Lu Xun (Boyan) 陸遜 (伯言) (AD 183-245) ลกซุน ชื่อรองป้อเอี๋ยน เดิมชื่อลกอี้ (陸議/陆議) เป็นชาวเมืองง่อ ลกซุนเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงที่สุดตระกูลหนี่งในแถบแม่น้ำแยงซีตะวันออก ลกซุนกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก จึงอาศัยอยู่กับลกคังลุงของเขาซึ่งเป็นเจ้าเมืองโลกั๋ง เมื่อลกคังได้ข่าวว่าอ้วนสุดซึ่งไม่พอใจเขาจะโจมตีเมืองโลกั๋ง เขาจึงส่งลกซุนและครอบครัวของเขากลับไปที่ง่อเพื่อความปลอดภัย เพราะว่าลกซุนแก่กว่าลูกชายของเขาลกจี๋อยู่หลายปี ลกคังจึงฝากฝังให้ลกซุนมีหน้าที่ดูแลครอบครัวของเขา
เมื่อซุนกวนได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ลกซุนซึ่งอายุ 21 ปีในตอนนั้นได้เริ่มรับราชการอยู่ในสังกัดของซุนกวน โดยมีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาผู้น้อยในศาลทหารของซุนกวน หลังจากนั้น เขาได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการณ์ที่ป้อม Haichang และดูแลราชการอำเภอนั้นด้วย อำเภอ Haichang เดือดร้อนจากฤดูแล้งมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ลกซุนจึงเปิดคลังเสบียงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่อดหยาก ออกมาให้กำลังใจชาวบ้านและควบคุมการเพาะปลูก ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากการปกครองของเขาอย่างมาก ในเวลานั้นมีโจรผู้ร้ายมากมายที่อพยพมาตั้งค่ายปล้นสดมภ์ที่เมืองง่อ เมืองห้อยแข และเมืองตันเอี๋ยง ลกซุนร้องขอซุนกวนให้ปราบปรามเหล่าโจรเหล่านั้น โดยแจกแจงผลดีของการปราบปรามโจร ซุนกวนจึงมอบหมายให้ลกซุนคุมทหารไปปราบโจร ลกซุนนำกำลังทหารเข้าตีค่ายโจรของ Pan Lin ในเมืองห้อยแข Pan Lin เป็นวายร้ายตัวฉกาจที่สร้างความเดือดร้อนให้ห้อยแขอย่างมาก เขาหลบหนีการจับกุมมาได้หลายปี เมื่อลกซุนสามารถปราบ Pan Lin ได้ เขาจึงได้ความดีความชอบและมีอำนาจควบคุมทหารสองพันคน หลังจากนั้น You Tu หัวหน้าโจรที่กวนหยงก่อกบฏขึ้น ลกซุนก็ยกทัพไปปราบ ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพลรักษาการณ์เมือง Lipu
Lu Shi เจ้าเมืองกังแฮของวุย ได้รับคำสั่งให้ก่อกวนความสงบแถบชายแดนง่อ จนวันหนึ่งเขาได้เกิดมีปากเสียงกับบุนฮิวลูกของแม่ทัพบุนเพ่ง เมื่อลกซุนรู้เรื่องนี้ เขาแกล้งปลอมจดหมายตอบกลับ Lu Shi ว่า หลังจากข้าได้รับจดหมายของท่าน ข้ารู้ดีว่าท่านนั้นจริงใจ ข้ายังรู้อีกว่าท่านและบุนฮิวนั้นผิดใจกันและคงไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เมื่อท่านพิจารณาจะแปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายง่อ ข้าได้ส่งจดหมายท่านอย่างลับ ๆ เข้าไปที่เมืองหลวงง่อแล้ว และยังได้เตรียมคนของข้ารอคอยการมาของท่าน