อ่านเอามาเล่า

พ่อค้าขายไข่

            ชายคนหนึ่งนำไข่ไก่มาขายที่ตลาดนัด  เขาเขียนบนกระดาษแผ่นหนึ่งว่า  “ไข่ไก่สดใหม่มีขายที่นี่”  มีคนคนหนึ่งเดินมาพูดกับเขาว่า

 

            “พี่ชาย  ทำไมต้องเขียนคำว่า”สดใหม่”ด้วยล่ะ  หรือว่าไข่ไก่ที่คุณขายไม่สดใหม่”

 

            เขาคิดแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล  จึงลบคำว่าสดใหม่ทิ้งไป

 

            ไม่นาน  มีอีกคนหนึ่งพูดกับเขาว่า  “ทำไมต้องเขียนว่า”ที่นี่”ล่ะ  ถ้าไม่ใช่ที่นี่  แล้วคุณจะไปขายที่ไหน”  เขารู้สึกว่ามีเหตุผล  จึงลบคำว่าที่นี่ทิ้งเสีย

 

            ครู่หนึ่ง  มีป้าแก่ๆ คนหนึ่งพูดกับเขาว่า  “คำว่า ”ขาย” นั้นมันเกินความจำเป็น  หากไม่ใช่ขายแล้ว  คุณจะให้ฟรีหรือไง”  เขาจึงลบคำว่าขายทิ้งไปอีก

 

            ตอนนี้มีอีกคนหนึ่งเดินมาแล้วพูดกับเขาว่า  “คุณจะทำเรื่องง่ายให้ยากไปทำไม  ใครๆ มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นไข่ไก่  มีความจำเป็นอะไรที่จะเขียนคำว่า “ไข่ไก่” 

 

          ในที่สุด  ตัวหนังสือทั้งหมดถูกลบออกไป

 

***บางครั้งความหวังดีของผู้อื่นกลับทำให้เราสูญเสียทิศทางและเป้าหมายไป 

 

*****

 

 

         

 




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2555 8:08:05 น.   
Counter : 1477 Pageviews.  

ข้อพิสูจน์

           ผมใช้กำลังและความพยายามไม่น้อยเลยกว่าจะแทรกตัวขึ้นไปบนรถโดยสารประจำทางคันนี้ได้  แต่กลับลืมหยิบกระเป๋าสตางค์ติดตัวออกจากบ้าน  ผมรวบรวมความกล้าที่จะอธิบายและปรึกษากับกระเป๋ารถว่า  “ผมนั่งรถสายนี้เป็นประจำทุกวัน  จะกรุณาอนุญาตให้ผมจ่ายคืนค่าโดยสารในวันหลังได้ไหม”  เขาโบกไม้โบกมือพูดว่า  “ลงรถป้ายหน้า”

 

            สายตาทุกคู่บนรถจับจ้องที่ผม  บรรยากาศเงียบไปชั่วครู่  ชายหนุ่มคนหนึ่งยื่นเหรียญหนึ่งเหรียญมาให้พร้อมกับพูดว่า  “ก็แค่เหรียญเดียว  ไม่ต้องคืนนะครับ” 

 

            ผมซาบซึ้งจนน้ำตาแทบร่วง

 

            แต่ว่าผู้คนข้างๆ เริ่มกระซิบกันวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมเป็นนักต้มตุ๋น  ผมรู้สึกทั้งละอายทั้งโกรธ  คิดอยากจะทิ้งตั๋วแล้วลงจากรถไป  นาทีนี้นี่เอง  ชายหนุ่มที่ให้เงินผมยืมผู้นั้นก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า  “ขอยืมโทรศัพท์มือถือของคุณใช้หน่อยได้ไหมครับ”

 

            ผมรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก  รีบยื่นโทรศัพท์มือถือให้แก่เขา  เขารับไปแล้วกดเบอร์โทรออก  พูดคุยอยู่ประมาณสองสามนาที  อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน  เราต่างก็จะได้ไม่ต้องติดค้างซึ่งกันและกัน  และผมก็จะได้พิสูจน์ตัวเองด้วย

 

            กระทั่งลงจากรถ  จิตใต้สำนึกของผมทำให้ผมเปิดดูโทรศัพท์มือถือและก็ต้องตกตะลึง  ที่แท้เขาไม่ได้โทรออกเลย  เขาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม  ขณะเดียวกันก็ได้พิสูจน์ความดีมีเมตตาธรรมของเขาด้วย

 

*****

 




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 8:09:20 น.   
Counter : 1160 Pageviews.  

