All Blog
|
โย กอดคอ บี ปรี๊ดแตก!! โดนก็อปธุรกิจอาหารสุขภาพ
เพิ่งจะเริ่มกิจการแท้ๆ กลับโดนก๊อปซะแล้วสำหรับ "โย ยศวดี" กับ "บี น้ำทิพย์" ที่โดนทั้งหาว่าไปก๊อปเขามา แถมยังโดนก๊อปไปขายอีกต่างหาก เมื่อได้เจอทั้งคู่ในงาน "Grand Opening Yo & Bee Diet Food" ณ ลานเอเทรี่ยม 2 สยามเซ็นเตอร์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "โย" : ก็ดีค่ะ คืออย่างน้อยๆ ก็ไม่รู้ว่าที่มาที่ไปของเราเป็นมายังไง เพราะฐานเราเริ่มใหญ่ขึ้นแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ แสดงว่าสิ่งที่เราทำมันดีก็เลยต้องเปิดเผย จริงๆ ก็เริ่มทำด้วยกันมา 3 เดือนแล้วค่ะ เห็นของเราก็โดนก๊อปด้วย ได้คุยกับอีกฝ่ายหรือยัง ตอนนี้แจ้งความแล้วใช่ไหม เขาใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ธุรกิจเพิ่งเริ่มก็โดนแบบนี้รู้สึกนอยด์บ้างไหม เราจะดำเนินการยังไงบ้าง แปลว่าเราจะไม่คุยจะฟ้องให้ถึงที่สุดใช่ไหม ถ้าดำเนินคดีจะมีบทลงโทษยังไง ดูเหมือนอีกฝ่ายทำต่อแบบนี้ไม่ค่อยเกรงกลัวเท่าไร ตอนนี้คิดทำลายน้ำบนรูปภาพหรือยัง กระแสออกมาแบบนี้ไม่กลัวธุรกิจจะเกร่อเหรอ เรามั่นใจว่าเราไม่สามารถเอาสูตรของเราไปได้ใช่ไหม ข่าวโดย news.sanook.com
พงศพัศ เผยผลตรวจ ร็อคซี่ Maxim ไม่เจอสารเสพติด
"พล.ต.อ.พงศพัศ" เชิญแม่และเด็ก จากคลิปสาธิตดมยาเค มาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด วันนี้ ส่วนผลตรวจฉี่ "ร็อคซี่ แม็กซิม" ไร้สารเสพติด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณีมีการโพสต์คลิปวิดีโอสอนเด็กชายวัย 3 ขวบ เสพยาเค ลงในเว็บไซต์ยูทูบ โดยใช้ชื่อคลิปว่า "สอนเด็กดมเค" ความยาว 1.17 นาที จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าว โดยมี ร็อคซี่ แม็กซิม หรือ น.ส.ขวัญใจ เข็มประดับ เป็นผู้โพสต์นั้น ล่าสุดในวันนี้ เวลาประมาณ 10.30 น. ตนเองได้เชิญมารดาและเด็กที่อยู่ในคลิป มาตรวจหาสารเสพติด ที่ ป.ป.ส. เพื่อความกระจ่างของเรื่องนี้ พร้อมกับแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนให้ทราบอีกครั้ง ส่วนผลการตรวจปัสสาววะ ของ ร็อคซี่ แม็กซิมนั้น ผลออกมาแล้ว ปรากฏว่า เป็นเนกาทีฟ คือไม่มีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ข่าวโดย news.sanook.com พม่าแค้น! เพื่อนขัดคออดข่มขืนสาว ลวงพาไปฆ่า
เกิดเหตุชาวพม่าเชือดคอเพื่อนร่วมชาติดับอนาถ หลังขัดขวางเพื่อนหมายจะข่มขืนสาว ตำรวจสอบเครียดแต่ยังปากแข็ง เร่งสอบหาหลักฐานมัดตัว (5 พ.ค.) ร.ต.ท.ธุวานันท์ เงินยวง พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุ พบศพชายถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิต ภายในซอยจันทน์ 43 แยก 5 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณกลางพื้นผิวถนน ห่างจากปากซอยจันทน์ 43 แยก 5 ประมาณ 10 เมตร พบศพ นายจอ ชาวพม่า อายุประมาณ 29 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ พบบาดแผลฉกรรจ์ที่คอ ถูกปาดด้วยของมีคมจนแทบขาด พล.