Group Blog
 
All Blogs
 
ปี 204 AD

ปี Jian’an ที่ 9 204 AD
(18 กุมภาพันธ์ 204 – 6 กุมภาพันธ์ 205)

ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนแรก โจโฉข้ามแม่น้ำเหลือง เขากั้นแม่น้ำกีชุยเพื่อทดน้ำเขาสู่คลอง Bo เพื่อสร้างเส้นทางลำเลียงเสบียง

ในเดือนที่สอง อ้วนซงโจมตีอ้วนถำอีกครั้งที่ เพงหงวนก้วน โดยให้สิมโพยและ โซฮิว รักษาเมือง Ye โจโฉนำทัพของเขาไปตามแม่น้ำ Yuan โซฮิว พยายามที่จะทรยศ แต่แผนเขามีคนล่วงรู้ เขาจึงหนีไปหาโจโฉ โจโฉมุ่งหน้าไปเมือง Ye เพื่อสร้างเนินเขาและอุโมงค์เพื่อโจมตีเมือง

อินไก๋ ลูกน้องของอ้วนซง รักษาค่ายที่ มอเสีย ควบคุมเส้นทางขนเสบียงจาก Shangdang ในฤดูร้อน เดือนที่สี่ โจโฉให้โจหองคุมกองทัพสู้กับเมือง Ye ส่วนตัวเขานำทัพไปโจมตี อินไก๋ พ่ายแพ้ไป แล้วก็นำทัพกลับ เขายังโจมตี จองกี๋ ลูกน้องอีกคนของอ้วนซงที่ Handan และยึดเมืองได้

Han Fan นายอำเภอ Yiyang และ Liang Qi นายอำเภอ She ยอมแพ้ยกเมืองให้แก่โจโฉ

ซิหลงพูดกับโจโฉว่า ตระกูลอ้วนยังไม่พ่ายแพ้เสียทีเดียว หลายหัวเมืองก็คิดถึงการยอมแพ้ก็กำลังเฝ้าดูว่าท่านจะจัดการกับเมืองทั้งสองที่ยอมแพ้ท่านอย่างไร ท่านควรที่จะให้รางวัลมากมายแก่เจ้าเมืองทั้งสอง เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เมืองอื่นอ่อนน้อมต่อท่าน โจโฉทำตามคำแนะนำของเขา Han Fan และ Liang Qi ทั้งคู่ได้รับการแต่งตั้งเป็น Marquis ภายในดินแดนอาณาจักร

เตียวเอี๋ยนผู้นำโจรภูเขาดำ ส่งฑูตไปหาโจโฉเพื่อขอความสนับสนุน โจโฉแต่งตั้งให้เขาเป็นแม่ทัพผู้รักษาความสงบทิศเหนือ

ในเดือนที่ห้า โจโฉทำลายเนินเขาและอุโมงค์ของเขา สั่งให้ขุดคูยาวสี่สิบลี้รอบล้อมเมือง Ye ตอนนี้เขาสั่งให้ขุดคูตื้น ๆ ดูเหมือนว่าจะข้ามได้ง่าย ๆ เมื่อสิมโพยเห็น เขาหัวเราะแล้วก็ไม่เคลื่อนไหว แต่ในคืนเดียว โจโฉก็ขุดคูนั้นต่อ ความกว้างคูยี่สิบฟุตและความลึกยี่สิบฟุต แล้วก็ทดน้ำจากแม่น้ำ Zhang เข้ามา ชาวบ้านมากกว่าครึ่งเมืองตายเพราะอดอาหาร

ในฤดูใบไม้ร่วง เดือนที่เจ็ด อ้วนซงกลับมาพร้อมทหารมากกว่าหมื่นคนเพื่อช่วยเมือง Ye

ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง เขาต้องการให้สิมโพยรู้เหตุการณ์ก่อน เขาส่ง ลีหู มุ่งหน้าเข้ามาในเมือง

