วันแรกในโซล
หลังจากงีบหลับจากการเดินทางเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเช็คอินเข้าที่พักก็งีบหลับ ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงกว่าๆแล้ว อากาศยังเย็นอยู่เลย แม้จะมองออกไปเห็นแดดออก อาบน้ำล้างหน้า เตรียมพร้อมสำหรับไปย่ำกรุงโซลแล้วละครับ




ถนนเส้นหน้าที่พักคือถนนชางด็อกกุง ตรงไปสุดถนนนั่นก็คือ พระราชวังชางด๊อกกุง ( Changdeokgung)

แต่ผมเลือกที่จะไปที่เคีบงบ๊อกกุงก่อน จากที่พัก(Jungno sam(3) ga)นั่งไปอีก 3สถานีเอง ลงที่เคียงบกกุงได้เลย แต่วันนี้ดันปิด เลยได้เเต่เดินดูรอบๆ ไม่เป็นไรค่อยมาอีกวันก็ได้ 

พระราชวังแห่งนี้ ปิดทำการในวันอังคาร และเปิดตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. (19.00 – 17.00 น. ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)

ค่าเข้าชมในอัตรา 1,000 วอน


**หากอยากเข้าชมพิพิธภัณฑ์สองแห่งที่อยู่ภายในพระราชวัง ต้องเสียค่า้เข้าชม




อย่างในรูปเห็นแดดจัดๆแบบนี้ จริงๆแล้ววันนั้นอุณภูมิไม่เกิน 10องศา นะครับ



(รูปบน) พระบรมราชานุเสาวรีย์พระเจ้าเซจง (ซึ่งพระองค์เป็นผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรเกาหลีซึ่งใช้เป็นภาษาราชการอยู่ในปัจจุบัน)



เดินลงอีกหน่อยก็จะเจอรูปปั้นท่านนายพลยี ซุนชิน


จากตรงนี้เดินตรงไปทางสีแยก ข้ามถนนไปอีกหน่อยก็จะเป็น กวางฮวามุน duty free และตรงข้ามก็เป็นคลองเกชอน ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ แต่ผมอยากจะไปเดินช่วงหัวค่ำซะหน่อย 
เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะไปแหล่งช้อปปิ้งของชาวโซล คือ เมียงดง หรือ มยองดง 

เมียงดงเป็นแนว street fashion มีร้านค้าต่างๆตลอดทั้งถนนตามซอยเล็กๆ ลัดเลาะไปตลาดทาง เป็นศูนย์รวมแฟชั่นของเกาหลี วัยรุ่นเกาหลี

คนเดินที่นี่ส่วนใหญ่แต่งตัวดูมีสีสัน

คนเยอะมาก 





นั่งรถไฟใต้ดินมาลองที่เมียงดงได้เลย จากตรงนี้ก็สามารถไป N-Seoul tower ได้ Lotte departmentstore ได้ไม่ไกลกันมาก



ใส้กรอกย่างรวมมิตร กินกับซอสมะเขือเทสและมัสตาร์ด อร่อยดี

สำหรับวันแรก ผมก็ต้องซื้อเสื้อกันหนาว + เสื้อสเวทเตอร์ รวมๆ4ตัว สำหรับอากาศที่เย็นมากๆ โดยเฉพาะเวลาลมพัดนี่เย็นสุดๆ 

จริงๆแล้วในวันแรกผมจะขึ้น N Seoul Tower ด้วย แต่อากาศไม่อำนวย เพราะวันนั้นฝนตก ลมพัดแรงมาก กระเช้าไม่สามารถให้บริการได้ ก็เลยต้องกลับมาเดินเล่นแถวข้างล่างแทน 





Create Date : 22 สิงหาคม 2556
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 1:54:32 น.
Counter : 1102 Pageviews.

1 comment
หนีร้อนไปย่ำเกาหลีใต้#ตอนเข้าเมือง

จากตอนที่แล้วนั่งมาลงที่ฮ่องกง //www.bloggang.com/viewblog.php?id=knot-madoka&group=12

ตัดมาที่บนเครื่อง ได้เบาะแบบใหม่ ptv รุ่นใหม่กว่า แถมได้นั่งคนเดียวอีก สบายๆ เสริฟชุดเบาๆก่อนนอน

แต่ก็ดีและครับ เพราะเมื่อกี้จัดมาจาก city gate อิ่มมาก

เครื่องรุ่นใหม่กว่าจัดวางที่นั่งแบบ 2-4-2 ผมเลือกนั่งริมหวังจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ที่ความสูง 3หมื่นฟุต แต่ลืมไปว่าเครื่องถึง incheon ตี5 กว่า

