KenGSoHigH : Perfumer's BloG.
 
 

[ธาตุน้ำหอม] Cypress กลิ่นหอมตัวแทนแห่งธาตุธรรมชาติ

KenGSoHigH_Cypress


เคยได้กลิ่นเขียวๆ ของใบไม้เขียมชอุ่มกันบ้างหรือเปล่าครับ เมื่อยามมันเคล้ากับกลิ่นไม้ๆ ยิ่งทำให้หอมสดชื่น
ชวนให้นึกถึงละแมกไม้นานาพันธุ์ในป่าลึกที่ชุ่มชื้นตลอดปี บางช่วงของกลิ่นมันสะอาด บางช่วงมันก็ระอุ โน๊ตที่สำคัญเหล่านี้ เป็นส่วนผสมที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการทำโคโลญจน์ที่ร่วมสมัยยิ่งนัก


โน๊ตที่สำคัญตัวหนึ่งในการโคโลญจน์ตังแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน จนสามารถบอกได้ว่าไม่สามารถขาดได้คือ "Terpene" กลิ่นหอมคล้ายไม้ที่เดิมทีสกัดได้จากพืชตระกูลสนไม่ว่าจะเป็นสนป่าเขตเหนือ (Cypress) หรือสนเข็มเขตร้อน (Pine needle)


เราสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยจากพืชตระกูลสนมาปรุงกลิ่นหอมได้ทั้งผลิตภัณฑ์กลิ่นบำบัด (Aromatherapy) ดังเช่นสูตรต่อไป


1. Pine needle 2 หยด
2. Black pepper 1 หยด
3. Rosemary 5 หยด
4. Lemongrass 1 หยด
5. ฺBlackcurrent 0.5 หยด
6. Cypress oil 0.1 หยด


เราจะได้กลิ่นหอมที่สดชื่น และผ่อนคลาย แต่มีข้อควรระวังในการใช้คือ โน๊ตกลิ่นไม้อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้หากใช้เยอะจนเกินไป
เนื่องจากสารกลุ่ม Terpene จะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทรับรู้กลิ่น ส่งผลให้เกิดการจ่ายคลื่นไฟฟ้าไปยังสมองเมื่อแปลกลิ่นมากเกินไป


ในการปรุงกลิ่นโคโลญจน์ (หรือแม้แต่น้ำหอมก็ตาม) กลิ่นจากไม้สนจะเป็น Middle to top note เพื่อให้ความหอมสดชื่นและสะอาด
สามารถเข้าคู่กันได้ดีกับโน๊ตสีเขียวตัวอื่นๆ สูตรที่ผมค้นพบเองสูตรหนึ่ง ผมนิยมใช้โน๊ตไม้สน ผสมกับโน๊ตลาเวนเดอร์เพื่อก่อให้เกิดกลิ่นหอมแนว Refreshening กึ่งๆ Sport


นักผสมน้ำหอมคนอื่นๆใช้โน๊ตไม้สนนี้ เป็นส่วนร่วมในการสร้างน้ำหอมแนว Aqua มากมายด้วยครับ


องค์ประกอบของเคมีที่ให้กลิ่นที่สำคัญของโน๊ตนี้คือ
Mono- and Sesquite Terpenes และ Alpha terpineol
ซึ่งถ้าหากเราพิจารณาจากส่วนนี้แล้ว อาจจะทำให้เราก้าวล่วงไปอีกขั้นจากการเป็น Creative Perfume เป็น Technical Perfumer เพราะมันมีความลับเล็กๆซ่อนอยู่ก็คือ


กลิ่นโทนไม้สน มีองค์ประกอบทางเคมีที่ทนกรด และด่าง
เราจึงสามารถใช้กลิ่นโทนนี้ ปรุงน้ำหอมสำหรับสบู่ และสารทำความสะอาดอื่นๆได้อย่างเหมาะสมที่สุดนั่นเอง


