[ รีวิว ] โยเกิร์ตแท้ต้นตำรับจากบัลแกเรีย Meiji Bulgaria Yoghurt
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ
วันนี้กุ้งจะรีวิวอาหารเพื่อสุขภาพ
ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือ โยเกิร์ต นั่นเอง
แต่หาใช่โยเกิร์ตธรรมดาทั่วไปไม่ !!!
แต่เป็นโยเกิร์ตแท้ต้นตำรับ ที่ชื่อ
Meiji Bulgaria Yoghurt
(*โยเกิร์ต ภาษาอังกฤษเขียนได้สองแบบนะจ๊ะ คือ Yogurt และ Yoghurt)
ราคา 20 บาท
ขนาด 110 กรัม (มี 2 รส คือ รสธรรมชาติ กับรสกลมกล่อม)
สถานที่จำหน่าย : 7-11 ทุกสาขา
คำโปรยจากแบรนด์ :
โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย โยเกิร์ตแท้ต้นตำรับจากบัลแกเรีย
คัดสรรจุลินทรียสายพันธุ์แท้ LB81 จากประเทศบัลแกเรีย ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของโยเกิร์ตและเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีประชากรอายุยืนที่สุดในโลกจากการกินโยเกิร์ตเป็นประจำ
โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียเป็นโยเกิร์ตยี่ห้อเดียวที่ผลิต จากเชื้อจุลินทรีย์สายพันธุ์แท้จากประเทศบัลแกเรีย และได้รับการรับรองจากรัฐบาลประเทศบัลแกเรีย ว่าเป็น โยเกิร์ตแท้ต้นตำรับ ซึ่งมีการวิจัยพบว่าจุลินทรีย์ LB81 สายพันธุ์แท้ ส่งผลให้ชาวบัลแกเรีย มีสุขภาพดี และอายุยืนที่สุดในโลกจากการกินโยเกิร์ตทุกวัน แต่จุลินทรีย์โยเกิร์ตในยี่ห้ออื่นจะใช้เชื้อจุลินทรีย์สายพันธุ์ทั่วไป ซึ่งไม่ได้เป็นสายพันธุ์แท้ต้นกำเนิดจากประเทศบัลแกเรีย
โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียเป็นโยเกิร์ตชนิดคงตัวที่ต้องใช้เทคโนโลยี และการผลิตด้วยกรรมวิธีที่พิธีพิถันในการหมักบ่มโยเกิร์ตในแต่ละถ้วย จึงทำให้ได้เนื้อโยเกิร์ตเป็นก้อน เนื้อ แน่น เนียน นุ่ม
อีกทั้งยังเป็นโยเกิร์ตที่เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 40 ปี
โดยเป็นแบรนด์อันดับ1 ที่ครองใจผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุและเป็นโยเกิร์ตยี่ห้อแรกๆ และเป็นเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ได้รับเครื่องหมาย FOSHU ในประเทศญี่ปุ่น
Food for Specified Health Uses คือชื่อเต็มของ FOSHU เป็นเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุมัติว่าเป็นอาหาร ที่มีคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์เพียงพอต่อการเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
(เป็นอาหารที่มีประโยชน์ หรือดีต่อสุขภาพ)
อ้างอิงจาก : https://www.facebook.com/meijibulgariayoghurt
//www.meiji.co.th/
VIDEO
ส่วนผสม :
สำหรับรสธรรมชาตินั้น ก็มีปริมาณ น้ำนมโค อยู่ถึง 85 % เลยทีเดียวและที่เลิศที่สุด คือ ไม่ใช้สารปรุงแต่งและไม่เติมน้ำตาล (ด้วยเหตุนี้ มันถึงไม่หวาน เน้นเพื่อสุขภาพสุดๆ)
ส่วนรส กลมกล่อม นั้น รสชาติกำลังดี กินง่ายขึ้นมาหน่อย กลมกล่อมสมชื่อ
ลักษณะภายนอก / กลิ่น สี เนื้อสัมผัส
ทั้งสองรสชาติ มีเนื้อที่แน่น เนียนนุ่ม และเข้มข้น มากๆ
(ไม่เหมือนโยเกิร์ตทั่วไป ที่จะเหลวๆ และหวานมากกก)
ปล. แอบสังเกตว่า เนื้อของสูตร รสกลมกล่อม
เนื้อจะเนียนกว่าเล็กน้อย
(หรืออาจเป็นเพราะการขนส่ง ก็ไม่แน่นะจ๊ะ)
ข้อมูลทางโภชนาการ
รสธรรมชาติมีพลังงานทั้งหมด 60 กิโลแคลอรี และรสกลมกล่อมมีพลังงานทั้งหมด 100 กิโลแคลอรี ซึ่งถือว่า เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก และกำลังดูแลสุขภาพโดยตรงเลยล่ะ
ประโยชน์ของโยเกิร์ต ในเชิงเกี่ยวกับ สุขภาพ และ ความงาม
1. ในโยเกิร์ต 1 ถ้วย จะมีแบคทีเรีย(ที่มีประโยชน์กับคนเรา) อยู่ถึง 3,000 ล้านตัว ซึงช่วยปรับปริมาณจุลินทรีย์ ในร่างกายให้สมดุล ลำไส้ทำงานเป็นปกติ ขับถ่ายคล่อง
2. ในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 (ซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ ของแบคทีเรียในลำไส้ ) ซึ่งช่วยรักษาโรคท้องเสีย ท้องเดิน และแผลในกระเพาะอาหาร