ต.ต.มานิต เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาวพม่า อาศัยอยู่ห้องเช่าต้นโพธิ์ ภายในซอยจันทน์ 43 แยก 3 จึงรุดไปตรวจสอบ เป็นอาคารพาณิชย์ บริเวณห้องชั้น 2 ของอาคาร พบผู้ต้องสงสัยชาวพม่า เป็นชาย 2 คน อยู่ในอาการมึนเมา ทราบชื่อ นายจอ อายุ 28 ปี และ นายซอ อายุ 24 ปี นอกจากนี้ยังพบหญิงสาว 2 คน อยู่ในอาการหวาดผวา จากการสอบสวนหญิงสาวผู้เสียหายทั้ง 2 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจอ กับ นายซอ พร้อมด้วยผู้เสียชีวิต ได้หลอกพาหญิงสาวทั้ง 2 มากินเหล้าที่ห้องพักในดังกล่าว เมื่อมาถึงห้อง จู่ๆ นายจอ ขึ้นคร่อมพยายามที่จะข่มขืนผู้หญิง แต่ฝ่ายสาวผู้เสียหายได้ต่อสู้ขัดขืน ทำให้ถูก นายจอ ทำร้ายร่างกายสารพัด เมื่อ นายจอ เพื่อนชาวพม่าของ นายจอ เห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามาห้ามไว้ หลังจากนั้น นายจอ กับ นายซอ ได้ชักชวนผู้เสียชีวิตออกไปกินข้าวข้างนอก นายจอ ได้หยิบพกมีดพับขนาด 5 นิ้ว ติดตัวไปด้วย ทั้งหมดหายตัวไปสักพัก ก่อน นายจอ กับ นายซอ กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง พร้อมกับคราบเลือดติดอยู่บนเสื้อผ้า แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตอีกแต่อย่างใด จนมาทราบภายหลังว่าถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้น ทางผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ ทราบเพียงว่า นายจอ และ นายซอ เป็นพี่น้องกัน ทำงานอยู่ที่โรงงานสหไทย ซึ่งเป็นโรงงานประกอบกิจการทำกระดาษ ย่านพระประแดง ส่วนผู้ตายเป็นเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการสอบสวน และนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ พร้อมทั้ง รอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ข่าวโดย news.sanook.com หามหลวงพ่อคูณส่ง รพ.กลางดึก ไข้ขึ้น ซึม มีเสมหะ
5 พ.ค. - หลวงพ่อคูณอาพาธอีก ลูกศิษย์นำตัวเข้ารักษา รพ.มหาราชนครราชสีมา เนื่องจากมีอาการเป็น ไข้ ซึมลง คาดติดเชื้อ เบื้องต้นให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ และรอประเมินอาการอีกครั้ง เมื่อเวลา 21.30 น.วานนี้ (4 พ.ค.) คณะแพทย์ โรงพยาบาลด่านขุนทด พร้อมลูกศิษย์ใกล้ชิด นำพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ส่งรักษาเป็นการด่วนที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังพบมีอาการไข้ขึ้น ซึม และมีเสมหะ ทันทีที่หลวงพ่อคูณมาถึง นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมคณะแพทย์ ได้นำตัวหลวงพ่อคูณเข้าตรวจเอกซเรย์ปอด และตรวจคลื่นหัวใจ ก่อนจะนำไปพักที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 นพ.