อยากบอกเธอ ‘รักครั้งแรก’


สำหรับโจทย์ที่ 13 ‘อยากบอกเธอ รักครั้งแรก’ เอ๊ย ไม่ใช่ ‘เล่าเรื่องความรักครั้งแรกของคุณ’ ก็ต้องบอกว่าเป็นโจทย์ที่โดนใจ ฉันชอบโจทย์อะไรแบบนี้จริงๆ ได้ย้อนวัย และฟินาเล่ ถึงจะฟินอยู่ฝ่ายเดียวก็เถอะ

ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก ฉันก็ต้องบอกว่าฉันไม่รู้หรอกว่าความรักมันคืออะไร ยิ่งตอนเป็นเด็กยิ่งไม่รู้ รู้ก็แต่เพียงประทับใจ

ฉันประทับใจเพื่อนคนหนึ่งตอนที่อยู่ป.1 ซึ่งเพื่อนคนนี้เป็นผู้ชาย เขาได้ช่วยฉันด้วยการเตือนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบแกล้งฉันในแถว

แค่ประโยคที่ว่า “เธออย่าไปแกล้งเขาสิ” นั่นก็ทำให้ฉันประทับใจมาก และตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ลืมเขาเลย เขาชื่อเปรมปรี มีฝาแฝดชื่อปรีดา แต่อยู่อีกห้อง

แต่น่าเสียดายที่ฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีก หลังจากที่จบป.1 ก็ได้มีการคละห้อง เมื่อฉันขึ้นป.2 ฉันก็ไม่ได้เจอเขา รวมถึงเพื่อนที่แกล้งฉันด้วย

ฉันว่าการคละห้องมันเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากเด็กคนไหนโดนเพื่อนแกล้ง พอขึ้นชั้นใหม่ก็จะไม่ได้เจอแล้ว แต่ถ้าหากเจอกันอีก ก็ต้องบอกว่า ก็ฝึกจิตไป

แต่สำหรับฉัน หลังจากที่เปรมปรีเตือนเพื่อนคนนั้น เขาก็ไม่ได้แกล้งฉันอีก ถ้าหากแกล้ง ฉันว่าเปรมปรีก็คงจะเตือนอีกเหมือนเคย

และนั่นก็ถือเป็นความประทับใจ ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นรักแรกก็ว่าได้

ก็ต้องบอกว่า ฉันไม่ได้คิดว่าเปรมปรีจะจำฉันได้หรอกนะ เพราะอย่างที่บอกเราไม่ได้เรียนห้องเดียวกันอีกเลย และฉันเองก็ไม่เคยเรียนห้องเดียวกับปรีดาด้วย แต่เราอาจจะเคยเห็นหน้า เคยเดินผ่านในตอนที่เราเรียนอยู่ที่นั่น แต่เมื่อจบมา ก็ลืมหน้าไป จำหน้าได้แค่ตอนเป็นเด็ก ไม่รู้ว่าโตมาหน้าตาจะเปลี่ยนไปยังไง แต่เรื่องชื่อ ฉันจำได้ไม่ลืม ‘เปรมปรี - ปรีดา’ ฉันยังคิดอยู่เลยว่าฉันอยากจะเอามาใส่ในนิยาย และอยากจะให้เขาได้อ่าน (แต่เขาจะอ่านไหม)

ฉันไม่ได้ติดต่อกับเปรมปรี ปรีดาเลย จนกระทั่งฉันเข้าสู่วัยทำงาน และฉันได้ไปเรียนพิเศษภาษาจีนที่ OCA ตรงรองเมือง ที่นั่นทำให้ฉันได้พบกับเขาอีกครั้ง

แต่น่าแปลกที่เขาจำฉันได้ ฉันกลับจำเขาไม่ได้ เขามาทักฉันตอนที่ฉันกำลังยืนกินลูกชิ้นอยู่ {{ลูกชิ้นหมูปิ้งที่ OCA อร่อยมาก ฉันชอบ (ใครอยากรู้)}} 