ลีหู หักคฑาของเขาและผูกติดกับหลังม้า เขาคาดผ้าโพกศรีษะ นำทหารม้าสามคนติดตามเขา เขาเดินทางในตอนกลางคืนมุ่งหน้าสู่เมือง Ye เรียกตัวเองเป็นผู้ตรวจการกองทัพ (ยศนายทหารระดับต่ำมีหน้าที่ดูแลระเบียบวินัยทหาร) เขาผ่านไปทางค่ายโจโฉทางเหนือที่ล้อมเมือง มุ่งหน้าไปทางตะวันออก ทุก ๆ ครั้งที่เขาพบความผิดของทหารในหอสังเกตุการณ์ เขาจะลงโทษพวกทหารที่ทำผิด ด้วยวิธีนี้ทำให้เขาสามารถผ่านค่ายโจโฉมาทึงตอนใต้ของกองทัพโจโฉที่ล้อมเมืองทาง ประตู Zhang ของเมือง Ye เขาพบทหารรักษาการณ์ของโจโฉที่ทำผิด จึงมัดพวกเขาเข้าด้วยกัน เขาจึงสามารถเปิดแนวทหารที่ล้อมเมืองได้ เขาควบม้าไปยังประตูและเรียกทหารที่อยู่ภายใน เหล่าทหารยามใช้เชือกดึงตัวเขาขึ้นไป เขาจึงสามารถเข้าเมืองได้

เมื่อสิมโพยและคนอื่น ๆ เห็น ลีหู พวกเขาร้องไห้ด้วยความยินดี กลองศึกถูกตี แล้วพวกเขาก็ตระโกนว่า ทรงพระเจริญหมื่น ๆ ปี ข่าวเรื่องความสำเร็จของเขารู้ไปถึงทัพโจโฉ แต่โจโฉแค่หัวเราะแล้วพูดว่า เขาแค่หาทางเข้าเมืองได้ ยังไม่ได้ออกจากเมือง

ลีหู เชื่อว่าการล้อมเมืองจะยิ่งแน่นหนากว่าเดิม เขาคงไม่สามารถใช้ลูกไม้เดิมได้อีก เขาขอให้สิมโพยส่งคนแก่และคนอ่อนแอออกจากเมืองเพื่อประหยัดเสบียงอาหาร ในคืนนั้น พวกเขาเลือกคนหลายพันคน แต่ละคนต่างถือธงขาว และส่งพวกเขาออกจากเมืองทางสามประตูเมืองเพื่อยอมแพ้ อีกครั้ง ลีหู นำทหารม้าสามคนของเขาแต่งกายคล้ายกับชาวบ้านที่ยอมแพ้ พวกเขาปะปนไปกับคนที่ยอมแพ้ในความมืด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถฝ่าวงล้อมและหนีออกนอกเมืองได้

เมื่ออ้วนซงมาถึง ขุนนางโจโฉพูดว่า กองทัพกลับมาถึงเมือง พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อตัวเอง ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงพวกเขา ถ้าอ้วนซงมาทางถนนใหญ่ โจโฉพูด เราควรจะถอยทัพ แต่ถ้าเขามาทางเนินเขาตะวันตก เราจะจัดการเขาได้

อ้วนซงนำทัพผ่านมาทางเนินเขาตะวันตกอย่างที่โจโฉคาด เขานำทัพไปทางตะวันออกยังหมู่บ้าน Yangping ซึ่งห่างไปสิบเจ็ดลี้ทาง Ye และตั้งค่ายริมแม่น้ำ เปกตก อ้วนซงจุดไฟในตอนกลางคืนเป็นสัญญาณให้ลูกน้องในเมืองได้รู้ แล้วลูกน้องในเมืองเขาก็จุดไฟสัญญาณเพื่อรับรู้การมาของเขา

สิมโพยพยายามที่จะฝ่าวงล้อมออกไปร่วมทัพกับอ้วนซง สิมโพยนำทัพโจมตีทัพโจโฉที่ล้อมเมืองอยู่ทางทิศเหนือ โจโฉนำทัพไปสู้กับเขา สิมโพยพ่ายแพ้จนต้องหนีกลับเข้าเมือง อ้วนซงก็พ่ายแพ้เช่นกัน เขาหนีไปที่ Quzhang และตั้งมั่นอยู่ที่นั่น โจโฉนำทัพไปล้อมเข้าไป แต่ก่อนที่ทัพโจโฉจะโอบล้อมเมือง อ้วนซงก็หวาดกลัวและส่งฑูตมาขอยอมแพ้ โจโฉปฏิเสธและล้อมเขาอย่างแน่นหนามากขึ้น

