ครูสาลี่...มองชีิวิตเป็นมหาวิยาลัย เราจะได้เรียนรู้อะไรได้ทุกอย่าง

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา จงบินเอาเ่ท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่เห็นต้องเหมือนใคร แค่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

หลักการเติม S (es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค๊า (ตอนที่ 2)




หลักการเติม S (es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค๊า (ตอนที่ 2)




หลักการเติม S (es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค๊า (ตอนที่ 2)


สำหรับการเติม S หรือ ES ในแบบที่ 2 นี้ เป็นการเติมที่คำกริยา (VERB) ค่ะ ซึ่งมีหลักการคล้ายคลึงกับการเติม S หรือ ES ที่ท้ายคำนามเพื่อบอกความเป็นพหูพจน์ (1 สิ่งขึ้นไป) นั่นเอง


 


เรื่องเล่าก่อนเรียน (โปรดอ่านเพื่อ ความเข้าใจ ที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม อิอิ)


     นานมาแล้ว ประธาน (Subject) อาศัยอยู่ในบ้านกลางป่าคนเดียว เนื่องจาก เวลาไปคุยกับใครที่ไหน ก็ไม่เคยมีใครเข้าใจเขาเลย อย่างเช่นวันหนึ่งที่เขาไปเจอกับสาวงามที่เป็นที่ใฝ่ฝันของหนุ่มละแวกเดียวกันในหมู่บ้าน เขาได้รวบรวมกำลังใจและพูดกับเธอว่า "ผม ...." "เ่อ่อ....ผม......" หลังจากที่ได้พยายามแล้วพยายามอีกเค๊าก็ไม่สามารถทำให้หญิงคนนั้นเข้าใจเขาได้เลย จนในที่สุด เขาก็คิดว่า การอยู่คนเดียวคงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด


     แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังผ่าฟืนอยู่ ก็มีหญิงสาวน่ารักคนหนึ่ง นามว่ากริยา (Verb) หลงทางมา ท่าทางของเธอเศร้าหมองนัก ด้วยเพราะว่าทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนชอบสั่งนู๊นสั่งนี่มาโดยตลอด ตั้งแต่เด็ก เท่าที่เธอจำความได้ เธอก็ได้แต่พูดกับคนอื่นๆว่า "กิน" "เดิน" "เล่น" "รัก" "คิด" จนเพื่อนๆที่อยู่ใกล้เธอเริ่มตีตัวออกห่าง เพราะต่างไม่ชอบการวางอำนาจของเธอ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะมาปลีกวิเวกอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสักพัก


     ประธาน (Subject) ได้เริ่มเดินเข้าไปทักทายกับสาวน้อยคนนั้นว่า " ผม ...." แล้วเสียงเขาก็เงียบหายไปเช่นเดิม ชั่ววินาทีหนึ่งที่ดูยาวนานเป็นหลายนาที ต่างคนต่างไม่มีใครยอมปลิปาก แต่แล้ว กริยา (Verb) สาวน้อยหน้าหวานก็ได้เงยหน้าขึ้น ด้วยความดีใจเป็นครั้งแรกที่เธอมีเพื่อนใหม่เข้ามาทักทาย พร้อมกับพูดว่า "ต้องการ" ทั้งสองคนพูดด้วยกันตามประสาตนเองอยู่สักพัก และไม่นานความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เิริ่มพัฒนากลายเป็นเพื่อนสนิท
(ที่หลายๆคนไ่ม่อยากเป็น แอบแซว) เพราะทั้งสองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ อย่างเช่นเวลาไปเดินตลาด ประธาน (Suject) มักเริ่มพูดว่า "เรา...." กริยา (Verb) ก็จะรีบเสริมทันทีว่า "ต้องการ...." เพียงเท่านี้ ทุกคนก็ล้วนเข้าใจความปรารถนาของทั้งสองคนอย่างง่ายดาย