ตอนนั้นเองฉันก็อึ้งๆ แต่ยังดีนะ ที่เขาไม่ได้มาทักฉันตอนกำลังรูดลูกชิ้นเข้าปาก ฉันว่าฉันคงอายน่าดู

เขาถามฉันว่า “เธอ เธอเคยเรียนที่โรงเรียนสายน้ำทิพย์ใช่หรือเปล่า” ฉันก็ตอบว่า “ใช่” อย่างงงๆ พลางคิดว่า เขาเป็นใครวะ ก่อนที่เขาจะเฉลย “เราเปรมปรีนะ”

นั่นแหละ ตะลึงเลย (เพลง อนัน อันวาขึ้นอีกครั้ง ตะลึงตึงตึง – พอแล้ว!)

ฉันก็ “อ้อ เปรมปรี” พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ ยิ้มแบบพอประมาณ แต่ใจนี่ไปหมดแล้ว กระโดดโลดเต้น

ไม่ถึงอึดใจ เขาก็ไปพาแฝดเขามา แล้วบอกว่านี่อยู่สายน้ำทิพย์ ชี้มาทางฉัน แฝดเขาก็ทำหน้างง บอกว่าไม่รู้จัก ซึ่งก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันกับปรีดาไม่เคยเรียนด้วยกัน แต่ฉันแปลกใจที่ฉันจำหน้าเปรมปรีไม่ได้

แต่อยากจะบอกว่าฉันดีใจนะที่เขาจำฉันได้ ถึงหลังจากนั้นเราจะไม่ได้เจอกัน เพราะฉันเรียนที่ OCA แค่ช่วงสั้นๆ แต่อยากจะบอกว่าเขาจะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป

และนี่คือ ความประทับใจที่น่าจะเป็นความรักครั้งแรกของฉันค่ะ



Create Date : 10 มกราคม 2560
Last Update : 15 มกราคม 2560 1:22:39 น.
Counter : 1002 Pageviews.

8 comment
สมาชิกใน BlogGang ท่านใด ที่คุณรู้สึกปลื้มมากที่สุด


สำหรับโจทย์ที่ 12 นี้ต้องบอกว่าเป็นโจทย์ที่เรามีคำตอบเตรียมไว้อยู่ในใจแล้ว ซึ่งคำตอบนั้นก็มีอยู่ 2 บุคคล บุคคลแรก คือ พี่ก๋า

เราชอบพี่ก๋าจากงานเขียนของพี่ก๋า และยิ่งชอบมากถ้าวันไหนที่เป็นแนวธรรมะ ให้ข้อคิด เราชอบอ่านธรรมะจากบล็อกของพี่ก๋า ทำให้เราสงบขึ้น ในบางครั้งก็มีภาพถ่าย ให้เราได้เรียนรู้จากภาพถ่ายนั้น ภาพรูปปั้น ภาพถ้วยชาที่มีคำต่างๆ ปรากฏอยู่

เราชอบคำที่ปรากฏอยู่บนถ้วยชา ทำให้เราได้คิดต่อ

หนังสือของพี่ก๋าก็เป็นหนังสือที่ดีมากๆ เราได้ส่งต่อให้แม่อ่าน แม่ก็บอกว่าเป็นหนังสือที่ดี แม่ชอบมากๆ และอยากจะให้พ่อได้อ่านด้วย

เรารู้สึกว่าเรากับพี่ก๋ามีความคล้ายกันหลายอย่าง ชอบธรรมะเหมือนกัน มีผู้สูงอายุที่ดื้อๆ เหมือนกัน และเราก็ยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสายน้ำทิพย์

เวลาคุยกับพี่ก๋า เรารู้สึกว่าเราเข้าใจกัน

นี่บอกตรงๆ เลยว่าถ้าพี่ก๋ายังไม่ได้แต่งงาน หนูก็คงจะจีบไปแล้วนะเนี่ย ฮ่าๆๆ

เราเลยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ถ้าจะมีแฟน ก็อยากได้แฟนแบบพี่ก๋านี่แหละ รู้สึกว่าคุยกันแล้วเข้าใจ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็รู้สึกว่าจะหายาก เพราะผู้ชายที่ชอบธรรมะ ก็น่าจะเป็นพระกันไปแล้ว