บล็อกนี้ผมเขียนเป็นเชิงวิชาการหน่อยนะครับ ... เนื่องจากมีกระแสหลังไมค์ (และหลังมือถือ) ว่าอยากให้ผมเปิดคอร์สสอนผสมกลิ่น
หรือปรุงน้ำหอม ... ดังนั้นเอนทรีต่อจากนี้ ผมจะเขียนเกี่ยวกับธาตุของน้ำหอม ที่แม้แต่มือใหม่เข้ามาอ่าน ก็จะสามารถกรอบความคิด
เกี่ยวกับโลกของน้ำหอมได้เป็นอย่างดีครับ


สูตรน้ำหอมใดๆที่อยู่ในบล็อกนี้ ... ผมไม่สงวนสิทธิ์นะครับ แต่หากจะเครดิตมาให้ซักเล็กน้อยก็จะเป็นลมหายใจต่อสายงานอาชีพของผมมากๆเลยครับ


www.KenGSoHigH.com






Free TextEditor




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2553   
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 13:19:54 น.   
Counter : 922 Pageviews.  


โปรเจคใหม่ ... น้ำหอมสุดขอบเวลา Liquid Universe

KenGSoHigH Universe


ผมเคยได้ยินคำเล่าในวงการเชฟว่า "อาหารสามารถเล่าอารมณ์ของผู้ปรุงได้" ... ผมคิดว่าไม่เพียงแต่ในวงการอาหารหรอก แม้แต่ในเรื่องของการปรุงน้ำหอม มันก็สามารถ่ายทอดอารมณ์ของผู้ปรุง ณ. ขณะนั้นๆได้เช่นกัน


ตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบในประเทศไทย ผมก็คงรู้สึกเหมือนคนไทยอีกหลายๆคน มันมีแต่ความซึมเศร้าและหดหู่ ทุกครั้งที่ผมนั่งรถไฟฟ้าผ่านราชประสงค์ มันยิ่งทำให้ผมหดหู่เป็นสิบเท่า ภาพที่เป็นเหมือนฉากหลังยามนั่งรถไฟฟ้า มีเพียงสีดำเทาและเป็นห้วงลึกสุดลูกตา ราวกับกำลังหลงในห้วงจักรวาลที่หาที่ประมาณไม่ได้


ผมพยายามคิดค้นน้ำหอมกลิ่นหอมๆสักกลิ่น ที่ใช้สำหรับผู้ชายนักบริหาร แรกๆผมวางคอนเซ็ปต์ไว้ให้เป็นน้ำหอมคลาสสิค แต่ทำไปทำมา มันกลายเป็นน้ำหอมที่อึมครึม มีมิติ มีแรงอัดกระแทก และหอมลุ่มลึกจนรู้สึกถึงกลิ่นได้ในลำคอ


ส่วนผสมหลัก ผมใช้โทนกลิ่นควันไม้อย่าง Birch tar นำมาผสมกับกลิ่นหลักอย่างแอปเปิลเขียว ทำให้กลิ่นเหมือนแอปเปิลสีดำ กลิ่นกลางผมใช้ความหอมรุนแรงของโน๊ตเครื่องเทศ ไม่ว่าจะเป็นหญ้าฝรั่น ดอกไซคลาเมน แล้วบรรจงปิดกลิ่นท้ายด้วยกลิ่นไม้จันทน์ ไม้ซีดาร์ และมัสก์ 3 ชนิด ที่ลืมไม่ได้ผมใช้กลิ่นวานิลลาที่ไม่ค่อยมีโผล่ในน้ำหอมผู้ชายผสมด้วย ทำให้กลิ่นท้ายของน้ำหอมกลิ่นนี้ ละมุน


แรกเริ่มที่ฉีด ผมรู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่แรง และสังเกตได้ง่ายมาก มีความติดทน และมีกลิ่นที่บีบคั้นหัวใจผสมอยู่


ไม่รู้ว่าหากทำขายจริงๆ จะมีคนสนใจหรือไม่ ... จะว่าไป น้ำหอมกลิ่นแบบนี้ มันทำให้แลดูเป็นคนมีอำนาจ หากจะมองในแง่ดี


www.KenGSoHigH.com






Free TextEditor




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2553   
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 12:34:55 น.   
Counter : 660 Pageviews.  