อ้วนซงลอบหนีไปในยามค่ำ เขาไปอยู่ที่เนินเขา Qi โจโฉมุ่งหน้าไปล้อมเขาอีกครั้ง ทันทีที่ทัพทั้งสองเผชิญหน้ากัน ลูกน้องอ้วนซง ม้าเอี๋ยน เตียวเอ๊ก และแม่ทัพคนอื่นก็ออกมายอมแพ้ ทัพของอ้วนซงกระจัดกระจายไป อ้วนซงหนีไป Zhongshan โจโฉยึดสัมภาระของอ้วนซงได้ ตราประทับ พู่ประดับและตราตั้งตำแหน่ง ทั้งหมดอยู่ในห่อเสื้อผ้าของเขา พวกเขานำสิ่งเขาเหล่านั้นไปแสดงให้คนในเมือง Ye ได้เห็น แล้วทหารในเมืองก็เสียขวัญกำลังใจ

แต่สิมโพยก็ยังสั่งการต่อทหารของเขาว่า ป้องกันอย่างแน่นหนา ต่อสู้ให้ถึงวาระสุดท้าย ทัพของโจโฉกำลังมีปัญหา แล้วอ้วนฮีก็กำลังนำทัพมาที่นี่ ไม่มีเหตุผลที่ต้องวิตกว่าเราเสียผู้นำไป เมื่อโจโฉมาตรวจแนวทหารที่ล้อมเมือง สิมโพยสั่งให้พลเกาทัณฑ์ที่ซุ่มอยู่ยิงใส่โจโฉ ลูกธนูที่ยิงไปห่างจากตัวโจโฉเพียงนิดเดียว

สิมเอ๋ง หลานของสิมโพย เป็นขุนพลประจำประตูด้านตะวันออก ในเดือนที่แปด วันที่ 13 กันยายน สิมเอ๋ง เปิดประตูเมืองในตอนกลางคืนให้ทัพโจโฉเข้าเมือง สิมโพยต่อสู้กับทัพโจโฉตามถนนในเมือง แต่ทหารโจโฉก็สามารถจับเขาได้ในที่สุด

ครอบครัวของซินเป๋งถูกจำคุกเป็นนักโทษที่เมือง Ye ซินผี ขี่ม้าไปที่นั่นทันทีเพื่อปล่อยตัวพวกเขา แต่สิมโพยได้สังหารพวกเขาหมดแล้ว ทหารโจโฉได้มัดตัวสิมโพยนำไปที่เต๊นท์ของพวกเขา พวกเขาได้พบกับ ซินผี ซินผี เอาแส้ฟาดหน้าของเขาแล้วสาบแช่งเขาว่า เจ้าทาสชั่ว ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว

สิมโพยมองเขาแล้วพูดว่า สุนัขต่ำช้า นี่ก็เพราะมีคนชั่วอย่างเจ้า มณฑล กิจิ๋ว ของข้าจึงล่มสลาย ข้าเสียใจที่ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ แต่เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะตัดสินให้ข้าอยู่หรือตาย

ไม่นานโจโฉก็สั่งให้นำตัวสิมโพยไปหาเขาแล้วพูดว่า เมื่อข้าขี่ม้าเฉียดใกล้เมือง เจ้ายิงธนูหลายดอกเข้าใส่ข้า

ข้าเสียใจยิ่งนักที่ยิงใส่น้อยเกินไป สิมโพยตอบ

เจ้าเคยเป็นผู้ภักดีต่อตระกูลอ้วน โจโฉว่า เจ้าจะเปลี่ยนใจมารับใช้ข้าหรือไม่ โจโฉต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ แต่สิมโพยหยิ่งในศักดิ์ศรีและยืนกรานเช่นเดิม เขาไม่ยอมก้มหัวหรือขอร้องให้ยกเว้นโทษจากโจโฉ ในขณะที่ ซินผี และคนอื่น ๆ ต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญขอร้องให้โจโฉประหารสิมโพย ดังนั้นสิมโพยจึงถูกประหาร

Zhang Ziqian ขุนนางในมณฑล กิจิ๋ว ผู้ยอมแพ้ก่อนหน้านี้ เคยเป็นศัตรูกับสิมโพยมานาน เขาหัวเราะและพูดกับสิมโพยว่า ข้าอยู่เหนือกว่าเจ้า สิมโพย