รุ่นๆ เดียวกันหายากมากๆ

บล็อกพี่ก๋าก็เลยเป็นบล็อกที่เข้าแล้วอุ่นใจ วันไหนร้อนๆ มา เข้าแล้วจะเย็นขึ้น ได้สติ

จริงๆ ก็แอบอยากอ่านธรรมะทุกวัน แต่ก็เข้าใจว่าพี่ก็มีหลายหมวดที่อยากเขียน

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณที่พี่อัพบล็อกดีๆ ให้แง่คิดดีๆ ให้ได้อ่าน ทำให้เราได้เช็กสภาพจิตใจของเราไปด้วย

ในปีนี้ แตงอาจจะไม่ได้อัพบล็อกเท่าไหร่ แต่สัญญาว่าจะมาอ่านบล็อกของพี่ให้ได้มากที่สุด

ขอบคุณค่ะ




สำหรับบุคคลที่แตงปลาบปลื้มอีกคน ก็คือ คุณลุงชาติ (สมาชิกหมายเลข 3016924)

แตงปลาบปลื้มและชื่นชมคุณลุงที่คุณลุงมีความอดทนให้การที่จะถ่ายผีเสื้อ โดยเริ่มต้นจากที่ผีเสื้อวางไข่ และเฝ้ารอดูการเติบโต กลายเป็นตัวหนอน เป็นดักแด้ เป็นผีเสื้อ ซึ่งในระยะเวลาเหล่านี้ คุณลุงคอยเฝ้าจับตาดูตลอด อีกทั้งยังช่วยหยิบยื่นอาหารให้ ถ้าไม่มีความอดทนจริงๆ คงจะไม่สามารถถ่ายภาพการเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงเวลาได้

แตงก็เลยค่อนข้างนับถือคุณลุงชาติในความอดทนตรงนี้ นอกจากผีเสื้อแล้วก็ยังมีนกอีก คุณลุงเฝ้ารอดูมันสร้างรัง วางไข่ ให้อาหารลูก จนกระทั่งต่างเติบโตและย้ายไปอยู่ที่อื่น

ถ้าไม่มีความชื่นชอบและอดทนคงจะทำไม่ได้

และคุณลุงชาติก็ยังมีความสามารถในเรื่องของโฟโต้ชอป นอกจากการถ่ายภาพขั้นเทพแล้ว การตกแต่งภาพ การสร้างสรรค์ก็ไม่แพ้กัน

เราจึงไม่พลาดบล็อกของคุณลุงชาติ ที่ให้ความรู้ ให้แง่คิด ให้แง่มุมจากภาพต่างๆ ถ้าใครอยากติดตามบล็อกของคุณลุงชาติ สามารถเข้าไปได้ที่ loongchat.bloggang.com ค่ะ



Create Date : 08 มกราคม 2560
Last Update : 8 มกราคม 2560 2:24:26 น.
Counter : 1061 Pageviews.

14 comment
“ยิ้มไว้” เมื่อยามท้อ


สำหรับโจทย์ที่ 11 นี้ ขอมาพร้อมกับการระบาย และเล่าสู่กันฟัง กับโจทย์ที่ว่า “ยามที่ท้อ พบเจอกับอุปสรรคในชีวิต คุณให้กำลังใจตัวเองอย่างไรบ้าง”

ก็ต้องบอกว่าในช่วงนี้ เรื่องที่ทำให้ท้อแท้ คงมีอยู่เรื่องเดียว คือ เรื่องของยาย ส่วนเรื่องของงาน เราปล่อยวาง คือ ผ่านก็ดี ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร แต่กับเรื่องของยาย เราปล่อยวางไม่ได้