พินิศจัย เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องพาหลวงพ่อคูณมาโรงพยาบาลครั้งนี้ เนื่องจากทางทีมแพทย์พยาบาลที่ให้การดูแลหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ตรวจพบว่ามีไข้ขึ้น 38 องศาเซลเซียส มีเสมหะมาก และมีอาการซึมลง จากการตรวจเบื้องต้นคาดว่ามีอาการติดเชื้อ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อที่อวัยวะใด ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำไปแล้ว ยังประเมินไม่ได้ว่าจะนอนพักรักษานานแค่ไหน อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้ท่านติดเชื้อในครั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากที่วัดบ้านไร่มีเหตุไฟฟ้าตกบ่อยครั้ง ซึ่งห้องพักหลวงพ่อเป็นห้องปิด เมื่อไฟดับทำให้ไม่สามารถปรับอากาศให้อยู่ในระดับปกติได้ จำเป็นต้องเปิดประตูห้อง ซึ่งทำให้อาการเปลี่ยนแปลงและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อได้. -สำนักข่าวไทย ข่าวโดย news.sanook.com
คนปราจีนฯ ไม่สน สั่งปิดสะพานแขวนทรุด แห่ใช้กันตามปกติ
ความคืบหน้าการใช้สะพานแขวนวัดสง่างาม หมู่ 2 ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ที่สร้างข้ามแม่น้ำปราจีนบุรี เชื่อมหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.บางบริบูรณ์ อ.เมืองปราจีนบุรี กับ หมู่ 4 ต.ท่างาม อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งทางราชการได้สั่งปิดการใช้การสัญจรแล้วเนื่องจากเกรงว่าจะทรุดพังถล่มเช่นเดียวกับ จ.อยุธยา โดยพบว่า สภาพพื้นเอียงชำรุด ราวสะพาน สายสลิงทรุดตัวสนิมขึ้นจับเขรอะ ทั้งนี้ ได้มีการรายงานกับ น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรีและกระทรวงมหาดไทยเพื่อของบประมาณซ่อมแซมปรับปรุง เนื่องจากมีสภาพชำรุด เกรงเกิดการพังทลายเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 18.30 น .วันที่ 4 พฤษภาคม นางนงค์ลักษณ์ รัตนลักษณ์ อายุ 48 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงพระราม หมู่ 2 (ส.อบต.) ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า "หลังทางราชการสำรวจสะพานแขวน จ.ปราจีนบุรี มีรวม 5 แห่ง ชำรุดเกรงทรุดเป็นอันตราย 2 แห่งที่วัดมูลเหล็ก อ.บ้านสร้าง และสะพานแขวนวัดสง่างาม หมู่ 2 ต.บางบริบูรณ์ อ.เมืองปราจีนบุรีแห่งนี้ ได้มีการปิดป้ายห้ามผ่านสะพานแขวนแห่งนี้ แต่พบว่าชาวบ้านยังคงใช้สัญจรข้ามไป มาในการทำบุญวัดสง่างามจำนวนมากโดยวันธรรมดาเฉลี่ย 20 - 30 คน วันพระมากกว่า 60 คน และวันอาทิตย์ ที่มีการปฏิบัติธรรมเกือบ 100 คนโดยเฉลี่ย เนื่องจากย่นระยะเดินทาง และยังพบมีชาวปราจีนบุรีที่ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเดินทางมาดูจำนวนมาก ทั้งนี้ สอบถามชาวบ้านไม่เกรงเกิดอันตรายเช่น จ.อยุธยา แม้จะพื้นเอียง ราวสะพาน สายสลิงทรุดก็ตามที เพราะความเคยชินที่เดินข้ามไปมา ส่วนรถยนต์ รถจยย.นั้นจะวิ่งที่สะพานวัดสง่างามที่เป็นสะพานคอนกรีตไม่ใช้สะพานแขวนแห่งนี้ อยากให้ทางราชการเร่งใช้งบฉุกเฉินมาช่วยซ่อมแซมโดยด่วน เนื่องจากท่องถิ่น อบต.ดงพระรามไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ที่ตั้งไว้ ข่าวโดย news.sanook.com
|
chankoos
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |