:: The Bus Number 11 :: ( ตอนที่ 2 )
พอเริ่มรู้สึกว่าคุ้นเคยเขาเริ่มคุยเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ความจริงตอนสอบเอ็นทรานซ์ผมติดหมอที่ศิริราชได้พร้อมกับได้ทุนไปเรียนวิศว แต่ผมเลือกทุนนี้ เพราะ..เป็นทุนรัฐบาลญี่ปุ่นที่ให้เด็กที่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นพร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด กลับมาไม่ต้องใช้ทุนด้วย ที่บ้านมีลูกสิบคนผมเป็นคนสุดท้องพ่อแม่ไม่มีทุนมากนักเลยเลือกเรียนทางนี้เรียนวิศว
โห..เรียนเก่งใช่ย่อยนะเนี่ย ฉันได้แต่แอบรำพึงในใจ พอรู้ว่าจบจากเตรียมอุดมศึกษาที่พญาไท เลยถามว่ารุ่นไหน พอดีน้องชายฉันจบที่นั่นเหมือนกัน พอซักถามรุ่นกันแล้วเลยรู้ว่า พ่อหนุ่มหน้ามน คนหน้าตี๋ที่ใส่แวนตานั่งข้างฉันคนนี้ละอ่อนกว่าฉันสองปีแต่ก็ทำเฉยๆดูมาดนิ่งดีทีเดียว
ผมไม่ค่อยถือว่าต่างกันเท่าไหร่นะเพราะคนส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักและร่วมงานด้วยอายุมากกว่า ทำงานก็คลุกคลีกับคนอายุมากกว่าทั้งนั้น
ตายแล้ว ดูซิดูพูดเข้านั่นอยากอาวุโสนักหรือไงกันนะอีตาคนนี้ ฉันไม่ได้แสดงทีท่าอะไรมากนัก ได้แต่นั่งอึ้งทึ่งอยู่ในใจ เมื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวตัวเขาเองจากเขา แต่ท่าทางรอบรู้ของเขา ดูเป็นคนทะเยอทะยานไม่น้อย คงจะจริงอย่างที่พูด เพราะดูท่าทางมั่นใจตัวเอง และเชื่อมันในความคิดของตัวเองพอควร
ฮั่น..แน่..ทำหน้าตายด้วยนะนาย ตลอดเวลาที่คุยกัน พอเริ่มคุ้นกันบ้าง แอบสังเกตดูแววตายาวรีใต้แว่นใสคู่นั้นค่อนข้างทระนงตนพอควร ที่่บ้านมีพี่น้องกี่คน เอาแล้วซิ คราวนี้เขาเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของฉันบ้าง
เขาเริ่มต้นซักประวัติครอบครัวชั้นก่อนตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก การที่เราได้รู้จักใครเพิ่มขึ้น ก็เป็นเรื่องดี ได้เพื่อนเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่เขาซักถามเกี่ยวกับครอบครัวของฉันในรายละเอียดนั้น ทำให้อดคิดในใจไม่ได้ว่า เอ๊ะ หมอนี่ ทำไมอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวฉันอยู่เหมือนกัน หรือว่าไม่มีอะไรจะคุยเลย หาเรื่องคุยไปอย่างนั้นเอง
ดูท่าทางแล้วก็ดูไม่มีอะไรน่ากลัว เลยคุยได้เรื่อยๆ ถ้าถามอะไรมาตอบคำถามเขาไป บ้านเราสามคน เราเป็นคนโต น้องสาวหนึ่งและสุดท้องผู้ชายที่เป็นรุ่นน้องเตรียมอุดมศึกษาของคุณนั่นแหละ บ้านเกิดอยู่ที่นครสวรรค์ พอจบม.ปลายก็มาเรียนต่อกันที่กรุงเทพฯ เพราะแถวบ้านมีที่เรียน กับคณะที่พวกเราอยากเรียนจำกัดอยู่
คราวนี้ฉันไม่พูดเปล่าแอบเหลือบมองหน้าคนฟังไปด้วย เห็นเขากำลังผงกหัวเป็นจังหวะอย่างสนใจฟังอยู่ไม่น้อยเลย บางครั้งก็หันมาสบตากันบ้าง ู โห..สมัยนั้นจัดว่าน้อยนะ มีลูกสามคนเนี่ย เขาฟังแล้ว ตอบกลับมาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ ที่บ้านผมสิบคน พ่อแม่เป็นคนจีนที่มีลูกเยอะ ผมเป็นคนสุดท้อง
ว้าว..ดูหน้าตาซิ ออกตี๋ขนาดไม่ต้องบอกก็ลูกว่ารากเหง้าเหล่าสักหลาดมาจากไหน ฉันแอบรำพึงในใจ ที่บ้านบอกแล้วว่าให้เรียนเยอะ ๆ เพราะไม่มีสมบัติอะไรให้ นอกจากให้ความรู้ ไม่พูดเปล่ามีเสียงหัวเราะในลำคอ หึ หึ ปนมาด้วยพอรถเริ่มเลี้ยวขวาเข้าแยกราชประสงค์ เราทั้งคู่เริ่มคุยกันมากขึ้้น
เขียนโดย
KorP@i
Create Date : 03 มีนาคม 2554 | | |
Last Update : 5 มีนาคม 2554 21:48:49 น. |
Counter : 340 Pageviews. |
| |
|
|
|