ต้องคอยดูแล และต้องคอยจับตาอยู่ตลอด ซึ่งถ้ายายเชื่อฟัง มันจะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่เมื่อยายไม่เชื่อฟัง มันก็ตรงกันข้าม เราคุมยายลำบาก วันไหนที่น้าไม่อยู่ คุมยากมากๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นหลาน ยายเลยไม่ค่อยฟัง อย่างบางที ยายออกไปนั่งข้างนอก นั่งนานๆ เราจะเรียกให้เข้าบ้าน เพราะกลัวขาบวม ยายก็ไม่เข้า

และที่ยายนั่งข้างนอก นั่งนานๆ นั่นน่ะ ไม่ใช่ว่าจะตากลมอะไรหรอกนะ ยายเขาจะรอรถน้ำปั่น พวกโกโก้ปั่นอะไรอย่างนี้ ซึ่งความจริงยายกินน้ำมากไม่ได้ หมอให้กินแค่วันละขวด 7 บาท กับอีกหนึ่งแก้วแค่นั้น เพราะถ้ากินมากกว่านั้นน้ำมันจะเกิน อันนี้ยังไม่รวมพวกน้ำแกงอะไรอีกนะ ถ้ารวมพวกน้ำแกง ก็ถือว่าน้ำเยอะ ถ้ายายยังจะไปกินโกโก้ปั่นอีก น้ำมันยิ่งเพิ่มเข้าไป

ร่างกายยายตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิม ปัสสาวะออกมาได้น้อย เพราะฟอกไต (เมื่อฟอกไตแล้ว จะไม่ค่อยมีปัสสาวะ) น้ำมันก็ค้างอยู่ในร่างกาย น้าบอกว่าเวลาพายายไปฟอกไตก็จะโดนหมอว่าอยู่บ่อยๆ ว่าขาจะปริอยู่แล้ว แต่ยายก็ยังไม่คุมตัวเอง

คือ อยู่โรงพยาบาลก็รับฟังหมอดี หมอพูดอะไรก็พยักหน้ารับ แต่พอกลับมาถึงบ้าน จะเหมือนเป็นคนละคน คือ คุมตัวเองไม่อยู่

เรื่องน้ำในแก้ว เรากับน้าจะเป็นคนจัดการ เพราะเราจะรู้ว่ายายจะกินได้แค่ไหน แต่ยายชอบไปริน รินแบบปริ่มแก้ว ถือมาก็แทบจะหก แล้วพอบอกว่ายายไม่ต้องกินเยอะนะ กินแค่ครึ่งแก้ว ยายก็กินเกือบหมด และถ้าเมื่อไหร่ยายเดินผ่านไปตรงที่วางแก้ว ยายก็จะกระดกน้ำที่เหลือกินหมด สรุป ก็กินหมดแก้วอยู่ดี 

ปกติหลังอาหารจะกินได้แค่ครึ่งแก้ว ส่วนก่อนอาหารและก่อนนอน จะกินได้ประมาณ 1 ใน 3 กินพร้อมยา

เราเป็นคนรินน้ำ เราต้องกะประมาณ แต่ยายไม่เคยกะ ชอบมารินเอง ทั้งๆ ที่เราบอกว่ายายนั่งเฉยๆ เถอะ

วันไหนที่น้าไม่อยู่ เรานี่เจอเต็มๆ ยายจะบอกว่า “เธอก็ต้องรู้สิว่ากินข้าวกลางวันมันก็ต้องกินน้ำ มันก็ต้องกินเยอะ” โอ๊ย เรานี่จะปรี๊ดแตก เรายังเคยคุยกับแม่เลยว่าตั้งแต่ยายเริ่มฟอกไตมา เรารู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดขึ้น คือ ยายจะเป็นอย่างนี้ตลอด

จนเราบอกว่า ยาย... ถ้ายายเป็นอย่างนี้ จะไม่มีใครดูแลยายแล้วนะ เพราะเมื่อวานยายก็ทะเลาะกับน้า จนเขาไม่พูดด้วย ยายก็บอกว่า “เออ เอาไปไว้วัดเลย” ยายก็จะเป็นอย่างนี้

