Health and Beauty Tips
 
 

ความในใจของฉันกับ "นมแม่"


ฉันมักจะพูดกับคนรู้จักเสมอๆว่าสิ่งที่ฉันมั่นใจว่าเชี่ยวชาญมีไม่กี่เรื่อง และหนึ่งในนั้นคือเรื่อง "นมแม่"

ฉันเป็นหนึ่งในแม่ที่ให้นมลูกทั้งสองจนลูกเกือบๆจะหนึ่งขวบ

ฉันพบว่าการพยายามที่จะเป็น "สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม" ให้สมบูรณ์นั้นต้องใช้ความพยายามมากมาย ขนาดฉันแนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่เพื่อนทาง facebook ยังมีคนมาว่าว่าฉันพูดจาประเจิดประเจ้อ ไม่อายบ้างหรือไง มนุษย์ปัจจุบันบางคน คงลืมไปจริงๆว่าตัวเองคือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

กว่าจะมีน้ำนม กว่าจะให้นมลูกได้ถูกท่า กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคการเจ็บปวด ขนาดว่าให้นมไปเท้าจิกพื้นไป และกว่าจะมีน้ำนมให้ลูกได้ 100% โดยไม่ต้องใช้นมกระป๋องเสริม ...อดทนและพยายาม คือสิ่งที่ฉันทำ

ฉันคลอดลูกคนโตที่อเมริกา... คลอดธรรมชาติ คลอดปุ๊ป พยาบาลก็จับลูกมาดูดกระตุ้นปั๊ป แต่หลังจากนั้น ไหงพยาบาลให้ลูกฉันกินนมวัวจากขวดก็ไม่รู้ ฉัน...ซึ่งมีความตั้งใจจะให้นมแม่กับลูก และมีแม่รุ่นพี่เป็นโค้ชเอาใจช่วยอยู่หลายคน ก็ยังเขวๆว่าทำไงทำงี้ว้า แต่ไม่ได้ปฏิเสธ ก็พยาบาลฝรั่งอ่ะดุจะตายไป (กลยุทธทางการตลาดของบริษัทนม ทั้งแจก ทั้งแถม ตอนฝากท้อง ก่อนคลอด หลังคลอด เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการให้นมแม่ไม่สำเร็จมากๆ) แต่กลับมาบ้านมา ฉันก็ให้ลูกทั้งดูดกระตุ้น แรกๆเต้านมกลายเป็นหินจนไข้จะขึ้น เพราะน้ำนมที่ผลิตไม่ได้ระบายออก เจ็บมาก ต้องทั้งประคบ ทั้งบีบออก ซักวันสองวันก็หาย

จนมาได้เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้า ปั๊มคู่ ทรงพลังมากมาย ก็ตั้งหน้าตั้งตาปั๊มอย่างแรง และมีวินัยในการปั๊มมาก เสริมยาแผนโบราณ (ยาประสะน้ำนม) น้ำขิง ไก่ผัดขิง และอื่นๆ ในที่สุดก็มีนมมากพอที่จะไม่ต้องเสริมนมวัว แล้วก็มีสต๊อกนมเต็มตู้เย็นเลย แต่ปั๊มแรงจน nipple แตกไปหมด ก็ต้องอดทน เอาน้ำนมและ lanolin ทา กว่าจะหายก็นานอยู่

พอทั้งคุณแม่และคุณลูกเข้าขากันเรื่องการให้นมและกินนมแล้ว ปัญหาใหม่ก็บังเกิด เพราะว่าคุณลูกฉันเป็น Atopic dermatitis มีผื่นที่เรียกว่า eczema ที่แก้ม ที่รอยพับต่างๆ แม้กระทั่งใบหู เค้าก็คัน ตัวจิ๋วๆสองเดือนกว่าเล่นพยายามจะเกาหูตัวเองจนเป็นรอยเหมือนรอยบาดแดงๆตรงรอยพับหู น่าสงสารมากๆ

