A Scanner Darkly
(รำพึง) เมื่อเร็วๆนี้ แองจีพบ วีซีดีหนังเรื่องนี้ในร้าน 7-11 ข้างบ้าน ประกบข้างด้วยหนังดังๆหลายเรื่อง ด้วยความที่เกรงว่า หนังอ่อนโปรโมชัน แต่แสนดีเรื่องนี้จะไม่มีใครสนใจ ดั๊นจึงขอเอาภาพยนตร์เรื่องนี้มาเล่าให้ฟังในบล็อกบ้าคีอานูประจำไทยแลนด์ (/รำพึง) ในฐานะภาพยนตร์ไซไฟอนาคต A Scanner Darklyถือเป็นน้องคนเล็ก ตามหลังพี่ๆอย่างBlade Runner, Totall Recall, The Minority Report, Screamer,และ Paycheck เพราะมีกำเนิดมาจากหนังสือแนว'นิยายวิทยาศาสตร์'ของนักประพันธ์ชาวอเมริกัน Phillip K. Dick แต่หากนับกันในเรื่องของความแปลกใหม่ A Scanner Darkly ไม่ด้อยกว่าพี่ๆแม้แต่น้อย สิ่งแรกที่คุณสัมผัสจากภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะนึกในใจว่า 'นี่มันหนังการ์ตูนอนิเมชันนี่หว่า' เพราะภาพที่แสดงออกมาตลอดความยาว 100นาที ดูยังไง ก็การ์ตูนชัดๆ แต่เดี๋ยวก่อน คุณด่วนตัดสินเร็วเกินไป ภาพของภาพยนตร์A Scanner Darklyแม้จะไม่แตกต่างจากอนิเมชันทั่วไป แต่การเคลื่อนไหว และแสงสีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่พบในการ์ตูนปกติ สาเหตุก็เพราะหนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยเทคนิคใหม่ของผู้กำกับRichard Linkaster(Waking Life, B4 sunrise, B4 sunset)โดยวิธีที่เรียกว่าRotoscope animation Rotoscope เป็นเทคนิคการทำภาพอนิเมชันทับลงบนฟุตเตทที่ถ่ายการแสดงของนักแสดงแบบปกติ ไม่ใช่การถ่ายภาพหน้าจอBlue screenแล้วค่อยใส่องค์ประกอบอื่นลงไปภายหลังอย่างที่เราคุ้นเคย ตรงกันข้ามRotoscope นำภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล มาลบส่วนที่ไม่ต้องการออกจนเหลือเพียงเส้นกรอบนอก จากนั้น, ใส่สิ่งที่ต้องการเช่นสีต่างๆบนใบหน้าตัวละครลงไปใหม่ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ดูภาพสีน้ำที่แสดงเรื่องราวต่างๆตามเนื้อเรื่อง ...ซึ่งแองจีรู้สึกว่า มันยอดเยี่ยมจริงๆที่ได้ดูภาพศิลปะเรียงร้อยกันเป็นงานศิลปะชิ้นใหม่ ทั้งตัวละคร ฉากและแสงสี สวยบาดตาจริงๆค่ะ ว่ากันที่เนื้อเรื่อง หลายคนที่ดูแล้วบ่นว่าน่าเบื่อ ..เพราะมีแต่ฉากตัวละครคุยกัน คุย คุย คุย แล้วก็เดินไปเดินมา ไม่บู๊ล้างผลาญแบบภาพยนตร์รุ่นพี่อย่างThe Minority Report ของทอม ครุยส์ หรือPaycheck ของเบ็น เอ็ฟเฟ็ค จะว่ามันเป็นเรื่องอนาคตที่มีฉากตื่นตาแบบTotall Recallของลุงอาร์นี่.......... ก็..ไม่ใช่อีกนั่นแหละ คงต้องยอมรับความจริงว่า A Scanner Darkly เป็นหนังต้นแบบที่ไม่มีใครเหมือน ยอดรายได้หลังการฉายสรุปว่า "ไม่ประสบความสำเร็จ" เป็นเหตุให้เราไม่ได้ชมหนังเรื่องนี้ผ่านโรงภาพยนตร์ของประเทศไทย แต่ก็นับว่าโชคดีที่เราได้เห็นมันเป็นแผ่นDVD&VCD ความจริงโปรเจ็คนี้เปิดกล้องและถ่ายทำจบไปตั้งแต่ปี 2004 หลังจากคีอานูเสร็จงานแสดงใน Something's Gotta Give แต่ทีมผู้สร้างต้องใช้เวลา Post production นานกว่าสิบสองเดือน จึงสามารถเปิดฉายสู่สายตาผู้ชม โดยเริ่มโชว์ตัวที่งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ กลางปี 2006 เข้าฉายเก็บเงินครั้งแรกในอเมริกาแบบจำกัดโรงฉายวันที่ 7 July 2006 ติดเรท R และแม้ว่าจะเปิดฉายวงจำกัด หนังสามารถดึงผู้ชมที่สนใจเข้าไปดูได้เป็นอันดับที่19 ของBoxoffice ในสัปดาห์นั้นด้วยพลังของดาราและความแปลกใหม่ แต่ด้วยความที่หลายคนอยากเห็นพล็อตอันตื่นเต้นหรือความตื่นตาของเนื้อเรื่อง .....ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีให้ ....เพราะมันสร้างอย่างซื่อตรงกับความตั้งใจของผู้ประพันธ์หนังสือ ที่ต้องการสื่อความน่ากลัวของสังคมparanoid ในปริบทของสงครามยาเสพติด ....ความตื่นเต้นจึงไม่ใช่ประเด็นของสิ่งที่ทั้งทายาทของผู้เขียนและผู้สร้างต้องการนำเสนอ ผู้ชมส่วนใหญ่ที่เน้นความบันเทิงเป็นหลักจึงไม่ถูกใจ โรงฉายและรายได้จึงลดลงอย่างรวดเร็วภายในสองเดือน และถอดออกจากโปรแกรมไปด้วยรายรับรวมเพียง 5.5ล้านเหรียญ ไม่คุ้มค่าแรงนั่งจับเจ่าตัดต่อภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ของanimator และยิ่งเทียบไม่ได้กับความสำเร็จของThe Matrixที่เคยทำให้ทรัพย์สินของคีอานู รีฟส์เพิ่มขึ้นเป็นสิบล้านเหรียญ ????แล้ว อิพี่คี มันพิศวาสอะไรโปรเจ็คท์นี้นักหนา???? เอาเวลาอันมีค่ามาผลาญซะงั้น ! ทีหนังบู๊แอ็คชัน หรือ หนังรักโรแมนติคที่เค้าจ้างเล่นเรื่องละหลายสตางค์ กลับไม่ยอมทำ???? แองจี ตามจิกข้อมูลจนขออ้างว่า คีอานู รีฟส์ พอใจกับผลงานชิ้นนี้มาก เกินกว่าเงินจำนวนใดจะทดแทนได้ โดยขอเล่าให้ฟังดังนี้ A Scanner Darkly ไม่ใช่หนังไซไฟ แบบที่Phillip K. Dickเคยเขียน A Scanner Darkly ไม่ใช่โลกอนาคต แบบที่ตัวมันเองกล่าวอ้าง A Scanner Darkly เป็นหนังดรามาธรรมดา ที่พูดถึงชะตากรรมของคนตัวเล็กๆในสังคม สังคมหลอกลวง สังคมที่ไว้ใจใครไม่ได้ ไม่ว่าสาวคนรัก, เพื่อนร่วมบ้าน, เจ้านายที่สั่งงาน หรือรัฐบาลที่เราคิดว่าเป็นผู้คุ้มครองสวัสดิภาพ แม้หนังจะนำเสนอว่า ชะตากรรมที่ย่ำแย่ของพระเอกมาจากความหลงผิดของเขาเองที่เสพยา แต่เหตุปัจจัยที่ทำให้ใครสักคนต้องใช้ยาฯ มันซับซ้อนเกินกว่าจะอ้างว่า สังคมรอบข้างไม่มีส่วนผลักดันเช่นนั้น คีอานู รีฟส์ เป็นแฟนหนังสือของ Phillip K. Dick ตั้งแต่อายุทีนเอจ แองจีคิดว่าเขาชอบแนวคิดประชดสังคมและจินตนาการอันล้นเหลือของนักเขียนรายนี้ และเมื่อทีมงานส่งบทให้อ่าน คีอานูไม่ลังเลเลยที่จะร่วมงานนี้ A Scanner Darkly บอกเราว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงอนาคต แต่ทุกฉาก ทุกตอน ในหนัง ช่างดูเหมือนปัจจุบัน ตัวละครแต่งตัวธรรมดา *บ็อบ อาร์คเตอร์ใส่ยีนส์เยินๆ กับเชิร์ตเปื่อยๆเหมือนตัวจริงของคีอานู รีฟส์ *รถยนต์เปิดประทุนของดอนนา ก็ดูเหมือนรถสปอร์ตทั่วไปของวิโนนา ไรเดอร์ *บ้านช่องในหนังรวมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่าง มันก็เหมือนโลกที่เราเห็นทุกวันนั่นล่ะ *ยิ่งในความสัมพันธ์ของตัวละคร ทุกอย่างไม่มีสิ่งใดทำให้รู้สึกแปลกแยกเลยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า ในเจ็ดปีข้างหน้า อเมริกามีปัญหาจากผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึง 20%ของพลเมือง โดยยาฯที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดนั้นคือSubstanceD ที่สกัดมาจากดอกไม้สีฟ้าชนิดหนึ่ง ยาเสพติดนี้ เมื่อแรกเสพจะออกฤทธิ์ทำให้ประสาทเคลิ้มฝันทำให้ผู้เสพเป็นสุข หลังจากเสพไปนานๆ ะมีอาการประสาทหลอน ความคิดไม่มีเหตุผล และสมองสองซีกทำงานไม่ประสานกัน จนอาจเกิดอาการบุลิกภาพแตกแยก และต้องไปบำบัดที่สถานบำบัดแห่งเดียวในประเทศ คือที่ศูนย์บำบัด"New-Path" การสอบสวนหาต้นตอผู้ผลิตSubstanceD ไม่เคยทำสำเร็จ แม้หน่วย ปปส.จะใช้กล้องสแกนเนอร์ตรวจจับภาพความเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัยตลอด24 ชั่วโมงมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้เพราะมีจุดบอดอยู่ที่ศูนย์บำบัดNew-Path ที่ไม่ยอมให้รัฐติดกล้องในบริเวณนั้น อย่างไรก็ดี หน่วย ปปส.