แต่ยังไงก็ตาม เราก็พูดไปยังงั้นแหละ ยังไงก็ต้องดูแลยายอยู่ดี เพราะถ้าไม่ดูแล ยายก็อาจจะไปนานแล้ว ยายค่อนข้างตามใจตัวเอง อยากจะกินอะไรก็จะกิน

น้าชายเราที่เป็นลูกของภรรยาอีกคนของคุณตายังบอกเลยว่า ยายเราน่ากลัวมาก วันที่เขามาเยี่ยมแล้วซื้อกาแฟมา คือ ซื้อมากินเอง แต่วางแก้วไว้บนโต๊ะ แล้วคล้อยหลังไปเข้าห้องน้ำ ยายก็ลุกมา (ยายจะลุกมาเวลาที่เจ้าของไม่อยู่) ก็ให้บังเอิญเขาออกจากห้องน้ำมาเห็น ยายกำลังถือแก้ว กำลังจะดูด เขาเลยเตือนยาย นั่นแหละ ถึงกลับไปนั่งที่ได้

คือ ยายน่ากลัวมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่คนที่ดูแลจะไม่รู้เลย เวลายายไปอยู่โรงพยาบาล คนอื่นๆ จะชมว่าคุณยายดูไม่ดื้อ น้าเรานี่อยากจะเถียงใจแทบขาด เพราะอยู่บ้านนี่เป็นคนละคน

เราก็เหนื่อยนะ น้าก็เหนื่อย น้าเหนื่อยกว่าเรามาก และเราเข้าใจว่าคนเป็นลูกย่อมจะรู้สึกมากกว่า คาดหวังมากกว่า เพราะอยากจะให้แม่อยู่กับเรานานๆ แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว เตรียมรูปไว้แล้ว ก็ยังต้องประคับประคองต่อไป ดูแล ควบคุมให้ดีที่สุด

สำหรับเรื่องรูปของยาย ที่น้าเราเตรียมไว้ ใส่กรอบไว้เรียบร้อย ก็ได้มาจากคุณตา คุณตาจะเป็นคนที่เตรียมพร้อม เตรียมไว้ตั้งแต่หกสิบกว่าๆ คือ ไปถ่ายรูป ให้เขาใส่กรอบ แล้วบอกกับลูกๆ ไว้ ซึ่งเรื่องนี้แม่เราเล่าให้ฟัง คุณตาบอกว่า “แหม่ม! ถ้าพ่อตาย แกเอารูปนี้ไปตั้งไว้ที่หน้าศพนะ” ซึ่งแม่เราน่ะไม่ค่อยคิดอะไร แต่ก็จะมีลูกๆ ของคุณตาที่เป็นลูกจากภรรยาคนอื่นๆ ค่อนข้างเป็นกังวล เพราะมีความรู้สึกว่าการเตรียมรูปไว้ จะเป็นการแช่งตัวเองหรือเปล่า

แต่แม่เราบอกว่า นั่นคือ การเตรียมพร้อม (แม่เป็นลูกคนโตของคุณตา) เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แล้วไม่ได้เตรียมอะไรเลย มันจะยุ่ง

ตอนงานศพของคุณตา เราก็เลยได้ใช้รูปที่คุณตาเตรียมเอาไว้ แต่กว่าที่คุณตาจะเสียชีวิตก็อีกยี่สิบกว่าปีให้หลัง เพราะคุณตาเป็นคนรักษาสุขภาพมาก ออกกำลังกายทุกวัน คุณตาตายเพราะโรคสมองเสื่อม (เสียชีวิตไปด้วยโรคชรา)

ทางบ้านเราก็เลยได้ไอเดียจากคุณตา น้าเราก็เลยไปเตรียมรูปคุณยายไว้ แต่ไม่ได้บอกให้ยายรู้หรอกนะ ถ้าบอก รับรองโดนว่าแน่ๆ หรือไม่ยายก็อาจจะคิดมาก แต่อย่างไรก็ตาม ยายก็ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง เชื่อขนมกินได้เลย

