สวัสดีจ๊ะทุกคน วันนี้กุ้งจะมารีวิวคอลลาเจน อีกแบรนด์นึงให้ดูกันนะฮะ
เหตุที่เลือกตัวนี้มาลอง(อีก) เพราะยังไม่เคยรีวิว
ที่เป็นลักษณะวุ้น Jelly (คล้ายพวกปีโป้) แบบนี้มาก่อนเลยฮะ

มาดูที่แพกเกจจิ้งกันก่อนเลย









ปริมาณ 30 ซอง* 30 กรัม
ราคาเต็ม 2,850 บาท (ราคาขายในเว็ป 2,280 บาท)



สถานที่จำหน่าย :

//jellacollagen.com/

https://www.facebook.com/JellaCollagen

โทร 080-808-2121


คำโปรย :


jella collagen(เจลล่าคอลลาเจน) คือนวัตกรรมใหม่ของอาหารเสริม
ในรูปแบบ เยลลี่ ซึ่งใน 1 ซอง อุดมไปด้วย
คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกถึง 6,500 mg. แอลกลูต้าไธโอน โคเอนไซม์คิวเท็น
 สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ และสารสกัดจาก สาหร่ายเคลป์
 ซึ่งบรรจุอยู่ในซอง อลูมิเนียมที่ได้รับมาตรฐานการผลิตจาก GMP



วิธีรับประทาน :


 เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดี ควรทานก่อนนอนตอนท้องว่าง



ส่วนผสม :






จะเห็นได้ว่าใน1 ซอง  ประกอบด้วยวุ้น 30 กรัม
แบ่งเป็นโปรตีนคอลลาเจน 6,500 มิลลิกรัม

ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่คาดหวังผลได้
ในเรื่องการเพิ่มน้ำให้ผิว มีงานวิจัยว่าถ้าทาน 3 เดือนขึ้นไป

ในระยะยาว จะทำให้ผิวนุ่มขึ้น ลื่นขึ้น ดูมีน้ำมีนวล
ลดอาการแห้งลอก ลดริ้วรอยใต้ตา และกระชับรูขุมขนได้ด้วย

 (งานวิจัยในประเทศญี่ปุ่น กับสตรีชาวเอเชีย
อายุ 25 – 45 ปีขึ้นไป โดยให้ทานเป็นเวลา 12 สัปดาห์)


ที่เหลือเป็นสารที่ช่วยเรื่องการชะลอความเสื่อมของเซลล์ ได้แก่สารกลุ่ม Antioxidant
หรือสารต้านอนุมูลอิสระ, สารกลุ่ม Anti-aging และ whitening ดังนี้



ตัวที่ 1 = Litchi seed extract ( นำเข้าจาก Japan )






ตัวนี้เค้าคุยว่าได้รับการขึ้นทะเบียนจดสิทธิบัตรที่ประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วนะ
ว่าสามารถเพิ่มการสร้าง collagenและ ลดการทำลาย collagen ใต้ผิวหนังได้
และมันยังทำให้ผิวเราขาวขึ้นได้ด้วย (มีคุณสมบัติเป็น whitening agent )

เพราะช่วยยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์หลัก
ในกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง (Melanin synthesis) ได้นั่นเอง



ตัวที่ 2 = Grape seed extract ( นำเข้าจาก Japan )







ประกอบด้วยสาร Resveratrol ซึ่งมีการวิจัยว่ามีคุณสมบัติ
เป็น antioxidant และ anti-aging นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้น
การสร้าง collagen ได้อีกด้วย (ต้องกินอย่างต่อเนื่องนิดนึง)



ตัวที่ 3 = L-Glutathione ( นำเข้าจาก Japan )






ตัวนี้ดังมากนะ ในวงการการแพทย์ชะลอวัย
มองว่ากลูต้าเป็น anti-oxidant ที่ดีตัวนึง
แต่ร่างกายเราสามารถสร้างเองได้ที่ตับ เว้นแต่ว่า
ถ้าเราทานแอลกอฮอล์เยอะ กลูต้าจะสร้างได้น้อยลง
ทำให้ดูโทรมและแก่กว่าวัย ต้องได้รับเพิ่มจากอาหารเข้าไปเสริม




ตัวที่ 4 = โคเอ็นไซม์คิวเท็น (Co-Enzyme Q10)








โคเอนไซม์ Q10 เป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองได้เช่นกัน
โดยทำหน้าที่สร้างพลังงานและความแข็งแรงให้กับเซลล์
(พูดง่ายๆ คือ ทำให้รู้สึก Fresh สดชื่น กระปรี้กระเปร่า)



ตัวที่ 5 = Fish Collagen ( นำเข้าจาก France)







ในเนื้อปลานั้น ใครๆก็รู้ว่าเป็นโปรตีน แต่น้อยคนที่ทราบว่า
ในโปรตีนนั้น ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลักสามชนิด
คือ ไกลซีน โพรลีน และ ไฮโดรโพรลีน
ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาโครงสร้างของ collagen ใต้ผิวหนังนั่นเอง



ตัวที่ 6 = Kelp extract ( นำเข้าจาก Japan )







สาหร่ายทะเลนั้นมีคุณสมบัติเยอะมาก ทั้งช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว
เป็น anti-oxidant ช่วยลดการทำลาย Hyaluronic acid และงานวิจัยบางชิ้นระบุว่า
ช่วยลดการสร้างเม็ดสี (melanin) โดยยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ได้อีกด้วย



ลักษณะทางกายภาพ / กลิ่น สี รสชาติ :






สี


น่าหม่ำมากๆ (เป็นสีธรรมชาติจากพวกวัตถุดิบธรรมชาติ
เช่น สาหร่าย / เมล็ดองุ่น/เมล็ดลิ้นจี่)