3. ในโยเกิร์ต ยังมีโปรตีนมากกว่านมถึง 20% และที่สำคัญ เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย
4. โยเกิร์ตย่อยง่ายกว่านม แม้ในคนที่แพ้โปรตีนหรือไม่มีสามารถย่อยนมได้ ก็สามารถกินโยเกิร์ตได้ (เนื่องจากในขบวนการทำโยเกิร์ต นมจะถูกหมักและเปลี่ยน เป็นโมเลกุลที่สามารถย่อยได้ง่ายขึ้นทำให้ง่ายต่อการดูดซึมและเกิดการแพ้น้อยลง )
5. โยเกิร์ตช่วยทำให้การดูดซึมของแร่ธาตุต่างๆดีขึ้น ( ขบวนการหมักโยเกิร์ตจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและวิตามินบี นอกจากนี้กรดแลคติกในโยเกิร์ต ยังช่วยย่อยแคลเซียมในนม ทำให้ดูดซึมง่ายขึ้น )
6. แบคทีเรียในโยเกิร์ตยังกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ในการทำลายเชื้อโรค บางการศึกษารายงานว่าพบสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งในโยเกิร์ต
7. โยเกิร์ตช่วยลดการติดเชื้อรา (จากการศึกษาพบว่าการกินโยเกิร์ตวันละ 8 ออนซ์ทุกวัน สามารถลดปริมาณเชื้อราที่ช่องคลอดได้ และยังช่วย ลดการติดเชื้อราที่ช่องคลอดได้อีกด้วย)
8. โยเกิร์ตเป็นแหล่งของแคลเซียม ในโยเกิร์ต 8 ออนซ์ จะมีแคลเซียมมากถึง 450 มิลลิกรัม (ปริมาณเท่ากับแคลเซียมครึ่งหนึ่งที่ RDA แนะนำให้เด็กได้รับภายใน 1 วัน , และเท่ากับ 30-40 % ของปริมาณ แคลเซียมที่แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคภายใน 1 วันเลยทีเดียว)
9. โยเกิร์ตช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล จากการศึกษาพบว่าโยเกิร์ต สามารถลดปริมาณคลอเลสเตอรอลได้เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ใน โยเกิร์ตสามารถกำจัดคลอเลสเตอรอลได้ และทั้งนี้โยเกิร์ตก็สามารถรวมตัวกับกรดน้ำดี ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของคลอเลสเตอรอลได้
10. ในโยเกิร์ต มีกรด Lactic Acid หรือ AHAs จากธรรมชาติ เมื่อนำมาพอกหน้า จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าๆ ให้หลุดไป เผยผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่นั่นเองจ้า
สรุปข้อดี ข้อเสีย
ข้อดี :
1. เป็นโยเกิร์ตที่เนื้อแน่นมากก เนียนนุ่ม ละลายในปากในพริบตา ฮาๆๆ
2. ให้รสชาติแปลกใหม่ ท้าทายต่อมรับรสสุดๆ
3. ในส่วนของรสธรรมชาตินั้น ปราศจากการปรุงแต่งกลิ่น รสใดๆ ( เพราะโยเกิร์ตที่ดี ไม่ควรมีส่วนผสมอย่างอื่น เข้าไปเจือปน ) ไม่มีน้ำตาล ไม่ใส่สี ไม่เติมสารเจลาติน และไม่ใส่รสสังเคราะห์
4. ผลิตจากเชื้อจุลินทรีย์ LB81สายพันธุ์แท้จากประเทศบัลแกเรีย และได้รับการรับรองจากรัฐบาลประเทศบัลแกเรีย ว่าเป็นโยเกิร์ตแท้ต้นตำรับ
ข้อเสีย :
1. โยเกิร์ตมีรสเปรี้ยวไม่คุ้นลิ้นคนไทย
2. อาจมีน้ำเวย์โปรตีนแยกอยู่ด้านบนเนื้อโยเกิร์ตซึ่งจริงๆมีบอก ไว้ข้างถ้วยแล้วว่ากินได้และเป็นโปรตีนที่อยู่ในนมอยู่แล้ว
3. เนื่องจากรสธรรมชาตินั้น ไม่ใส่น้ำตาล และไม่แต่งรสเลยจึง ทำให้รสชาติไม่คุ้นปากคนไทย (คนไทยติดหวาน) อาจเติมน้ำผึ้งลงไปนิดหน่อยเพื่อช่วยให้รสชาติดีขึ้นจ้า
สรุป ถ้าใครกำลังมองหาโยเกิร์ตที่เป็นรสชาติ Homemade แท้ ที่ฝรั่งเค้ากินกันก็ลองซื้อรสธรรมชาติมาลองได้ มันเป็นโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพจริงๆทานก่อนนอนได้โดยไม่ทำให้อ้วน แต่ถ้าใครไม่ชินกับรสชาติดั้งเดิมแบบนี้ ก็เติมน้ำผึ้งหรือผลไม้ลงไปเพิ่มได้นะ
แต่ส่วนตัวชอบรสกลมกล่อมมากกว่า (เพราะเราเป็นคนติดหวาน)
เนื้อมันเนียน แน่น และอร่อยมากจริงๆ (หมายถึงรสกลมกล่อมนะ)
ก็นับเป็นของหวาน หรืออาหารว่าง ที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพไม่ใช่น้อยเลยล่ะจ้า
(เอาไปพอกหน้าก็ได้ ฮาๆๆ)
----------------------------------------------------------------------------------
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อไม่มากก็น้อยนะครับ
----------------------------------------------------------------------------------
Create Date : 25 กันยายน 2556
Last Update : 25 กันยายน 2556 22:34:47 น.
Counter : 85158 Pageviews.