ดังนั้น เราก็ต้องคอยจับตาดูยายต่อไป และถ้าท้อเมื่อไหร่ ก็แค่บอกตัวเองว่า “ยิ้มไว้”               






Cr.Youtube :: ยิ้มไว้ (ไม่ต้องกั๊ก) - Superteens



Create Date : 05 มกราคม 2560
Last Update : 5 มกราคม 2560 19:20:27 น.
Counter : 1120 Pageviews.

12 comment
สถานที่ไหนที่คุณไปแล้วรู้สึกได้ถึงความสุข


สำหรับโจทย์นี้โจทย์ที่ 10 ต้องบอกว่ามาถึงครึ่งทางแล้ว เพราะเราตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะเขียนแค่ 20 โจทย์ เพราะอยากได้แค่บัตรกำนัล แต่ถ้าบัตรกำนัลไม่ได้ ก็เอาบัตรผู้ใหญ่มาก็ได้ แฮ่! (ไม่ใช่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน)

ในส่วนของตัวเรา ถ้าพูดถึงเรื่องสถานที่ที่ไปแล้วมีความสุข ก็จะนึกถึงที่ที่ทำให้เราอยู่ได้นานๆ นั่นก็คือ ร้านหนังสือ ซึ่งร้านที่ใกล้บ้านเราก็จะเป็นซีเอ็ด โลตัส ที่จะแวะอยู่บ่อยๆ แต่ร้านหนังสือที่เราชอบสุดๆ คือ ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ สาขาสยามพารากอน เพราะมีที่นั่งอ่านหนังสือ และมีหนังสือที่หลากหลายมาก นิตยสารก็เยอะ





สมัยก่อนตอนที่เราทำงานประจำ หลังเลิกงานบางทีเราก็แวะมาที่นี่ จะไปดูในส่วนที่เป็นนิตยสาร เราจะซื้อพวกนิตยสารศิลปินไต้หวัน นิตยสาร Play นิตยสาร Color ทั้งๆ ที่ภาษาจีนเราอ่านได้แค่บางคำ แต่ที่ซื้อเพราะอยากเก็บภาพศิลปินที่ชอบ ถ้าเห็นว่ามีชื่อศิลปินที่ชอบอยู่บนปกก็จะซื้อทันที แต่ไม่ได้ซื้อทุกฉบับ 





เราว่าร้านคิโนะคูนิยะค่อนข้างตอบโจทย์ ถ้าใครที่ชอบศิลปินต่างประเทศ และอยากจะหาซื้อนิตยสารต่างประเทศ คุณมาที่นี่เถอะ มี

นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือมากมายหลายภาษา หนังสือที่เป็นภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น พ็อกเก็ตบุ๊กอะไรต่างๆ ที่ศิลปินต่างประเทศออกก็มีวางจำหน่าย

หนังสือภาษาไทยก็มีหลากหลายหมวด ถ้าทิ้งให้เราอยู่ที่นี่ทั้งวัน เราว่าเราอยู่ได้



สถานที่ที่สอง นอกจากร้านหนังสือ ก็น่าจะเป็นงานแฟร์ งานแฟร์อะไรก็ตามแต่ที่เราชอบ งานบุ๊กแฟร์ แคคตัสแฟร์ ก็เดินได้เป็นวันเช่นกัน

ถ้าเป็นงานหนังสือ งานบุ๊กแฟร์ ส่วนใหญ่ที่ได้มาก็จะเป็นหนังสือ แต่ถ้าเป็นงานแคคตัส ถ้าจัดรวมๆ กันกับไม้อื่นๆ และมีของกินเยอะๆ อย่างบ้านและสวนแฟร์ ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะเป็นของกิน แคคตัสนั้นส่วนน้อย ของกินนั้นส่วนเยอะ