สภาพต่างกัน

           หมูตัวหนึ่ง  แกะตัวหนึ่งและวัวนมอีกตัวหนึ่งถูกขังรวมกันอยู่ในคอกเดียวกัน  วันหนึ่ง  คนเลี้ยงจะจับหมูออกไปจากคอก  มันร้องเสียงลั่น  ต่อสู้ขัดขืนอย่างดุเดือด  แกะและวัวนมรังเกียจเสียงดังลั่นของมัน  จึงพูดกับมันว่า

 

            “เขามาจับพวกเราอยู่บ่อยๆ  พวกเราไม่เห็นร้องโวยวายอย่างนี้”

 

            หมูฟังแล้วตอบว่า  “เขาจับพวกเจ้ากับจับข้ามันต่างกันคนละเรื่องเลยล่ะ  เขาจับพวกเจ้าก็แค่ต่องการเอาขนกับเอาน้ำนม  แต่จับข้ากลับจะเอาชีวิตของข้าเลยทีเดียว”

 

*** จุดยืนต่างกัน  คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน  ยากที่จะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย  ฉะนั้น  ท่าทีต่อผู้ที่พบปัญหา  อุปสรรค  ความผิดหวัง  ความเจ็บปวด  ควรเข้าใจและให้ความเอาใจใส่อย่างถ่องแท้  อย่าเพิ่งพูดโดยไม่เข้าใจสภาพ

 

*****

 




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2555 8:59:27 น.   
Counter : 1131 Pageviews.  

ไม่เห็นจุดหมายน่ากลัวกว่าความตาย

          ขุนศึกนายหนึ่ง  ทุกครั้งที่มีการลงโทษนักโทษประหารชีวิตนั้น  จะให้นักโทษมีสองทางเลือก  คือ หนึ่ง  ยิงเป้าเพื่อจบชีวิต  สอง  ให้มุดเข้าไปในอุโมงค์ที่อยู่ทางกำแพงด้านซ้าย  ส่วนชะตากรรมจะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้

 

          นักโทษทั้งหมดต่างยอมเลือกที่จะถูกยิงเป้าแต่ไม่ยอมที่จะเข้าไปในอุโมงค์มืดมิดที่ไม่รู้ว่ามีอะไรในนั้น

 

            วันหนึ่ง  ขุนศึกดื่มเหล้าจนได้ที่   ขณะที่ครึ้มอกครึ้มใจอยู่นั้น  คนข้างๆ ใจกล้ามากถามเขาว่า  “ท่านนายพล  ท่านจะสามารถบอกพวกกระผมได้ไหมครับว่าหากเดินจากอุโมงค์ที่มืดนี้เข้าไป  จะมีอะไรเกิดขึ้นครับ”

 

            “ไม่มีอะไรเลย  ความจริงคนที่เดินเข้าไปในอุโมงค์มืดมิดนี้  แค่ต้องคลำทางในความมืดสักวันสองวันก็จะสามารถหนีรอดเป็นอิสระได้อย่างสะดวกสบายแล้ว  แต่ผู้คนทั้งหลายต่างไม่กล้าเผชิญกับสิ่งที่ยังไม่รู้ได้ในอนาคตเท่านั้น”  ขุนศึกตอบ

 

*****

 

           

 




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2555 8:23:21 น.   
Counter : 1212 Pageviews.  

เปลี่ยนท่าที

สุนีย์กับชบาทำงานอยูในบริษัทเดียวกัน  ทั้งคู่ไม่ค่อยลงรอยกันมาตลอด

 

วันหนึ่ง  ชบาอดรนทนต่อไปไม่ไหวแล้วจึงบอกวีระเพื่อนร่วมงานของเธอว่า  “คุณไปบอกสุนีย์นะว่าฉันทนเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว  บอกเธอให้แก้ไขนิสัยที่ไม่ดีเสีย  มิเช่นนั้นจะไม่มีใครใยดีเธออีกแล้ว”

 

          วีระตอบว่า  “ได้เลย  เรื่องนี้ผมจัดการเอง”

 

            หลังจากนั้น  ทุกครั้งที่ชบาพบหน้ากับสุนีย์  สุนีย์มักจะยิ้มแย้มแจ่มใส  ท่าทีนอบน้อมอย่างยิ่ง  เปรียบกับเมื่อก่อนต่างกันราวกับคนละคน 

 

            ชบากล่าวคำขอบคุณกับวีระ  และถามอย่างแปลกใจว่าว่า  “คุณพูดกับเธออย่างไรนะ  ช่างได้ผลอย่างอัศจรรย์”

 

          วีระยิ้มแล้วกล่าวว่า  “ผมเพียงแต่บอกกับเธอว่ามีคนกล่าวชมเธอตั้งหลายคน  โดยเฉพาะชบา  ว่าเธอทั้งเมตตาทั้งอ่อนโยน อารมณ์ดีมนุษยสัมพันธ์ก็ดี  แค่นี้เอง”

 

*** ขอให้เราได้มีบทบาทในการปรุงแต่งอารมณ์ในระหว่างเพื่อนฝูงญาติมิตร  ก่อให้เกิดประโยชน์แก่กันและกัน  ทั้งนี้จักต้องบ่มเพาะจิตใจและสติปัญญา  เรียนรู้ในการเลือกใช้วิธีและช่องทาง

 

*****

 

         

 

 




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 8:11:10 น.   
Counter : 1156 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

Krareinpa
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add Krareinpa's blog to your web]