Athens อดีตที่รุ่งเรืองบน Acropolis
เราบินไปด้วย Sky Europe สมัยยังไม่เจ๊ง

เกาะอะไรหนอ ระหว่างทางที่บินไป



มีรถเปิดหลังคาพาทัวร์ แต่ขอโทษ คนเดินเก่งอย่างเรา ไม่คิดจะใช้บริการ ให้พวกนักท่องเที่ยวที่มีเวลาแค่เมืองละวัน เขาทำเวลากันดีกว่า เราอยู่ที่นี่ตั้งสี่วัน



เนื่องจากที่พักเราอยู่ในเมืองเลย ก็เดินไปนิดเดียวถึง วันอาทิตย์จะเข้าฟรีด้วย



เดินชมได้ทั่วเลย แต่ต้องไปเข้าคิวรับตั๋วฟรีอยู่ดี



มาถึงแล้วผิดหวังเล็กน้อย มันดูไม่เห็นใหญ่โตอลังการเหมือนในหนังสือ



แต่วิวจากบนนี้ก็สวยมาก มองไปเห็นบ้านคนสีขาว



แมวข้างถนนเยอะมาก สมชื่อ



ซากที่เหลือไม่ค่อยงาม ที่งามๆ อยู่ที่ British Museum หมดละ



ระเบียงนี้เป็นชิ้นหลัก ที่สำคัญ



เดินลงละ ไปดูอย่างอื่นบ้าง เดี๋ยวไม่ทัน



เดินผ่านบ้านคนระหว่างซอกเขา เห็นแล้วเวลาซื้อตู้เย็นใหม่ คงขนกันลำบาก ขึ้นกระไดล้วนๆ



ตามซอกๆ ตึก เนี้ยก็จะมีร้านกาแฟ ที่นั่งตามขั้นบันได้ ถ้าอากาศดีๆ ก็น่านั่ง



แดดยอแสง ในเดือนมีนาคม



คนมาชิงที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกซะแล้ว มาช้าไปก็แบบนี้



ไปกินอาหารร้านนี้ในซอย ข้างที่พัก เลือกเพราะการแต่งร้านล้วนๆ



สั่งเฟต้าสลัดมากิน บ้านๆ มาก เพราะไม่รู้จะกินอะไรดี



กินเสร็จขอเดินถ่ายรูปเล่นในร้าน เพราะไม่ค่อยมีคน



โบสถ์บนถนนกลางเมือง ข้างที่พักเหมือนกัน ถนนช้อปปิ้งที่นี่ไม่อลังการเท่าไหร่นัก



ไปดูทหารยามเปลี่ยนกะด้วย





การขุดในเอเธนส์ทำได้ยาก เพราะใต้เมืองมีแต่ของเก่า กว่าจะได้เมโทรมา



แล้วก็เดินกลับมาที่สถานีเมโทรหน้าที่พัก (อันนี้แหละ)



เดินตามเส้นทางรถเมโทรไป



ไปตามปาร์คนี้ อีกข้างนึงเป็นร้านอาหารและร้านขายของฝาก



ดูของสวยๆ ตามร้าน



ของฝากจากเมืองกรีซ



ไปเดินเขาอีกลูกกัน



มีรถไฟขึ้นเขาให้บริการ มองไปในรถ มีแต่คนแก่ เสียเซลฟ์ รีบเดินๆ



ตอนนั้นยังไปกะสามีเก่าอยู่



ซากทั้งหลาย



โบสถ์กรีซจะคล้ายกะที่บัลกาเรียเลย



เพราะว่าเป็นคริสต์ออธอดอ็กซ์



ไปอีกมุมเมือง





ต้องไปแวะตลาดสักหน่อย ก่อนวาย



หาขนมกิน



ที่นี่กินขนมพวกบักลาวา ขนมแขก เยอะด้วย เราชอบอันนี้สุด



ตอนค่ำ ถ่ายรูปวิวเล็กน้อย เพราะกล้องไม่อำนวย



อาหารเย็นนี้





ข้างในร้านนี้จัดแนวเก่าๆ



นี่แหละจ้าที่ตั้งของร้าน อย่าให้บอกชื่อเลยเพราะอ่านไม่ออก



วันต่อมา ทำการขึ้นเมโทร ไปลง Piraeus ท่าเรือ



ตั๋วรถเมโทรราคา 1 ยูโรเองตอนนั้น



เรือออกแต่เช้า 7 โมงกว่า เดินหาอะไรกินก่อน แต่อันนี้กินเลยไม่ได้



ลงเรือเฟอรี่ บลูสตาร์ไปซานโตรินี่กัน ตั๋วราคาไม่ได้ผิดหรอก คนที่ตรวจก็มองแล้วมองอีกเหมือนกัน อิอิ



ปกติตั๋วเฟอรี่จะแพงในฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ถ้าช่วงตุลาถึงมีนา ราคาจะถูก แล้วเราจองล่วงหน้า 6 เดือน จึงได้มาในราคาเที่ยวละ 10 ยูโรจากปกติ 33.50 จ๊ะ ตามไปดูตอนหน้า ที่ Santorini



Create Date : 25 ตุลาคม 2554
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 15:03:40 น.
Counter : 426 Pageviews.

0 comment
Santorini หรือจะเป็นอดีตของ Atlantis
Greece เป็นประเทศที่ลี่ไม่เคยคาดฝันว่าจะได้ไป เพราะว่าอะไรน่ะหรือคะ ประเทศกรีซ พอได้ยินชื่อ ทุกคนก็จะนึกถึงทะเลเมดิเตอเรเนียนสีฟ้ ชายหาด บ้านสีขาว หลังคาสีฟ้า อะโครโปลิส ซากปรักหักพัง เมืองกรีกโบราณ และที่แน่นอน โรงแรมบนเกาะราคาแพง

แล้วลี่จะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยวน้อ ก็เรามันพวก"เที่ยวไปสองไพเบี้ย" อยู่ด้วย

โชคดีมากๆ ก่อน Sky Europe จะเจ๊ง ลี่ก็ไปสอยตั๋วเครื่องบินจากอัมสเตอร์ดัมไปเวียนนาไว้แค่ 1 ยูโร ยกเว้นภาษี เมื่อรวมกับค่าจ่ายผ่านบัตรเครดิตแล้ว ไฟลท์นึงก็แค่หกยูโร ถึงแม้จะเจอตั๋วจากเวียนนาไปเอเธนส์ถึง 25 ยูโร ลี่ก็บ่อยั่น ไปกลับหกสิบยูโรเท่านั้น เราไม่กลัว ไปได้



จริงๆแล้วลี่วางแผนไปแค่เอเธนส์ห้าวัน แต่เมื่อเข้าไปเจอรูปจากรีวิวของเพื่อนๆในบลูพลาเน็ต ยั่วกันเหลือเกิน เห็นแล้วอยากไปเที่ยวเกาะ แต่มีเวลาแค่ห้าวันเอง ไปได้เกาะเดียว คือ Santorini เอาวะ เอาอันนี้แหละ สวยโรแมนติกอะไรจะขไหนหนาด ต้องไปดูให้เห็นกับตา ว่าแล้วก็หนีบคนที่บ้านไปด้วย (เผื่อมีคนถ่ายรูปให้)

เฟอรี่จากพิเรียอัสใช้เวลาเกือบแปดชั่วโมงเต็ม แต่ด้วยราคา 10 ยูโร ก็ช่างมันเถิด ถูกกว่าชาวบ้านเขาตั้งเกือบสามสิบยูโรแล้ว ลี่ส่งเมล์ไปที่ออฟฟิส Blue star ferry แจ้งหมายเลขบัตรเครดิต (ต้องบอกรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้เขาขึ้นเงินได้ ซึ่งก็ไม่น่ากลัวค่ะ ติดต่อผ่านเมล์บริษัท และเจ้าหน้าที่แจ้งชื่อเสียงเรียงนามเรียบร้อย บริการดีมาก ไปรับตั๋ววันที่จะเดินทาง ออฟฟิสเปิดแต่เช้าตรู่)

ตอนที่เดินขึ้นเฟอรี่ พนกงานตรวจตั๋ว ดูตรงราคาตั๋ว ดูแล้วววดูอีก ทำให้ลี่แอบสะใจเล็กๆ อิอิ ถูกจนไม่น่าเชื่อเลยนะนั่น ระหว่างทางที่อยู่บนเรือเฟอรี่ มีอินเตอร์เน็ท wifi บริการ ความเร็วใช้ได้เลยทีเดียว ราคาก็ไม่แพงมาก เท่าบนฝั่งค่ะ อาหารการกินก็มีฟาสฟู้ดแนวๆ แม็คโดนัลให้บริการ ถ้างบเยอะขึ้นมาหน่อย ก็มีร้านอาหาร สั่งจากเมนูได้ ถ้าเบื่อๆ ก็ขึ้นไปเดินตากลม ถ้าง่วงก็หาที่หลบมุมงีบ

แต่ละเกาะที่เรือแวะไปจอด คนขึ้นลงเยอะมาก น้ำทะเลใสปิ๊งๆๆ และฟ้าก็ใสสุดๆ เฟอรี่ไปถึงปั๊บ รถจากโรงแรมก็มารอรับอยู่ เพราะว่าตอนจองได้บอกเที่ยวเรือกะเขาไว้ เจ้าของโรงแรมเป็นผู้หญิงกรีก ที่เรียนมาด้านการโรงแรมเหมือนลี่เลย แล้วก็มาสร้างโรงแรมเล็กๆ ไว้นอกฟิร่าออกมานิดหนึ่ง มาถึงระหว่างรอห้องพัก ก็ดึ่มไวน์โรเซ่กันไปคนละแก้ว ห้องพักเป็นห้องไม่ใหญ่ นอนได้สี่คน มีระเบียงของตัวเอง ลี่ก็หลบไปนอน กินไวน์แก้วเดียว เมา