     ไม่น่าแปลกที่วันหนึ่งไม่นาน หลังจากนั้น ประธาน (Subject) ตัดสินใจที่จะเปิดเผยความในใจกับกริยา (Verb) เมื่อเขาเริ่มพูดว่า "ผม....." กริยา (Verb) ด้วยความคิดเดียวกันก็ตอบกลับออกไปว่า "รัก...." ตั้งแต่นั้นมา ทุกคนก็ได้มีโอกาสแสดงความยินดีกับคู่รักคู่ใหม่ คู่ที่แปลกที่สุดในโลกแต่ก็เป็นคู่รักที่ส่งอิทธิพลต่อคนที่เรียนภาษาอังกฤษทั่วโลกเช่นกัน เพราะตั้งแต่นั้น ทุกคนต่างก็รู้ว่า ประธาน (Subject) และกริยา (Verb) ได้บอกความนักที่ยิ่งใหญ่ต่อกัน
ว่า "ฉันรักเธอ"


ดังนั้น ทุกครั้งที่เราเขียนหรือเรียนภาษาอังกฤษ เราจึงต้องจำไว้เสมอว่า ประธานหลงรักกริยา และกริยาหลงรักประธานได้ยังไง เพื่อที่เราจะได้ไม่ลืมว่า ไม่ว่าประธานจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเช่นไร กริยาก็จะตามรักและปรับตัวเองตามไปเช่นนั้นเสมอ  นั่นก็คือที่มาของ การที่เราต้องผันกริยาตามประธานนั่นเอง หรือที่เขาเรียนกันยากๆว่า Subject Verb Agreement


 


ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ประธานเป็นเอกพจน์ (ยกเว้น I กับ You)

กริยาก็จะเติม S หรือ ES เสมอ


 


เช่น


He loves his parents. (เขารักพ่อแม่ของเขา)


Sarah wants to learn new things. (ซาร่าต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ)


My papa lives in Australia. (คุณพ่อของฉันอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย)


เป็นต้น


 


ไม้ตายในการจำค่ะ... (เหมาะสำหรับผู้ที่งงเป็นไก่ตาแตกตั้งแต่เด็กๆ ...)



 


*******************


 


ตั้งแต่ตอนนี้ไป เป็น "ขั้นเทพ" ค่ะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับน้องๆ ที่จะสอบเข้านะคะ มา เด็กเทพ หรือ เด็กเม็บ มาลุยกันเลยค่ะ


ปล. เด็กเม็บเป็นศัพท์วัยรุ่น มาใหม่ล่าสุด ครูสาลี่ขอ Trendy ตามเด็กๆ หน่อยแล้วกันนะคะ อิอิ


 


กฎข้อที่ 1


เมื่อประธาน 2 ตัว มี and เป็นตัวเชื่อม จะมีความหมายเหมือน 1+1 = 2 นะคะ


และเมื่อประธานเป็นพหูพจน์ (มีมากกว่า 1) กริยาที่ตามมาต้องไม่เติม S หรือ ES นั่นเอง ตามรูปเลยค่ะ



 


กฎข้อที่ 2


เมื่อประธาน 2 ตัว มี with, as well as, หรือ together with เป็นตัวเชื่อม ให้กริยาผันตามประธานตัวที่ 1 (ตัวที่อยู่ไกลจากกริยาที่สุด) นะคะ


ตามรูปเลยค่ะ



 


กฎข้อที่ 3


เมื่อประธาน 2 ตัว มี Either...or.... หรือ Neither.....nor หรือ Not only ............ but also.......... เป็นตัวเชื่อม ให้กริยาผันตามประธานตัวที่ 2 (ตัวที่อยู่ใกล้กับกริยามากที่สุด) นะคะ


ตามรูปเลยค่ะ



 


เป็นยังไงบ้างคะ งงหรือเปล่าเอ่ย ยังไงครูสาลี่ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับการเรียนภาษาอังกฤษนะคะ ครูจะพยายามหนีงานแปล เข้ามาอัพบล็อกบ่อยๆค่ะ เพื่อทุกๆคน อิอิ


 


 







Create Date : 29 มกราคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2553 15:15:30 น. 11 comments
Counter : 6726 Pageviews.

 
ว๊าว ได้ความรู้เยอะแยะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณครูสาลี่


โดย: หนูเมเปิล วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:19:37:06 น.  