กลิ่น

จะไม่คาวเหมือนคอลลาเจนจากปลาในยุคแรกๆ
และรสชาติจะออกหวานนำ (แต่ไม่อ้วนนะ เพราะเค้าใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล)
อมเปรี้ยวนิดๆ ถือว่าอร่อยพอสมควรเลยแหละ
(แต่อาจไม่อร่อยเท่าปีโป้นะ ฮาๆๆ เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่ขนม
และเป็นอาหารเสริมที่ทำออกมาคล้ายๆขนมมากกว่า ^^)



บรรจุภัณฑ์ :







เป็นซองอะลูแยกบรรจุสวยงาม / ภายในบรรจุวุ้นถึง 30 กรัม (ถือว่าเยอะมากนะ)

ส่วนที่ชอบที่สุด

คือ

1. พกพาสะดวก
2. ไม่ต้องใช้น้ำชง


ข้อดี / สิ่งที่ชอบ :


1.    มีส่วนผสมของโปรตีนเยอะ และเป็นโปรตีนที่บริสุทธิ์จากปลา
ย่อยง่าย ขนาดโมเลกุลเล็กกว่าโปรตีนที่ได้รับจากเนื้อปลาทั่วไปโดยตรง
(มีน้ำหนักโมเลกุลเล็กกว่า 1500 ดาลตัน)
และเป็นแบบไฮโดรไลซ์ (ผ่านการย่อยมาแล้วรอบนึง)
ทำให้ดูดซึมไวกว่าการทานปลาเป็นตัวๆ


2.    ใช้ซูคราโลสเป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล จึงไม่มีน้ำตาล ไม่ทำให้อ้วน

3.    มีสาร Super Anti-Oxidant ที่ละลายได้ทั้งน้ำและไขมัน
ร่วมกันทำงานหลายๆตัว หลายกลไก ซึ่งนอกจากเรื่องผิวแล้ว
ยังช่วยพวกเรื่องการชะลอวัย
ต่อต้านความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกายอีกด้วย


4.    มีส่วนผสมของสารสกัดลิ้นจี่ ซึ่งเป็นจุดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
(และเป็นสารที่มีงานวิจัยรองรับหลายฉบับ ทั้งของจากนักวิทยาศาสตร์ไทยและญี่ปุ่น)


5.    กินสะดวก คืออยากกินก็กินเลย ไม่ต้องชงน้ำ ไม่ต้องล้างแก้วให้วุ่นวาย



ข้อเสีย/สิ่งที่ไม่ชอบ :


1.    รสชาติยังแอบมีความขมแซมมาบ้างเล็กน้อย
(แต่ถ้าเทียบกับอาหารเสริมทั่วไป
ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก)


สรุปผลหลังทาน 2 Week


คือต้องบอกก่อนว่า ปกติกุ้งเป็นคนทานอาหารเสริมเยอะอยู่แล้ว
จึงพูดตรงๆว่าไม่ได้คาดหวังผลอะไรมากนัก
แต่ผิดคาด เพราะเริ่มเห็นได้ว่า

พอเข้าวันที่ 7 ที่ 8 หลังตื่นนอนมา หน้าจะดูใสกว่าปกติ
ดูเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม (ทั้งๆที่นอนน้อยมาก)
คือเหมือนร่างกายมันได้ Repair ตัวเองได้ดีขึ้น
เพราะเซลล์ได้รับสาร Anti-Oxidant
ที่หลากหลาย ทำงานเสริมกันหลายๆตัว หลายๆกลไก

แต่ที่ชอบที่สุด และทำให้เห็นผลคือ มันทานง่าย เราเลยหยิบมาทานได้ทุกวัน
โดยไม่ต้องฝืน (จริงๆตอนนี้เราเริ่มชอบรสชาติของมันซะแล้ว 555+)


สิ่งที่ทำให้คนเราไม่เห็นผลจากอาหารเสริม ส่วนนึงมาจาก “การทานที่ไม่ต่อเนื่อง”
เพราะปกติทั่วไป เช่น แบบอัดเม็ด หรือแบบชงดื่มซองๆนี่ จะทานบ้าง ไม่ทานบ้าง
เพราะเสียเวลาชง(แบบซองๆ) หรือบางทีก็ขี้เกียจกลืน(แบบเม็ดๆ) ทำให้ไม่ต่อเนื่อง
ผลที่ได้จึงเกิดไม่เต็มที่

แต่แบบ Jelly วุ้นแบบนี้ อย่างที่บอก ว่ามันทานง่าย
ทำให้ทานได้บ่อยและไม่ลืมที่จะทาน (รวมถึงไม่ต้องมีน้ำ ก็ทานได้ด้วย)
เลยคิดว่าเป็นอาหารเสริมเพื่อผิวพรรณอีกตัวที่โอเคที่สุด เท่าที่เคยลองมาเลยล่ะฮะ


ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ :


1. คอลลาเจนชนิดทานเสริม จะเกิดผลที่ดีที่สุดกับคนที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป

 2. ปริมาณที่คาดหวังผลได้ และมีงานวิจัยรองรับคือ 6,000 mg – 10,000 mg ต่อวัน
และผลจะเกิดสูงสุด เมื่อทานติดต่อกันอย่างน้อย  12 Week ขึ้นไป



แหล่งอ้างอิง :


บทความ Effect of Marine Collagen Peptide on Skin Condition
By Kenji Sato and Yasutaka Shigemura
(Sources: //www.crcnetbase.com/doi/abs/10.1201/b10120-11)

รายละเอียดเพิ่มเติม :





//jellacollagen.com/

https://www.facebook.com/JellaCollagen

080-808-2121


-----------------------------------------------------------------------------------
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อไม่มากก็น้อยนะครับ