วิธีการนำเข้าแมวมายังประเทศสิงคโปร์
การนำเข้าสัตว์เลี้ยง (ถ้าไม่รักแมวนี่จะแปลไม่ได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ยะ!!)
1. ใบอนุญาตนำเข้าจาก AVA (Import license) - ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าภายใน 30 วันหลังจากที่มาถึงสิงคโปร์ - จ่าย 50 เหรียญสิงคโปร์นะจ๊ะ - ใบอนุญาตนี้จะมีอายุ 30 วันนับจากวันที่ออกให้
2. ข้อกำหนดเรื่อง veterinary และการกักกัน >,< สำหรับหมาและแมว
- ถ้าจะนำเข้าหมาและแมว จะต้องดูแลเรื่องสุขภาพ, การกักกันและการตรวจสอบจาก AVA (เพราะกลัวโรคกลัวน้ำจ้ะ)
- แบ่งประเทศเป็นกลุ่มๆต่างได้ดังนี้: Category A: Australia, New Zealand, Republic of Ireland, United Kingdom Category B: Cayman Islands, Hong Kong, Italy, Japan, Norway, Portugal, Sweden, Switzerland, Taiwan, USA (Guam and Hawaii) Category C: Austria, Belgium, Canada, France, Netherlands, Spain, USA (ยกเว้น Guam and Hawaii) Category D: ประเทศอื่นๆที่เหลือ
- ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม D รายละเอียดด้านล่างค่ะ ^^
เอกสารที่ต้องการมีดังนี้
^ ใบอนุญาตนำเข้าสัตว์(เลี้ยง) ที่พูดถึงข้างบน
^ ใบรับรองจากสัตวแพทย์ (ต้องใช้ตามแบบที่แนบมา) วันที่ที่ระบุในใบรับรองนี้ต้องไม่เกิน 7 วันก่อนที่คุณจะออกเดินทาง ส่วนสัตวแพทย์ที่จะเซ็นต์รับรองได้นั้น ตามเว็บเค้าบอกว่าต้องเป็น official government veterinarian of the country of export เราขอแปลเอาเองว่าเป็นสัตวแพทย์ที่ได้จดทะเบียนกับสัตวแพทยสภาแล้วกัน (Veterinary Council of Thailand) แล้วก็ต้องเอาไปให้กระทรวงที่สัตวแพทยสภาสังกัด หาใครซักคนช่วยเซ็นต์รับรองให้ แต่เราว่าเรื่องนี้ คุณถามไปโดยตรงกับทางสภาดีกว่าค่ะว่าจะคุยกับใครดี อะต่อ ยาวมากเลย ซึ่งในใบรับรองนี้จะต้องระบุอายุ สายพันธุ์ เพศ สี ลาย และสิ่งต่อไปนี้
1) สัตวแพทย์ (ที่ได้จดทะเบียนกับสัตวแพทยสภา) ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าแมวมีสุขภาพดี ไม่มีโรคติดเชื้อ สามารถเดินทางได้
2) ต้องมีไมโครชิพตามที่ระบุในใบรับรองสุขภาพและใบรับรองการฉีดวัคซีน
3) ต้องทำวัคซีนโรคกลัวน้ำไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก่อนการเดินทาง (ฉีด booster ก็นับนะจ๊ะ) ต้องตรวจเลือดเพื่อเช็คค่า antibody ของโรคกลัวน้ำอย่างน้อย 1 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนและภายใน 6 เดือนก่อนการเดินทาง
4) สำหรับแมว (ของหมาขี้เกียจพิมพ์ อิอิ) ก็ต้องทำวัคซีนโรคดังต่อไปนี้ไม่น้อยกว่า 2 เดือนก่อนการเดินทาง: Cat Flu (Feline calicivirus, Feline viral rhinotracheitis, Chlamydophila felis) แล้วก็ Cat enteritis (Feline Panleukopaenia/Feline parvovirus)
5) ต้องให้ยาถ่ายพยาธิภายใน 4 วันหลังการเดินทาง อย่าลืมจดชื่อและส่วนประกอบของยามาด้วย แกะเอาฉลากมาจะสะดวกสุด แล้วก็ฆ่าเห็บหมัดอะไรพวกนี้ 2 10 วันหลังการเดินทาง อย่าลืมฉลากยานะจ๊ะ
^ ใบรับรองการทำวัคซีน ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการฝังไมโครชิพด้วย ที่อยู่คลินิคคุณหมอต้องมีระบุอย่างชัดเจน อย่าลืมลายเซ็นต์รับรองจากสัตวแพทยสภาด้วยนะเออ
- การกักกัน
