[การตลาด] ผลิตได้ ..... ขายไม่เป็น !
คุณเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการใหม่หรือเปล่า คุณกำลังสร้างความเติบโดด้วยลำแข้งของคุณเองคนเดียวหรือเปล่า และคุณคิดว่าคุณขายของ "เป็น" หรือเปล่า ??? ผมเขียนบล็อกนี้เนื่องจากเมื่อวานเพิ่งมีอาจารย์การตลาดจากจุฬามาสอนที่มหาลัยของผม แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนจะเป็นเรื่องลอยๆ พูดไปเรื่อยๆให้จบชัวโมง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีส่วนที่เป็นประโยชน์ บางคำพูดหากนำมาคิดต่อ ก็มีประโยชน์ไม่มากก็น้อย .... หลายท่านที่ได้อ่านบล็อกเก่าๆของผม คงทราบว่าผมเป็นนักปรุงน้ำหอม ผมผสมน้ำหอมขายในตลาดกลุ่มเล็กๆ ที่คนสนใจเรื่องคุณภาพเป็นหลัก แบรนด์ของผมไม่ได้เป็นที่รู้จักทั่วไปในขณะนี้ แต่เป็นที่รู้จักแบบปากต่อปาก ในกลุ่มพนักงานออฟฟิส และนักศึกษาผู้จัดเป็น Educated Student ที่ชอบเปรียบเทียบสินค้าก่อนซื้อ ผมเคยคิดว่า ผมจะจำกัดวงของผู้ซื้อให้อยู่แบบนี้ตลอดไป เพื่อรักษา Image ของสินค้า แต่หลังๆงบการวิจัยน้ำหอมของผมเริ่มบานปลาย ผมพยายามเร่งทำสินค้าให้เป็นที่รู้จักสู่กลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นโดยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ และเน้นการสร้างภาพลักษณ์มากขึ้น และแน่นอน ผมปรับปรุงคุณภาพน้ำหอมอีกรอบ เมื่อสองสามวันก่อน ผมไปออกบูธมา พร้อมกับนำสินค้าใหม่ไปโชว์ เป็นน้ำหอมดังรูปที่ลงไว้ด้านบน ... ปกติผมทำงานหลังฉากมาโดยตลอด ด้วยลักษณะ All by myself ไม่ว่าจะเป็นงานฝ่ายผลิต งานออกแบบ งานการตลาด(เล็กๆ) หรือแม้แต่งานสื่อสารต่างๆก็ด้วย ด้วยความที่ผมทำทุกอย่างได้เองต้นทุนสินค้าของผมไม่สูงนัก หากเทียบกับงานระดับเดียวกัน ของบริษัทอื่นๆ ออกบูธเที่ยวนี้ .... ขายไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะสาเหตุหลักมาจากฝนตก ทำให้ผู้คนไม่ออกมาเดิน และไม่ยอมลงมาจากตึกที่ไปออกบูธ ถึงกระนั้นบูธของผมก็ได้ยอดขายอันดับหนึ่งจากทุกบูธอยู่ดี ความดีใจไม่ได้เกิดเลยแม้แต่น้อย คงเพราะเวลาว่างเหลือเยอะ เลยมีโอกาสได้วิเคราะห์สินค้า และการขายของตัวเอง ..... สินค้าของผมเน้นคุณภาพ เวลามีลูกค้าเดินเข้ามาในบูธ ผมเหมือน "อีบ้า" ที่พยายามพูด และอัดสิ่งที่เป็นคุณภาพเข้าหัวลูกค้าอย่างหนัก จนบางครั้งผมยังรู้สึกเลยว่า ผมพูด "ล้น" ไป ใครจะมาเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดได้หมด ... ผมพูดเยอะ จนอาจถูกมองว่า "เพี้ยน" ในสายตาคนทั่วไปเลยก็ได้ บรรจุภัณฑ์ที่ผมปรับปรุงขึ้นมา ก็เป็นสิ่งที่เป็น "กับดักความคิด" น้ำหอมของผมถูกนำไปเทียบความสวยงามกับเคาน์เตอร์แบรนด์ทันที จากแต่ก่อน ที่เรามีคู่แข่งเป็นน้ำหอมตลาดนัด น้ำหอมของผมชนะสบายๆ ... แต่ตอนนี้คู่แข่งเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ คิดดูสิครับ ผมต้องขายน้ำลายขนาดไหน ถึงจะอธิบายให้ผู้ที่สนใจฟังได้ว่าเราไม่ใช่แบบนั้น จริงๆคุณภาพของน้ำหอมผม สู้น้ำหอมแบรนด์ได้สบายๆ ชนะขาดลอยด้วยซ้ำไป แต่ในความเป็นจริง คุณภาพไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าจับต้องได้เลย แต่ภาพลักษณ์ และแบรนด์ต่างหากที่ลูกค้าสัมผัสได้ อาจต้องใช้เวลาอย่างต่ำอีก 5 ปี 10 ปี กว่าแบรนด์หนึ่งจะประสบความสำเร็จ ซึ่งก็อาจต้องใช้เงินไปละลายอีกมหาศาล ... ผมว่ามันช้าเกิน หากผมจะมานั่งวิตกกับหัวข้อนี้ สำหรับผู้ผลิตเอง ขายเองที่เพิ่งเริ่มต้นขาย ควรเรียนรู้วิธีการขายก่อนซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ อย่าเป็นนักผลิต ที่ผลิตได้ ... แต่ขายไม่เป็น แบบผม เพราะเงินทุนของคุณจะจมไปเปล่าๆ เอาล่ะ ... ผมจะออกไปหาหนังสือการขายเจ๋งๆซักเล่มมาอ่าน เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างครับ สำหรับตอนนี้ ใครต้องการสอบถามเรื่องน้ำหอมสามารถเข้าไปพูดคุยได้ที่ //www.kengsohigh.com นะครับ มีเว็บบอร์ดให้พูดคุยกันแล้ว
Free TextEditor
Create Date : 06 กันยายน 2552 |
| |
|
Last Update : 6 กันยายน 2552 11:17:55 น. |
| |
Counter : 724 Pageviews. |
| |
|
|