ก็พยายามหาหลักฐานโดยการส่งเจ้าหน้าที่ออกทำงานในแนวลับ นั่นคือทุกคนที่ทำงานนี้จะปกปิดหน้าตาและตัวตนขณะทำงานด้วยกันโดยใส่ชุดที่เรียกว่า'scramble suit' ซึ่งมีลักษณะเป็นผ้าคลุมดิจิตอลที่ฉายภาพคนสลับกันทุกวินาที ทำให้ไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริง หนึ่งในเจ้าหน้าที่ปปส.ของเมืองนี้คือ'เฟร็ด'ที่ได้รับมอบงานให้เข้าไปสืบหาเบาะแสในแก็งค์ขี้ยาของ'บ็อบ อาร์คเตอร์' ที่ประกอบไปด้วยJames Barris(Robert Downey, Jr.)ที่เป็นผู้รอบรู้ประจำกลุ่ม, Ernie Luckman(Woody Harrelson) ขี้ยา-ขี้กลัว ที่โดนแบร์ริสหลอกเล่นเป็นประจำ, Charles Freck(Rory Cochrane)ซึ่งเสพยาจนประสาทหลอน และดีลเลอร์สาวสวยดอนนา ฮอว์โทรน(Winona Ryder)แฟนสาวของบ็อบที่รับยาจากรายใหญ่มาขายให้เขา ในสายตาคนดู เรารู้ว่า เจ้าหน้าที่เฟร็ด เมื่ออกนอกหน่วยงานนั้นเขาคือ พ่อค้ายาบ็อบ แต่ตัวเขาเองกลับไม่แน่ใจ มีเพียงความรู้สึกเลือนลาง เวลาเฟร็ดมองพฤติกรรมของบ็อบผ่านกล้องสแกนเนอร์ เขารู้สึกคุ้นเคยแต่ก็แปลกแยก เฟร็ดมักเล่าให้ใครๆฟังว่าเขามีครอบครัวแสนสุข ประกอบด้วยภรรยาและลูกสาวเล็กๆสองคน อาศัยในบ้านหลังย่อมชานเมือง แต่ในความเป็นจริง เฟร็ดคือบ็อบ ที่เสพยาวันละหลายเม็ด ซุกหัวนอนในบ้านรังหนูกับเพื่อนบ้าๆบอๆสองคน ค้ายาเพื่อหวังความรักจากดีลเลอร์สาวสวย เหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ทุกวัน ภายใต้สังคมที่เขารู้ว่ามีผู้ปกครองที่คอยสอดส่องชีวิตเขาด้วยเครื่องสแกนเนอร์ สิ่งที่บ็อบสงสัยก็คือ รัฐจะสแกนเรื่องเหล่านี้ไปทำไม แล้วมันเห็นอะไรกันแน่ ดังคำรำพันของเขาตอนกลางเรื่องที่ว่า What does a scanner see? Into the head? Down into the heart? Does it see into me, into us? Clearly or darkly? I hope it sees clearly, because I can't any longer see into myself. I hope for everyone's sake the scanners do better. Because if the scanner sees only darkly, the way I do, then I'm cursed and cursed again. โดยสรุป หนังล้อเล่นกับความคิดที่ว่า เมื่อใดมีdemand เมื่อนั้นก็มีsupply และพวกเราแต่ละคนต่างถูกสังคมหลอกใช้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลที่อ้างว่าคุ้มครองเรา บางครั้งก็ใช้เราเป้นแค่เครื่องมือหรือหนูทดลองด้านการแสดง แองจีขอยกนิ้วหัวแม่มือให้ Robert Downey, Jr.ที่เล่นหนังได้ดีมากๆ โรเบิร์ทเล่นเป็นพ่อค้ายาที่หวังหักหลังเพื่อนได้อย่างน่ารักน่าชัง อีกคนหนึ่งก็คือ Woody Harrelson คู่หูของโรเบิท ที่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าโดนเพื่อนหลอกให้หัวปั่น ส่วน Winona Ryder ก็ดีนะ แต่ว่า แองจีอิจฉาหล่อนเป็นการส่วนตัวที่หล่อนได้ใกล้ชิดหวานใจของดั๊น ดั๊นก็เลยไม่อยากชมอะไรหล่อนนักสำหรับ คีอานู รีฟส์, แองจีคิดว่า ภาพของบ็อบ ที่พี่คีสวมบทนั้น ถอดแบบมาจากท่าทางในชีวิตของคีอานูตัวจริงโดยแท้ ไม่ว่าจะเป็นทรงผมยุ่งเหยิง และหนวดเครารกชัชของตัวละครตัวนี้ หรือท่าทางการใช้มือโบกไปโบกมาเวลาอธิบายอะไรสักอย่าง นิสัยชอบกอดอกเม้มปากในยามเครียด หรือแววตาน่าเอ็นดูเมื่อเขามองคนรัก ทุกอย่างนั่นมัน คีอานู รีฟส์ ชัดๆเลยล่ะค่า ดังนั้นทุกท่านคงรู้ได้ว่า แองจีนั่งดูหนังเรื่องนี้ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายสักนิด ถ้าจะมีที่ช่วงไม่อยากดู ก็คือตอนท้ายๆ ที่ตัวละครของพี่คีรับรู้ความจริงว่าตัวเองโดนหักหลัง ถูกหลอกใช้ ต้องยอมรับชะตากรรมว่าที่แท้ กรู-มัน-ฟ-า-ย ชีวิตจึงเป็นแบบนี้ อะไรแบบนั้นล่ะ ที่หนูทำใจไม่ได้ และดิชั้น ไม่ต่อว่าสักนิด หากคุณไม่ใช่ผู้หลงไหลคีอานู รีฟส์ แล้วดูหนังเรื่องนี้ไม่สนุก แต่หากคุณคิดว่า คุณอยากเข้าใจโลกในมุมมองของเขา หนังเรื่องนี้จะบอกคุณได้เลาๆ ถึงทัศนคติที่เขาใช้ในการดำรงชีวิต คีอานู บอกเสมอว่า เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ในฐานะสิ่งมีชีวิตเล็กๆชีวิตหนึ่ง ซึ่งทุกสิ่งที่เราได้รับ ไม่ว่าจะเรียกว่าโชคชะตา หรือเวรกรรมอะไรก็แล้วแต่ เราหลีกหนีมันไปไม่ได้ บางครั้งในความโศกเศร้า เราก็ต้องยอมรับมันไว้อย่างไม่มีข้อสงสัย ไม่มีสาเหตุ ไม่มีคำถาม แต่ทุกสิ่งมันไม่เคยหยุดนิ่ง หลังโชคร้าย อาจเป็นโชคดี หรือบางที หลังโชคร้าย อาจเป็นอีกหนึ่งโชคร้าย แต่มันเป็นไปไม่ได้...ที่เราจะพบโชคร้ายไปตลอดชีวิต สักวัน"โชคร้ายน้อยที่สุด"ก็จะมาหาเรา แล้วเมื่อถึงวันนั้น เราก็มีโอกาสยิ้มรับ"โชคร้ายน้อยที่สุด" ในฐานะของ"โชคดี"ได้สักครั้ง และ แม้มุมมองแบบนั้นของคีอานู รีฟส์ จะไม่ใช่ความจริงทั้งมวลบนโลกนี้ แต่ก็เป็นแง่มุม ที่ทำให้เราทำใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสงบ แล้วตั้งสติรับวันใหม่ด้วยกำลังใจทีดีกว่าเดิม...มิใช่หรือReferences imdb=======//www.imdb.com/title/tt0405296/ wikipedia====//en.wikipedia.org/wiki/A_Scanner_Darkly boxoffice====http:boxofficemojo.com/movies/?page=main&id=scannerdarkly.htmAnother Thai Web & Blog บล็อก"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"====//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2007&date=26&group=2&gblog=1 Cinemag Online===Interview Keanu Winona and R.Linkaster//www.cinemagonline.com/article_detail_new.php?id=15 ThaiPost.net====//www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=7/Jan/2550&news_id=135880&cat_id=220400
Create Date : 08 พฤษภาคม 2550
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 15:00:30 น.
55 comments
Counter : 1124 Pageviews.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:56:45 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:01:26 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:06:20 น.
โดย: 203.203.203 IP: 203.188.6.156 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:40:40 น.
โดย: PANDIN วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:04:24 น.
โดย: angy_11 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:21:00 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:23:56 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:27:18 น.
โดย: angy_11 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:51:28 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.188.49.61 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:00:56 น.
โดย: ณ มน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:14:59 น.
โดย: 203.188.45.95 IP: 203.188.49.61 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:02:12 น.
โดย: หาเรื่องให้ขึ้นบล๊อคใหม่อีกแระ อิ อิ IP: 203.188.49.61 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:09:43 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:35:17 น.
โดย: 203.188.45.95 IP: 203.188.25.89 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:31:07 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.188.25.89 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:36:33 น.
โดย: งง ... ไปกินมาม่าดีกั่ว IP: 203.188.25.89 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:38:54 น.
โดย: 203.188.41.239 IP: 203.188.42.238 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:09:29 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.188.42.238 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:10:57 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:06:21 น.
โดย: น้ำหวานพิษ วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:24:27 น.
โดย: haiku วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:18:43 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:57:33 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:48:25 น.
โดย: PANDIN วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:13:50 น.
โดย: angy_11 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:39:16 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:05:25 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:13:37 น.
โดย: 203.188.41.239 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:57:28 น.
โดย: คุณโจ๊ไม่อยู่ อิชั้นเหงานะฮะ เนี่ย IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:07:17 น.
โดย: โจเซฟิน วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:18:47 น.
โดย: angy_11 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:19:04 น.
โดย: angy_11 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:25:08 น.
โดย: 203.188.41.239 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:27:19 น.
โดย: 203.188.45.95 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:30:44 น.
โดย: angy_11 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:04:09 น.
โดย: 203.114.101.144 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:08:22 น.
โดย: อิชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยนะฮะเนี่ย IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:22:12 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:26:05 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:26:39 น.
โดย: 203.188.43.164 IP: 203.114.119.40 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:36:25 น.
โดย: pam IP: 124.120.104.84 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:22:01 น.
โดย: 203.114.124.24 IP: 203.114.115.15 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:36:54 น.
โดย: JewNid วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:17:24 น.
โดย: haiku วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:32:18 น.
โดย: haiku วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:33:37 น.
โดย: VA_Dolphin วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:49:43 น.
โดย: คนไรนาม IP: 124.121.160.4 วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:7:53:56 น.
โดย: Louis Vuitton Outlet IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:22:45:14 น.
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [? ]
ปุกาด ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก *** เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่ กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น ********* แองจี้เป็น หนึ่ง-ใน-แอดฯ ของเพจเฟสบุค v v แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