แต่ถ้าเป็นงานแคคตัส & ซัคคิวเลนท์ (กระบองเพชรและไม้อวบน้ำ) โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ก็จะได้แคคตัส กระถาง ดินถุงกลับมา ของกินไม่ค่อยมี เพราะเขาเน้นมาขายต้นไม้ และของที่เกี่ยวกับต้นไม้ บางคนก็มาเพื่อประกวด เราจะได้เห็นการจัดกระถาง การตกแต่ง แคคตัสที่งามๆ สวยๆ เยอะ









ภาพล่างก็ไปถ่ายของคนอื่นเขามา ตอนงานแฟร์ครั้งที่ 8

คือ ไปแล้วก็เพลินๆ ถ้าใครที่ชอบก็จะอยู่ได้นาน ถ้าใครที่ไม่ชอบก็จะรู้สึกเบื่อๆ อย่างเราถ้าให้ไปอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เลือกเครื่องสำอาง หรือของสวยๆ งามๆ ก็ไม่ใช่ทางเรา

สถานที่ที่ไปแล้วรู้สึกชอบ จึงต้องมาจากความชอบของเราจริงๆ บางคนอาจจะชอบท่องเที่ยว บางคนอาจจะชอบอยู่บ้าน บางคนอาจจะชอบไปดูหนัง นั่นก็แล้วแต่ความชอบ และความชอบนี้ก็จะนำมาซึ่งความสุข



** เครดิตรูปภาพร้านหนังสือและนิตยสารจากกูเกิล



Create Date : 04 มกราคม 2560
Last Update : 4 มกราคม 2560 0:16:26 น.
Counter : 2052 Pageviews.

2 comment
ปีใหม่ – ปลดบล็อก


สำหรับในปีใหม่นี้ เราก็ตั้งใจว่าจะเป็นปีที่ให้อภัย ให้อภัยคนที่เราเคยขุ่นเคือง ให้อภัยตัวเอง ให้อภัยคนรอบข้าง โดยเริ่มต้นจากเพื่อนสนิทสมัยประถม ที่พอข้ามปี ประมาณเกือบตีหนึ่ง เราก็ปลดบล็อกเขา และอวยพรปีใหม่เขา เขาก็ส่งสติ๊กเกอร์มาเป็นหมีบราวน์กับโคนี่กอดกัน





ก็ถือว่า OK. ปีนี้น่าจะไม่มีความกวนทีนกัน ก็เลยไปปลดบล็อกในเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งจริงๆ ก็ตั้งใจว่าจะปลดบล็อกอยู่แล้ว เมื่อมีสติ๊กเกอร์นี้มา ก็ทำให้อุ่นใจขึ้น

ทีนี้เมื่อปลดบล็อกก็ต้องไปขอแอดเป็นเพื่อนใหม่ เราก็ตั้งใจว่าเราจะเป็นฝ่ายไปขอแอด เพราะที่ผ่านๆ มา เมื่อเราปลดบล็อก เขาจะเป็นฝ่ายมาขอแอดเรา ก็ประมาณ 2 ครั้งละ ครั้งนี้ครั้งที่ 3 เราจะไปขอแอดเขาบ้าง เลยเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊ก แต่สายตาของเราดันเลื่อนมาที่รายชื่อเพื่อน ด้วยความบังเอิญ

และนั่นก็ทำให้เราเบิกตากว้าง เฮ้ย! เขาเป็นเพื่อนกับพ่อเราด้วย โห... สุดยอด คิดว่าจะเป็นเพื่อนแค่น้องชายกับน้องสะใภ้ นี่ขอแอดพ่อเราด้วย สุดยอดจริง มีความกล้าหาญชาญชัย

ตัวเราเองยังไม่กล้าขอแอดคุณพ่อคุณแม่เพื่อน แต่มีคุณแม่เพื่อนแอดมา เราก็รับ คือ เป็นฝ่ายรับจะไม่ลังเล แต่ถ้าเป็นฝ่ายไปขอแอด ต้องมีความกล้านะ

นั่นเลยทำให้เรา ตะลึง ตะลึง ตะลึง ตะลึง! (เพลง อนัน อันวาขึ้น...)

