Group Blog
 
All blogs
 
"ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ภาค 1 "องค์ประกันหงสา"



เรื่องนี้เป็นการไปดูหนังในโรงเรื่องแรกในรอบน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ปีที่ผ่านมา พยามนึกว่าเรื่องล่าสุดที่ไปดูมาคือเรื่องอะไร จำได้แค่ว่าเป็นหนังฝรั่ง แต่นึกชื่อเรื่องไม่ออกจริงๆ แต่ก่อนหน้าหนังฝรั่งเรื่องนั้น คิดว่าเป็น "สุริโยไท"

เรื่องนี้ตอนแรกๆ ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่นึกอยากไปดู (เพราะไม่ได้ดูหนังโรงมานานมากกกก ต่อมอยากคงสลายไปจากร่างกายแล้ว)

แต่ในทีวีเค้าโปรโมทสุดๆ กดไปช่องใหนก็เจอนักแสดงเรื่องนี้มาให้สัมภาษณ์ ไม่ก็ต้องมีการพูดถึงหนังเรื่องนี้ ดูไปดูมา เอ...น้องๆ ที่มาแสดงเค้าก็น่ารักดีนะ...คนที่แสดงเป็นพระนเรศวรตอนโต ก็น่าสนใจดี (ไม่เกี่ยวกะหน้าตา แต่หมายถึงการเอาทหารจริงๆ มารับบทหนะ)

ดูตัวอย่างมากๆ เข้า อืม...ต่อมอยากชักเริ่มทำงาน บวกกับนึกถึงตอนไปดูเรื่องสุริโยไท ... หนังประวัติศาสตร์ก็ดูสนุกได้...

เลยตัดสินใจว่าวันนี้หละ ต้องไปดูให้ได้ อุตสาห์ลงทุนตื่นแต่เช้า ข้ามจังหวัดไปดูเลยทีเดียว หอบพ่อหอบแม่ไปด้วย

รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะนึกถึงตอนสุริโยไท ประชากรหน้าโรงล้านเจ็ดมาก จนเราไม่สามารถเข้าไปดูได้ ต้องระเห็จมาดูโรงห่วยๆ แถวบ้าน ที่ไฟในโรงอะไรมันจะสว่างขนาดนั้น!

คาดการณ์ว่าหนังเพิ่งฉายไปไม่นาน กระแสน่าจะยังไม่ตก คนต้องเยอะแน่ๆ เราต้องรีบไปจองที่ดีๆ...

แต่...ผิดคาดแฮะ...รอบแรกของวันนี้ 10.20 น. มีคนไปต่อคิวเล็กน้อยเอง กะจำนวนคนในโรง น่าจะไม่เกิน 100-150 ... โหหห อะไรว้า ... แต่เดาๆ ว่าเค้าคงกลัวระเบิด (เพราะไม่อยากคิดว่าคนน้อยเพราะหนังไม่หนุก 55)

ก่อนได้ดูเรื่องนี้ เราเห็นกระทู้ในพันทิพ แต่ไม่อยากอ่าน เพราะไม่ชอบรู้เรื่องก่อนดูจริง เลยแค่ปาดๆ ผ่านๆ ... เหมือนๆ เค้าติเรื่องนี้กันเยอะ ในทีวีช่องที่เค้าพูดตรงๆ เค้าก้อบอกว่าน่าเบื่อ ยาวไป ... เหอๆๆ แต่เราไม่เชื่อใครง่ายๆ หรอก ของแบบนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตา...(เพราะดูตัวอย่างแล้ว เราก็ว่ามันน่าจะโอเคนะ)

หน้าโรงเค้าเขียนไว้ว่าหนังเรื่องนี้ 170 นาที ... 120 นาทีแรกของเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เราว่าเรื่องนี้ต้องใช้ความตั้งใจดูอย่างมากๆ เพราะชื่อตัวละครค่อนข้างจำยากสำหรับมนุษย์กลุ่มตกวิชาประวัติศาสตร์อย่างเรา และเค้าดำเนินเรื่องแบบว่าคนดูต้องคิด ประติดประต่อช่วงเวลาที่หายไปเอาเอง ซึ่งก็สนุกดี นั่งนึกๆ ตามว่าเอ...เรื่องนี้มันจะจริงตามประวัติศาสตร์ทั้งหมดรึปล่าวนะ ทำให้เกิดอาการอยากกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ชาติสยามของจริง จริงๆ ... จะมีตำราซักเล่มที่มันอ่านง่ายๆ บ้างมั๊ยนะ ..

ในเรื่องนี้ทั้งหมด ชอบน้องที่แสดงเป็น บุญทิ้ง มากที่สุด เราว่าน้องเค้าอินดี น้องที่แสดงเป็นพระนเรศวร ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ บางครั้งตัดภาพไปมา ดูออกว่าเหมือนไม่ใช่พระนเรศวรองค์เดียวกัน ดูแล้วไม่ค่อยเนียน ... แต่ก็ยอมรับว่าบทพูดค่อนข้างยากกว่าบทบุญทิ้ง บุญทิ้งเลยดูว่าเล่นเก่งกว่า

หลายตอนในเรื่อง ดูไปก็รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่คอ บอกไม่ถูกว่าเศร้า หรือขมขื่น แต่คิดว่าไม่ใช่ความเศร้า...จะเรียกว่าอะไรดี...คือดูแล้วรู้สึกว่า คนสมัยก่อน กับคนสมัยนี้ มันก็เหมือนๆ กัน ทำอะไรนึกถึงแต่วงศาคณาญาติ และตัวเอง! ... จะมีซักกี่คนที่คิดถึงประเทศชาติเป็นหลักอย่างแท้จริง!

