Bloggang.com : kunginter

สวัสดีจ้าทุกคน

วันนี้กุ้งจะรีวิวกล้อง VDO ให้ดูกันบ้างจ้า

กล้องตัวนี้ มีชื่อว่า

Canon LEGRIA Mini

ราคา 9,999 บาท

แหล่งที่ซื้อ : ทาง Online เท่านั้น ผ่านเวป

//goto.canon.co.th/estore/product/detail/th/1070

ดีไซน์ :

เป็นกล้องบันทึกวิดีโอที่มาพร้อมเลนส์มุมกว้างพิเศษ
บอดี้เล็กกะทัดรัด ถนัดมือ (คล้ายตลับแป้ง ฮาๆ) และมีขาตั้งกล้องให้ด้วยในตัว

ข้อดี :

1.   เหมาะกับคนในยุคปัจจุบันที่ชอบใช้ Social Network
ชอบถ่ายภาพ ชอบทำคลิปแชร์

2.   ดีไซน์แตกต่าง มีเอกลักษณ์ พกพาสะดวกดี
(น้ำหนักเบามากกก แค่ประมาณ 1 ขีดกว่าๆ)

3.   ใช้เลนส์พิเศษ ทำให้ได้ภาพนิ่งที่ครอบคลุม 170 องศา
(12 ล้านพิกเซล) และได้ภาพเคลื่อนไหวที่ 160 องศา

4.   เป็นหน้าจอ touch screen แบบ Vari-angle LCD ขนาด 2.7 นิ้ว
/ ซึ่งเราสามารถปรับหมุน(ชอบมากๆ เพราะได้เห็นหน้าตัวเองตลอดที่ถ่าย 555+)

5.   ในเครื่อง จะมีเอฟเฟกต์แต่งภาพสวยให้เยอะดี

6.   มีโหมดถ่ายวิดีโอทั้งแบบ Fast และ Slow Motion

7.   ใช้งานง่ายเพราะมีขาตั้งกล้องในตัว

8.   มี Wi-Fi ในตัว !! จึงสามารถแชร์ File ภาพและวิดีโอ
ไปยังคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
หรือแชร์ภาพขึ้น Facebook ได้ง่ายและสะดวกมากๆ

9.   มีฟังก์ชั่น Live Streaming Remote Control
(ช่วยให้คนที่ใช้ iPhone หรือ iOS และ Android
สามารถสั่งควบคุมกล้องจากระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่นได้

10.   ไมโครโฟนที่มีในเครื่อง เป็นแบบ Stereo
ทำให้ได้เสียงที่ค่อนข้างชัด (Built-in Stereo microphone)

11.   File VDO ที่บันทึกเสร็จ จะอยู่ในรูปของ MP4 ซึ่งถือว่าสะดวก ไม่ต้องแปลง File อีก

12.   สามารถเพิ่มความจุได้สูงที่สุดคือ 64 GB (ด้วยการใส่การ์ด MicroSDเข้าไป)

13.   มีช่องเสียบ Mini HDMI ทำให้ต่อเข้า TV เพื่อดู VDO ได้เต็มตามากขึ้น

14.   คุณภาพของ VDO ที่ได้ อยู่สูงสุดที่ 1920 x 1080 25p (Full HD)

ข้อเสีย :

1.   ไม่มีวางขายทั่วไป ต้องซื้อผ่านเวปไซต์ของ Canon เท่านั้น

2.   หน้าจอแสดงผลบนเครื่อง ( Vari-angle LCD) ยังดูไม่ชัดเท่าที่ควร

3.   ไม่มีช่องเสียบไมค์เพิ่มเติม

4.   ไม่มี Optical Zoom

ตัวอย่าง VDO จากกล้อง Canon LEGRIA Mini

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Canon LEGRIA Mini

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม :

//www.canon.co.th/legriamini

สถานที่จำหน่าย :

//goto.canon.co.th/estore/product/detail/th/1070

-----------------------------------------------------------------------------------

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อไม่มากก็น้อยนะครับ

-----------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีจ้าทุกคนนน วันนี้เรามาแหวกแนว
เพราะจะว่าด้วยเรื่อง " เทคโนโลยี " กันบ้างเนอะ