โชคดีได้นั่งคนเดียว สบ้าย…


นั่งๆนอนๆเล่นกับ ptv ซักแป้ปก็หลับ ตื่นมาอีกทีกัปตันประกาศว่าอีกครึ่ง ชม.เราจะแลนดิ้งที่อินชอนแล้ว อุณภูมิภาคพื้นอยู่ที่ 4องศา โว้ะ… จะหนาวมากไหมนี่

นั่งเขียนใบเข้าเมืองและใบศุลกากร กรอกให้ครบน่ะครับ เดี๋ยวคุณ ตม.จะสงสัย


ถึงแล้วเดินตามป้าย ต่อรถไฟไป immigration


ผ่านมาอย่างง่ายดาย เตรียมหลักฐานไปเพียบ ทั้งใบจองห้องพักจาก booking.com, ใบรับรองการทำงาน, ตารางการเที่ยวในแต่ละวัน

สรุปแล้ว ตม.ไม่ถามเลยซักนิด สแกนนิ้วและก็ถ่ายรูป พร้อมกลับคำพูดว่า "Have a good day"

ออกจาก ตม.มารับกระเป๋า แล้วก็ออกไปข้างนอกหาซื้อบัตร T-Money หาไรกินนิดหน่อย


วู้บแรกที่ลมเย็นๆ ไม่ใช่สิลมหนาวผ่านเข้ามาเวลาที่ประตูเปิด โอ้ มันสั่นไปหมดเลยครับ จัดเสื้อกันหนาวอีกตัวใส่ทับสเวตเตอร์ กับเสื้อเชิ้ต ถึงจะเอาอยู่ ลองจอนก็ไม่มี ถุงมือก็ไม่มี หมวก ที่ครอบหูก็ไม่มี สุดๆง่ะสำหรับ 4องศา

จากตรงนี้ใครจะเข้าเมืองด้วย Bus ก้เดินออกไปข้างนอกได้เลย ส่วนผมไม่ไหวมันหนาว เลยต้องเดินไปนั่งรถไฟเข้าเมือง ด้วย app Jihachul ตัวนี้โหลดฟรีนะครับ

ปลายทางเราคือสถานี jungno 3-ga เพราะฉะนั้น

รถไฟก็เดินไปทางซ้าย แล้วลงไปชั้น B1 เข้าเมืองด้วยรถไฟ วิว 2ข้างทางก็สวยดีน่ะครับ ผ่านทะเล ผ่านเมือง สังเกตุคนที่นี่เค้าเข้ามาทำงานในเมืองกันก็เยอะน่ะครับ ประมาณ 50KM เข้ามาที่โซล

อ้อ!!! อีกเรื่องที่อยากบอกเพื่อนๆ ถ้าสัมภาระเยอะ หรือคุณผู้ ญ ถ้าจะเข้าเมืองด้วยรถไฟ ปละต้องเปลี่ยนขบวนอีก 2ครั้งอย่างผมนี่ ผมไม่แนะนำนะ

เพราะว่าสถานีบางแห่งไม่มีบันไดเลื่อน ก็คิดเอาละกันกระเป๋าเดินทางกี่ กก. ต้องแบกขึ้นๆลงๆ ศึกษาแผนการเดินทางมาก็จะดีมาก เช่นถ้าพักแถงเมียงดง ก็นั่งมาลงที่สถานี Seoul แล้วนั่งแท้กซี่ไปดีกว่า


เอ้าเข้าเรื่อง มาถึง jungno 3-ga ต้องเดินออกที่ exit6 เพื่อไปที่พัก Apple backpacker เดินไม่ไกล


มุ่งหน้าไปทางวังชางด๊อกกุง Apple Backpacker จะอยู่ทางซ้ายมือ

จากหน้าประ๖ูเดินเข้าไปแล้วขึ้นไปชั้น 2 จะเจอ staf ก็ยื่นใบจองให้เค้าเลย ค่าที่พักจ่ายเป็นเงินสด ส่วนใครจะรูดบัตรก็ได้แต่ชาร์จ 10% ผมนอนที่นี่ 5คืน จ่ายไปก่อนเลย 140,000 won

จากนั้น staf ก็จะพาเดินไปยังห้องพัก พร้อมให้กุญแจเก็บไว้กับเรา 1 ดอก พร้อมกับแนะนำว่าครัวอยู่ตรงไหน มีอะไรตรงไหน เปิดปิดกี่โมง แต่ประตูชั้นล่างไม่มีปิดนะ

เข้าออกได้ตลอด 24 แต่ staf จะอยู่ตั้งแต่ 8.00-23.00 น.

