Burano & Murano
Burano เป็นเกาะที่มีบ้านสีสันสดใสไม่ซ้ำกัน หากใครมาเที่ยวเวนิส ไม่ได้สองเกาะ คือบุราโน่ กับมุราโน่ ถือว่าเสียท่าอย่างมาก

การเดินทางมาสองเกาะนี้จะสะดวกและประหยัดกว่า และจริงๆแล้วสมารถรวมกับเกาะใหญ่เวนิสได้ด้วย ถ้าออกเที่ยวตั้งแต่เช้า อย่าซื้อตั๋วเป็นขาเพราะมันไม่คุ้ม อย่างไรก็ต้องซื้อตั๋วเหมาสำหรับนักท่องเที่ยว

นั่งเรือออกจากเวนิสไป มาขึ้นได้ที่ Fundamenta Nuvo ถ้าไม่งั้นจะอ้อมไกล อย่างนี้



ผ่านมาทาง Arsenaal



เรือที่จะไป จะผ่านเกาะที่เป็นที่ฝังศพ





ขึ้นเรือมาเที่ยวมุราโน่ก่อนแล้วค่อยไปกินมื้อเที่ยงที่บุราโน่ หรือจะเที่ยวทั้งสองเกาะไปเลยแล้วมากินอาหารเที่ยงบ่ายกว่าๆ ที่เวนิสก็ได้

แวะที่เกาะมุราโน่ก่อน มาเลือกแก้วเป่า



ลงเรือปั๊บเจอหอประภาคาร



ที่เลยไปหน่อย มีเครื่องแก้วประดับแต่งถนน



เข้ามาในเกาะ เจอจตุรัสเล็กๆ ตรงนี้



ถ้ามาตอนเที่ยงก็ซื้ออาหารติดมือมานั่งทานได้



ของประดับตามมุมต่างๆ



มุราโน่ Murano จะจำหน่ายพวกเครื่องแก้วเป่า โดยเฉพาะ



หากมีเวลาเดินชมน้อย ก็เดินเฉพาะคลองหลักกลางเมืองนี่ก็จะได้เห็นอะไรเยอะอยู่ค่ะ



หากเลือกเลี้ยวขวาก่อน ก็ตามมาทางด้านนี้



ถึงตรงนี้จะเจอสะพานให้ข้ามได้ เข้าไปแวะในโบสถ์เล็กๆ ได้นะคะ





ข้ามสะพานไปแล้วไปต่อทางขวา จะมีห้างใหญ่ๆ ที่ทัวร์พาคนมาลงชมและเลือกซื้อของ เราก็เข้าไปเดินได้ค่ะ ชมฟรี

แชนเดอเลียสวยมากๆ







ของเล็กๆ ก็สวยงาม



ด้านหลัง ส่วนของโรงงาน ส่วนนี้จะใช้ทำงานชิ้นใหญ่ พวกแจกัน โถ



ท่าเรือที่ทัวร์จะมาลง



ถ้าจะหาร้านนั่งทาน แนะนำให้ข้ามสะพานไป



สะพานนี้จะพาข้ามคลองใหญ่



ฝั่งนี้จะมีร้านกาแฟ ร้านไอติมให้เลือกด้วยค่ะ จัดไปหนึ่งอัน อร่อยทู้กร้านเลยทีเดียว ไอศกรีมที่นี่