ใครๆ ก็บอกว่าดูเรื่องนี้แล้วจะยิ่งรักชาติ...จริงเหรอ??

เราว่าไม่ใช่อะ เราเชื่อว่าความรักชาติมีอยู่ในตัวทุกคน แต่ดูเรื่องนี้แล้ว เรารู้สึกว่าเราควรต้องเพิ่ม "การลดความเห็นแก่ตัว" ให้มากขึ้น ต่างหาก!
... เอ...แล้วมันแปลว่าต้องยิ่งรักชาติรึปล่าวหว่า...เขียนอะไรให้งงๆ

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ลองแวะเข้าเวบที่เห็นชื่อมาจากใบปิดหน้าโรง kingnaresuanmovie.com หืม...เค้าวิจารณ์กันเยอะนะนั่น มีหลายจุดผิดพลาดที่เราไม่ได้สังเกต แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเค้าช่างสังเกตอะไรกันจัง ไอ่เราแค่ตั้งใจดูให้รู้เรื่องก็จะแย่แล้ว...

...เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่เสียดายที่ตะเกียกตะกายไปดู ... และหลังจาก 170 นาทีผ่านไป เราก็อยากดู ภาค 2 "ประกาศ อิสรภาพ" ต่อทันที!

วางโปรแกรมไว้แล้ว...ตรุษจีนนี้เจอกันคร้าบผม!


ปล. แม้จะชอบหนังเรื่องนี้ แต่ก็แอบมีข้องใจเหมือนกันนะ

ข้องใจอย่างแรกของเรื่องนี้คือ สถาพร ที่รับบทเป็นพระราเมศวร หลังจากถูกขอมาอยู่พม่าแล้ว หายไปใหน?

ข้องใจที่สองคือจำไม่ได้ว่าในหนังบอกมั๊ยว่าพระนเรศวรมาอยู่ที่พม่ากี่ปี พระสุพรรณกัลยาถึงตามมา แต่ตอนก่อนแยกกันทั้งสององค์ก้อยังเด็กๆ แต่พอมาเจอกันอีกรอบไหงพระสุพรรณกัลยาเปลี่ยนเป็นคุณเกรซ แต่พระนเรศวรยังเป็นน้องคนเดิมอยู่เลย น่าจะเปลี่ยนตัวแสดงไปพร้อมกันด้วย

ข้องใจที่สามคือตอนบุญทิ้งนัดเจอสาวๆ แม๊...มีกอดกันด้วย เหอๆๆ นั่นเค้ายังเด็กเลยนะ แถมนี่มันเป็นสมัยก่อนอีก ฉากนี้ไม่ค๊วร..ไม่ควรเลย

ข้องใจที่สี่คือตอนพระนเรศวรสู้กับผู้ชายอ้วนๆ สองคนบนสะพาน...หืม..เด็กตัวนิดเดียว สู้คนอ้วนๆ สองคนชนะเนี่ยะนะ...ตลก

ข้องใจที่ห้าคือเพลงตอนจบ ไหงมันกลายเป็นเพลงภาษาอังกฤษไปซะงั้น ถึงจะชอบว่าเพราะดี แต่มันก็ทำให้ร้อง เอ๊ะ? ในใจนิดส์นึง ^^

อ้อ...เรื่องนี้เค้ามีซับอังกฤษให้ด้วย คงไว้ขายชาวต่างชาติหนะ เราว่ามันก็ดีเหมือนกันนะ ให้ต่างชาติมันมาดูหนังไทยซะบ้าง ฟันเราไปเยอะแล้ว ... ไอ่คนอังกฤษอ่อนแออย่างเราก็ได้อ่านไปด้วยในตัว แต่เปรียบเทียบแล้ว ดูแบบเป็นราชาศัพท์คลาสสิคกว่าเยอะ


Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2550 23:07:53 น. 3 comments
Counter : 943 Pageviews.

 
พี่หลิง .. เพื่อนบอกว่าตอนที่องค์ดำเสด็จออกจากกรุงหงสาน่ะอายุ 15 ปีแล้วอ่ะค่ะ เขาคงขี้เกียจ cast ตัวแสดงใหม่ เลยใช้น้องบีเจตามเดิม ซึ่งหนูช้อบชอบค่ะ

หนูก็ไม่อ่าน comment ก่อนไปดูเหมือนกัน กลับมาก็มาอ่านบ้าง แต่ก็ไม่ละเอียด ขี้เกียจอ่าน 55 เอาเป็นว่าเรา happy กับหนังก็พอ


โดย: Qingqing IP: 124.121.84.70 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:01:21 น.  

 
อ้าว...เลยเข้าทางน้องชิงอะสิ

พี่เสียดายอะคะ มันตลกๆ ... แต่ก็อย่างที่บอก อยากดูภาค 2 แล้ว ^^


โดย: ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:15:41 น.  

 
น้องบีเจชื่อจริงว่าอะไรช่วยบอกหน่อยสิคะ


โดย: ..... IP: 202.133.143.212 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:29:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




www.flickr.com
This is a Flickr badge showing public photos and videos from koo-story. Make your own badge here.

Counter Stats
optometry
optometry Counter


Free shoutbox @ ShoutMix
Friends' blogs
[Add ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.