ห้องพักผมอยู่ชั้น3 ห้องพักตกแต่งได้ดี เตียงใหญ่นอน 2คน สบายเลย ทีวี lcd แอร์ แต่ไม่มีฮีทเตอร์นะ หรือว่ามองไม่เห็น ห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำ น้ำร้อนให้

ห้องครัวที่นี่ก็มีเครื่องชงกาแฟ ชา ไมโครเวฟ กาต้มน้ำให้ ตู้เย็นเป็นตู้รวม ใครจะเอาอะไรมาแช่ก็ได้ แต่ต้องเขียนชื่อ เบอร์ห้องพัก และวันเช็คเอาท์ติดไว้ด้วยน่ะ สบายเหมือนอยู่บ้าน 555

อืม..ลืมบอกไปว่าที่นี่เค้าให้เข้าพักได้ตั้งแต่ บ่ายโมง แต่ตอนที่ผมไปถึง 8โมงเช้า แต่ staf บอกกับผมว่ามีห้องว่างพอดีเลย จะเข้าพักเลยไหม? ผมก็ตกลงสิครับ

ขอนอนหลบหนาวก่อน เดี๋ยวเที่ยงๆค่อยตื่นออกไปตะลุย โซลกัน






Create Date : 30 เมษายน 2556
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 2:04:47 น.
Counter : 737 Pageviews.

0 comment
หนนีร้อนไปย่ำเกาหลีใต้#ตอนต่อเครื่องครั้งแรก

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Bloggang


ทริปนี้เป็นทริปหนีอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว ไปเที่ยวเกาหลีใต้ช่วงสงการณ์

และเป็นทริปแรกสำหรับประเทศเกาหลี 

และเป้นทริปแรกที่ผมจะต่อเครื่อง transit flight กะว่าจะไป 2 ประเทศกันเลยทีเดียว


จึงเลือกสายการบิน Cathey Pacific สายการบินแห่งชาติของฮ่องกง สายการบินนี้ติด 1ใน 10

สายการบินที่ดีที่สุดในโลก //travel.mthai.com/world-travel/33026.html




ส่วนที่พักก็เลือกจองใน booking.com ข้อดีคือ ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน ไปจ่ายเงินในวันที่เข้าพักได้



ทริปนี้ที่เลือกบินไฟท์เย็นเพื่อที่ไปถึงฮ่องในช่วงหัวค่ำ จะได้มีเวลาออกไปเดินเล่นและหาไรทานข้างนอกก่อน

แล้วค่อยกลับมาต่อเครื่องไปอินชอน โดยไม่ต้องรีบร้อนอะไร ส่วนขากลับก็มีเวลาเที่ยวฮ่องกงได้อีกเต็มๆวัน


เเลกเงินก็ superrich ตรงข้าม CTW


ก่อนวันเดินทางมีข่าวที่เกาหลีเหนือประกาศสงครามกับเกาหลีใต้ซ่ะง้าน เล่นเอาเสียวเลย

แต่เช็คข่าวกับเพื่อนที่อยู่ที่นู่นเค้าบอกว่าปกติ เอาก็เอาว่ะ ครั้งนึงอาจได้อยู่ในเหตุการณ์ 555


เริ่มเดินทางกันเลย...

วันเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดย airport rail link มาถึงสนามบินโดยสถานีจะอยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร ผดส. เดินออกมาจะขึ้นลิฟท์หรือบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 3(Departure) คาเท่ย์เช็คอินที่ Row M

และยิ่งทำ web checkin มาแล้วนี่ไม่ต้องไปต่อแถวเลยครับ สะดวกกว่ามากๆ

ตั๋วจะมีมาให้ 2 ใบ น่ะครับ คือใบแรกจาก BKK-HKG อีกใบใช้ตอน HKG-ICN 

แวะไปหาไรทานที่ louge Kingpower กันก่อน เพราะมาก่อนตั้ง 3ชม.ก่อนที่จะ bording


เผื่อใครอยากจะซื้อของก็ตรงนี้เลยครับ


ใกล้เวลาก็ค่อยเดินไปที่เกทต้องเผื่อเวลาซักครึ่ง ชม. เพราะเกท G ไกลซึ่งจะอยู่คนละฝั่งกับ Louge Kingpower

