สรุปผลการสำรวจประชากรนกกรุงชิงในรอบ 6 ปี
การสำรวจประชากรนกกรุงชิง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง เริ่มครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2550 และทำติดต่อกันมาจนถึงปีปัจจุบัน พ.ศ. 2555 รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยใช้เวลาในเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นหน้าร้อนเหมาะกับการดูนกในป่าฝนของเทือกเขาหลวงเนื่องจากเป็นช่วงที่มีฝนน้อยที่สุดของปี การสำรวจมีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูนกระหว่างนักดูนกและผู้ที่สนใจ ทั้งยังได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานในพื้นที่สำหรับใช้เป็นแหล่งอ้างอิงเพื่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอาจได้ข้อมูลที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมของพื้นที่อาศัยของนกได้
"กรุงชิง" หรือ "หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขล.4 (น้ำตกกรุงชิง)" เป็นแหล่งดูนกและศึกษาธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ เป็นที่ราบในหุบเขาสูงประมาณ 200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดที่ทำการของหน่วยฯ ตั้งอยู่ในพิกัดเส้นรุ้งที่ 08° 44 20.3 เหนือ และเส้นแวง 99° 40 04.6 ตะวันออก มีเนื้อที่ประมาณ 100,000 ไร่ ตั้งอยู่ในวงล้อมของเทือกเขาหลวง มีน้ำตกที่สวยงามและสำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาหลวงเรียกว่า "น้ำตกกรุงชิง" ซึ่งมาจากชื่อต้นชิงซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่มีอยู่มากในเขตนี้ นกที่พบในป่ากรุงชิงเป็นชนิดที่จัดอยู่ในประเภทสัตว์ในเขตสัตว์ภูมิศาสตร์แบบโอเรียนตัล (Oriental Region) เขตย่อยซุนดา (Sundaic Sub-region) ซึ่งจะมีนกประจำถิ่นคล้ายกับที่พบในมาเลเซียและอินโดเนเซีย เช่น นกเขียวปากงุ้ม นกพรานผึ้ง ไก่จุก นกปรอดอกลายเกล็ด นกเงือกดำ นกชนหิน นกกินแมลงชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนในหน้าหนาวจะมีนกที่อพยพมาจากเขตพาลีอาร์คติก (Palearctic Region) คือจากแถบยุโรปและเอเชียตอนเหนือ เช่น นกอีเสือลายเสือ นกจับแมลงตะโพกเหลือง นกแซวสวรรค์หางดำเป็นต้น ชนิดนกในหน่วยกรุงชิงจึงน่าค้นหาและสำรวจ
การสำรวจประชากรนก ได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 เส้นทาง เริ่มตั้งแต่บนถนนทางเข้าหน่วย ฯ ผ่านด่านเก็บค่าธรรมเนียมไปจนถึงรอบ ๆ ลานกางเต็นท์ และเลยไปถึงน้ำตกชั้น "หนานฝนแสนห่า" เป็นระยะทางรวมประมาณ 5 กิโลเมตร แบ่งช่วงเวลาสำรวจออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรกตั้งแต่เวลา 6.00-12.00 น. และช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 13.00-24.00 น. แบ่งผู้สำรวจออกเป็นกลุ่มโดยไม่จำกัดจำนวนกลุ่มและจำนวนสมาชิกในกลุ่ม ให้ผู้สำรวจเลือกเส้นทางสำรวจได้ตามอัธยาศัย โดยกำหนดให้นับนกทุกครั้งที่เห็นและได้ยินเสียงโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะซ้ำตัวเดิมหรือไม่ ตัวเลขที่นับได้จะแสดงความถี่ของการพบนก (ไม่ใช่จำนวนนก)
ผลการสำรวจพบว่าจำนวนนกที่พบค่อนข้างมีความสัมพันธ์จำนวนผู้สำรวจ จำนวนชนิดและความถี่ในการพบนกในช่วงเช้ามีมากกว่าในช่วงบ่าย นกที่พบบ่อยที่สุด 5 อันดับแรกคือ นกจอกป่าหัวโต นกปรอดทอง นกนกปรอดสีน้ำตาลตาแดง นกปรอดเหลืองหัวจุก และนกกินแมลงอกเหลือง อย่างไรก็ตามผลการสำรวจยังไม่อาจสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือสภาพที่อยู่อาศัยใด ๆ ได้ การสำรวจทำให้บันชีรายชื่อของนกกรุงชิงเพิ่มจาก 251 ชนิดในครั้งแรก เป็น 266 ชนิดในครั้งที่ 6
ตารางแสดงสรุปผลการสำรวจนกกรุงชิงในรอบ 6 ปี
ปี พ.ศ. | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 | 2555 |
ชนิดนกที่พบทั้งหมด | 145 | 128 | 116 | 124 | 120 | 121 |
ชนิดนกที่พบในช่วงเช้า/บ่าย | - | - | 102/61 | 111/69 | 107/59 | 99/64 |
ความถี่นกที่พบในช่วงเช้า/บ่าย (รวมทุกชนิดที่พบ) | - | - | 405/136 | 429/210 | 311/125 | 210/88 |
จำนวนผู้สำรวจ | 35 | 24 | 21 | 19 | 10 | 13 |