จริงๆ เทคโนโลยีที่ว่านี้... ก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัวคนเรามากๆ
เพราะเกี่ยวข้องกับ " มือถือ และการใช้จ่าย " นั่นเอง

เพราะล่าสุด ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง AIS ได้จับมือกับ
บัตร Rabbit (บัตรที่เอาไว้ใช้ขึ้นรถไฟฟ้าและซื้อของตามร้านต่างๆได้)
โดยเค้าให้มือถือรุ่นต่างๆ (ที่รองรับเทคโนโลยี NFC)
สามารถแตะเพื่อจ่ายค่ารถไฟฟ้า
และจ่ายค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงซื้อของได้ด้วย

(แค่เอามือถือไปแตะ แค่นั้นจบ/ แต่ในมือถือหรือใน**ซิม ต้องมีเงินนะ 555+)

ที่มาพูดวันนี้ เพราะทาง AIS ได้เปิดโอกาส
ให้เราไปทดลองใช้มือถือในการ
แตะเพื่อจ่ายเงินซื้อของกิน และขึ้นรถไฟฟ้ามาแล้ว...เรียบร้อย อิอิ

โดยในวันนั้น เค้านัดให้เราไปที่ร้านแมคโดนัล
(เพราะเป็น 1 ในร้านที่สามารถใช้บัตร Rabbit ในการซื้อของได้นั่นเอง )

พอไปถึงร้าน เค้าก็แจกมือถือให้เรา โดยจะมีรุ่นที่รองรับระบบนี้
อยู่ด้วยกัน 6 รุ่น คือ Galaxy S3, S3 mini, S4,
Galaxy Fame, Note 2 และ Note 3
(วันนั้นรู้สึกจะได้เป็นรุ่น Galaxy S4 นะ)

( ** ซิมที่ใช้บริการนี้ได้ จะเป็นซิม AIS mPAY Rabbit
โดยติดต่อสามารถขอออกซิมได้ที่ศูนย์บริการของ AIS ทั่วกรุงเทพฯ / )

อ่ะ มาดูวิธีใช้กันทีละขั้นตอนเลยนะฮะ ^^

1. ดาวน์โหลด mPAY Application

2. สมัคร mPAY และลงทะเบียน AIS mPAY rabbit

3. เตรียมเงินใน mCASH ให้พร้อม

4. วิธีการเติมเงินเข้า AIS mPAY rabbit

5. พร้อมใช้งานได้ทันทีเลยจ้าาา (แค่แตะ ^^)

อ่ะ มาลองทำจริงกันเลย
ติดตั้ง mPAY App ก่อน และสมัครบริการ
อย่าลืมเติมเงินเข้า mCASH
โดยการเติมเงินเข้า mCASH เพื่อนๆ
ก็ดูวิธีการได้ที่เว็ปไซต์ด้านล่างได้เลยจ้า

เติมเงินจาก mCASH เข้าไป 200 บาท

เริ่มด้วยการซื้อกาแฟเบาๆ ที่ร้านแมคโดนัลล์ ^^

พอพนักงานคิดเงินเสร็จ ก็แตะเครื่องลงไปเบาๆ

ก็ถือว่าเสร็จสรรพสมบูรณ์จ้าา (ง่ายเนอะ)

จะเห็นได้ว่า จาก 200 บาท พอซื้อกาแฟไป เลยเหลือ 123 บาท ^^

อ่ะ !! ลองไปใช้ขึ้นรถไฟฟ้ามาหานะเธอ กันดูบ้างงงงง

กรี๊สสสส !! มันใช้แทนบัตรได้จริงๆด้วยอ่ะ

ใครที่เป็นลูกค้า เอไอเอส ก็ติดต่อเปลี่ยนซิมเป็น
AIS mPAY Rabbit ที่ เอไอเอส ช้อปกันนะ

แต่ต้องดูด้วยน้าาา ว่ามือถือรุ่นไหนบ้าง ที่รองรับบริการนี้
(ลองย้อนกลับไปดูข้างบน ^^)

สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อนจ้าา
ไว้มีประสบการณ์อะไรใหม่ๆ
ไว้จะมาแชร์ข้อมูลให้ทราบกันอีกนะครับ :)

รายละเอียดเพิ่มเติม :

//www.ais.co.th/mpay/aismpayrabbit/howto_rabbit.html