พอตื่นมาอีกชม.กว่าๆ ก็พบว่าอีตาเพื่อนร่วมบ้านจัดการไปเช่ารถโฟร์วีลมาแล้ว (ขอโทษโฟร์วีลที่ว่านี้คือมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ๆที่เขาขับบนหาดทราย) ฮ่าๆๆ เราว่าแล้วเชียว เพราะพี่แกขับรถยนต์เป็นซะที่ไหน มาทำโม้โฟร์วีลๆ แต่มันก็เที่ยวได้เหมือนกัน ค่าเช่าแค่วันละสิบห้ายูโร และทางบริษัทในฟิร่า เอารถยนต์มารับเข้าไปรับรถจากในเมือง เติมน้ำมันมาให้ด้วย สองวันที่เที่ยวบนเกาะเติมน้ำมันเพิ่มไป 6 ยูโร ยังเหลือเลย



ว่าแล้วการเที่ยวอย่างประหยัดของคนมีแต่ไม่ค่อยกิน สองคนก็เริ่มขึ้น มื้อเช้าโรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้ ก็เลยไปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่บนถนนสายหลัก ได้อาหารเช้าสไตล์ดัตช์มากิน และเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย ส่วนมื้อเย็น เนื่องจากเรามีรถใช้ ก็เลยไปหาร้านโลคอลๆ กินแถวตามนอกเมือง นอกจากถูกและได้เยอะแล้ว ยังอร่อยอีกด้วย อิอิ ค่าอาหารต่อวันต่อคนหมดไปวันละ 20 ยูโรเห็นจะได้ เพราะว่าเอาไปสองร้อยยูโรสามวัน แล้วใช้ไม่หมด คริๆๆๆ

พอมีรถแล้ว ก็ไม่ต้องอ่านแผนที่ ขับไปได้เรื่อยๆ ตรงไหนมีถนนก็ขับมันไป ขึ้นเขาลงห้วยไม่มีปัญหาเลย แต่พอดึกๆ ถนนที่นี่จะไม่มีไฟ แม้แต่ถนนสายหลัก ก็ต้องขับด้วยความระมัดระวังหน่อย ที่ดีมากๆ คือขับรถบนเกาะนี้ไม่มีการตรวจใบขับขี่เลย ลี่ไม่ชอบซื้อของฝากอยู่แล้ว เพราะขี้เกียจขนมารกบ้าน เลยใช้เวลาไปว่ายน้ำที่หาด เดินดูโรงแรมต่างๆในเมือง ปีนเขา เรียกได้ว่าตรงไหนมีทางเดิน ก็ไปเดินซะ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินหมดก็คือซื้ออาหารแจกแมว เพราะที่นี่มีแมวจรจัดเยอะมาก แล้วมันก็สวยน่ารักมากๆด้วยคะ คนรักแมวแบบนี้ไปเจอเข้าก็ใจอ่อน หมดเงินกะวิสกัสเลย :)

ประทับใจกับคนกรีก น่ารักมากๆ นอกจากหน้าตาดี แล้วก็ใจดีด้วย (ถ้าคุณอ่านภาษาของเขาออก และทักทายง่ายๆได้ คนที่ทำหน้าบูด จะยิ้มออกในชั่วพริบตา) โบสถ์ออธอดอกซ์สวยมากๆ โบสถ์บนเกาะซานโตรินี่หลายๆเกาะ ถ้าอยากเข้าไป ต้องไปเดินถามหานิดนึง ว่าใครเป็นคนดูแลโบสถ์ ซึ่งมักจะมีบ้านอยู่ใกล้ๆนั่นแหละค่ะ ขอให้เขาเปิดให้เข้าไปดูได้

ตามสไตล์คนงบน้อย ไปแล้วก็ได้เห็นเท่ากัน แต่ความสบายของการพักโรงแรมต่างกันมากหน่อย แต่ลี่ไม่ได้ฮันนีมูนกะแฟนนี่เนอะ แค่หนีบคนที่บ้านไป จะพักที่ไหนก็ได้ เน้นถูกเอาไว้ก่อน ฮี่ๆๆ คิดถึงซานโตรินี่จัง



Create Date : 24 มกราคม 2553
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 13:45:48 น.
Counter : 345 Pageviews.

1 comment

เที่ยวไปสองไพเบี้ย
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



รบกวนอย่าส่งข้อความหลังไมค์ค่ะ ติดต่อที่อีเมล์ตรง smileyinbelgium@hotmail.com นะคะ