ก่อนกลับมาเมืองไทย ตอนลูกอายุได้ 4 เดือน เรามีสต๊อกนมแม่แช่แข็งเหลือเยอะ กินไม่ทัน จนต้องบริจาคให้เพื่อนคนไทยที่คลอดลูกในระยะเวลาใกล้ๆกัน และเค้ามีนมไม่พอทานอีกสองคน สรุปว่า การเป็นแม่ครั้งแรกของฉัน น้ำนมของฉันได้เลี้ยงเด็กถึง 3 คนด้วยกัน ถ้าฉันเกิดในสมัยโบราณ คงได้รับตำแหน่งเป็น"แม่นม" แน่ๆเลย




กลับมาเมืองไทย ปรึกษาคุณหมอเรื่อง eczema ของลูก หมอแนะนำให้ฉันงดทานอาหารทุกอย่างที่คิดว่าจะผ่านน้ำนม แล้วทำให้ลูกแพ้ได้ ฉันงดทั้ง "อาหารทะเล ถั่ว ไข่ ซี่อิ๊ว น้ำปลา แป้งสาลี นม เบเกอรี่ทุกอย่าง ขนมปังที่ทำจากแป้งสาลี" แล้วฉันกินอะไรเหรอคะ เมนูหลัก คือ ข้าว หมู ไก่ และผักบ้าง โดยเฉพาะเมนูเรียกน้ำนมอย่าง "ไก่ผัดขิง" ช่วงนั้นทานยากมาก ยังดีว่ายังไม่ได้ทำงาน เลยพอเลือกทานได้

ทั้งๆที่พยายามงดอาหาร เลือกทานสุดๆ แต่ลูกก็ยังแพ้อยู่เรื่อยๆ จนมีคนพูดเข้าหูว่า เลิกเถอะนมแม่หน่ะ เลือกทานได้ไม่หมด กลายเป็นว่าลูกทานนมแม่แล้วยิ่งแพ้หรือเปล่า บอกตรงๆว่า"เสียใจ" แต่ไม่ท้อค่ะ เลือกทานให้ strict มากขึ้น แต่นะ Atopic dermatitis สาเหตุไม่ได้อยู่ที่อาหารเท่านั้น อากาศ และสิ่งแวดล้อมก็มีผล คนที่เป็นโรคนี้ผิวจะแห้งมาก ลูกฉันอาบน้ำเปล่าตลอด ไม่เคยโดนสบู่หรือแชมพูเพราะจะทำให้เค้ายิ่งตัวแห้ง ทาโลชั่นตลอด แถมต้องเป็นโลชั่นเฉพาะยี่ห้อด้วย เพราะบางยี่ห้อก็ใช้แล้วแพ้ น้ำยาซักผ้าใช้ Teepol ตามที่หมอแนะนำ อะไรที่มีน้ำหอม อย่าได้แอ้มผิวลูกฉัน ลูกฉันเลยไม่เคยมีกลิ่นหอมแป้งเด็ก แชมพูเด็ก หรือโลชั่นแบบเด็กๆกับเค้าหรอก

ถึงฉันจะต้องงดอาหารสารพัดขนาดไหน แต่มันเป็นความตั้งใจอย่างยิ่งของฉันที่จะให้นมลูกให้ได้นานที่สุด ทุกครั้งที่ได้ในนมลูก ได้เห็นแก้มน้อยๆของลูกที่เริ่มยุ้ยขึ้นๆ ฉันมีความสุข และภูมิใจในตัวเองมากๆ ลูกของเรา ลูกที่เราสร้างมา กำลังเติบโตทางกายได้ด้วยน้ำนมแม่ และเติบโตทางใจด้วยความรักที่แม่และครอบครัวของเรามีให้เค้า การให้นมลูกเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ของฉัน เคยจะลองให้จุ๊บนม (pacifier) ลูกดูด ยามเค้างอแงไม่ยอมหลับ แต่อิ่มนมแล้ว เชื่อไหมคะว่าทำใจไม่ได้ เพราะแม่อย่างฉัน "อิจฉา" จุ๊บนมค่ะ ... ติ๊งต๊อง แต่ความรู้สึกเป็นอย่างนั้นจริงๆ