ขอท่านได้โปรดเตรียมการโดยเร็วและแจ้งให้ข้าทราบด้วยว่าท่านจะสวามิภักดิ์มาเมื่อใด ลกซุนส่งคนนำจดหมายไปทิ้งไว้แถวชายแดน เมื่อทหาร Lu Shi นำจดหมายนั้นมาให้ Lu Shi อ่าน เขาก็หวาดกลัวอย่างมาก จึงส่งลูกเมียของเขากลับไปเมืองลกเอี๋ยงพยายามพิสูจน์ว่าเขาไม่รู้เห็นด้วย แต่หลังจากนั้นเพื่อนฝูงและลูกน้องเขาก็ตีตัวออกห่าง และ Lu Shi ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองกังแฮ
ในปี Jiahe ที่หก Zhou Di แม่ทัพป้องกันราชวังได้ขอคำสั่งเพื่อเกณฑ์ทหารที่เมืองกวนหยง ซุนกวนถามความเห็นลกซุน ลกซุนรู้สึกว่าเมืองกวนหยงมีแนวว่าจะเกิดจลาจลและชาวเมืองก็ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง การเกณฑ์ทหารจึงไม่ควรทำ อย่างไรก็ตาม Zhou Di ได้ทำการเกณฑ์ทหาร เป็นผลให้ Wu Ju นำชาวเมืองกวนหยงก่อกบฏและฆ่า Zhou Di ยึดหัวเมืองหลายเมือง ที่อิเจี๋ยงและ Luling ชาวเมืองก่อความวุ่นวายหลังจากได้ข่าวการก่อกบฏของ Wu Ju เมื่อลกซุนได้ข่าว เขาก็นำทัพปราบกฎและได้ชัยในที่สุด Wu Ju และผู้นำคนอื่นยอมแพ้ ลกซุนจึงนำพวกเขาเข้าร่วมในกองทัพ ทำให้มีทหารเพิ่มขึ้นกว่าแปดพันคนและทำให้หัวเมืองทั้งสามสงบสุขอีกครั้ง
ในเวลานั้น Lu Yi หัวหน้าบรรณาธิการหลวง ผู้มีหน้าที่รวบรวมบันทึกเอกสารต่าง ๆ ได้ใช้อำนาจของเขาในทางที่ผิด ลกซูน และ พัวโยยก็ถูกกล่าวหาจาก Lu Yi ว่าประพฤติมิชอบ ทั้งสองได้ขอร้องให้ซุนกวนพิจารณาคดีอีกครั้ง ในที่สุด ซุนกวนก็ตัดสินประหารชีวิต Lu Yi จากการใส่ร้ายของเขา ซุนกวนตำหนิตัวเองอย่างมากที่ปล่อยให้ Lu Yi ใส่ร้ายขุนนางผู้บริสุทธิ์
เวลาเดียวกันนั้น Xie Yuan และ Xie Gong และขุนนางคนอื่นได้เสนอการเพิ่มภาษีเพื่อเพิ่มรายได้เข้าคลังหลวง ซุนกวนถามความเห็นลกซุน ลกซุนจึงวิเคราะห์ให้ซุนกวนฟังว่า บ้านเมืองนั้นมีรากฐานมาจากประชาชน ความมั่นคงของบ้านเมืองเกิดจากแรงงานของประชาชน ความมั่งคั่งของบ้านเมืองก็มาจากภาษีของประชาชน ไม่เคยมีปรากฏในยุคใดว่าชาวบ้านร่ำรวยในขณะที่ราชสำนักยากจน และไม่เคยปรากฏว่าชาวบ้านยากจนในขณะที่ราชสำนักร่ำรวย ดังนั้นในการสร้างความสงบสันติของบ้านเมืองนั้นอยู่ที่การชนะใจชาวเมือง การจลาจลและกบฏนั้นเกิดจากการสูญเสียแรงสนับสนุนจากประชาชน ยิ่งกว่านั้น มันเป็นการยากที่จะให้ประชาชนเสียสละเพื่อบ้านเมืองในสิ่งที่เขาไม่เห็นผลของมัน ในบันทึกซือจิง Shih Ching (The book of Odes รวมบทกวีจีนช่วง 1000 -500 ปีก่อนคริสตศักราช) มีกล่าวไว้ว่า ผู้ใดทำคุณประโยชน์แก่ชาวเมือง ผู้นั้นจะได้รางวัลใหญ่ยิ่งในสวรรค์ ข้าขอวิงวอนนายท่านได้โปรดแสดงพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรของพระองค์ ได้โปรดละเว้นการเพิ่มภาษีเพราะทรัพย์สมบัติในคลังหลวงก็ยังมีมากมายในช่วงสองสามปีมานี้
ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น มีตำแหน่งขุนนางว่างในสังกัดขององค์ชายสองคน ซุนโหลูกคนที่สองของซุนกวน และ Sun Ba ลูกคนที่สาม บรรดาขุนนางต่าง ๆ พากันเสนอลูกหลานของตัวเองเข้าอยู่ในสังกัดขององค์ชายทั้งสองคน จวนจ๋องเองก็แจ้งให้ลกซุนได้รู้ ลกซุนจึงว่าบรรดาลูกหลานขุนนางเหล่านั้น ถ้าผู้ใดมีความสามารถก้ไม่ต้องห่วงว่าตัวเองจะไม่ได้ถูกแต่งตั้ง ดังนั้นไม่ควรที่จะใช้เส้นสายในการนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียในภายหลังเมื่อองค์ชายพบว่าคนที่ใช้เส้นสายนั้นไม่มีความสามารถ ยิ่งกว่านั้น ระหว่างองค์ชายสองคนที่มีอำนาจพอ ๆ กันนั้น ขุนนางที่ฉลาดพอย่อมไม่นำตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกัน
อย่างไรก็ดี จวนกี๋ลูกของจวนจ๋องได้เข้าร่วมเป็นขุนนางในสังกัดของ Sun Ba อ๋องแห่ง Lu และช่วยองค์ชายวางแผนจะช่วงชิงความเป็นรัชทายาทจากซุนโห (ซุนโหได้รับการแต่งตั้งจากซุนกวนให้เป็นรัชทายาท แต่ซุนกวนได้แสดงออกมาหลายครั้งว่าเขาเองชื่นชอบ Sun Ba ทำให้ Sun Ba คิดแย่งตำแหน่งรัชทายาท เมื่อทั้งสองมีเรื่องขัดแย้งกัน ผลสุดท้าย Sun Ba ถูกราชโองการบังคับให้ฆ่าตัวตาย ส่วนซุนโหเองถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาท) ลกซุนจึงเขียนจดหมายไปเตือนจวนจ๋องว่า ขอให้ดูตัวอย่าง Mi Di (ขุนนางผู้ใหญ่ในสมัยฮ่องเต้ฮั่นบู๊เต้ ราชวงศ์ฮั่น ลูกของเขาได้รับมอบหมายให้ดูแลองค์ชาย แต่กลับเสพสุราละเลยหน้าที่ จน Mi Di ต้องสั่งให้ประหารลูกชายตัวเอง) ขอให้ท่านช่วยตักเตือนจวนกี๋ด้วย สหายข้า ท่านกำลังชักนำภัยพิบัติสู่ครอบครัวของท่าน จวนจ๋องไม่รับฟังคำแนะนำของลกซุน และเขาทั้งสองก็หมางเมินต่อกัน ดังนั้นในเวลาต่อมาจากการวางแผนของ Sun Ba ฐานะรัชทายาทของซุนโหจึงสั่นคลอน ลกซุนจึงเขียนจดหมายถึงซุนกวนว่า รัชทายาทนั้นเป็นทายาทที่ชอบธรรม และควรจะมีฐานอำนาจที่มั่นคง ในขณะที่ Sun Ba ในฐานะองค์ชายองค์รอง ควรที่จะทำให้รู้ว่าฐานะของเขานั้นต่ำต้อยก่วาโดยให้อำนาจเขาน้อยกว่าองค์รัชทายาท ถ้าขุนนางทั้งหมดได้รับทราบลำดับฐานะของทั้งสอง ขุนนางต่าง ๆ ก็จะสงบและยอมรับโดยดี ข้าเองยอมโขกศีรษะจนเลือดไหลเพื่อวิงวอนต่อนายท่านได้โปรดพิจารณาด้วย ลกซุนส่งจดหมายเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าถึงซุนกวน ขออนุญาตเพื่อประกาศให้ผู้คนในเมืองหลวงเพื่อพูดถึงสิทธิ์อันชอบ ธรรมของลูกคนโต เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ผิด ลกซุนไม่เคยได้รับอนุญาตจากซุนกวน ยิ่งกว่านั้น หลานของลกซุน Gu Tan Gu Cheng และ Yao Xin ได้ถูกเนรเทศจากสัมพันธ์ของพวกเขากับรัชทายาท งอซัน ราชครูของรัชทายาทถึงส่งเข้าคุมและสังหารหลังจากถูกจับได้ว่ามีความติดต่อกับลกซุน ซุนกวนปลดลกซุนจากตำแหน่งและส่งขุนนางไปตำหนิลกซุนครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ลกซุนก็ถึงแก่ความตายในวัย 63 ปี หลังจากเขาตาย เขามีทรัพย์สมบัติไม่มากนักเหลือให้แก่ลูกหลาน