[อธิบายกลิ่น] ละกลิ่นแห่งควันสงครามซักพัก ... มาอ่านกลิ่นหอมๆจากบล็อกของผมดีกว่าครับ


ตื่นเช้ามาผมได้ยินเสียงซออู้ และเสียงประสานที่ค่อนข้างโบราณจากเพลงที่มีดีว่าระดับประเทศร้องอย่างเจนนิเฟอร์คิ้ม ... ในเพลง "บ้านเราจะเหมือนเดิม" ทำให้ผมค่อนข้างผ่อนคลาย ... เสียงเพลงสามารถช่วยปลอบประโลมจิตใจได้จริงๆนะครับ


นอกจากเสียงเพลงเพราะๆ ไม่ใช่ท่วงทำนองปลุกใจให้ห้ำหั่นเลือดเนื้อกันแล้ว กลิ่นหอมๆที่อาจจะนำพาเราย้อนเวลาไปได้สมัยที่ไทยยังรักกันดี มีประเพณีสวยงาม และมีรอยยิ้มหวานๆให้กันโดยปราศจาอคติใดๆมาบังตา ...


หลังจากอากาศร้อนระอุพักหนึ่ง แล้วก็มาฝนหลงฤดู จนมาถึงฝนถูกฤดู เป็นปัจจัยทำให้ต้นไม้หน้าบ้านของผมแข่งกันออกดอกอย่างร่าเริง .. หนึ่งในนั้นคือมะลิชนิดหนึ่ง ที่ผมเชื่อว่ามีคนปลูกกันไม่มากเท่าไร "มะลิฉัตร" มะลิที่ให้กลิ่นหอมโบราณ


มะลิฉัตร .. ออกดอกคล้ายมะลิซ้อนแต่ดอกเล็กกว่า และตรงกลางดอกมันจะตูมเรียวไม่บานพร้อมๆกับกลีบรอบนอก .. ในตระกูลมะลิแน่นอนว่ากลิ่นของมันต้องหอมหวาน และมีความลุ่มลึกแน่นอนอยู่แล้ว แต่มะลิฉัตรหอมต่างจากมะลิชนิดอื่นๆ(ยกเว้นมะลิพิกุลที่กลิ่นคล้ายๆกัน)คือ มะลิฉัตรให้กลิ่นหอมคล้ายๆกลิ่นแป้งโบราณ เป็นกลิ่นที่ไม่หวานจนเกินไป และมีความแห้งของกลิ่นคล้ายๆใบชาที่อบมาอย่างดี


ทั้งนี้เป็นผลมากจากสารสำคัญที่ให้กลิ่นในมะลิฉัตรตัวหนึ่งที่อาจจะมีน้อยกว่ามะลิชนิดอื่นนั่นคือ Benzyl acetate แต่ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นของ Methyl anthranilate ที่หากดมสารนี้เพียวๆ จะนึกถึงกลิ่นองุ่นหรูๆ สีเขียวๆแน่นอนครับ


มะลิฉัตรสามารถออกดอกได้ทุกฤดู ต่างจากมะลิลาที่เว้นช่วงในฤดูหนาว ดอกมะลิฉัตรเมื่อแห้งแล้วก็ยังหอมนะครับ ... นับเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่ผมชอบและอยากสกัดให้เป็นน้ำหอมจริงๆ


อย่างไรก็ตาม ผมเคยนั่งผสมกลิ่นมะลิฉัตรแล้ว ... ไม่ยากเท่าไรในการจะเลียนแบบกลิ่นจากดอกจริง เพราะส่วนผสมหลักๆไม่ทิ้งจากกลิ่นดอกมะลิลาเท่าไร ... แต่ปัญหาก็คือความคงตัว เนื่องจากสารหอมที่ใช้ในมะลิฉัตรทำปฏิกริยากันเองได้ง่ายมาก กลิ่นจึงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม


ธรรมชาติเป็นสิ่งมหัศจรรย์นะครับ .. มนุษย์เราชอบฝืนธรรมชาติ เพื่อหาหนทางที่ทอดไปสู่การตอบสนองกิเลสต่างๆ ... มันคงไม่เป็นเป็นไรหาสิ่งนั้นเป็นสิ่งสร้างสรรค์ ... แต่หากมนุษย์ทำไปเพื่อลุแก่อำนาจ สุดท้ายธรรมชาติของจิตใจเราที่พื้นฐานคือความคิดที่บริสุทธิ์ ก็อาจสูญเสียไปและกลายเป็น "จิตอสุรกาย" ก็เป็นได้


www.KenGSoHigH.com
มีหลายท่านโทรมาหลังไมค์ เกี่ยวกับคอร์สผสมน้ำหอม ... ตอนนี้ผมยังไม่สะดวกเรื่องสถานที่นะครับ
ยังหาตึกทำโรงเรียนสอนไม่ได้เลย ... มีอะไรก็โทรมาถามก่อนแล้วกันนะครับ
เบอร์เดิม 084-081-6112 ครับ






Free TextEditor




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2553   
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 12:33:51 น.   
Counter : 703 Pageviews.  


[อธิบายกลิ่น] ข้าวหอมมะลิ เตยหอม ชมนาด เนียมอ้ม ... ฝรั่งถูกใจ คนไทยคุ้นเคย


เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมทำเรื่องที่น่าแตกตื่นแก่ชาวบ้านแถวบ้านผมไปทั้งบาง
เพราะผมยัดต้นไม้ชนิดหนึ่งสูง 1.7 เมตร ใส่รถ Vios รุ่นท็อป จากตลาดต้นไม้เทเวศน์สู่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร


ผมซื้อชมนาดขนาด 1.7 เมตรในราคา 350 บาท (ต่อจาก 600) เพื่อเอาไปปลูกที่หน้าบ้านของผมที่จังหวัดชุมพรครับ
เนื่องจากผมต้องเกิดอาการลงแดงทุกครั้งที่กลับบ้านเกิด เพราะไม่ได้นำชุดผสมน้ำหอมติดตัวไปด้วย ผมไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ หากไม่ได้ดมกลิ่นอะไร ... ดังนั้นต้นไม้กลิ่นหอมจึงเป็นเสมือนยาเสพติดของผม ที่ผมต้องออกไปเสพกลิ่นเป็นอาหารจมูกทุกครั้งที่มีอาการ


ชมนาดที่ซื้อไป มีดอกอยู่เต็มต้นเลยครับ เอายัดใส่รถไป 6 ชั่วโมง หอมฟุ้งไปทั่วคันเลย ใครไม่อยากใช้น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ ใช้วิธีของผมก็ได้นะครับ ... คำนวนวิธียัดให้ดีระกัน


ชมนาดถูกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "Bread Flower" และในไทยเองก็มีอีกชื่อนึงว่า "ดอกข้าวสุก" ด้วยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกลิ่นข้างหุงสุกใหม่ๆ ที่หอมกรุ่น อบอุ่น และให้ความรู้สึกถึงน้ำใจของคนไทย บางคนบอกว่าหอมเหมือนใบเตย ....


ทั้งชมนาด ข้าวหอมมะลิ และใบเตยต่างก็มีสารหอมที่เป็นองค์ประกอบสำคัญตัวหนึ่งที่เหมือนกันครับ ... สารนั้นคือ 2AP หรือ 2-Acetyl-1-pyrroline
นักชีววิทยา และนักเกษตรฯบ้านเราจะรู้จักสารนี้ดี บางท่านรู้จักดีกว่า Perfumer อย่างผมเสียอีก เพราะไทยเรามีเกณฑ์ที่ใช้วัด 2AP เพื่อตัดเกรดข้าวก่อนจะส่งออก


