Group Blog
 
All Blogs
 
การลำดับความสำคัญของข้อบัญญัติทางศาสนาอิสลาม

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่านครับ

...ในการปฏิบัติศาสนกิจ หรือการวินิจฉัยบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามนั้นมีหลักการหนึ่ง เรียกว่า “ฟิกฮุล เอาลาวียาต” หรือ การเข้าใจลำดับความสำคัญ....สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจหลักการทางศาสนา

โดยหลักการ ฟิกฮฺ หรือข้อบัญญัติ ทางศาสนานั้น แบ่งระดับการบังคับใช้ออกเป็น 5 ประเภทกว้าง ๆ คือ

1 . วาญิบ (จำเป็น) คือ สิ่งที่ทำแล้วได้บุญ ถ้าละทิ้งมีบาป
2 . สุนัต (ควรทำ) คือ สิ่งที่ทำแล้วได้บุญ ถ้าละทิ้งไม่มีบาป
3 . หะรอม (เป็นบาป) คือ สิ่งที่ทำแล้วมีบาป ถ้าละทิ้งได้ผลบุญ
4 . มักรูหฺ (น่าตำหนิ) สิ่งที่ทำแล้วไม่มีบาป ถ้าละทิ้งได้ผลบุญ
5 . ญาอิซฺ หรือ หะโรส (สิ่งอนุญาต) คือ สิ่งที่ทำหรือไม่ทำก็ไม่เกี่ยวกับบาป บุญ

...ทีนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในเวลาเดียวกัน แต่ทั้ง 2 สิ่งนั้น มีระดับความสำคัญแตกต่างกันเช่น เหตุการณ์แรกเป็น วาญิบ อีกเหตุการณ์เป็นสุนัต เช่นนี้ เราก็ต้องเลือกทำ วาญิบก่อน โดยอาจทำสิ่งที่เป็น สุนัต หรือละทิ้งไปได้ หากว่ามีเหตุจำเป็น

...แต่หากว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวาญิบด้วยกันทั้งคู่ เราจะทำอย่างไร
ตัวอย่างเช่น การละหมาดนั้น ถือเป็นวาญิบกับมุสลิมทุกคน จะต้องปฏิบัติ...โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละหมาดฟัรดู (ละหมาดตามเวลาที่กำหนด คือ 5 เวลา) แต่แล้วก็เกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งขึ้น เช่น มีมัยยิต (ศพผู้ตาย) อยู่ ณ ที่นั้นด้วย...ตามหลักการแล้ว ถือว่า เป็นวาญิบอีกเช่นกัน ที่มุสลิมที่มีชีวิตอยู่ต้องทำให้แก่ผู้ตาย คือ 1.อาบน้ำศพ 2.ห่อศพ 3.ละหมาดให้แก่ศพ 4.ฝังศพ

เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น...หลักการศาสนาระบุว่า ให้เลือกวาญิบ ที่เป็นข้อบังคับเฉพาะบุคคลก่อน... นั่นคือ ถึงแม้ว่า การละหมาดฟัรดู และการปฏิบัติต่อผู้ตาย จะเป็นวาญิบทั้งคู่...แต่การละหมาดฟัรดูนั้น ถือเป็นวาญิบ เฉพาะบุคคล... ในขณะที่การปฏิบัติต่อผู้ตาย ถือเป็นฟัรดูกีฟายะห์ หรือเป็น ความรับผิดชอบของส่วนรวม

หรือในกรณี การทำสงครามญีฮาด ก็ตาม หากว่า เขามีหน้าที่ต้องออกไปสงครามแล้ว...แต่ปรากฏว่า เขาก็มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ ที่แก่ชรา...เช่นนี้ ศาสนาก็ให้เขาอยู่ดูแลพ่อแม่ มากกว่าออกไปสงคราม เพราะถือว่า การเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ในขณะที่การทำสงครามเป็นเรื่องของส่วนรวม

...แต่ในทางกลับกัน...หากว่า บิดามารดา บังคับให้เราประพฤติสิ่งที่ผิดศีลธรรม เช่นนี้ ก็ถือว่าไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม เพราะ การทำกุศลเป็นเรื่องส่วนบุคคล จำเป็นมากกว่าการเชื่อฟังคำสั่งบิดามารดา ซึ่งถือว่าเป็นวาญิบในระดับรองลงไป


มีหะดิษรายงานว่า ท่านมุอาวิยะห์ ได้ไปหาท่านนบีมูฮัมมัด (ศ็อลฯ) และกล่าวว่า จะขอไปร่วมในสงครามด้วย ท่านนบีจึงได้ถามว่า “ท่านยังมีมารดาอยู่หรือไม่...” เขาตอบว่า “ แท้จริง...ข้ายังมีมารดาอยู่...” ท่านนบีจึงตอบว่า “เช่นนั้น ...ท่านจงอยู่ดูแลมารดาของท่าน...เพราะ สวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าทั้งสองของมารดา”

นอกจากนี้ยังมีหะดิษ ที่รายงานถึงความสำคัญของการงานที่เป็นวาญิบ เช่น
รายงานจากท่านอบูอับดุลเราะห์มาน ว่า ฉันได้ถามท่านนบีว่า “การงานอันใดที่เป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า” ท่านนบีตอบว่า “การละหมาดในเวลา”
แล้วฉันได้ถามอีกว่า “แล้วอะไรอีก…”
ท่านตอบว่า “การทำดีต่อพ่อแม่...” จากนั้นฉันได้ถามว่า “แล้วอะไรอีก...หลังจากนั้น”
ท่านนบีตอบว่า “การต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์...(ญีฮาด)”
- (หะดิษรายงานโดยบุคคอรี และมุสลิม)

จากหะดิษข้างต้นจะเห็นว่า ศาสนกิจที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลนั้น ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วนก่อน ที่จะไปปฏิบัติการงานที่เป็นศาสนกิจส่วนรวม ...ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับมุสลิม ที่เราจำเป็นต้องเข้าใจว่า สิ่งใดที่เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล และสิ่งใดเป็นความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

-----------------------------------------------------------
ขอพระผู้เป็นเจ้าประทานพรแก่ผู้แสวงหาสันติ และสัจธรรมทุกท่าน

ด้วยจิตคารวะ




Create Date : 01 พฤษภาคม 2549
Last Update : 1 พฤษภาคม 2549 13:38:39 น. 0 comments
Counter : 1518 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kheedes
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add kheedes's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.