จากนั้นก็กลับมาทางนี้ เดินไปจนสุดทางอีกเช่นกัน









สินค้าชิ้นใหญ่ๆ แบบนี้โอกาสแตกหักน้อย



สุดทางก็ข้ามสะพานนี้กลับไป



อาร์ตติสแต่ละคนมักจะเป่าแก้วเป็นสไตล์ของตัวเอง



ไม่ซ้ำกัน





ออกจากมุราโน่ ไปต่อเกาะบุราโน่



ท่าเรือจะใหญ่กว้างขวาง เป็นจตุรัส



เดินตรงเข้าไป เจอวิวนี้



ตรอกแคบๆ เต็มไปด้วยร้านค้า





แม้จะพ้นจากมุราโน่แล้ว ก็ยังพอหางานเป่าแก้วซื้อได้ค่ะ



มีลูกปัดหลากสีขายเป็นเม็ด



ถ้าถ่ายรูปเองไม่สวยก็มีโปสการ์ดขาย



เข้ามาแล้ว เจอทางแยก เลี้ยวซ้ายก่อน



ของฝากบนเกาะบุราโน่จะเป็นงานพวกลูกไม้ แต่ก็มีหน้ากากให้หาซื้อได้



ผ้าพันคอแบบนี้มีเยอะมาก ฮิตอยู่ช่วงปี 2010



แนะนำให้มาทานอาหารร้านนี้ค่ะ จะได้อุดหนุนคนไทยด้วยกันด้วย รสชาติและราคาอาหารรับได้



จานแนะนำคือสปาเกตตี้ซีฟู้ดที่เห็นข้างบน หรือจะทานเป็นอาหารทะเลชุบแป้งทอด (ขอบอกให้พกน้ำจิ้มมาเองด้วย)



Restaurant Galuppi อยู่บนถนนสายหลักนี่แหละค่ะ



ทานอาหารเสร็จ เดินชมของฝาก





สุดทางนี้จะเป็นจตุรัสกว้างๆ ค่ะ เลี้ยวขวาวนไปตามมุม ห้องน้ำบนนี้มีค่าเข้าแพงมากค่ะ ทางที่ดี ควรแวะเข้าที่ร้านอาหารไปให้เรียบร้อย





บ้านที่อยู่ใกล้ๆโบสถ์ตรงนี้ ลองเดินเข้าไปในซอยนะคะ สีสันสวยงามมากๆ



บางบ้านมีสวนด้วย จัดว่ามีเงิน





นี่ก็บ้านใครไม่รู้



บ้านนี้ก็สีสวยงามดี



จัดหนักไปเลยละกัน





ข้ามสะพานไปอีกคลองหนึ่ง





ในช่วงเดือนเมษายน แม้ที่อื่นจะยังหนาว แต่ที่นี่หนาวน้อยลงแล้ว



เจอแมวอีกแล้ว



วิวบังคับบนบุราโน่



ซ้ายมือของวิวข้างบน ก็จะเป็นวิวนี้



ความบังเอิญ



ข้ามสะพานไปต่อ จนถึงจตุรัสอีกแห่ง

แม้ว่าจะหน้าหนาว ฟ้าไม่ใส แต่สีบ้านจะสวยขึ้น เพราะว่าเปียก(ฝน หรือหิมะ)



เลี้ยวขวาอีกที





เดินกลับมาคลองที่บ้านสีสวยๆ เมื่อกี้



หาซื้อของฝากได้เรื่อยๆ ตลอดทาง ร้านค้าเพียบ



เดินตรงคลองนี้ต่อไป



ร้านค้าเสื้อผ้าก็มี



เครื่องแก้วเป่า น่ารักๆ





บ้านที่นี่มีมุมให้ถ่ายได้ทุกหลัง



เมื่อเดินมาเจอจุดนี้ก็แสดงว่าทางกลับอยุ่ข้างหน้าเรานี่เอง แต่ตรงนี้ไม่มีสะพาน หากไม่ได้เดินฝั่งซ้าย จะต้องเดินต่อไปหาทางข้ามสะพานก่อน



ไปหาสะพานข้ามกลับกัน



ร้านลูกไม้กับนางแบบสวยๆ



น่าแวะอีก ขากลับ






Create Date : 25 ตุลาคม 2554
Last Update : 16 ธันวาคม 2554 21:00:03 น.
Counter : 1215 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยวไปสองไพเบี้ย
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



รบกวนอย่าส่งข้อความหลังไมค์ค่ะ ติดต่อที่อีเมล์ตรง smileyinbelgium@hotmail.com นะคะ