 
ลบ comment

ต้องสวดมนต์ก่อนค่ะ สวดให้ถูกต้องตามหลัก
แล้ว จึงเริ่มเดินจงกรม เมื่อเดินจงกรม ครบ 30 นาที ต้องลงนั่งสมาธิ ต่ออีก 30 นาทีค่ะ (อย่างละ ไม่ต่ำกว่า 30 นาทีขึ้นไป)

หากเดินจงกรม 45 นาทีก็ต้องต่อด้วยนั่งสมาธิ 45 นาที ค่ะ

หัวใจสำคัญของการทำกรรมฐาน คือ ต้องเดินจงกรม และนั่งสมาธิในเวลาเท่ากัน และ อย่างละไม่ต่ำกว่า 30 นาที นั่นคือ

ต้อง ทำกรรมฐาน 1 ชม ขึ้นไป ถึงจะมีพลังแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรไป ไม่งั้นบุญไม่เกิด แผ่ให้ใครก็แผ่ได้แต่ปาก แต่บุญไม่ได้ไปถึงเค้าหรอกค่ะ เพราะไม่มีบุญเลย

แนะนำให้ลองไปฝึกที่ วัดอัมพวัน สิงห์บุรีดูนะค่ะ ไปช่วงไม่มีคนเยอะน่ะค่ะ เมื่อเป็นแล้ว ก็กลับมาฝึกเองที่บ้านได้นะค่ะ



โดย: อร (Aorn_N ) วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:21:53:21 น.  

 
Thank you na kay!!


โดย: Awn IP: 95.66.0.29 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:23:13:27 น.  

 
มาหาความรู้ด้วยค่ะครูสาลี่

สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ


โดย: be-oct4 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:44:09 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คุณครูสาลี่
เข้าใจง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เรียนมาตั้งเยอะ
เพิ่งมาเข้าใจตอนที่อ่านบล็อกของคุณครูนี่แหละค่ะ

เอาอีก ๆ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ครูสาลี่เลยแล้วกันนะเจ้าคะ ^ ^


โดย: ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ IP: 203.114.122.27 วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:14:44:26 น.  

 
เยี่ยม..


โดย: เด็กโง่ IP: 183.89.195.204 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:16:44:16 น.  

 
ชอบมากๆๆๆ

I love you.

คุณครูน่ารักมากๆ


โดย: กันเอง IP: 125.24.169.188 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:35:54 น.  

 
ดีมากมากคะ........+v+
นำมาเล่าเรื่องได้ด้วย......+-+
ขอบคุณคะ
vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvงvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvงvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv
นิดนึง


โดย: รานี IP: 125.26.0.9 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:58:59 น.  

 
ขอบคุณทุกคนน๊าค๊า

หากว่าครูมีอะไรปรับปรุงแนะนำได้นะคะ

ไว้บทต่อๆ ไปจะมาอัพให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นค๊า


โดย: ครูสาลี่ IP: 125.24.44.156 วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:21:44:54 น.  

 
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆเลยนะครับครูผมจะนำไปใช้ครับ


โดย: พงษ์สิริ IP: 182.93.228.225 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:13:18:36 น.  

 
ดีมากเลยค่าาา


โดย: Memir IP: 134.196.223.161 วันที่: 29 ธันวาคม 2559 เวลา:19:51:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ksatrey
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีและยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บล็อกของสาลี่ค่ะ หวังว่าบล็อกนี้คงให้ทั้งความสนุกสนานและความรู้แก่ทุกคนบ้างตามสมควรนะคะ เนื่องจากสโลแกนในการสร้างบล็อก "มองชีวิตเป็นมหาวิทยาลัย เราจะได้เรียนรู้อะไรๆได้ทุกอย่าง" จึงขอเรียกตัวเองว่า "ครูสาลี่" และขอน้อมรับความติชมของ "คุณครุ" ทุกๆคนนะคะ (เพราะเราต่างเป็นครูเป็นนักเรียนกันทั้งสิ้น อิอิ) ดีไหมคะ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ksatrey's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.