นมแม่มีประโยชน์เพราะมีสารอาหารครบถ้วน มีภูมิคุ้มกันทางกาย และแน่นอนมีความอบอุ่นที่เป็นภูมิคุ้มกันทางใจของลูกน้อย แต่คุณแม่ให้นมบุตรก็ต้องระวังเรื่องการทานอาหารและยามากๆนะคะ เพราะว่าแค่ฉันเผลอทาน ice cream ชาเขียวไปช้อนเดียว ตอนให้นมลูกคนโต ลูกฉัน get high นอนไม่หลับไปสามวัน ทำหน้ายิ้มๆ ไม่ง่วง คึกคักอย่างแรงเลยหล่ะ

ฉันต้องขอบคุณ คุณสามี คุณป้า ครอบครัวของฉัน และเพื่อนๆแม่รุ่นพี่ทุกคน ที่ให้กำลังใจฉัน จนฉันเป็นแม่ที่ประสบความสำเร็จในการให้นมลูก ลูกฉัน ลูกคน ไม่ใช่ลูกวัว ก็ต้องกินนมคน ไม่ใช่นมวัวใช่ไหมคะ

เชื่อไหมคะ เมื่อลูกโตแล้ว ลูกกินนมวัวแบบ UHT ตอนหลังฉันพบว่าลูกฉันกินนมวัวแล้วคัน ทั้งๆที่เทสต์เลือดแล้วไม่พบว่าแพ้ เลยเลิก ตอนนี้ทานแต่นมถั่วเหลือง ฉันคิดถูกจริงๆที่พยายาม อดทน และสู้ไม่ถอยที่จะทำให้ลูกได้กินนมฉันอย่างเต็มที่

พอมาถึงลูกคนที่สอง ด้วยประสบการณ์ที่มี ทำให้การให้นมไม่ยากนัก แต่สัปดาห์แรกก็จำเป็นต้องให้ลูกได้นมวัวบ้างเหมือนกัน เนื่องจากน้ำนมมาช้า จนคุณพยาบาลบอกว่าลูกแทบจะฉี่เป็นเลือด แต่ฉันก็รีบสุดฤทธิ์ที่จะทำยังไงก็ได้ให้น้ำนมมา และให้ลูกได้ทานนมวัวน้อยที่สุด และฉันก็ระวังอาหารเหมือนตอนให้นมลูกคนแรกเช่นกัน จากคนที่ชอบทางกุ้งเป็นชีวิตจิตใจ ชอบทานขนมเบเกอรี่มากๆ ฉันอดได้เป็นปีเพื่อลูก นอกจากนั้นตอนมีลูกคนที่สอง ฉันทำงานแล้วด้วย ดังนั้นหลังจากลาคลอดสามเดือน ฉันก็หิ้วกระติก และที่ปั๊มนมไปปั๊มที่ทำงานทุกวัน วันละสามรอบ เคล็ดลับของฉัน คือ เครื่องปั๊มไฟฟ้าแบบคู่ และเกาะอก hand free ที่ใช้ปั๊มนมค่ะ ทำให้ทำงานไป ปั๊มนมไปได้ไม่เสียเวลาทำงานเลย(ก่อนไปทำงานก็แต่งหน้าไป ปั๊มนมไปเหมือนกัน) ตอนเจ้าคนเล็ก ฉันมีน้ำนมแช่แข็งเยอะมาก จนในที่สุดก็เหลือทิ้งไปเหมือนกัน จนเดี๋ยวนี้เจ้าตัวเล็กอายุ 2 ขวบกว่าแล้ว ยังชอบเล่นเป็นเบบี๋มาขอจุ๊บๆนอกเสื้อฉันอยู่เลย น่ารักที่สุดเลยค่ะ