สิมโพยตะโกนตอบไปว่า เจ้าเป็นคนทรยศ ข้าเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ แม้ว่าข้าต้องตาย ข้าก็ไม่ขอแลกฐานะกับเจ้า เมื่อเขามาถึงลานประหาร เขาขอร้องต่อเพชรฆาตขอหันหน้าไปทางทิศเหนือโดยบอกว่า นายของข้าอยู่ที่ทิศนั้น

โจโฉมาทำพิธีกราบไหว้หลุมศพของอ้วนเสี้ยว ร้องไห้รำลึกถึงเขา โจโฉอุปการะภรรยาของอ้วนเสี้ยวและมอบทรัพย์สินของตระกูลอ้วนคืนให้แก่พวกเขา และยังมอบผ้าไหมและเสื้อผ้าแก่พวกเขา พวกเขายังได้รับเสบียงอาหารของทางการ

ก่อนหน้านั้น เมื่ออ้วนเสี้ยวและโจโฉก่อตั้งกองทัพต่อสู้กับตั๋งโต๊ะในปี 190 อ้วนเสี้ยวถามโจโฉว่า ถ้าภารกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จ ท่านจะไปยึดดินแดนไหนอาศัย

แล้วความเห็นท่านเป็นอย่างไร โจโฉถาม

ทางตอนใต้ อ้วนเสี้ยวตอบ ข้าจะครองดินแดนแม่น้ำเหลือง และในทางเหนือดินแดนข้าจะครอบคลุมไปถึง Yan และ Dai หลังจากนั้นข้าจะรวบรวมพวกชนเผ่าคนเถื่อนต่าง ๆ ทางตอนเหลือแล้วมุ่งหน้าลงใต้ต่อสู้เพื่อแผ่นดิน ข้าจะทำเช่นนั้น

ตัวข้า โจโฉพูด จะใช้คนดีมีความสามารถของแผ่นดิน ข้าจะปกครองพวกเขาอย่างภักดีและซื่อสัตย์ วิธีนี้ข้าจะจัดการได้ทุกสิ่ง

ในเดือนที่แปด มีราชโองการแต่งตั้งให้โจโฉเป็นผู้ปกครองมณฑล กิจิ๋ว แต่โจโฉไม่รับตำแหน่งนั้น เขายังคงใช้ตำแหน่งผู้ปกครองมณฑล กุนจิ๋ว ตามเดิม

ก่อนหน้านั้น อ้วนซงส่ง Qian Zhao ไปยัง Shangdang เพื่อจัดเตรียมเสบียงอาหารสำหรับกองทัพ ก่อนที่เขาจะกลับมาอ้วนซงได้พ่ายแพ้ต้องหนีไปที่ Zhongshan

Qian Zhao แนะนำ โกกัน ว่าเขาควรจะนำกองทัพของมณฑล เป๊งจิ๋ว ไปช่วยอ้วนซง แล้วรวมทัพเฝ้าดูสถานการณ์ โกกัน ปฏิเสธ ดังนั้น Qian Zhao จึงมุ่งหน้าไปตะวันออกหาโจโฉ แล้วโจโฉก็แต่งตั้งเขาเป็นขุนนางของมณฑล กิจิ๋ว เหมือนเดิม

โจโฉยังแต่งตั้ง ซุนต่ำ เป็นนายทหารคนสนิทแห่งมณฑล กิจิ๋ว

โจโฉพูดกับ ซุนต่ำ ว่า ข้าได้ดูทะเบียนราษฎร์ ในบันทึกระบุไว้ว่ามีถึงสามแสนครอบครัว ที่นี่ถือว่าเป็นมณฑลใหญ่

แผ่นดินได้ล่มสลายลง ซุนต่ำ ตอบ แล้วสองพี่น้องตระกูลอ้วนก็ได้นำกองทัพต่อสู้กันเอง ผู้คนในมณฑล กิจิ๋ว ต่างล้มตายจำนวนมาก ข้าไม่เคยได้ยินท่านไต่ถามถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านหรือจะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ของพวกเขาอย่างไร หนำซ้ำท่านยังคิดถึงแต่จำนวนคนที่จะเกณฑ์ทหาร ท่านคิดจริง ๆ หรือว่านี่คือคำถามที่สำคัญที่สุด นี่คือสิ่งที่ประชาชนชาว กิจิ๋ว ได้คาดหวังจากท่านหรือ โจโฉละอายใจแล้วก็ขอบคุณเขา