เมื่อมาถึงแล้ว แมวจะถูกทำวัคซีนอีกรอบ (-_-) และจะถูกกักกันไม่น้อยกว่า 30 วัน (เศร้าเลย) อย่าลืมไปจองที่ Sembawang Animal Quarantine Station (//www.ava.gov.sg/AnimalsPetSector/ImportExportTransOfAnimalRelatedPrd/AnimalQuarantine/index.htm) ด้วยนะ เค้าบอกว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งขั้นตอนจองมีดังต่อไปนี้ค่ะ
1) ต้องส่งใบรับรองการฉีดวัคซีนจากเมืองไทย และผลการทดสอบ antibody ของโรคกลัวน้ำจากเมืองไทยแนบมาตอนจอง ซึ่งรายละเอียดอื่นๆจะรวมไปถึงวันที่คาดว่าจะมาถึงของน้องแมว หลังจากนั้นคุณจะได้รับ Quarantine Reservation Code (QRC) ถ้าไม่ได้รับการยืนยันภายใน 3 วัน โทรสายด่วนหา AVA เลยค่ะ
2) AVA จะแจ้งให้คุณทราบว่ามีห้องให้น้องแมวรึเปล่าประมาณ 1 เดือนก่อนที่น้องแมวจะมาถึง
3) ถ้าทาง SAQS ยืนยันแล้วว่ามีที่ให้น้องแมวแน่นอน คุณสามารถยื่นใบขออนุญาตนำเข้าสัตว์เลี้ยงได้ทาง online
สนนราคาค่าใช้จ่ายนะคะ: ^ ค่าขนส่ง S$74 ต่อแมวต่อเที่ยว ^ ค่าทำวัคซีนโรคกลัวน้ำ S$65 ^ ค่าเช่าห้องกักกัน S$16.80 (ห้องพัดลม) S$26.25 (ห้องแอร์) ค่าเช่าห้องรวมค่าตรวจของสัตวแพทย์และค่าอาหารของน้องแมวเรียบร้อยแล้ว อ๊ะ ลืมบอกไป มีเวลาให้เยี่ยมด้วยนะคะ วันธรรมดา 4โมงเย็นถึง 6โมงเย็น วันเสาร์ บ่าย2 ถึง 6โมงเย็น วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ หยุดจ้ะ
- ต้องแจ้งให้ทางสถานกักกันสัตว์ทราบอย่างน้อย 5 วันก่อนการเดินทาง
- เมื่อมาถึงแล้ว คุณจะต้องแสดงใบรับรองต่างๆนานา (อย่าลืมถ่ายเอกสารไว้ด้วยนะคะ) ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจทาน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย น้องแมวก็จะถูกเตรียมนำส่งไปยังสถานกักกัน
- บทลงโทษ เรื่องนี้สำคัญมากนะคะ ต้องอ่านๆๆๆ
1) ถ้าไม่ได้ทำวัคซีนมา จะต้องโดนทำวัคซีนเมื่อมาถึงแล้ว หลังจากนั้นอีกราว 1 เดือนก็จะถูกทำ antibody test ของโรคกลัวน้ำ และจะถูกกักกันเพิ่มเติมอีก 180 วัน!!!
2) ถ้า antibody test ของโรคกลัวน้ำไม่ผ่าน ก็จะโดนทดสอบอีกรอบ หรือจนกว่าผลจะผ่าน กักกันเพิ่มไม่น้อยกว่า 30 วัน ถ้าตรวจยังไงก็ไม่ผ่าน จะโดนส่งกลับ
3) ถ้าแมวป่วย หรือเอกสารไม่ครบ หรือที่กักเต็ม น้องแมวอาจจะถูกส่งกลับ หรือกักแยกไว้ดูอาการ หรือถูก put ขึ้นอยู่กับหัวหน้าสถานกักกัน (จริงๆชื่อเค้าหรูกว่านี้ Director-General of AVA แต่เราไม่ชอบ แมวป่วยจะมา put กันได้ยังไง ชิชะ เลยแปลให้ซะชื่อน่าเกลียดเลย อิอิ)
- อื่นๆ
1) ระวังแมวเครียดนะจ๊ะ เดินทางน่ะ
2) ห้ามแมวอยู่ใน HDB (ยังไงถ้าจะเอามาจริงๆ เดี๋ยวเราจะหาทางช่วยนะ)
3) กรงแมวที่เอามาต้องตามระเบียบของ IATA
4) แมวที่เอามาต้องมั่นใจว่าไม่ท้อง ถ้าน้องแมวคลอดลูกในระหว่างที่ถูกกักกัน คุณจะต้องมั่นใจว่าที่กักกันมีเพียงพอ แล้วจะถูกชาร์จเพิ่มด้วย (สรุป ถ้าแมวท้อง อย่าเอามาเลย สงสารน้องแมว)
5) ค่าใช้จ่ายทั้งหลังทั้งแหล่ เจ้าของแมวจ่ายนะจ๊ะ
ข้อมูลจาก: //www.ava.gov.sg/AnimalsPetSector/ImportExportTransOfAnimalRelatedPrd/PetsPersonal/ พวกแบบฟอร์มอะไรก็อยู่ในเว็บนี่แหละจ้ะ หาเอา
Create Date : 19 กรกฎาคม 2554 | | |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2554 21:42:58 น. |
Counter : 5181 Pageviews. |
| |
|
|
|