ฉันเขียน blog ตอนนี้ขึ้นเพื่อบันทึกเรื่องราวของตัวเอง และเพราะอยากจะให้กำลังใจคุณแม่มือใหม่ที่กำลังสู้รบตบมืออยู่กับภารกิจใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ทำไปซักพัก รับรองจะคุ้นชิน เอาใจช่วยนะคะ การให้นมลูก ไม่ยาก แต่ต้องมีความพยายามค่ะ เราอยู่เมืองไทยโชคดีที่มีคุณหมอคุณพยาบาล ช่วยแนะนำเรื่องการให้นมบุตรอย่างดี (ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่สนับสนุนการให้นมแม่) ตอนฉันอยู่อเมริกา service ประเภทนี้คิดเงินกันเป็นร้อยๆเหรียญ ฉันเลยต้องอาศัยเรียนรู้ฟรีๆจากอินเตอร์เนตเอา ทั้งเวบฝรั่ง และเวบไทยๆอย่างเวบนมแม่

ประสบการณ์การให้นมลูก เป็นความภูมิใจของฉันค่ะ




 

Create Date : 21 กันยายน 2554   
Last Update : 21 กันยายน 2554 22:41:25 น.   
Counter : 1533 Pageviews.  


กินยา local made จะได้ผลเหมือนยา original ไหมนะ


คุณเคยสงสัยหรือไม่ ว่ายา original (ยาต้นแบบ) กับยา local made (ยาสามัญ มิใช่ยาเลียนแบบนะคะ) นั้นแตกต่างกันอย่างไร ทำไมยา original ถึงได้ราคาแพงกว่ามากมาย ส่วน local made ก็ถู๊กถูก (ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ Rulid 150 mg. ซึ่งเป็นยา original ราคาแผงละ 200 บาท ขณะที่ตัว local made อย่าง Coroxin แผงละ 60 บาทเท่านั้น) แล้วแบบนี้ประสิทธิภาพในการรักษามันจะเหมือนกันได้หรือ ยาแพงทานแล้วหาย ยาถูกทานแล้วไม่หายหรือเปล่า...มาม่ะมาอ่านกันให้หายสงสัยค่ะ

เรื่องมันมีอยู่ว่า... ยา original นั้น ทางบริษัทผู้ผลิตต้องคิดค้น เสาะแสวงหา เพื่อให้ได้สารประกอบที่มีฤทธิ์ในการรักษา นำมาทดสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยเริ่มจากการทดลองในหลอดทดลอง แล้วค่อยๆพัฒนาระดับการวิจัยขึ้นมาทดลองในสัตว์ และในมนุษย์ จากประชากรกลุ่มเล็กๆ และขยายสู่กลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากขึ้นเมื่อมั่นใจแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่เวิร์ค และมีความปลอดภัยจริงๆ ซึ่งกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นคิดค้นในระดับโมเลกุลเล็กๆ พัฒนาสูตรขึ้นมาจนเป็นยา ที่สามารถออกขายในตลาดยาได้นั้น ใช้งบประมาณมหาศาล โดยเฉลี่ยแล้ว 800 ล้านยูเอสดอลล่าร์ (คูณเป็นเงินไทย ก็แค่ 24,000 ล้านบาทเท่านั้นเองค่ะ) ต่อยา 1 สูตร และใช้เวลาในการวิจัยเฉลี่ย 10-15 ปี เห็นตัวเลขแล้วหนาวเลยใช่มั้ยหล่ะคะ และนั่นแหละค่ะคือคำตอบว่าทำไมเมืองไทยไม่คิดค้นยาใหม่เอง เพราะงบประมาณอาจจะเกินกระเป๋าบริษัทของไทยที่จะสามารถลงทุนได้

แต่ผู้เขียนก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีของประเทศไทยเราไม่เป็นรองใครนะคะ บริษัท original คิดออกมา สร้างยาออกมาขายได้ แต่เมื่อยาตัวนั้นหมดสิทธิบัตรยาในประเทศนั้นๆ หรือเรียกง่ายๆว่าหมดสัมปะทานที่จะขายยาชนิดนั้นแต่เพียงผู้เดียว บริษัท local made อื่นๆในประเทศเดียวกันก็สามารถผลิตมาขายได้ทันที ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใช้ยาเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้ยาเข้าถึงยา โดยไม่ต้องบริโภคยาที่มีราคาแพงตลอดไป และเนื่องจากบริษัทยา original ได้ทำการศึกษาทางด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวยาสำคัญมาแล้ว เมื่อบริษัท local made จะนำมาผลิตขาย ก็แค่คิดสูตร ลองผลิตให้ได้เป็นยาในรูปแบบเดียวกัน ความแรงเดียวกัน และเหมือนกันกับยา original ให้มากที่สุด

แต่เมื่อทำเสร็จแล้วยังออกขายไม่ได้ทันที เพราะกฎหมายระบุว่าบริษัท local made จะต้องทำการทดสอบว่ายาที่ผลิตขึ้นมานั้น มีประสิทธิผลที่เทียบเท่ากับยา original จริงหรือไม่ ซึ่งการทดสอบนี้เรียกกว่า “Bioequivalence (BE) Study หรือ การทดสอบชีวสมมูลของยา” โดยให้อาสาสมัครสุขภาพดี ทานยาทั้งสองนี้ในเวลาที่แตกต่างกัน แล้ววัดระดับยาในเลือด เพื่อพิสูจน์ว่ายาทั้งสองยี่ห้อ ในขนาดยาเดียวกัน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะได้ระดับยาในเลือดที่เท่าๆกัน จึงจะสามารถสรุปได้ว่า ยานั้นมีคุณภาพเสมอกัน สามารถใช้แทนกันได้ (inter-changeable) งบประมาณในส่วนที่บริษัท local made ลงทุนนี้ อยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อสูตร และใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ปี เท่านั้นเอง

จากข้อมูลข้างบน คงจะพอเห็นความแตกต่างของการลงทุน ลงแรง ลงเวลา ระหว่างยาการคิดค้นยา original และการผลิตยา local made ออกขาย ซึ่งนั่นคือคำตอบว่า ทำไมยา original ถึงแพงกว่ายา local made มากๆ และประสิทธิผลของยาทั้งสองยี่ห้อที่แตกต่างกันนั้นจะเหมือนกันหรือเปล่า .... ทราบแบบนี้แล้ว คงทำให้คุณๆซื้อยา local made ทานได้อย่างสบายใจ หายสงสัย และสบายกระเป๋ามากขึ้นนะคะ

ปล. ยาบางประเภทไม่จำเป็นต้องทดสอบชีวสมมูล เนื่องจากรูปแบบของยาไม่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา เมื่อใช้แล้วยาสามารถออกฤทธิ์ได้ทันที เช่น ยาน้ำใสสำหรับรับประทาน ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ยาหยอดตา ยาพ่น เป็นต้น



Ref: ข้อมูลจากการประชุมวิชาการเรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสามัญ จัดโดย เภสัชกรรมสมาคม แห่งประเทศไทย 27 พ.ค. 54





 

Create Date : 21 กันยายน 2554   
Last Update : 21 กันยายน 2554 13:03:05 น.   
Counter : 4062 Pageviews.  


เรื่องของเจล/แอลกอฮอล์ล้างมือ


เชื้อโรคเดี๋ยวนี้มันช่างร้ายเหลือ ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ เป็นหวัดกันงอมแงมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กอนุบาลอีกต่างหาก จนที่ทำงานหลายแห่ง มีมาตรการต่างๆในการรับมือกับเจ้าไข้หวัดกันเป็นแถว ไม่ว่าจะมีบริการฉีดวัคซีนให้ทุกคนในบริษัทฟรี (เพราะลงทุนกับวัคซีน น่าจะคุ้มกว่าการที่จะต้องให้พนักงานหยุดงานนานๆเมื่อเป็นไข้หวัด โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นโรคติดต่อ และควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น 7 วัน) หรือมี hand sanitizer หรือที่เรียกกันว่าแอลกอฮอล์ล้างมือตั้งไว้ใช้ในหลายๆจุดของบริษัท