บรรยากาศหน้าเกท





เที่ยวที่ผมนั่งนี้บินมาจากสิงคโปร์ ปลายทางฮ่องกง แต่แวะที่กรุงเทพฯก่อนครับ คาดว่า ผดส.เต็มลำแน่ๆ


อยากบอกว่าแอร์ของคาเท่ย์ บางคนนี่สวยใช่ได้เลยทีเดียว เรื่อง service มีการยิ้มทักทายก้มโค้ง อาจจะดูแข็งๆไปบ้างแต่ก็ยังพอรับได้น่ารักดีออกนะผมชอบ อิอิ


อาหารบนเครื่องเลือกเป็น ฉู่ฉี่ปลา(spicy fish with rice) พร้อม kitkat และผลไม้ รสชาดดีครับหรือหิวก็ไม่รุี


หมดเรียบ


ชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด



กว่าจะทานเสร็จก็ถึงเกาะไหหลำ แอบงีบแป้ปเดียวตื่นขึ้นมาเครื่องก็จะลงที่เกาะฮ่องกง เสียงกัปตันประกาศถึงอุณภูมิที่ฮ่องตอนนี้ 20องศา ผมก็ว่า เฮ้ยไม่หนาวหรอกมั้ง เคยมาตอน 10กว่าองศายัง ชิลด์ๆ




กรอกเอกสารให้เรียบร้อย เนื่องจากผมแค่ออกไปเดินเล่น city gate ตรงช่อง address เลยกรอกไปว่า transit

กลัวว่าถ้าปล่อยว่างแล้วคงจะถามว่าพักที่ไหน



ส่วนกระเป๋าที่เราโหลดก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะกระเป๋าเค้าจะไม่เอามาให้เราหลอกครับ แต่มันจะไปเจอเราอีกทีที่

สนามบินอินชอนนู่นเลย เพราะฉะนั้น พวกของจำเป็นต่างๆที่ต้องใช้ ผมจะติดตัวไว้เสมอ ที่เหลือโหลดโลด...


เดี๋ยวนี้เพิ่งรู้ว่าฮ่องกงไม่ประทับตราบนหนังสือเดินทาง แต่จะปริ้นเอกสารแผ่นเล็กๆ แล้วเย็บติดกับเล่มเราแทน



ส่วนการออกนอกเมืองผมก็ใช้บัตรปลาหมึก(octopus card) ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ซื้อของใน7-11ได้อีกด้วย

เติมเงินไป 100 HK$ บัตรนี่ถ้าซื้อแล้วสามารถเก็บไว้ได้ 1พันวัน นับจากที่มีการใช้งานล่าสุดน่ะครับ



จากสนามบินเดินตามป้ายบอกทางมา bus to city นั้งสาย S1 ปลายทาง tung sung นั่นก็คือ city gate



หม่ำซักมื้อ...


ว่าจะเดินเล่นซะหน่อย 3ทุ่ม ร้านต่างๆก็ปิดเเละ อดเลย ต้องกลับสนามบิน ไว้ไปเดินเล่นใน duty free ที่สนามบินก็ได้

การเข้าสนามบินก็ใช้ bording pass อีกใบที่ได้มาจากกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปต่อแถว check in ที่เค้าเตอร์นะครับ

เดินเข้า departure ได้เลย และต้องไปดูบอร์ดอีกทีว่าเครื่องเราออกเกทไหน แล้ค่อยไปรอหน้าเกท

ยังเงียบอยู่ เพราะผมเข้ามาถึงนี่ก็เกือบ 4ทุ่ม


ระหว่างรอหน้าเกท มีที่เสียบชาร์จอุปกรณ์ รวมถึงชาร์ usb ได้ด้วย


แว้กกกกก...!!! เดินไปเช็คที่บอร์ดดูอีกครั้ง ดันเปลี่ยนเป็นเกท 69 เดินอย่างไว ดีนะที่อยู่ terminal เดียวกัน


เกทนี้ชัวร์

แล้วก็ถึงเวลาต้องเดินทางไปเกาหลีใต้ซ่ะที ตอนนี้ก็ตี1 แล้วครับอีกไม่เกิน 4ชม. ก็จะถึงสนามบินอินชอนแล้ว


โปรดติดตามตอนต่อไป 




Create Date : 20 เมษายน 2556
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 2:02:51 น.
Counter : 940 Pageviews.

0 comment

knotsang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments