สู่สวรรค์น้อยๆ ปล่อยให้ลอยไปสู่วิมาน

ปาไปแอ่ววัดร่องขุ่นในวันฟ้าใส

" เงินทองสมบัติบ้าบอเป็นของกระจอก ไม่ใช่ของเขา เป็นเพียงของสมมุติ บุญเป็นของเขา เงินจึงไม่มีค่าสำหรับเขา แต่เงินมีค่าสำหรับการสร้างบุญกุศล เพื่อการเดินทางต่อไปของจิตวิญญาณเท่านั้น " อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

เช้าที่อากาศสดใส ท้องฟ้าสวยงาม ไร้เมฆดำ เป็นการดีเหลือเกินที่จะออกไปเก็บภาพสวยๆของวัดร่องขุ่น จึงสะพายกล้องคู่ใจพร้อมกับรถหรูคันงามนามว่า mazda fighter ออกไปตั้งแต่ 9 โมงเช้า ใช้เวลา 10 กว่านาทีจากตัวเมืองไปถึงวัดร่องขุ่น วันนี้มีเด็กๆเยอะมาก เนื่องในโอกาสใดก็ไม่รู้ได้ หลายคันรถบัส แวะเวียนเข้า-ออก วัดร่องขุ่นอย่างไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ แม้เวลาอากาศจะร้อนสักเพียงใด " เด็กๆอย่าจับนะครับ เดินเข้าไปแล้วลงด้านข้าง ห้ามวนกลับมาที่เดิมนะครับ จะเข้าไปกราบพระถอดรองเท้าด้วยนะครับ " เสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่พร้อมโทรโข่งตัวจิ๋ว

" คุงครูขา หนูกลัวมือผีค่ะ ผีมันอยู่ในหลุม หนูกลัวยักษ์ค่ะ " เสียงเจื้อยแจ้วหลากหลายอารมณ์ของเหล่าเด็กๆที่ได้มาเห็นวัดร่องขุ่นเป็นครั้งแรก วันนี้ไม่เจออาจารย์เฉลิมชัย หรืออาจจะใส่แว่นดำ หลบอยู่ตามซอกหลืบมุมตึก คอยด่านักท่องเที่ยวก็เป็นได้ ว่าเข้าไปนั่น แต่นั่นก็เป็นสไตล์ของอาจารย์เอง แล้วแต่มุมมอง

วัดร่องขุ่นเปลี่ยนแปลงไปมาก มีบริเวณวัดที่กว้างขวางพร้อมลานจอดรถบัสได้หลายสิบคัน จากที่ดินวัดเก่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีเพียง 3 ไร่ ได้รับบริจาคที่ดินบ้าง จนเดี๋ยวนี้มีกี่สิบไร่แล้วก็ไม่รู้ อาจารย์เฉลิมชัยมีลูกศิษย์กว่า 60 แล้วในปัจจุบัน

เข้าปีที่ 12 ของการสร้างวัดอันวิจิตรอลังการ และยังเห็นการก่อสร้างเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ วัดร่องขุ่นมีผู้คนมาชมแล้วกว่าห้าล้านคน ชาวต่างชาติกว่าสองแสนคน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเชียงรายก็ว่าได้ ด้วยความเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ผลงานของอาจารย์เฉลิมชัยจึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ภายในบริเวณวัดแบ่งออกเป็น 3 เขต เขตพุทธาวาสอยู่ด้านขวามือ มีโบสถ์ หอพระธาตุ สะพานสุขาวดี และหอพระ มีเสานางเรียงตั้งเป็นรั้วแบ่งเขต เขตสังฆาวาสอยู่ด้านซ้ายมือตรงข้ามกับสะพานสุขาวดี มีกุฏิสงฆ์ และมีหอวิปัสสนาใหญ่ (ยังไม่ได้สร้าง) ส่วนเขตฆราวาสสำหรับประชาชน ประกอบด้วย ห้องแสดงภาพ หอศิลป์ ห้องน้ำทอง หอธรรมหลังใหญ่ แบ่งเป็น 3 ชั้น

ชั้นล่างเป็นศาลาอเนกประสงค์ ใช้ประกอบพิธีทำบุญ ประชุมชาวบ้าน และบรรยายธรรมะขั้นพื้นฐานในวันเสาร์-อาทิตย์
ชั้นสอง เป็นห้องสมุดธรรมะ และสอนปริยัติธรรมภาษาบาลี
ชั้นสามเป็นห้องวิปัสสนากรรมฐาน ถัดจากหอธรรมเป็นเมรุเผาศพ สร้างไว้เผาเฉพาะคณะศรัทธาวัดร่องขุ่น ศพไร้ญาติ คณะลูกศิษย์ และตัวเขาเท่านั้น







นอกจากการแบ่งเขตแบ่งส่วนของงานสถาปัตยกรรมที่แตกต่างแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับความหมายในงานศิลปะทุกชิ้นที่เขาสร้าง ไม่ว่าจะเป็นผลประติมากรรมและงานจิตรกรรมที่ประดับตกแต่ง ล้วนแฝงปริศนาธรรม พุทธปรัชญาและหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เขาเพียรศึกษาค้นคว้าด้านปริยัติและปฎิบัติมากว่า 25 ปี ซ่อนไว้ในงานศิลปทุกชิ้นที่เขาสร้าง









เขาแทนสีขาวของสถาปัตยกรรมเป็นความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า กระจกเงาวาววาบแทนธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนให้มนุษย์เฝ้ามองที่จิตตนเอง และสะท้อนความเมตตาไปสู่มวลมนุษยชาติ



























เส้นทางเดินกลับของผม ช่างวังเวง ว่างเปล่า หาโอกาสแบบนี้ได้ยากนัก
วันนี้เดินทางกลับแล้วครับ ขอบคุณสำหรับผลงานสวยๆ และขอบคุณทุกคำติชม ^ ^




 

Create Date : 25 กันยายน 2552    
Last Update : 25 กันยายน 2552 17:51:27 น.
Counter : 5389 Pageviews.  


cutey_noom
Location :
เชียงราย Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^0^
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cutey_noom's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.