาลได้ไปทำงานในสถานที่ที่น่าไปทั้งนั้นเลยค่ะ ทั้งภูเก็ตและเชียงใหม่

แต่ถ้าเราไปเจอห้องน้ำอย่างนั้น เวลาเราจะอาบน้ำทีนึง ก็คงต้องหวาดระแวงเหมือนกันค่ะ เค้าทำห้องน้ำได้แปลกดีจริง ๆ
โดย: payun-sai วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:03:51 น.
  
แวะมาเยี่ยมคนบ้านเดียวกันค้า ^^
โดย: วันที่ฝนพร่ำ วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:56:00 น.
  
ขอบคุณทุกสาย ทุกข้อความนะคะ ทั้งหมู่มวลมิตรเก่าและเพื่อนใหม่
ดิฉันเข้าบล็อคเหมือนทำงานเลยนะคะ มีหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วยค่ะ แหะ แหะ ความจริงคือ ช่วงนี้คอมฯที่บ้านมีอันเป็นไป ก็เลยต้องอาศัยคอมฯที่บริษัท รับ-ส่งข้อความ สื่อสารถึงเพื่อนๆน่ะค่ะ วันนี้เปิดทำการตามปกติ ลุยต่อเลยนะคะ

คุณพยูนขา --- เราก็สงสัยคนออกแบบอาคารเหมือนกันค่ะ ไม่รู้คิดยังไงนะคะ เอาห้องน้ำไว้ข้างนอกแบบนั้น เนี่ยตั้งข้อสงสัยไว้เหมือนกันว่า อีตาคนออกแบบอาจจะมีบ้านอยู่ตรงข้ามโรงแรมอ่ะเปล่า ว่างๆ แกอาจจะออกมาส่องกล้องดูแขกเดินเข้าห้องน้ำก็ได้นิ

คุณมิลาน --- บ้านอยู่แถวสถานตากอากาศบางปูเหรอคะ อย่างนี้ก็ได้เดิมโลตัสบ่อยหละสิ ฮิๆ เจริญแล้วมีห้างใกล้บ้านด้วย

คุณฝนพร่ำกะ off_elmas --- แล้วแวะมาคุยกันบ่อยๆนะคะ เดี๋ยววันนี้บ่ายๆจาแวะไปเยี่ยมบล็อคค่ะ

สำหรับเจ้าป้าของดิฉัน --- ดิฉันฝากคนท้องที่ไปเขกกระโหลกแล้วล่ะค่ะ เล่าให้เขาฟัง เขายังแปลกใจเลยว่ามีโรงแรมแบบนี้ที่บ้านเขาด้วยเหรอ เนี่ย ถ้าหมอซ้งยังทำรายการตามไปดูอยู่ ดิฉันจะบอกให้แกไปดูแล้ว
โดย: คุณน้ำตาล วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:18:07 น.
  


Comment Hi5 Glitter


หวัดดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ


โดย: หอมกร วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:31:38 น.
  
แอบอู้งาน แวะมาเยี่ยมค่ะ เห็นเอารูปน่ารักมาฝากเราบ่อยๆ เลยเอามาฝากคุณน้ำตาลบ้างค่ะ

โดย: payun-sai วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:33:48 น.
  
เกิดมาไม่เคยนั่งเครื่องบินกับเขาเลย
ส่วนเรื่องของ "ท่านผู้นั้น" เอาไว้จะถามมาดามตู่ให้นะครับ 555+
โดย: AW Milan วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:15:30 น.
  
แวะมาทักทายยามเย็นค่า

วันนี้ทำงานเหนื่อยไหมเอ่ย

พักผ่อนมากๆ นะคะ
โดย: วันที่ฝนพร่ำ วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:02:16 น.
  
แปลกใจค่ะ - พอเรื่องผ่านมาแล้ว บางทีเราก็พอจะหัวเราะกับมันได้นะคะ

เรื่องสายการบินที่ว่านั้น นางไม้ก็เสียความรู้สึกไปเมื่อต้นปีเหมือนกันค่ะ อืมม เล่าแล้วจะยาวเกินไหมเนี่ย
เคยนึกจะอัพบล็อกเรื่องนี้ค่ะ แต่คิดว่ารอให้ใจเย็นดีกว่า จะได้ไม่แรงไป แต่ก็ประมาณเดียวกัน

คือตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว เพื่อนได้โปรโมชั่นจองเที่ยวบินราคาถูก (ไป-กลับกระบี่ตกคนละ 1,234 บาท) ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ กำหนดการเดินทางอยู่ที่ช่วงปลาย มค. (หรือต้น กพ. นี่แหละค่ะ) แต่บังเอิญว่าพอใกล้กำหนดขึ้นมา ก็นึกยังไงไม่ทราบไปลองเช็คเที่ยวบินดู เอ๊ะทำไมไม่มีไฟลท์เลขแบบนี้ในตารางเลย ก็ให้เพื่อนที่เป็นคนจองติดต่อกับทางสายการบิน เขาบอกว่าเที่ยวบินเลื่อนออกไปไม่มีกำหนดเพราะเครื่องซ่อมอยู่ หมดอารมณ์เลยค่ะ เพราะช่วงนั้นหมอนัดแม่ไปส่องกล้องลำไส้ (นัดล่วงหน้ายาวไปครึ่งเดือนเลย) เราก็กลัวว่าถ้าเจออะไร คงไม่มีอารมณ์จะเที่ยวแล้ว รีสอร์ตที่จองไปแล้วก็ต้องไปยกเลิก เพราะหากำหนดไปอีกทีไม่ได้
แถมถ้าไปได้ ก็เป็นเที่ยวบินจากดอนเมือง

ถ้าเราไม่ไปเปิดดู คงได้ลาพักร้อนเก้อค่ะ
แบบนี้จะเรียกว่าหลอกกันหรือเปล่า

แต่คุณน้ำตาลก็กลับมาโดยสวัสดิภาพนะคะ
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:40:42 น.
  