ก่อนหน้านั้น เมื่อ Ji Yan ได้เสนอให้มีการสร้างพระราชวังใหม่ ลกซุนไม่เห็นด้วยและทำนายว่าจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง และเขายังเคยกล่าวแก่จูกัดเก็กว่า ตัวข้านั้นจะเคารพและปฏิบัติต่อขุนนางยศสูงกว่าด้วยความเคารพ และให้ความช่วยเหลือพวกเขา กับขุนนางที่ต่ำต้อยกว่า ข้าจะสนับสนุนและเลื่อนตำแหน่งพวกเขา แต่ตัวเจ้ากลับคุกคามขุนนางที่ยศสูงกว่าเจ้าและดูถูกขุนนางที่ต่ำต้อยกว่า นี่ไม่เป็นสิ่งดีสำหรับการสร้างความมั่นคงในหน้าที่การงานของเจ้า ลกซุนยังได้ทำนายว่า Yang Zhu แห่งกองเหลงซึ่งมีชื่อเสียงตั้งแต่เด็ก ว่าจะมีหายนะในที่สุด และแนะนำ Yang Mu พี่ชายของเขาให้ตัดขาดเขาจากตระกูล การคาดการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของลกซุนที่มองการณ์ไกล ลกซุนมีบุตรชายสองคน ลกเอี๋ยนบุตรคนโตตายตั้งแต่แบเบาะ ส่วนลูกคนที่สอง ลกข้องกลายเป็นทายาทสืบทอดของเขา ในสมัยของซุนฮิว ลกซุนได้รับการแต่งตั้งเป็นพระยาแห่งความฉลาดหลักแหลม
ศึกอิเหลง เล่าปี่นำคนในจ๊กที่สามารถต่อสู้ได้ยกทัพมาเปิดสงคราม ว่ากันว่าจำนวนทหารคือเจ็ดแสนห้าหมื่นคน แต่เป็นไปได้ที่หลอก้วนจงเว่อร์อีกตามเคย แต่ในครั้งนี้เล่าปี่ก็นำทหารมาเป็นจำนวนมากพอสมควร ในช่วงแรกฝ่ายเล่าปี่เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เนื่องจากทัพเล่าปี่เป็นพลเดินเท้า ศึกในช่วงแรกอยู่ในหุบเขา ทหารราบจึงได้เปรียบ ลกซุนสั่งให้ถอยทัพไปที่อิเหลงซึ่งเป็นที่ลุ่มติดแม่น้ำ ซึ่งตรงนี้ทำให้ทหารฝ่ายง่อสามารถใช้ ทหารม้าและกองทัพเรือสร้างความได้เปรียบ เนื่องจากทัพเล่าปี่เดินทางผ่านเทือกเขา ไม่สามารถลำเลียงอาวุธและม้าจากเสฉวนได้ดีนัก จึงใช้แต่ทหารราบ ลกซุนสั่งปิดประตูเมืองไม่สู้รบด้วยเป็นเวลาหลายเดือนจนเข้าหน้าร้อน ทัพเล่าปี่ถอยเข้าชายป่าเพื่อหลบร้อน จึงถูกลกซุนโจมตีในเวลากลางคืนด้วยไฟ พ่ายแพ้ในที่สุด ม้าเลี้ยงคนที่แนะนำเล่าปี่ว่าอย่าตั้งค่ายในป่า ก็เป็นอีกคนที่ตายในศึกครั้งนี้ กำเหลงและฮองตงนั้นไม่ได้ตายในศึกครั้งนี้ แต่เสียชีวิตก่อนหน้า ทหารฝ่ายจ๊กส่วนมากถูกจับและฆ่าตายภายในเวลาแค่สองวัน
ในช่วงท้ายของชีวิต เท่าที่อ่านมาหนังสือของไทยรวมทั้งเวบหลายที่ จะบอกว่า ลกซุนขัดแย้งกับซุนกวนในการแต่งตั้งมเหสี แต่เท่าที่หาเจอมีแค่ขัดแย้งเรื่องแต่งตั้งรัชทายาท ซึ่งถ้าไม่ใช่ลกซุนมีความดีความชอบใหญ่หลวงก็คงตายไปแล้ว หลานสามคนของลกซุนเพราะว่าเป็นญาติเลยโดนแค่เนรเทศ ผู้เกี่ยวข้องเหตุการณ์นั้นหลายคนโดนประหารชีวิต