Hand sanitizer ในประเทศไทย ถือเป็นเครื่องสำอางควบคุมประเภทหนึ่ง ใช้ถูบนมือ โดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ อาจอยู่ในรูปของเหลว ซึ่งก็คือแอลกอฮอล์เจือจางในน้ำ หรืออาจจะเป็นเจลใสๆกึ่งเหลว ซึ่งถ้าเป็นในรูปแบบนี้จะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบหลัก แล้วเติมสารก่อเจล (gelling agent) ซึ่งพองตัวในน้ำแล้วลงไป ทำให้กลายเป็นเจลแอลกอฮอล์ ทั้งสองรูปแบบต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 60% จึงจะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ อาจมีการเติมสี, น้ำหอม, เม็ด bead ที่มีสารช่วยบำรุงหรือฆ่าเชื้อ และ glycerin หรือสารเพิ่มความชุ่มชื้น (humectants) ชนิดอื่นๆ ที่ช่วยทำให้มือไม่แห้งเมื่อแอลกอฮอล์ระเหยไป แต่บางคนก็ไม่ชอบเพราะจะรู้สึกเหนียวๆมือนิดนึง และในบางสูตรอาจมีสารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออื่นๆ เช่น triclosan ผสมอยู่ด้วยก็ได้

นอกจากส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์แล้ว ภาชนะบรรจุก็สำคัญเช่นกับ เพราะแอลกอฮอล์เป็นสารที่ระเหยได้ ดังนั้นหลอดหรือขวดพลาสติกที่ใช้ ต้องสามารถกันการระเหยของแอลกอฮอล์ได้ มิเช่นนั้น ปริมาณแอลกอฮอล์ก็จะลดลงเรื่อยๆ จนน้อยเกินไปที่จะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ ทราบอย่างนี้แล้ว เมื่อเปิดจุกมาใช้เสร็จแล้วอย่าลืมปิดฝาให้สนิททุกครั้งด้วยนะคะ

หากคุณมีประสบการณ์การถู hand sanitizer แบบที่เป็นเจลบนมือแล้ว มีอะไรก็ไม่รู้เหมือนขี้ไคลเกิดขึ้น อย่าตกใจไปนะคะ มันใช่ขี้ไคลของคุณหรอกค่ะ แต่เป็นสารก่อเจลที่หดตัว เพราะสารก่อเจลบางชนิดไม่ทนความเป็นกรด ซึ่งบังเอิญมือของคนเรานั้นเป็นกรด พอเอามาถูที่มือ เจลเลยหดตัว น้ำระเหย ได้เป็นสารก่อเจลที่เสียสภาพความเป็นเจลคามือคุณนั่นเอง ถ้าเจอแบบนี้ต้องทำยังไง ง่ายๆค่ะ ใช้ให้หมด แล้วต่อไปก็ลองซื้อยี่ห้อใหม่ใช้ ก็เท่านั้น

ในต่างประเทศเค้ามีการใช้ hand sanitizer กันมานานแล้ว และมีรายงานว่ามีเด็กเล็กๆรับประทานมันเข้าไป จนเกิดพิษจากแอลกอฮอล์ ดังนั้นหากในบ้านคุณมีเด็ก และใช้ hand sanitizer ต้องมั่นใจว่าเก็บพ้นมือเด็ก อีกอย่างคือถ้ารูปแบบใช้ที่เป็นของเหลว เวลาใช้ต้องปั๊มหรือสเปรย์ออกมา ก็ควรระวังการกระเด็นเข้าตาด้วยนะคะ อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าไม่ประมาทค่ะ






 

Create Date : 21 กันยายน 2554   
Last Update : 21 กันยายน 2554 13:00:57 น.   
Counter : 1184 Pageviews.  


1  2  

...kiki...
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฉันชอบกระดาษ ปากกา ชอบอ่านหนังสือ ฉันใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน/นักแปล แต่ชีวิตจริง...ฉันเป็นเภสัชกรที่ถนัดทำเครื่องสำอางหรือทำยามากกว่าทำกับข้าว จึงขอนำเรื่องที่ถนัดมาเขียนเป็นงานอดิเรก

ใครเข้ามาอ่าน อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะคะ :)
[Add ...kiki...'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com