การสำรวจประชากรนกกรุงชิงครั้งที่ 6
ผลการสำรวจ
1. วันที่สำรวจ ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม พ.ศ. 2555
2. จำนวนผู้สำรวจ 13 คน
3. ชนิดนกที่พบทั้งหมด 121 ชนิด มีนกที่พบใหม่ในรอบปี 0 ชนิด ทำให้จำนวนชนิดนกของกรุงชิงเพิ่มเป็น 266 ชนิด
4. ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 99 ชนิด และพบในช่วงบ่าย 64 ชนิด
5. จำนวนนกพบทั้งหมดในช่วงเช้า 210 ตัว และพบในช่วงบ่าย 88 ตัว
6. นกที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับคือ นกจอกป่าหัวโต นกปรอดสีน้ำตาลตาแดง และนกปรอดทอง
การสำรวจประชากรนกกรุงชิงครั้งที่ 5
ภาพนกเงือกหัวหอกกำลังกินลูกสุเหรียญ ในฝูงมี 6 ตัว
ผลการสำรวจ
1. วันที่สำรวจ ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม พ.ศ. 2554
2. จำนวนผู้สำรวจ 10 คน
3. ชนิดนกที่พบทั้งหมด 120 ชนิด มีนกที่พบใหม่ในรอบปี 4 ชนิด ทำให้จำนวนชนิดนกของกรุงชิงเพิ่มเป็น 266 ชนิด
4. ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 107 ชนิด และพบในช่วงบ่าย 59 ชนิด
5. จำนวนนกพบทั้งหมดในช่วงเช้า 311ตัว และพบในช่วงบ่าย 125 ตัว
6. นกที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับคือ นกจอกป่าหัวโต นกปรอดสีน้ำตาลตาแดง และนกปรอดโอ่ง
การสำรวจประชากรนกกรุงชิงครั้งที่ 4
ผลการสำรวจ
1. วันที่สำรวจ ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม พ.ศ. 2553
2. จำนวนผู้สำรวจ 19 คน
3. ชนิดนกที่พบทั้งหมด 124 ชนิด มีนกที่พบใหม่ของกรุงชิง 2 ชนิด ทำให้จำนวนชนิดนกของกรุงชิงเพิ่มเป็น 262 ชนิด
4. ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 111 ชนิด และพบในช่วงบ่าย 69 ชนิด
5. จำนวนนกพบทั้งหมดในช่วงเช้า 429 ตัว และพบในช่วงบ่าย 210 ตัว
6. เฉพาะในเทรลหมายเลข 1 คือตั้งแต่ป้ายทางขึ้นหน่วยถึงสามแยกลานจอดรถ ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 66 ชนิด 189 ตัวและพบในช่วงบ่าย 28 ชนิด 48 ตัว นกที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับคือ นกปรอดทอง นกปรอดเหลืองหัวจุก และนกกินแมลงอกเหลือง
การสำรวจประชากรนกกรุงชิงครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม พ.ศ. 2552
วัตถุประสงค์
1. เพื่อทราบชนิดนกที่พบทั้งหมด
2. เพื่อทราบจำนวนนกที่พบทั้งหมด
3. เพื่อทราบชนิดนกที่พบบ่อยที่สุด
4. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของชนิดและจำนวนนกที่พบระหว่างช่วงเช้าและช่วงบ่าย
วิธีการสำรวจ
1. แบ่งเส้นทางสำรวจออกเป็น 7 เส้นทาง
2. ในแต่ละเส้นทางให้กลุ่มเดิมสำรวจทั้งช่วงเช้าและบ่าย
3. สำรวจโดยการเดินไปช้า ๆ เมื่อพบนกให้บันทึก อาจมีการหยุดยืนรอในบางจุด
4. ให้บันทึกนกทุกครั้งที่เห็น แม้ว่าอาจซ้ำตัวเดิม จำนวนนับคือจำนวนความถี่ที่พบ
ผลการสำรวจ
1. วันที่สำรวจ 7 มีนาคม 2552
2. จำนวนผู้สำรวจ 21 คน
3. ชนิดนกที่พบทั้งหมด 116 ชนิด มีนกที่พบใหม่ของกรุงชิง 5 ชนิด ทำให้จำนวนชนิดนกของกรุงชิงเพิ่มเป็น 260 ชนิด
4. ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 102 ชนิด และพบในช่วงบ่าย 61 ชนิด
5. จำนวนนกพบทั้งหมดในช่วงเช้า 405 ตัว และพบในช่วงบ่าย 136 ตัว
6. เฉพาะในเทรลหมายเลข 1 คือตั้งแต่ป้ายทางขึ้นหน่วยถึงสามแยกลานจอดรถ ชนิดนกที่พบทั้งหมดในช่วงเช้า 62 ชนิด 133 ตัวและพบในช่วงบ่าย 23 ชนิด 39 ตัว นกที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับคือ นกปรอดเหลืองหัวจุก นกกินแมลงอกเหลือง และนกแอ่นฟ้าตะโพกเทาและนกแอ่นกินรัง
สรุปผลการสำรวจ
1. ในช่วงเช้ามีโอกาสที่จะพบนกทั้งชนิดและจำนวนมากกว่าในช่วงบ่าย
2. ชนิดนกที่พบทั้งหมด 116 ชนิด น้อยกว่าการสำรวจครั้งที่ 2 (10 พค.51) 12 ชนิด และน้อยกว่าครั้งที่ 1 (28-29 เมย. 50) 23 ชนิด
3. รายชื่อนกกรุงชิงเพิ่มจากการสำรวจครั้งที่ 2 จำนวน 5 ชนิด รวมเป็นทั้งหมด 260 ชนิด ตรวจสอบรายชื่อนกได้ที่นี่
4. นกที่พบบ่อยที่สุดคือนกปรอดเหลืองหัวจุกและนกกินแมลงอกเหลือง
การสำรวจประชากรนกกรุงชิงครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม พ.ศ.2551