Health and Beauty Tips
 
กินยา local made จะได้ผลเหมือนยา original ไหมนะ


คุณเคยสงสัยหรือไม่ ว่ายา original (ยาต้นแบบ) กับยา local made (ยาสามัญ มิใช่ยาเลียนแบบนะคะ) นั้นแตกต่างกันอย่างไร ทำไมยา original ถึงได้ราคาแพงกว่ามากมาย ส่วน local made ก็ถู๊กถูก (ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ Rulid 150 mg. ซึ่งเป็นยา original ราคาแผงละ 200 บาท ขณะที่ตัว local made อย่าง Coroxin แผงละ 60 บาทเท่านั้น) แล้วแบบนี้ประสิทธิภาพในการรักษามันจะเหมือนกันได้หรือ ยาแพงทานแล้วหาย ยาถูกทานแล้วไม่หายหรือเปล่า...มาม่ะมาอ่านกันให้หายสงสัยค่ะ

เรื่องมันมีอยู่ว่า... ยา original นั้น ทางบริษัทผู้ผลิตต้องคิดค้น เสาะแสวงหา เพื่อให้ได้สารประกอบที่มีฤทธิ์ในการรักษา นำมาทดสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยเริ่มจากการทดลองในหลอดทดลอง แล้วค่อยๆพัฒนาระดับการวิจัยขึ้นมาทดลองในสัตว์ และในมนุษย์ จากประชากรกลุ่มเล็กๆ และขยายสู่กลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากขึ้นเมื่อมั่นใจแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่เวิร์ค และมีความปลอดภัยจริงๆ ซึ่งกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นคิดค้นในระดับโมเลกุลเล็กๆ พัฒนาสูตรขึ้นมาจนเป็นยา ที่สามารถออกขายในตลาดยาได้นั้น ใช้งบประมาณมหาศาล โดยเฉลี่ยแล้ว 800 ล้านยูเอสดอลล่าร์ (คูณเป็นเงินไทย ก็แค่ 24,000 ล้านบาทเท่านั้นเองค่ะ) ต่อยา 1 สูตร และใช้เวลาในการวิจัยเฉลี่ย 10-15 ปี เห็นตัวเลขแล้วหนาวเลยใช่มั้ยหล่ะคะ และนั่นแหละค่ะคือคำตอบว่าทำไมเมืองไทยไม่คิดค้นยาใหม่เอง เพราะงบประมาณอาจจะเกินกระเป๋าบริษัทของไทยที่จะสามารถลงทุนได้

แต่ผู้เขียนก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีของประเทศไทยเราไม่เป็นรองใครนะคะ บริษัท original คิดออกมา สร้างยาออกมาขายได้ แต่เมื่อยาตัวนั้นหมดสิทธิบัตรยาในประเทศนั้นๆ หรือเรียกง่ายๆว่าหมดสัมปะทานที่จะขายยาชนิดนั้นแต่เพียงผู้เดียว บริษัท local made อื่นๆในประเทศเดียวกันก็สามารถผลิตมาขายได้ทันที ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใช้ยาเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้ยาเข้าถึงยา โดยไม่ต้องบริโภคยาที่มีราคาแพงตลอดไป และเนื่องจากบริษัทยา original ได้ทำการศึกษาทางด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวยาสำคัญมาแล้ว เมื่อบริษัท local made จะนำมาผลิตขาย ก็แค่คิดสูตร ลองผลิตให้ได้เป็นยาในรูปแบบเดียวกัน ความแรงเดียวกัน และเหมือนกันกับยา original ให้มากที่สุด

แต่เมื่อทำเสร็จแล้วยังออกขายไม่ได้ทันที เพราะกฎหมายระบุว่าบริษัท local made จะต้องทำการทดสอบว่ายาที่ผลิตขึ้นมานั้น มีประสิทธิผลที่เทียบเท่ากับยา original จริงหรือไม่ ซึ่งการทดสอบนี้เรียกกว่า “Bioequivalence (BE) Study หรือ การทดสอบชีวสมมูลของยา” โดยให้อาสาสมัครสุขภาพดี ทานยาทั้งสองนี้ในเวลาที่แตกต่างกัน แล้ววัดระดับยาในเลือด เพื่อพิสูจน์ว่ายาทั้งสองยี่ห้อ ในขนาดยาเดียวกัน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะได้ระดับยาในเลือดที่เท่าๆกัน จึงจะสามารถสรุปได้ว่า ยานั้นมีคุณภาพเสมอกัน สามารถใช้แทนกันได้ (inter-changeable) งบประมาณในส่วนที่บริษัท local made ลงทุนนี้ อยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อสูตร และใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ปี เท่านั้นเอง

จากข้อมูลข้างบน คงจะพอเห็นความแตกต่างของการลงทุน ลงแรง ลงเวลา ระหว่างยาการคิดค้นยา original และการผลิตยา local made ออกขาย ซึ่งนั่นคือคำตอบว่า ทำไมยา original ถึงแพงกว่ายา local made มากๆ และประสิทธิผลของยาทั้งสองยี่ห้อที่แตกต่างกันนั้นจะเหมือนกันหรือเปล่า .... ทราบแบบนี้แล้ว คงทำให้คุณๆซื้อยา local made ทานได้อย่างสบายใจ หายสงสัย และสบายกระเป๋ามากขึ้นนะคะ

ปล. ยาบางประเภทไม่จำเป็นต้องทดสอบชีวสมมูล เนื่องจากรูปแบบของยาไม่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา เมื่อใช้แล้วยาสามารถออกฤทธิ์ได้ทันที เช่น ยาน้ำใสสำหรับรับประทาน ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ยาหยอดตา ยาพ่น เป็นต้น



Ref: ข้อมูลจากการประชุมวิชาการเรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสามัญ จัดโดย เภสัชกรรมสมาคม แห่งประเทศไทย 27 พ.ค. 54





Create Date : 21 กันยายน 2554
Last Update : 21 กันยายน 2554 13:03:05 น. 2 comments
Counter : 4064 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลดีๆ สงสัยมานานแล้วค่ะ สบายกระเป๋าไปเยอะทีเดียวเชียว
 
 

โดย: bulldoggirl วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:21:42:20 น.  

 
 
 
ยินดีค่ะ จะพยายามหาอะไรมาเขียนอีกเรื่อยๆนะคะ :)
 
 

โดย: ...kiki... วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:23:28:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

...kiki...
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฉันชอบกระดาษ ปากกา ชอบอ่านหนังสือ ฉันใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน/นักแปล แต่ชีวิตจริง...ฉันเป็นเภสัชกรที่ถนัดทำเครื่องสำอางหรือทำยามากกว่าทำกับข้าว จึงขอนำเรื่องที่ถนัดมาเขียนเป็นงานอดิเรก

ใครเข้ามาอ่าน อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะคะ :)
[Add ...kiki...'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com