อ่าว ... แล้วข้าวหอมมะลิ กลิ่นไม่ได้เหมือนมะลิหรอกหรือ ??
จริงๆแล้วข้าวหอมมะลิเป็นเพียงชื่อเล่นครับ ชื่อเต็มคือ ข้าวหอมใบเตย ขาวนวลมะลิ คือกลิ่นหอมเหมือนใบเตย และเมื่อหุงสุกแล้วจะขาวนวลเหมือนดอกมะลิครับ


2PM เอ๊ย! 2AP เกิดจากปฏิกริยา Mailard Reaction เช่นเดียวกันการเกิดกลิ่นเวลาคั่วกาแฟ ย่างไส้กรอก หรือทำป๊อปคอร์น ซึ่งถ้าหากสังเกตให้ดีๆแล้ว กลิ่นอาหารจำพวกนี้จะให้ความรู้สึกคล้ายๆกันที่จมูกครับ
เป็นที่น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ดอกชมนาดจะสังเคราะห์กลิ่นนี้ได้เอง ทั้งๆที่ปฏิกริยานี้ต้องการความร้อนที่สูงพอควร


ใบเนียมเป็นพืชไทยที่ใกล้สูญพันธุ์อีกชนิดหนึ่งที่ผมดมแล้ว ผมชอบกลิ่นที่คล้ายกับใบเตย แต่มีความลุ่มลึก และให้ความเข้มข้นมากกว่ากว่า ผมล่ะอยากได้มาปลูกอีกจังเลย (ใครมีช่วยอนุเคราะห์ผมหน่อยนะครับ 555 เดี๋ยวผมส่งน้ำหอมกลับไปให้)


มนุษย์เรารับรู้กลิ่นของ 2AP ได้แม้จะมีความเข้มข้นที่ต่ำมากๆครับ เพียง 0.06 ng/l เราก็ได้กลิ่นกันแล้ว คิดดูว่าปริมาณนี้มันเท่ากับกลิ่นของตดลูกมดพิการเลยมั๊งครับ ในด้านการทำน้ำหอม กลิ่นนี้แทบจะไม่สามารถนำมาใช้ได้เลย ... ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากๆครับ


แต่อย่างว่าครับ ... คนที่บอกว่าไม่สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ใช่ผม แต่เป็นฝรั่งที่เกิดก่อนผมเท่านั้น ผมเห็นว่า 2AP เป็นกลิ่นที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้ดี ... ผมเลยนึกสนุกเอากลิ่น 2AP มาลองทำน้ำหอมดู กลิ่นที่ได้เป็นที่ถูกใจของผู้ที่มาทดสอบครับ


ผมทำสูตรน้ำหอมจาก 2AP ทั้งหมด 3 สูตร


1. กลิ่นมะพร้าวสวนในลำคลอง - ผมเลือกใช้กลิ่นมะพร้าวผสมกับเบสกลิ่นใบเตยที่มี 2AP ผสมอยู่ แล้วนำมาทำสบู่เหลว ลูกค้าของผมชอบมากๆครับ จำได้เลยว่าขายดีมาก แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำขายแล้วเนื่องจากไม่มีเวลากวนสบู่ (มีคำเรียกร้องให้ทำอยู่ทุกวี่วัน)


2. กลิ่นโคโลญจน์ใบเตย - ผมใช้กลิ่นใบเตยผสมกลิ่นหญ้ามอสที่ชุ่มชื้น เป็นโน๊ตหลัก เจือด้วยกลิ่นไม้จันทน์และโป๊ยกั๊ก กลิ่นที่ได้เป็นกลิ่นใบเตยนำแต่มีความคงทนและกลมกล่อมมากขึ้น พี่ที่เป็นเจ้าของโรงงานเครื่องสำอางรายหนึ่งบอกว่า
น่าจะเป็นกลิ่นที่ฝรั่งชอบมากที่สุดกลิ่นนึงครับ