แต่ความจริง เฟซนั้นพ่อเราไม่ได้เล่นหรอก น้องสะใภ้เป็นคนเล่น จะเป็นคนกรอง รับแอดคนที่มาเป็นเพื่อนของพ่อ พ่อเราจะไม่ค่อยเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์ก็เล่นน้อย ไม่ค่อยติดโซเชียล

เราก็ขำๆ เห็นแล้ว ก็โห เฮ้ย แฟนพันธุ์แท้ นี่ถ้าแม่เราเล่นเฟซอีกคน รับรองว่าต้องเป็นเพื่อนแม่อีกคนหนึ่งแน่ ก็รู้สึกดีนะ เหมือนมีแฟนคลับ (เอาป้ายไฟไหมแก)

เราก็แอดเขาไป เขาก็รับแอดแล้ว เราว่าเพื่อนประถมก็คงมีงงเหมือนกัน แบบอะไรกันวะอิคู่นี้ เดี๋ยวบล็อก เดี๋ยวแอด คือ เราไม่มีปัญหากับเพื่อนในห้องเลยนะ มีกับเขาที่เป็นเพื่อนสนิทนี่แหละ

ก็ถือเป็นการให้อภัย เริ่มต้นวันปีใหม่ นอกจากนี้แล้วก็ได้มีโอกาสไลน์ไปอวยพรเพื่อนๆ ที่อาจจะห่างกันไปนาน แต่ยังคงคิดถึงเสมอ บางคนอาจจะมีเรื่องหมางใจกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกันแล้ว

ในปีนี้นอกจากให้อภัย เราก็คิดว่าจะปล่อยวางมากขึ้น จะโฟกัสแต่เรื่องของตัวเอง เรื่องของคนอื่น จะยุ่งให้น้อยๆ ยกเว้นคนในครอบครัว อันนั้นต้องยุ่งเยอะๆ

ด้วยความเป็นห่วงก็ต้องดูแลเอาใจใส่ ปีนี้ยายอวยพรว่าขอให้ฟ้องน้อยๆ แต่หนูคงทำไม่ได้อะยาย เพราะถ้ายายไม่ควบคุมตัวเอง หนูก็คงต้องควบคุมยายต่อไป ก็ยังต้องรายงาน บอกกล่าวน้าเรื่อยๆ เพราะต้องช่วยกันดูยาย

ก็รักนะ เป็นห่วงนะ ถึงต้องคอยจับตา
แต่ตอนนี้ตาไม่อยู่แล้ว ก็ต้องคอยจับยาย แฮ่! (ยังจะเล่นมุกอีก)

ก็เป็นปีใหม่ที่ได้รับคำอวยพรจากยายแปลกๆ ดี แต่ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ ขำๆ

ปีนี้คงจะอัพบล็อกน้อยลง แต่ตั้งใจว่าจะเขียนลุย ล่า ท้าเขียนให้ได้ 20 โจทย์ และจะเขียนกลอนจากเพลงประกอบ U-Prince Series ให้ได้ 12 เพลง 12 คู่ นอกนั้นก็คงจะแล้วแต่อารมณ์ ถ้าว่างหรืออยากเขียนเรื่องไหน คงจะกลับมาเขียน

และเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่นี้ แตงก็อยากจะอวยพรให้เพื่อนๆ พี่ๆ และทีมงานบล็อกแก๊งทุกๆ คนมีความสุข สุขกาย สบายใจ คิดหวังสิ่งใดขอให้สมความปรารถนา ประสบความสำเร็จในเรื่องที่ตั้งใจไว้ค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน



Create Date : 01 มกราคม 2560
Last Update : 1 มกราคม 2560 17:00:39 น.
Counter : 1981 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  

comicclubs
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]



Group Blog
All Blog
  •  Bloggang.com