เพราะว่าความสำเร็จของเขา เขาฮิวจึงหยิ่งยโสโอหัง ครั้งหนึ่งในที่ประชุมขุนนางของโจโฉ เขาฮิวเรียกชื่อสมัยเด็กของโจโฉ (ชื่อสมัยเด็กของโจโฉคือ Aman) แล้วพูดว่า สำหรับข้าแล้ว ตัวท่านยังไม่เคยได้ครอบครองมณฑล กิจิ๋ว โจโฉหัวเราะแล้วพูดว่า ท่านพูดได้ถูกต้อง แต่เมื่อเขาฮิวทำตัวน่ารำคาญขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดโจโฉก็ฆ่าเขาเสีย

ในฤดูหนาวเดือนที่สิบ มีดาวหางปรากฏในกลุ่มดาวบ่อน้ำตะวันออก

โกกัน ยอมแพ้มอบมณฑล เป๊งจิ๋ว แก่โจโฉ โจโฉแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ตรวจการมณฑล

ในขณะที่โจโฉล้อมเมือง Ye อ้วนถำถือโอกาสยึดเมือง Ganling Anping Bohai และ Hejian เขายังโจมตีอ้วนซงที่ Zhongshan อ้วนซงพ่ายแพ้หนีไปอยู่กับอ้วนฮีที่ Gu’an อ้วนถำรวบรวมกองทัพของอ้วนซงแล้วกลับมาตั้งค่ายที่ Longcou

โจโฉเขียนจดหมายไปหาอ้วนถำ ขอโทษที่ต้องยุติข้อตกลง โจโฉยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ เขาส่งตัวลูกสาวอ้วนถำกลับ แล้วยกทัพไปโจมตีเขา

ในเดือนที่สิบสอง กองทัพโจโฉอยู่ที่ Qimen อ้วนถำยึด เพงหงวนก้วน ได้ แต่ยกทัพกลับไปตั้งมั่นที่ลำพี ตั้งค่ายริมแม่น้ำ Qing

โจโฉมาถึง เพงหงวนก้วน แล้วจัดตั้งแม่ทัพควบคุมหัวเมืองต่าง ๆ

โจโฉแนะนำให้แต่งตั้ง กองซุนตู้ เป็นแม่ทัพผู้หนักแน่นและสง่างามพร้อมด้วยยศ Marquis แห่งอำเภอ Yongning ข้าปกครอง เลียวตั๋ง เหมือนอย่างเช่นท่านอ๋อง กองซุนตู้ ตอบ แล้ว Yongning เป็นสถานที่เช่นไร เขาจึงเก็บตราและพู่ประจำตำแหน่งในคลังอาวุธของเขา

ในปีนั้นเอง กองซุนตู้ เสียชีวิต กองซุนของ ลูกชายของเขาได้ครองอำนาจแทน เขาแต่งตั้ง กองซุนก๋ง น้องชายเขาเป็น Marquis แห่ง Yongning

เพราะว่า Qian Zhao มีอำนาจควบคุมพวกชนเผ่าภายใต้ตระกูลอ้วน โจโฉจึงส่งเขาไป Liucheng เพื่อควบคุมคนเถื่อนเหล่านั้น ในเวลานั้น อ๋อง Qiao (Supuyan) เตรียมทหารม้าห้าพันนายพร้อมที่จะส่งมาช่วยอ้วนถำ และ กองซุนของ ก็ส่ง ฮันต๋ง มามอบตราแต่งตั้งเขาเป็น Shanyu อ๋อง Qiao จัดการประชุมกับลูกน้องเขาโดยมี ฮันต๋ง เข้าร่วมด้วย

อ๋อง Qiao ถาม Qiao Zhaoว่า ครั้งหนึ่งท่านอ้วนเสี้ยวเคยพูดว่าเขาได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ให้แต่งตั้งข้าเป็น Shanyu เวลานี้ท่านโจโฉก็พูดว่าจะบอกฮ่องเต้ให้แต่งตั้งข้าเป็น Shanyu และนอกจากนั้นยังมีขบวนแต่งตั้งมาจาก เลียวตั๋ง แล้วข้าควรจะเลือกใคร