3. กลิ่นสังขยาใบเตย - ผมเบลนด์กลิ่นนี้ขึ้นมาจากการที่ผมเห็นงานวิจัยของไทยงานหนึ่ง ที่หาองค์ประกอบของสารหอมจากดอกชมนาด
ผมเลียนแบบส่วนประกอบในธรรมชาติขึ้นมา แล้วผสมกลิ่นนมเนยลงไปเล็กน้อย ได้กลิ่นที่หอมหวานน่าทาน คาดว่าผสมลงเทียนหอมน่าจะเหมาะที่สุด


นี่แหละครับ ... กลิ่นหอมใกล้ๆตัวเราที่ผมอยากนำเสนออีกกลิ่นหนึ่ง
กลิ่นที่ผมเชื่อว่าทุกท่านคุ้นเคยจนเมินเฉย แต่เป็นกลิ่นที่จะทำให้ทุกท่านคิดถึงประเทศไทยมากที่สุดหากท่านได้กลิ่นนี้ตอนที่อยู่ต่างบ้าน
กลิ่นที่ให้ความรู้สึกพอเพียงของข้าวร้อนๆ 1 จานกับการล้อมวงทานข้าวเป็นครอบครัว
กลิ่นที่บ่งบอกถึงชีวิตชนบทที่สมบูรณ์ด้วยญาติมิตรและไมตรีจิต มีแต่ยุ้งฉาง ไม่จำเป็นต้องมีมือถือ
กลิ่นที่ดึงความสูงสุดสู่สามัญ ทำให้เราระลึกได้ว่า "ประเทศไทย" คือ "บ้านเกิดเมืองนอน"


www.KenGSoHigH.com






Free TextEditor




 

Create Date : 21 เมษายน 2553   
Last Update : 21 เมษายน 2553 12:06:58 น.   
Counter : 1622 Pageviews.  


สูตรผสมน้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ครับ .. กลิ่นหอมที่ยากจะลงตัว

KenGSoHigH REO


เคยได้กลิ่นไอเย็นของผิวน้ำแข็งกันบ้างมั๊ยครับ ... กลิ่นที่บางวูบก็โปร่ง เย็นสบาย บางวูบก็ออกแนวสะอาดๆ และบางวูบก็ออกตันๆ และก้องอยู่ในจมูก ... หากอยากจะเก็บปรากฏการณ์นี้ไว้ตลอดไป ผมแนะนำกลิ่น "โรสแมรี่" ครับ


-----


   ช่วงนี้ผมเป็นหวัด เลยผสมน้ำหอมกลิ่นสลับซับซ้อนไม่ได้ เพราะว่าจมูกได้กลิ่นลดลง และกลัวจะเป็นภูมิแพ้เป็นของแถมหากยังอุตริไปดมสารเคมีขณะมีน้ำมูก ซึ่งอาจจะจับโมเลกุลเหล่านั้นไว้นานเกินไป


   แต่เกิดมาเพื่อจะเป็น Perfumer แล้ว .. หากวันไหนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการปรุงกลิ่นเลย ชีวิตมันก็เหมือนไม่เต็ม ยิ่งตอนนี้ที่ผมจบป.โทหมาดๆ เวลาว่างช่างเยอะเหลือเกิน (จริงๆมีงานวิจัย 1 ชิ้น แต่ขอไปตายเอาดาบหน้านะคร้าบ)


   เมื่อวานนี้ผมไปรื้อสูตรเก่าๆของผม แล้วพบว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมชอบผสมกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยล้วนๆ และช่วงนั้นผมชอบกลิ่นเขียวๆ เย็นๆ ออกทำนองพฤกษาของ "โรสแมรี่" มากเป็นพิเศษ