ยู้ฮู..ยู้ฮู..แวะมาดูท่านั่งคุณน้ำตาลหน่อยว่าตรงตามที่ส้มบอกเปล่าเอ่ย
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:41:56 น.
  
ต้นตาลที่แหลมพรหมเทพเหลือแต่ต้น
ก็สิ้นมนต์เสน่ห์ไปเยอะ
ถ่ายรูปอย่างไรก็ไม่สวย

โดย: ปรานทยา วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:03:34 น.
  
สวัสดีค่ะคุณน้ำตาล ..

โอ๋โหยว .. วุ่นวายตั้งแต่บินเลยนะคะ ..
รู้สึกจะขึ้นชื่อลือชาเลยนะคะนกแอร์เนี่ยะเรื่องการเปลี่ยนไฟลท์บิน

ตกใจเรื่องห้องน้ำด้วยอีกคนค่ะ ..
โห ... นอกจากกลัวคนแล้ว
ถ้าเป็นเค้าคงหลัวผีด้วยอ่ะค่ะ ..

อิอิ .. เกือบภาพกีฬามันส์มันส์ซะแล้วเนอะคะ
โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:47:23 น.
  
ตอนพูดถึงโรงแรมผมคิดว่าคงได้อ่านเรื่องผีชัว...อะไม่ใช่เป็นห้องน้ำนี่เอง......
โดย: กลางวันหน้าฝน (ค่ำคืนหน้าหนาว ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:20:26 น.
  


Comment Hi5 Glitter


หวัดดีวันอังคารค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:49:38 น.
  
good morning...จ้า

ภาพกระต่ายวาดเสร็จแล้ว อย่าไปแวะไปติชมนะคะ...
โดย: T (Neilnuch_T ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:55:54 น.
  
หอมกร --- ขอบคุณค่ะสำหรับภาพน่ารักๆ ที่เอามาฝาก

payun-sai --- อุตส่าห์อู้งานมาหาเค้า ขอบคุณนะตัวเอง

AW Milan --- เค้าเจอ " ท่าน" แล้ว อยู่ขะแมร์กะพี่เป๊าะ!!!

วันที่ฝนพร่ำ --- วันนี้น้ำตาลทำงานไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แต่กินเหนื่อย (แบบนี้อ้วนชัวร์)

นางไม้คะ --- ถ้าตั้งกระทู้เรื่องคนระกำเพราะนกแอร์ สงสัยจาร้อยกว่า comments นิ

ส้มแช่อิ่มขา --- แอบดูกระทั่งท่านั่งเลยเหรอ เขินแย่

ปรานทยา --- เราเอาภาพตาลยอดด้วนมาลงในบล็อคแล้วนะ ตามไปดูเย็นๆแล้วกัน

บ้านอุ่นรัก --- 555... มีภาพมันส์ๆ ด้วย แต่ไม่กล้าเล่า

ค่ำคืนหน้าหนาว --- ไชโย นึกว่าพี่ค่ำหายไปไหน ในที่สุดก็ปรากฎตัว

T ที่รัก --- เดี๋ยวจะแวะไปเป็นกระต่ายหมายจันทร์ค่ะ

สุดท้าย ...หนูรักทุกคนค่า...
โดย: ขอตอบค่ะ (คุณน้ำตาล ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:57:00 น.
  
อิอิ...เค้ามาช้าอ่ะ แต่ไม่เคยลืม

ดีๆๆ ไว้ไปภูเก็ต เค้าจะได้นั่งทางขวามือ

และจะไปค้าง รร. บ้านสวนนั่นด้วย อิอิ

แต่ รร. หลังก้อน่าสนใจน๊ะ ตื่นเต้นดี 555++
โดย: unsa วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:24:31 น.
  
เราก็เคยไปพักที่โรงแรมอรนิชาน่ะ บรรยากาศก็ดี น่าพักน่ะ และเพื่อนๆ เราก็ชอบกันน่ะส่วนใหญ่
เราว่าต่างคนก็ต่างความคิดน่ะ คงไม่มีใครที่ชอบเหมือนกันไปหมดทุกเรื่องหรอกน่ะ และการที่เอาห้องน้ำไปไว้ข้างนอกอ่ะเราว่าดีออก จะได้ไม่เหม็น....เวลาเข้าห้องด้วย..อิๆๆๆๆ
โดย: 123 IP: 124.157.247.18 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:13:08:29 น.
  
อยากรู้มากเลยค่ะ
ว่าโรงแรม อรนิชามีบรรได วนหรือเปล่าค่ะ
ไงตอบให้เก๋ด้วยค่ะ

kae-299@hotmail.com
โดย: เก๋ IP: 118.172.196.132 วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:14:19:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณน้ำตาล
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เดิมอยู่วงเวียนใหญ่ เรียนหนังสือหนังหาอยู่ย่านฝั่งธนฯ พอโตขึ้นหน่อยก็อยากเป็นศิลปิน เลยหันเหไปเรียน Art ปัจจุบันทำมาหากินอยู่แถวเพลินจิต ย่านใจกลางเมืองที่รถติดจนอ่อนใจ
Friends Blog
[Add คุณน้ำตาล's blog to your weblog]
MY VIP Friend