โดยทางการแล้ว Qian Zhaoตอบ ท่านอ้วนเสี้ยวมีที่ว่าการและอำนาจที่จะแต่งตั้ง ต่อมา เขาได้ขัดคำสั่งทางการ เวลานี้ท่านโจโฉจึงได้แทนที่เขา เขาเต็มใจที่จะจัดการให้ท่านได้รับตำแหน่ง Shanyu อย่างถูกต้อง ดินแดนป่าเถื่อนอย่าง เลียวตั๋ง มีดีอะไรมาแต่งตั้งตำแหน่งให้ท่านได้

ฮันต๋ง พูดว่า เลียวตั๋ง ของข้าอยู่ทิศตะวันออกของทะเลที่กว้างใหญ่ มีทหารจำนวนเป็นล้านนาย และยังมีชนเผ่า Fuyu, Hui และ Mo ที่พร้อมจะช่วยเราออกรบ ทุกวันนี้ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า แล้วโจโฉพิเศษอันใดกัน

Qian Zhao ตะโกนใส่ ฮันต๋ง ว่า ท่านโจโฉนั้นซื่อสัตย์และเป็นที่น่าเคารพ ฉลาดและเข้าใจสถานการณ์ได้ดี ท่านโจโฉสนับสนุนฮ่องเต้ ปราบปรามโจรกบฏ แต่จิตใจดีต่อผู้ที่อ่อนน้อม เขามอบสันติสุขให้แก่ทั่วแผ่นดิน ตัวเจ้าทั้งนายและบ่าว ช่างโง่เง่าและขัดคำสั่งทางการ เจ้าซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดที่ห่างไกลของราชสำนัก และไม่เชื่อฟังคำสั่งราชสำนัก เจ้าต้องการแอบอ้างอำนาจในการแต่งตั้ง ก้าวก่ายในพระราชกิจของฮ่องเต้ เจ้าสมควรถูกประหารในทันที ใยเจ้ายังกล้าทำตัวหยาบช้าและกล่าวถ้อยคำดูถูกวีรบุรุษ เขาจับคอของ ฮันต๋ง ผลักเขาล้มลงแล้วชักดาบมาเตรียมตัดหัวเขา

อ๋อง Qiao ตื่นตระหนกและหวาดกลัว ถึงกับวิ่งเท้าเปล่าไปยึดตัว Qian Zhao ขอความเมตตาให้ ฮันต๋ง ขุนนางทั้งหลายของเขาสีหน้าซีดเผือด

Qian Zhao เดินกลับไปยังที่นั่งเขา และบอก อ๋อง Qiao และขุนนางของเขาว่าใครที่จะชนะและใครจะพ่ายแพ้ แล้วควรที่จะคล้อยตามผู้ใด ขุนนางทั้งหมดในที่นั้นลุกจากที่นั่ง คุกเข่าลงกับพื้นอย่างว่าง่ายแล้วก็รับฟังคำพูดของเขาด้วยความเคารพ แล้วท่านอ๋องจึงขอโทษต่อฑูตจาก เลียวตั๋ง แล้วก็เลิกทัพทหารม้าที่เขาจัดเตรียมไปช่วยเหลืออ้วนถำ

อิหลำ แม่ทัพของเมืองตันเอี๋ยงและ ไต้อ้วน ผู้ช่วยได้ฆ่าซุนเซียงเจ้าเมืองตันเอี๋ยงตาย แม่ทัพซุนโห ตั้งค่ายอยู่ที่เมือง Jing จึงรีบเร่งมาที่ Wanling แต่ อิหลำ และ ไต้อ้วน ได้ฆ่าเขาเช่นกัน พวกเขาส่งพลนำสารไปหา เล่าฮก ผู้ตรวจการมณฑลยังจิ๋ว ที่แต่งตั้งโดยโจโฉ ว่าเขาควรจะมาที่ ลิหยง เพื่อที่เมืองตันเอี๋ยงจะได้เข้าร่วมกับเขา