   โรสแมรี่เป็นสมุนไพรแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีใบแหลม เมื่อเด็ดมาขยี้ๆจะทำให้ต่อมกลิ่นแตกออก แล้วส่งกลิ่นหอมออกมา กลิ่นของโรสแมรี่ที่เราใช้กันมาจากใบนะครับ อาจจะไปสกัดแบบบดขยี้ หรือกลั่นโดยไอน้ำก็ได้ .... แต่ไม่ได้มาจากดอกนะครับ ที่ผมย้ำเพราะว่ามีอาจารย์ที่สอนผมหลายๆคนชอบเข้าใจผิด ว่าโรสแมรี่ต้องมีอะไรคล้ายๆกุหลาบ (Rosemary .. Rose) จริงๆมันแค่ rose น่ะครับ เหมือนคนชื่อบุญมี กับ บุญหมด ก็แค่คำซ้ำกันเท่านั้น ... เป็นที่น่าแปลกว่าอาจารย์หลายๆคนที่สอนระดับป.โท ยังคงเชื่อเช่นนี้


ทุกวันนี้โครงการหลวงเราปลูกได้แล้วนะครับ บ้านผม(ที่นนทบุรี) ก็มีอยู่ 1 ต้นครับ พอดีพี่สาวผมเป็นนักวิชาการฯโครงการหลวง แอบจิ๊กมาให้ 1 ต้นพอดี 555+


   ผมนำโรสแมรี่มาใช้อีกครั้งหนึ่ง โดยให้คอนเซ็ปต์กลิ่นหอมนี้เป็นกลิ่นหอมที่สุขุม ฟุ้ง และสร้างความใกล้ชิดกับธรรมชาติให้เกิดขึ้นในบรรยากาศ กลิ่นที่ออกมาต้องไม่แบ่งแยกเพศอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์


  สูตรการผสมเป็นดังนี้ครับ


  Rosemary   ............................................................   20 หยด


  Bergamot (expressed) .............................................   25 หยด


  Lavender    ............................................................   22 หยด


  Geranium  .............................................................     2 หยด


  ง่ายๆเท่านี้แหละ ใช้ essential oil ล้วนแค่ 4 ชนิด แต่กลิ่นออกมาแล้วคล้ายๆน้ำหอม L'occitane เลยล่ะครับ (จริงๆน้ำหอมของ L'occitane มี skeleton แบบนี้ครับ แต่ไปปรับกลิ่นให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น)


  กลิ่นนี้สามารถนำไปใช้เพื่อจุดตกแต่งบรรยากาศ หรือผสมน้ำมันนวดก็ได้นะครับ แต่ต้องระวังว่ามี Bergamot ผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ นวดเสร็จห้ามออกไปโดนแดดนะครับ ต้องรอ 24 ชั่วโมงก่อนนะครับ เนื่องจาก Bergamot oil เป็น Photosensitive ครับผม .... กลิ่นนี้หอมและทำให้สปาดูหรูขึ้นกว่าการใช้น้ำมันหอมระเหยสำเร็จรูปทั่วไปล่ะครับ


  กลิ่นที่ได้จะมีความโรแมนติก วินเทจน์ และคล้ายๆเครื่องหนังขัดมันชั้นสูง (Lather) โรสแมรี่ให้ความฟุ้ง สะอาดจมูก เบอร์กามอทให้ความสดชื่น และลาเวนเดอร์คลุมโทนให้กลิ่นสงบและอบอวลครับ ในทางน้ำหอมแล้วกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะปลื้มมากๆครับ


  อ่อ .. ลืมบอกไปว่า สูตรข้างต้นไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ เพียงแต่หากท่านใดจะนำไปเผยแพร่ต่อที่ไหน รบกวนเครดิตชื่อผม KenGSoHigH ลงไประกันคร้าบ 


  วันนี้เอาแค่เรื่องง่ายๆก่อน ไว้วันหลังจะมาเล่าการนำสูตรนี้ไปทำน้ำหอมผู้ชายดีๆซักกลิ่นครับ 


www.KenGSoHigH.com






Free TextEditor




 

Create Date : 29 มีนาคม 2553   
Last Update : 29 มีนาคม 2553 12:23:38 น.   
Counter : 1468 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Thai-SkY
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add Thai-SkY's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com