อิหลำ มายึดที่ทำว่าการของเมือง แล้วก็บีบบังคับภรรยาม่ายของซุนเซียง เคาฮูหยินให้แต่งงานกับเขา เคาฮูหยินทัดทานเขาบอกว่า ข้าขอร้องให้ท่านรอจนถึงสิ้นเดือน เมื่อข้าได้ทำพิธีกราบไหว้เสร็จและเลิกใส่ชุดไว้ทุกข์แล้ว แล้วข้าจะเชื่อฟังคำสั่งท่าน อิหลำ จึงยอมตกลง

เคาฮูหยินได้ลอบส่งคนไปหา ซุนโก๋ เปาเอ๋ง และคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นขุนนางเก่าที่ซื่อสัตย์ของซุนเซียงว่าพวกเขาควรจะร่วมมือกันกำจัด อิหลำ ซุนโก๋ และ เปาเอ๋ง ร่ำไห้และให้คำมั่นสัญญา พวกเขาเรียกตัวคนยี่สิบคนที่เคยรับใช้ซุนเซียงและได้รับความกรุณาจากซุนเซียงมาก่อน พวกเขาทำสัตย์สาบานและวางแผนเตรียมลงมือ

เมื่อวันสิ้นเดือนมาถึง พิธีกราบไหว้ถูกจัดขึ้น เคาฮูหยินได้ร้องไห้คร่ำครวญ แต่นางก็หยุดร้องไห้แล้วก็ถอดชุดไว้ทุกข์ออกอาบน้ำชำระร่างกายด้วยเครื่องหอม นางพูดคุยและหัวเราะทำทีว่ามีความสุข ขุนนางน้อยใหญ่ของเมืองต่างเศร้าโศกเสียใจ จึงประหลาดใจที่นางทำตัวเช่นนั้น อิหลำ ได้ลอบสอดแนมนางจึงเชื่อว่านางไว้ใจได้

เคาฮูหยินได้เรียก ซุนโก๋ และ เปาเอ๋ง มารอในห้องของนางทันทีที่นางส่งคนไปเชิญ อิหลำ นางเดินไปต้อนรับเขา โค้งคำนับ แล้วเรียกด้วยเสียงอันดังว่า ท่านทั้งหลาย ปรากฏกายได้ ซุนโก๋ และ เปาเอ๋ง ออกมาด้วยกันและฆ่า อิหลำ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไปฆ่า ไต้อ้วน

เคาฮูหยินเปลี่ยนเครื่องแต่งกายนางกลับเป็นชุดไว้ทุกข์เหมือนเดิมและนำหัว อิหลำ และ ไต้อ้วน มาเซ่นไหว้หน้าหลุมศพของซุนเซียง ทั้งกองทัพต่างตัวสั่นและหวาดกลัว

เมื่อซุนกวนรู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้น เขาจึงมุ่งหน้ากลับมาจาก Jiaoqiu ซุนกวนมาถึงตันเอี๋ยงและจัดการกับพรรคพวกของ อิหลำ และ ไต้อ้วน ซุนโก๋ และ เปาเอ๋ง ได้รับแต่งตั้งเป็นนายทหาร และผู้ติดตามของพวกเขาต่างได้รับรางวัลด้วย

ซุนเสียว บุตรของซุนโห อายุสิบเจ็ดปี เขารวบรวมกำลังของซุนโหมาตั้งค่ายที่เมือง Jing ทันทีที่ซุนกวนนำทัพมาที่ง่อ เขามาที่ค่ายในตอนค่ำและแกล้งทำท่ายกพลโจมตี ทหารทั้งหมดของซุนกวนต่างมาป้องกันกำแพงเมือง พวกเขาเรียกกำลังหนุน เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง พวกเขาตะโกนเรียกพวกตัวเองและยิงธนูหลายนัดใส่คนที่อยู่นอกเมือง มีคนอธิบายให้ซุนกวนฟังว่าซุนเสียวเป็นใคร พวกเขาจึงหยุดการสู้รบ วันต่อมา ซุนกวนได้พบซุนเสียวและได้แต่งตั้งเขาเป็นขุนพลผู้ดำรงความกล้าหาญพร้อมด้วยอำนาจสั่งการกองทัพของบิดาเขา


Create Date : 17 มกราคม 2549
Last Update : 2 มีนาคม 2549 16:43:42 น. 0 comments
Counter : 551 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.